ตอบ
ขายรถฟรี ซื้อขายรถยนต์
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 26 มกรา 2015 14:21 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
  3. บอกรายละเอียดให้หมด

     เอารถไปตรวจเช็คสภาพ หาประวัติการซ่อมและแจ้งข้อมูลเหล่านั้นให้ครบ เช่น 
คุณทำอะไรกับรถแล้วบ้าง รถมีปัญหาตรงไหน เพื่อที่คนซื้อจะได้รู้ว่าถ้าซื้อไปแล้วจะต้องไปทำอะไรต่อ 
เคยโดนชนหน้า ชนหลังมาหรือเปล่า บอกให้หมดไม่ต้องกลัวว่าราคาขายจะตก 
ดีกว่ามาโดนสาปแช่งทีหลัง


     4. จริงใจ อย่าโปรโมทเกินจริง

     บางครั้งคนที่โทรติดต่อมาอาจจะอยู่ต่างจังหวัด ต้องเสียค่ารถ เสียเวลามาดูรถที่คุณประกาศขาย 
ยิ่งคุณโปรโมทรถเกินจริงเท่าไร คนซื้อก็ยิ่งคาดหวังสูง หากมาเห็นทีหลังแล้วไม่เป็นอย่างที่คิด
ก็จะเสียความรู้สึกกันเปล่าๆ ควรบอกรายละเอียดไปตามตรง แสดงความจริงใจในการซื้อขาย


     5. ถ้ายังขายไม่ได้

     อาจเป็นเพราะว่ารถมือสองรุ่นนั้นไม่ได้อยู่ในความนิยมหรืออาจตั้งราคาสูงเกินไป ถ้าอยากขายให้ได้จริงๆ 
คงต้องพิจารณาลดราคาลง อีกอย่างหนึ่งการประกาศขายซ้ำๆ ไม่ได้ช่วยให้ขายได้ 
การตั้งประกาศใหม่ซ้ำซ้อนอาจทำให้ยิ่งดูด้อยค่าลง ควรทำการอัพเดตข้อมูลในประกาศเดิม 
เช่น ลงภาพถ่ายในมุมอื่นๆ หรือลดราคาลงเพื่อให้คนสนใจมากขึ้น
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พุธ, 28 มกรา 2015 14:25 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
6 วิธีเช็คสภาพรถหลังกลับจากเดินทางไกล

  การตรวจเช็คสภาพรถยนต์หลังจากเดินทางไกลถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตัวรถถูกใช้งานมาอย่างหนัก 
ทั้งเผชิญกับหลุมบ่อ, ถนนลูกรัง, การลากรอบเครื่องยนต์เป็นเวลานานๆ แม้กระทั่งการบรรทุกน้ำหนักมากกว่าปกติ 
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุของการสึกหรอในชิ้นส่วนต่างๆของรถ หากเราตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่เบื้องต้น 
ก็จะช่วยให้แก้ปัญหาได้ทันท่วงทีก่อนจะลุกลามบานปลายในระยะยาว

สิ่งที่ควรตรวจเช็คสภาพหลังกลับจากเดินทางไกล มีดังนี้

1.เช็คน้ำมันเครื่อง

     ควรเช็คระดับน้ำมันเครื่องเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในระดับปกติ โดยระดับของน้ำมันไม่ควรพร่องลงไปจากระดับ
ที่วัดก่อนการเดินทางมากนัก หากพบว่าน้ำมันเครื่องพร่องลงไปมากหรือต่ำกว่าระดับ MIN 
ก็ควรตรวจเช็คว่ามีการรั่วซึมจุดใดหรือไม่

     นอกจากนั้นควรเช็คสภาพน้ำมันเครื่องว่าไม่ดำจนเกินไป รวมถึงไม่มีเศษเขม่าเจือปนอยู่ 
หากพบก็ควรหาเวลาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่ไปเลย

2.เช็คสภาพและลมยาง

     การเดินทางไกลอาจส่งผลให้ความดันลมยางลดลง จึงควรเช็คลมยางเมื่อมีโอกาส เพื่อป้องกันการ
สึกหรอของยางและลดโอกาสเกิดอันตรายจากการขับด้วยความเร็วสูง นอกจากนั้นยังควรตรวจสภาพยางว่า
ไม่มีอะไรเข้าไปทิ่ม อุด ตำ จนเป็นสาเหตุให้เกิดการรั่วซึมอย่างช้าๆ

     หากพบว่าล้อใดล้อหนึ่งมีความดันลมน้อยผิดปกติ ให้สันนิษฐานว่าล้อข้างนั้นอาจมีอะไรทิ่มเข้า
ไปแล้วคาอยู่ในเนื้อยาง เป็นเหตุให้เกิดการรั่วซึมอย่างช้าๆ ทางที่ดีควรปะยางหรือเปลี่ยนใหม่ให้เรียบร้อย

3.เช็คน้ำหล่อเย็น

     ควรตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็น ทั้งในหม้อน้ำและหม้อพักน้ำ ทางที่ดีน้ำหล่อเย็นไม่ควรลดระดับไปมาก
นักเมื่อเทียบกับก่อนเดินทางไกล และควรเติมให้ได้ระดับพอดีก่อนใช้งานต่อไป
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
อังคาร, 3 กุมภา 2015 14:20 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
 4.เช็คช่วงล่างและระบบกันสะเทือน

     การขับรถไปยังที่ที่ไม่คุ้นทาง อาจส่งผลให้ขับตกหลุมได้ ซึ่งหากเป็นหลุมเล็กๆก็คงไม่เป็นอะไร 
แต่หากเป็นหลุมขนาดใหญ่ อาจส่งผลให้ศูนย์ล้อผิดเพี้ยนไปได้ ให้ลองเช็คเบื้องต้นด้วยการปล่อย
พวงมาลัยขณะที่รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า หากรถยังคงสามารถวิ่งไปตรงๆ ก็ไม่มีปัญหา 
ทั้งนี้ควรเช็คสภาพถนนว่ามีการลาดเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งหรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลให้รถแฉลบออกด้านข้างได้เช่นกัน

     นอกจากนั้นยังควรตรวจสอบด้วยการฟังดูว่ามีเสียงผิดปกติขณะขับผ่านทางขรุขระหรือไม่

     5.เช็คไส้กรองอากาศ

     การเดินทางไปต่างจังหวัดอาจต้องขับผ่านถนนที่มีฝุ่นมากกว่าปกติ จึงควรเช็คไส้กรองอากาศว่ามีสิ่งสกปรก
อุดตันอยู่หรือไม่ หากมีก็ควรเป่าออก หรือเปลี่ยนไส้กรองใหม่ เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

     หากเป็นกรองชนิดแห้งปกติ ถ้าไม่มีฝุ่นมากจนเกินไปนัก สามารถเป่าสิ่งสกปรกออกได้ 
แต่หากเป็นไส้กรองชนิดเคลือบน้ำมันจะไม่สามารถทำความสะอาดได้ ต้องเปลี่ยนอย่างเดียว

     6.เช็คสภาพตัวถัง

     ควรล้างรถเมื่อมีโอกาส เพราะฝุ่นควันที่ติดมานั้น อาจสร้างผลกระทบต่อชั้นสีในระยะยาวได้ 
จากนั้นจึงควรเช็ครอบตัวรถว่ามีรอยบุบหรือรอยขูดขีดใดๆหรือไม่ เพื่อจะได้พิจารณาเคลมประกัน
หรือทำสีต่อไป (หรือปล่อยไว้เฉยๆก็ไม่ว่ากัน)

     มขั้นตอนเหล่านี้เป็นสิ่งที่หลายคนอาจมองข้าม เนื่องจากเห็นว่ากลับบ้านได้โดยสวัสดิภาพแล้วก็จบกันไป 
แต่หากปฏิบัติได้ตามวิธีขั้นต้นนี้แล้วล่ะก็ จะช่วยให้เจ้าของรถสามารถตรวจพบความผิดปกติเบื้องต้นได้ 
ก่อนปัญหาจะลุกลามใหญ่โตนั่นเอง
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 9 กุมภา 2015 16:23 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
สัญญาณเตือนภัย จากพวงมาลัย

1.อาการพวงมาลัยสั่น

     หลายคนเจอบ่อย เกิดจากยางเก่าหรือมีสิ่งผิดปกติกับยาง แต่ถ้าสั่นเฉพาะที่ความเร็วใดความเร็วหนึ่ง 
มักเกิดจากการถ่วงล้อ แต่ถ้าสั่นเพิ่มตามความเร็วของรถ จะเกิดจากลูกปืนล้อหรือโช้กอัพอาจจะเสียหรือ
ยางเครื่องแท่นเกียร์ชำรุด ก็ทำให้พวงมาลัยสั่นได้เช่นกัน นอกจากนี้ ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากการขันนอต
ล้อไม่แน่น หรือรูนอตล้อไม่ดี ทำให้ล้อไม่ได้ศูนย์ และบางทีก็เป็นปัญหาจากตัวล้อเองที่บิดเบี้ยว

 

     2.อาการพวงมาลัยหลวมมีช่วงฟรีมาก

     ทำให้ควบคุมทิศทางได้ยาก บางทีเกิดขึ้นจากพวงมาลัยเองบางครั้งอาจเกิดจากลูกหมากปลายแร็ก 
โดยจะมีเสียงดังตอนเลี้ยว ต่อมาอาการเสียงดัง แสดงว่าเกิดการสึกหรอของชิ้นส่วนบางอย่าง 
หากปล่อยทิ้งไว้ อาจมีผลต่อการควบคุมทิศทาง อย่างเช่น ลูกหมากปลายแร็กที่มีปัญหา 
หรืออาจเกิดจากการสึกหรอของฟันแร็ก ความห่างของลูกปืนในกระปุกพวงมาลัยกับลูกปืนคอพวงมาลัย 
และที่มีปัญหามากคือ การหลวมคลอนของข้อต่อแกนพวงมาลัย
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พฤหัส, 19 กุมภา 2015 15:19 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
     3.อาการพวงมาลัยหนัก

     เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ขาด สายพานหย่อน 
แต่ถ้าหนักเฉพาะตอนเลี้ยวข้างใดข้างหนึ่งมักจะเป็นที่วาล์ว รถรุ่นใหม่อาจเป็นเพราะ
ปั๊มเพาเวอร์ไฟฟ้าบกพร่อง หรือแรงดันลมยางโดยเฉพาะล้อหน้าอ่อนเกินไปหรือศูนย์ล้ออาจมีปัญหา

     4.อาการพวงมาลัยเลี้ยวแล้วไม่คืน

     ตัวการหลักมักเกิดขึ้นจากศูนย์ล้อไม่ถูกต้อง ควรไปร้านตั้งศูนย์ด่วน
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
อังคาร, 24 กุมภา 2015 15:27 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
ดูแลไฟเบรกอย่าให้ “ไส้ขาด!“ : คอลัมน์ คาร์ทิปส์

   รถคันไหนไฟเบรกขาด ถือว่ามีความอันตรายอย่างยิ่ง เพราะรถคันตามหลังอาจชนท้ายรถคุณได้ทุกเมื่อ 
สาเหตุที่ทำให้ไฟเบรกไม่ติดอันดับหนึ่งคือ หลอดไฟไส้ขาด

 อายุของหลอดไฟไม่สามารถระบุได้แน่นอน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน พฤติกรรมของผู้ใช้รถส่วนใหญ่ 
เวลาติดไฟแดง บนสะพาน และอื่นๆ ชอบเหยียบเบรกค้างไว้ ผู้ที่อยู่รถคันหลังในตอนกลางวันความสว่างไม่เท่าไหร่ 
แต่ถ้าเป็นกลางคืน แสงจากไปเบรกจะเข้าตาอย่างชัดเจน จนบางครั้งทำให้หน้ามืดเลยทีเดียว 
เพราะฉะนั้นรถจอดบนพื้นเรียบ ควรเข้าเกียร์ว่างและเอาเท้าออกจากคันเหยียบเบรก หลอดไฟก็จะใช้งานนานขึ้น 
และผู้ขับรถตามหลังก็ไม่รำคาญด้วย

สำหรับการตรวจสอบไฟเบรก กรณีมีเพียงคนเดียว ให้หันท้ายรถเข้ากับกำแพง หรือ วัสดุที่สามารถเห็น 
สะท้อนได้ชัดเจน เหยียบเบรกแล้วมองดูว่าติดครบทุกดวงหรือไม่ ถ้าหลอดไฟหลอดหนึ่งขาดให้ถอดเปลี่ยน
กรณีมี 2 คน เหยียบเบรก 1 คน อีก 1 คน อยู่ท้ายรถ เพื่อดูสถานะของไฟเบรก
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พฤหัส, 5 มีนา 2015 15:09 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
ในการถอดเปลี่ยน ในแต่ละรุ่น แต่ละแบบ แตกต่างกันไป และต้องใช้ขนาดของหลอดที่เท่ากัน

     ในบางครั้ง หลอดไฟเบรกติดครบหมดทุกดวง แต่พอเปิดไฟหรี่หรือไฟหน้า แล้วเหยียบเบรก 
ไฟเบรกบางดวงเกิดดับไป แสดงว่ามีการขัดข้องเกิดขึ้น ส่วนนี้คงต้องให้ผู้ชำนาญงานตรวจสอบอีกครั้ง

  ถ้าต้องการเปลี่ยนหลอดไฟเบรกด้วยตนเอง โดยซื้อหามาใส่เอง ควรเลือกชนิดหลอดไฟที่มีขนาดและ
ค่ากำหนดเท่ากัน มิฉะนั้นจะส่งผลกระทบถึงส่วนอื่น เช่น ในรถยนต์ที่มีระบบเอบีเอส ถ้าใช้หลอดไฟไม่เหมือนกัน 
จะทำให้ไฟโชว์เอบีเอสค้างได้

     ฝากเตือนผู้ขับขี่ก่อนออกเดินทาง ให้สังเกตไฟเบรกสักนิด เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของท่านและเพื่อนร่วมทาง
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
ศุกร์, 13 มีนา 2015 16:10 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
รู้เปล่า...ควรล้างแอร์รถเมื่อไหร่?

มีคำถามที่หลายคนยังได้รับข้อมูลมาต่างกันว่า เมื่อไหร่ควรล้างแอร์รถยนต์ของคุณคำตอบ
ที่ถูกต้องขึ้นอยู่กับการใช้งานรถยนต์ของแต่ละคน เช่น เส้นทางการใช้งาน มีสภาพถนนอย่างไร 
ฝุ่นมากหรือไม่ ลุยน้ำหรือเปล่า แต่ตามปกติประมาณ 1 ปีขึ้นไป หรือ 20,000 กิโลขึ้นไป

ส่วนจะรู้ได้ไงว่าตู้แอร์ได้เวลาล้างแล้ว ให้สังเกตกลิ่นฝุ่น ถ้าเอาจมูกจ่อช่องลมแอร์แล้วมีกลิ่นอับ

สำหรับวิธีทำความสะอาดตู้แอร์ มี 4 วิธี

1.ล้างตู้แอร์แบบถอดตู้ ต้องรื้อตู้แอร์ แล้วเอาคอยล์เย็นมาล้างข้างนอก น้ำยาทำความสะอาด
แตกต่างกันไปแล้วแต่ช่างจะใช้อะไรเพื่อประหยัดต้นทุน ราคาถูกก็ผงซักฟอก โซดาไฟ 
พวกนี้จะล้างออกยาก ดังนั้น เวลาประกอบกลับ เปิดแอร์จะรู้สึกว่ามีกลิ่นผงซักฟอก 
แสดงว่าล้างออกไม่หมด อาจกัดกร่อนคอยล์เย็นได้ และเมื่อสูดดมเข้าไป ไม่ส่งผลดีต่อระบบหายใจ 
ถ้าคนแพ้ ก็อาจแสบตา แสบจมูก

การถอดล้างตู้แอร์แบบนี้ ต้องแวคเติมน้ำยาแอร์ใหม่ และต้องเปลี่ยนไดเออร์กับวาล์วความดัน 
ถ้าประหยัดงบ ไม่ยอมเปลี่ยน ท่อแอร์รั่วได้เพราะความชื้นเข้าไปอยู่ในระบบจากการถอดตู้แอร์
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 16 มีนา 2015 14:35 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
      2.การล้างแบบไม่ถอดตู้ เพื่อช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้น เสร็จเร็ว ทางร้านได้เงินไว 
โดยทั่วไปเครื่องล้างตู้แอร์จะกำหนดน้ำยาที่ต้องใช้เฉพาะสำหรับการล้าง แต่บ้างเอาผงซักฟอก 
โซดาไฟ ผสมลงไปเพื่อให้น้ำยาใช้ได้หลายคันขึ้น เวลาล้างน้ำยาออกจะมีปัญหา เพราะเครื่อง
ไม่ได้ถูกกำหนดให้ล้างผงซักฟอก หรือโซดาไฟ ผลที่ได้อาจคาดไม่ถึง

     การล้างแบบนี้เหมาะกับรถใหม่ รถที่ล้างแอร์ปีละ 1 ครั้ง หรือเหมาะกับรถที่ดูแลตู้แอร์เป็นประจำ 
ถ้าใช้มา 7-8 ปี แล้ว ช่างแอร์ไม่ค่อยอยากล้างวิธีนี้ เพราะตู้แอร์อาจรั่วอยู่แล้ว แต่ฝุ่นไปอุดรูรั่วไว้ 
พอล้างเอาฝุ่นออก รอยรั่วก็ปรากฏ

     3.การฉีดสเปรย์ทำความสะอาดตู้แอร์ ไม่ต้องรื้อตู้ออกมา ฉีดสเปรย์ทำความสะอาดให้ทั่วคอยล์เย็น 
ก็เป็นอันเรียบร้อย คราบน้ำยาจะค่อยๆ ออกมาพร้อมกับน้ำแอร์ตามท่อน้ำทิ้ง ถ้าตู้แอร์ไม่สกปรกมาก 
วิธีนี้ก็พอใช้ได้ แต่คงต้องฉีดสเปรย์กันบ่อย 2-3 เดือนต่อครั้ง เพราะอยู่ในเมือง ฝุ่นจะเยอะ 
สเปรย์บางยี่ห้อจะช่วยขจัดกลิ่นด้วย ราคาค่าฉีดสเปรย์ รวมแล้วมากกว่าการล้างตู้แอร์แบบที่ 1 และที่ 2

     4.การใส่กรองแอร์ ไม่ใช่รถทุกรุ่นจะใช้ได้ เพราะกรองแอร์ก็ทำมาสำหรับรถอีกระดับ ช่วยกรองฝุ่นอีกวิธีหนึ่ง 
แต่อายุการใช้งานก็ประมาณ 5,000 กม. ต้องเปลี่ยนอันใหม่ ถ้าไม่เปลี่ยน ลมจะผ่านเข้าตู้แอร์ไม่สะดวก 
ลมแอร์ที่ออกมาก็จะอ่อนกำลังลง ลมที่ตีกลับจะมีผลต่อคอมแอร์ กรองแอร์สำหรับรถบางรุ่นราคาพอรับได้ 
แต่บางรุ่นราคาเป็นพันบาท ถ้าใช้วิธีนี้ในการทำความสะอาด ในระยะ 1 ปี ก็เสียค่าใช้จ่ายมากกว่า
การทำความสะอาด แบบที่ 1 และที่ 2

     ส่วนการป้องกันให้ใช้แอร์ได้นานๆ ไม่ต้องล้างบ่อยๆ วิธีง่ายๆ ลงรถเมื่อไหร่เคาะพรมเมื่อนั้น 
เพราะพัดลมแอร์อยู่ใกล้กับพรมรองเท้า ถ้าสะสมไว้มันจะดูดเข้าไปเรื่อยๆ ทำให้ตู้แอร์ตันเร็ว 
ถ้าทำได้เป็นนิสัย ยืดอายุล้างตู้แอร์ได้กว่า 2 ปีเลยทีเดียว
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
อังคาร, 17 มีนา 2015 15:38 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
ระวังน้ำมันเบรกหมด!

 นํ้ามันเบรกรถยนต์ถือว่ามีความสำคัญไม่น้อยกว่าระบบอื่นๆ ปัจจุบันมีขายอยู่ทั่วไป 
คุณภาพในแต่ละยี่ห้อใกล้เคียงกัน อยู่ที่ว่าต้องการยี่ห้อไหนหรืออาจใช้ตามมาตรฐานของ
คู่มือรถที่ให้มาก็ได้ นับว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด

     การตรวจสอบน้ำมันเบรก ควรตรวจสอบให้อยู่ในระดับพอดีเสมอ หากปล่อยให้น้ำมันเบรก
แห้งหรือรั่วไหลออกไป จนหมดหรือเหลือน้อย การเบรกอาจไม่มีประสิทธิภาพทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
ขั้นตอนการเติมน้ำมันเบรก

     1.เปิดฝากระโปรงรถยนต์

     2.ถ้วยน้ำมันเบรกจะติดอยู่บริเวณชิดกับตัวถังรถในส่วนที่ติดกับกระจกให้เช็กระดับของน้ำมันเบรก
ในถ้วยว่าอยู่ในระดับไหน ถ้าระดับน้ำมันเบรกอยู่ MAX ไม่ต้องเติมน้ำมันเบรก MIN 
ต้องเติมน้ำมันเบรกให้ถึงเส้น MAX ห้ามเติมน้ำมันเบรกเกินระดับ MAX เพราะจะทำให้น้ำมันเบรก
กระฉอกเวลารถวิ่ง น้ำมันเบรกจะทำปฏิกิริยากับสีรถหรือบริเวณใกล้เคียงให้เสียหายได้

     3.ก่อนเปิดฝาน้ำมันเบรกให้เช็ดทำความสะอาดบริเวณฝาปิด-เปิดให้สะอาดเพื่อป้องกันเม็ดทราย
หรือละอองต่างๆตกลงไปอาจทำใหระบบเบรกเสียหายได้

     4.เติมน้ำมันเบรกลงไปในถ้วยตามระดับในข้อที่ 2

     5.ปิดฝาให้เรียบร้อย อย่าลืมก่อนปิดฝาต้องทำความสะอาดบริเวณฝาปิดถ้วยน้ำมันเบรกด้วย

     มีรถยนต์รุ่นเก่าบางรุ่น ถ้วยน้ำมันเบรกจะติดอยู่บริเวณหัวเก๋งด้านคนขับก็ใช้วิธีการเติมแบบเดียวกัน
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พุธ, 25 มีนา 2015 14:21 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
ดูแลรักษาแอร์รถยนต์ให้ถูกต้อง

ย่างเข้าสู่หน้าร้อน เครื่องปรับอากาศหรือแอร์รถยนต์ถึงคราวต้องทำงานหนักอีกแล้ว 
วิธีที่จะช่วยให้แอร์รถยนต์ของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและใช้ งานได้นาน "มติชน" มีข้อแนะนำดังนี้

  1. ก่อนจะสตาร์ตเครื่องยนต์ทุกครั้ง ควรตรวจดูสวิตช์ควบคุมคอมเพรสเซอร์ (ปุ่ม A/C) ว่าอยู่ในลักษณะใด
เปิดหรือปิด ถ้าหากเปิดอยู่ให้กดปิดเสียก่อนที่จะสตาร์ตเครื่องยนต์ เพื่อไม่ให้คอมเพรสเซอร์ต้านทานการหมุนของ
เครื่องยนต์ในขณะสตาร์ต

 

     2. หลังจากเครื่องยนต์ติดเรียบร้อยแล้ว ให้เปิดสวิตช์พัดลมของเครื่องปรับอากาศก่อน 
โดยปรับไปที่ตำแหน่งความเร็วสูงสุด ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที เพื่อไล่ลมร้อนจากช่องปรับอากาศ

     หลังจากนั้น จึงเปิดสวิตช์ควบคุมคอมเพรสเซอร์ (ปุ่ม A/C) ปรับสวิตช์ที่ใช้ปรับระดับความเย็นไปที่ตำแหน่งเย็นสุด 
แล้วจึงปรับสวิตช์ควบคุมความเร็วของพัดลมและสวิตช์ควบคุมระดับความเย็นลงสู่ 
ตำแหน่งที่สัมพันธ์กับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารตามต้องการ
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พฤหัส, 2 เมษา 2015 14:52 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
3. หลังจากเลิกใช้งานก่อนดับเครื่องยนต์ ควรปิดสวิตช์คอมเพรสเซอร์ (ปุ่ม A/C) ก่อน 
เพื่อหยุดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ แต่ยังคงเปิดสวิตช์พัดลมแอร์ไว้ในตำแหน่งที่แรงสุดเพื่อ
ให้พัดลมแอร์เป่าลม ผ่านตัวคอยล์เย็น หรือตู้แอร์ จะมีสภาพเปียกชื้น และมีหยดน้ำมาเกาะอยู่ใน
ขณะที่คอมเพรสเซอร์ทำงาน และเพื่อเป็นการไล่ความชื้นออกจากตัวคอยล์เย็นให้เร็วขึ้น

     วิธีนี้ เป็นอีกวิธีหนึ่งในการลดความอับชื้น สาเหตุทำให้แอร์มีกลิ่นเหม็นอับ รวมทั้งยังช่วยยืดอายุ
การใช้งานของตัวคอยล์เย็นให้ผุกร่อนช้าลงกว่าเดิม ใช้เวลาเพียง 2-3 นาทีเท่านั้น

   สำหรับปัญหาการเกิดกลิ่นอับที่ออกมาจากช่องปรับอากาศ สามารถแก้ไขได้โดยจอดรถในที่โล่งแจ้ง 
แดดส่อง จากนั้น เปิดประตูรถให้หมดทุกบาน จอดรถตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง 
หรือจนกว่ากลิ่นอับจะจางหายไป

     แต่ถ้ากลิ่นอับยังคงรุนแรงเหมือนเดิม ควรนำรถเข้าเช็กที่ศูนย์บริการใกล้บ้าน
 
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พฤหัส, 16 เมษา 2015 14:49 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
รถติดแก๊ส! ไฟไหม้ทั้งคัน ประกันไม่จ่าย

อ่าว...! ทำไมไม่จ่าย...? ต้องเจอฟ้องศาล... บริษัทประกันต้องเจ๊งแน่ๆ…!

     ช้าก่อนครับคุณผู้อ่าน! ถ้าไม่อยากหน้าแตกจนหมอไม่รับเย็บกลับบ้าน เรามีสาเหตุว่าทำไมบริษัทประกัน
ถึงไม่ยอมคุ้มครองรถยนต์ที่เสียหายจากการติดตั้งแก๊สโดยผู้ทำประกันได้มองข้ามหรือรู้เท่าไม่ถึงการ

สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ย้อนกลับมาดูกรมธรรม์

     คุณทำประกันชั้น 1, 2, 2+,หรือไม่?

     ถ้าใช่...คุณสบายใจได้เลย บริษัทประกันจะชดใช้ให้คุณทุกกรณี ถึงแม้ว่าคุณติดตั้งแก๊สไปแล้ว
แต่ยังไม่ได้แจ้งบริษัทประกัน หรือยังไม่ได้แจ้งขนส่งทางบก ทางบริษัทประกันจะรับผิดชอบความเสียหาย
ตามวงเงินคุ้มครองที่ได้ทำกับบริษัทประกันไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก ข้อนี้ขอให้ระวังเล่ห์เหลี่ยม
บริษัทประกันหากคุณติดตั้งแก๊สแล้วไม่ยอมแจ้งบริษัทประกัน อาจเกิดข้อบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบได้ 
ฉะนั้นเมื่อคุณติดตั้งแก๊สแล้วควรแจ้งบริษัทประกันทันทีเพื่อปิดช่องโหว่ทางกฎหมายที่บริษัทประกันอาจไม่รับผิดชอบ


แต่...ถ้าคุณทำประกันชั้น 3,3+

     ตามกรมธรรม์แล้วประกันรถ ชั้น 3 และ ชั้น 3+ “ไม่คุ้มครองรถไฟไหม้” ไม่ว่ารถคุณจะติดแก๊สหรือไม่ก็ตาม 
แต่ผู้ทำประกันจะได้รับความคุ้มครองตัวถังแก๊สและอุปกรณ์หากเป็นฝ่ายถูก เช่น หากคุณขับรถไปห้างสรรพสินค้า 
แล้วเกิดมีคู่กรณีขับรถมาชนท้ายจนได้รับความเสียหายต่ออุปกรณ์และตัวถังแก๊ส 
บริษัทประกันจะชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เว้นแต่! คุณไม่ได้ทำตามระเบียบเบื้องต้นนี้

 
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 20 เมษา 2015 14:01 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
สาเหตุประกันไม่รับผิดชอบ
     1.    ไม่ส่งเอกสารให้บริษัทประกันหลังติดตั้งแก๊ส
     2.    ไม่แจ้งขนส่งทางบก หลังจากได้ติดตั้งแก๊ส ถึงแม้ว่าคุณจะติดตั้งได้มาตรฐาน
     3.    ติดตั้งถังแก๊สไม่ได้รับมาตรฐานคุณภาพ มอก.

 
     ขั้นตอนการแจ้งประกันเมื่อติดตั้งแก๊สรถยนต์ LPG หรือ NGV
     1.    แจ้งผ่านตัวแทน นายหน้า หรือ แจ้งโดยตรงไปที่บริษัทประกัน
     2.    ส่งเอกสารรายการจดทะเบียน ที่ได้แจ้งเปลี่ยนแปลงประเภทเชื้อเพลิงแล้วไปยังบริษัทประกัน
     3.    ใบเสร็จค่าติดตั้งชุดอุปกรณ์แก๊ส (ห้ามทิ้งเด็ดขาด)

     สำหรับผู้ที่ได้ติดตั้งแก๊สรถยนต์ จำเป็นต้องบำรุงรักษาประหนึ่งเหมือนชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์ทั่วไป 
หากไม่ดูแลรักษาก็ย่อมเกิดปัญหาขึ้นตามมาได้ เช่น อุบัติเหตุรถไฟไหม้ เรามีวิธีการตรวจเช็กตามอายุ
การใช้งานที่ช่วยให้คุณเกิดความปลอดภัยไร้กังวลดังนี้

 วิธีดูแลรักษาระบบรถติดแก๊สไม่ให้เกิดไฟไหม้

ตรวจเช็ก กล่อง ECU เปรียบได้ดั่งสมองที่สั่งการไปยังส่วนต่างๆ เพื่อควบคุมระบบการจ่ายเชื้อเพลิง 
ควรตรวจเช็กระยะหลังจากติดตั้งแก๊สแล้วทุก 5,000 – 10,000 กิโลเมตร
ตรวจเช็ก หม้อต้มแก๊ส นับเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการสูบฉีดเชื้อเพลิงเข้าไปยังระบบหัวฉีดรถยนต์ 
ตรวจเช็ก หัวฉีดแก๊ส ทุก 3 ปี จากช่างผู้เชี่ยวชาญ
ตรวจเช็ก กรองแก๊ส ป้องกันฝุ่น ป้องกันสนิม ควรเปลี่ยนทุก 100,000 กิโลเมตร
ตรวจเช็ก ถังแก๊ส เมื่อครบ 10 ปี ควรเปลี่ยนถังแก๊สใหม่ หรือเมื่อเห็นถังเก่าชำรุด
ตรวจเช็ก วาล์ว เมื่อใช้รถไปได้ 40,000 กิโลเมตร ให้ช่างตั้งระยะวาล์วใหม่อีกครั้ง
ตรวจเช็ก สายยาง ที่เชื่อมต่อระบบถังแก๊ส สามารถตรวจเช็กง่ายๆเบื้องต้นด้วยการใช้ฟองสบู่หารอยรั่ว
     การติดตั้งแก๊สไม่ใช่เรื่องที่อันตรายหากแต่คุณต้องใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานเท่านั้น และหลังจากการ
ใช้งานควรตรวจเช็กดูแลรักษาให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต

     
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พุธ, 22 เมษา 2015 11:09 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
5 เทคนิคแก้อาการหลับในได้ผลชะงัด

 หากใครที่ต้องขับรถอยู่เป็นประจำ คงทราบดีว่าอาการ 'หลับใน' ขณะขับรถนั้น มันช่างอันตรายเสียนี่กระไร 
แถมทำอย่างไรก็ไม่หายง่วงซะด้วยสิ ยิ่งช่วงเทศกาลส่งกรานต์แบบนี้ด้วยแล้ว ยิ่งเสี่ยงต่ออุบัติเหตุมากขึ้น 
เราไม่ชนเขา ก็อาจมีสิทธิ์ถูกเขาชนได้เช่นกัน

จึงขอแนะนำ 5 เทคนิคช่วยแก้อาการหลับในมาฝากกันครับ

     1. เคี้ยวหมากฝรั่ง

     หากใครรู้ตัวว่ามักมีอาการง่วงซึมขณะขับรถอยู่บ่อยๆ ลองพกหมากฝรั่งติดรถเอาไว้บ้าง การเคี้ยวหมากฝรั่งไปด้วย 
จะช่วยยืดอาการง่วงซึมออกไปได้อีกพอสมควร เพราะอย่างน้อยก็มีอวัยวะบางส่วนที่ต้องขยับอยู่ตลอดเวลา

     2. สเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้า

     อีกหนึ่งวิธีที่ได้ผลเช่นกัน คือการติดสเปรย์น้ำแร่สำหรับฉีดหน้าเอาไว้ในรถ ทางที่ดีให้วางไว้ในที่ที่มีลมแอร์ผ่าน 
จะช่วยให้น้ำแร่ในกระป๋องเย็นถึงใจ ทีนี่เมื่อจับเอามาพ่นใส่หน้าซักทีสองที ก็จะพอช่วยให้สะดุ้งจนหายง่วงได้เป็นปลิดทิ้ง

     3. ชวนคุยกับคนข้างๆ

     อาการหลับใน มักจะไม่เกิดขึ้นขณะคุยเล่น หรือมีปฏิสัมพันธ์กับผู้โดยสารที่นั่งมาด้วย ดังนั้น 
หากรู้สึกว่ามีอาการง่วงซึมขณะขับรถ ลองชวนคนนั่งข้างๆคุยสัพเพเหระไปเรื่อยๆ จะช่วยป้องกันการหลับในได้เป็นอย่างดี

     หรือหากใครรับหน้าที่เป็นผู้โดยสารแล้วล่ะก็ ควรหมั่นลองสังเกตอาการของคนขับเป็นระยะๆ 
ทางที่ดีคอยหาเรื่องชวนคุยอยู่เรื่อยๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้คนขับหลับในได้

     4. โทรศัพท์หาใครซักคน

     หากใครขับรถคนเดียวแล้วล่ะก็ ลองโทรหาเพื่อน, แฟน หรือ คุณพ่อคุณแม่ดู รับรองว่าได้ผลไม่แพ้กัน 
(ทางที่ดีให้โทรหาแฟนเก่า อาจมีดราม่าแถมมาด้วย!) แต่อย่าลืมเรื่องความปลอดภัย ใส่สมอลทอล์ค, ต่อบลูทูธ 
หรือใช้แฮนด์ฟรีด้วยล่ะ

     5. จอดปั๊มล้างหน้า/นอนงีบ

     ถ้าที่กล่าวมาทั้งหมดมันไม่สามารถช่วยให้คุณหายจากอาการหลับในได้แล้วจริงๆ เจอปั๊มน้ำมันข้างหน้าให้รีบแวะเลยครับ 
หาที่จอดเหมาะๆ แล้วปรับเบาะลงนอนซะ ทางที่ดีตั้งนาฬิกาปลุกไว้ซัก 15-20 นาที หลังจากตื่นมาก็ลงไปล้างหน้าเสียหน่อย 
รับรองขับได้อีกยาวๆ
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
ศุกร์, 24 เมษา 2015 16:23 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
เทคนิคดูแลสีรถ ‘ต้องทำ‘ หลังเที่ยวสงกรานต์

 หลังจากที่คุณผู้อ่านขับรถตระเวนเที่ยววันหยุดสงกรานต์ 2558 อย่างอิ่มหนำสำราญกันแล้ว 
รถสุดรักของคุณผู้อ่านอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเผชิญกับ คราบดินสอพองขาวโพลนติดอยู่รอบตัวรถ 
แต่คุณผู้อ่านรู้ไหมครับว่าคราบดินสอพองดังกล่าวอาจทำร้ายสีของตัวถังรถได้

 ขั้นแรก ควรใช้น้ำเปล่าล้างรถเสียก่อน 1 รอบ โดยใช้สายยางฉีดน้ำไปรอบๆเพื่อให้คราบดินสอพองอ่อนตัว 
พร้อมกับใช้ฟองน้ำถูอย่างเบาๆ นอกจากนั้นยังควรล้างฟองน้ำเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้คราบสกปรกบนฟองน้ำ 
ทำร้ายสีบนตัวถังรถนั่นเองจากนั้นจึงล้างด้วยแชมพูล้างรถ หรือ น้ำเปล่าซ้ำตามปกติ แล้วจึงเช็ดให้แห้ง

     ทางที่ดีควรล้างรถทันทีที่มีโอกาส ไม่ควรปล่อยคราบดินสอพองทิ้งไว้ นิเช่นนั้นอาจเกิดรอยด่างได้

 ขั้นที่สอง หากคุณผู้อ่านใช้รถไปในการเล่นน้ำช่วงสงกรานต์ (เช่น รถกระบะที่บรรทุกถังน้ำและผู้โดยสารเพื่อเล่นน้ำ) 
ภายในรถของคุณผู้อ่านอาจมีโอกาสเปียกชื้นสูง ทางที่ดีจึงควรไล่ความอับชื้นภายในรถ 
เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งหมักหมมของเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรก อันเป็นต้นเหตุของกลิ่นอับภายในรถ

     วิธีการคือ หาที่จอดรถโล่งๆกลางแดด ถอดผ้ายางปูพื้นหรือพรมออกจากรถ แล้วเปิดประตูทิ้งไว้กลางแดดสัก 2-3 ชั่วโมง 
เพื่อขจัดความชื้นในตัวรถออกไป
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
อังคาร, 28 เมษา 2015 14:52 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
 

     นอกจากนั้น ก็ยังควรเช็คสภาพรถเบื้องต้น ด้วยการตรวจเช็คอย่างง่ายๆ เริ่มตั้งแต่การฟังเครื่องยนต์ 
ว่ามีเสียงผิดปกติดังขึ้นหรือไม่ ตรวจเช็คสภาพยางว่าไม่มีจุดใดรั่วซึม เช็คความดันลมยาง 
ตรวจเช็คระดับของเหลวต่างๆ ตั้งแต่ น้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์, น้ำมันเบรค, น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ ฯลฯ

     หากพบว่ามีระดับพร่องกว่าปกติ ก็ควรเติมให้เรียบร้อย หรือ หากพบว่าน้ำมันเปลี่ยนเป็นสีดำ 
ผิดจากก่อนเริ่มเดินทาง ก็ควรเปลี่ยนถ่ายใหม่ให้เรียบร้อย เพราะการเปลี่ยนถ่ายของเหลวก่อน
กำหนดถือเป็นการช่วยถนอมเครื่องยนต์ไปในตัว

     เพียงเท่านี้ รถสุดรักของคุณผู้อ่านก็จะยังคงมีสภาพเหมือนใหม่ดังเดิมครับ

 
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พฤหัส, 7 พฤษภาคม 2015 14:21 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
เคล็ดลับกระจกใสไร้ฝุ่น

 กระจกรถใสแจ๋วไม่ได้มีดีเพียงแค่ทำให้รถน่าเหลียวมอง แต่ยังช่วยให้ทัศนวิสัยการมองเห็นของคนขับรถชัดเจนขึ้นด้วย
  
เตรียมอุปกรณ์: ผ้าแห้งสะอาดหรือหนังสือพิมพ์ ฟองน้ำสำหรับถูทำความสะอาด และถังใส่น้ำ

     ขั้นตอนที่ 1 ขจัดคราบสกปรก กระจกมัว คราบน้ำ คราบฝุ่น แก้ได้ด้วยการนำเกลือหรือแชมพูมาผสมกับน้ำสะอาด 
แล้วเช็ดทำความสะอาดกระจกให้ทั่ว

     ขั้นตอนที่ 2 กระจกเงาวาว เคล็ดลับง่ายๆ เพียงใช้หนังสือพิมพ์เช็ดด้วยเบคกิ้งโซดาผสมน้ำหรือน้ำส้มสายชูเช็ดขัดเงาให้ทั่วไปเลย

     ขั้นตอนที่ 3 ลดรอยขีดข่วนที่กระจก จัดการด้วยกลีเซอรีนหรือใช้ยาสีฟัน โดยนำมาเช็ดจนทั่วแผ่นกระจกแล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดออก 
เท่านี้ก็เรียบร้อย

  Be Careful: น้ำยาเช็ดกระจกส่วนใหญ่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย ซึ่งเป็นอันตรายถ้าสูดดม เข้าตา หรือสัมผัส

     ข้อแนะนำเพิ่มเติม: เพื่อความปลอดภัยทุกการเดินทางควรทำความสะอาดกระจกให้มองเห็นได้ชัดเจนทุกครั้ง 
และอย่าลืมเช็กด้วยว่ารถของคุณได้ทำประกันภัยรถยนต์และประกันยังไม่หมดอายุ เพราะเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา 
อย่างน้อยก็ยังอุ่นใจว่าประกันภัยจะช่วยแก้ปัญหาและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายแก่คุณได้ค่ะ
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 11 พฤษภาคม 2015 16:53 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
รถเก๋ง รถกระบะต้องเติมลมยางเท่าไร

ยางรถยนต์แม้จะดูเป็นชิ้นส่วนที่ไม่มีความซับซ้อนอะไร แต่กลับเป็นส่วนที่รับบทหนักมากสุด
และมีความสำคัญอย่างมากเมื่อรถวิ่งอยู่บนถนน เช่น การยืดเกาะถนน รับน้ำหนักรถ 
ซับแรงกระแทกจากพื้นถนน ซึ่งการเลือกยางที่ดีและเหมาะสมกับรถยังช่วยเรื่องประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย

รถประเภทไหน ควรเติมลมยางเท่าไร?

     คุณจะต้องตรวจความดันลมยางอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เนื่องจากปัจจัยต่อไปนี้

ความดันลมยางอ่อน ทำให้เนื้อยางสึกไวเร็วกว่าปกติ
ความดันลมยางที่สูงเกินไป จะลดอายุการใช้งานของยางลงถึง 10,000 กม.
 

     รถประเภทไหน เติมลมเท่าไร

รถเก๋งขนาดเล็ก ควรเติมลมยาง 25-30 ปอนด์
รถเก๋งขนาดกลางถึงใหญ่ ควรเติมลมยาง 30-35 ปอนด์
รถกระบะ ควรเติมลมยางไม่เกิน 65 ปอนด์
 
  วิธีสังเกตง่ายๆ ว่าถึงเวลาเปลี่ยนยางแล้ว ให้ดูที่ “สะพานยาง” มีลักษณะเป็นสันนูนตรงดอกยาง 
ถ้าเนื้อยางสึกถึงสะพานยังแล้วเป็นการบ่งบอกว่าถึงเวลาที่คุณต้องเปลี่ยนยางแล้วล่ะ

     ข้อแนะนำเพิ่มเติม: ก่อนออกเดินทางทุกครั้งอย่าลืมเช็กด้วยว่า รถของคุณได้ทำประกันภัยรถยนต์
และประกันยังไม่หมดอายุ เพราะเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา อย่างน้อยก็ยังอุ่นใจว่าประกันภัยจะ
ช่วยแก้ปัญหาและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายแก่คุณได้ค่ะ
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
อังคาร, 12 พฤษภาคม 2015 16:23 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
อย่ามองข้ามน้ำมันเกียร์

ระบบเกียร์ถือว่าเป็นระบบที่สำคัญช่วยในการส่งกำลังให้รถยนต์ได้ขับเคลื่อน ดังนั้นจึงจำเป็นต้อง
ดูแลรักษาระบบเกียร์อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการเติมน้ำมันเกียร์ เพราะหากเกิดความเสียหาย 
ผลที่จะตามมาก็คือผู้ใช้รถจะต้องควักกระเป๋าในการซ่อมแซมเกี่ยวกับระบบเกียร์จำนวนมากในแต่ละครั้ง 
"ยานยนต์" มติชนมีคำแนะนำในการตรวจสอบสภาพของน้ำมันเกียร์ ดังนี้

1.น้ำมันเกียร์จะบอกสภาพของเกียร์ได้ น้ำมันเกียร์ที่ดีควรมีความสะอาด ไม่มีเศษโลหะหรือเป็นฟอง 
และควรมีสีแดง

     2.ไม่ควรมีสีชมพู เป็นฟอง หรือสีขุ่นๆ คล้ายนมเย็น ซึ่งอาจจะมาจากน้ำหล่อเย็นหรือคูลแลนท์มาผสม เป็นต้น

     3.น้ำมันควรเช็ดออกง่ายจากก้านวัดระดับ การที่มีคราบวานิชเช็ดออกยากที่ก้านวัด แสดงให้เห็นว่าน่าจะมีปัญหา
ภายในเกียร์ และไม่ควรมีกลิ่นไหม้และไม่ควรมีสีคล้ำของน้ำมันเกียร์ด้วย เพราะนั่นหมายถึงเกียร์น่าจะมีการไหม้
หรือความร้อนสูงขึ้นแล้วภายใน

     4.การเติมน้ำมันเกียร์ กรณีระดับขาดเล็กน้อย ต้องแน่ใจว่าใส่น้ำมันเกรดเดียวกัน และมีความสะอาดอย่างเพียงพอ 
นอกเหนือจากน้ำมันสะอาดและใช้น้ำมันที่ถูกต้องตามสเปกที่กำหนดแล้ว ระดับของน้ำมันก็มีความสำคัญมาก 
ระดับที่มากเกินไป นอกจากจะทำให้เกิดฟองตามมาแล้ว อาจทำให้เกิดการรั่วซึมได้อีกด้วย และยังมีผลให้การ
เปลี่ยนถ่ายน้ำมันในครั้งต่อไปไม่สามารถเปลี่ยนถ่ายได้มากเป็นปกติ ทำให้มีน้ำมันเก่าตกค้างได้มาก 
หากมีน้ำมันน้อยเกินไปแน่นอนว่าการทำงานจะไม่ถูกต้องและอาจสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์ภายในเกียร์ได้

     กรณีน้ำมันน้อยหรือต่ำเกินไป สาเหตุคือเติมมาน้อยเกินไปแต่แรกหรือมีรอยรั่วที่ไหนหรือไม่ สิ่งนี้สำคัญมากๆ 
ต้องหาให้ได้ว่าอะไรคือสาเหตุทำให้น้ำมันต่ำ

     ข้อควรระวังในการตรวจเช็กน้ำมันเกียร์ 
1.ระดับของรถจะต้องขนานกับพื้นไม่เอียง ทำให้ระดับผิดไป 
2.เครื่องยนต์และเกียร์ควรจะอยู่ในอุณหภูมิเหมาะสมไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป 
3.ดึงเบรกมือทุกครั้ง 
4.เกียร์ควรอยู่ในตำแหน่ง N

 

     ที่มา นสพ.มติชน
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พฤหัส, 14 พฤษภาคม 2015 16:20 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
จ่ายหลักร้อย คุ้มครองหลักแสน พ.ร.บ. ช่วยได้

ผู้ใช้รถบางคนไม่เห็นความสำคัญของการทำประกันหรือต่อ พ.ร.บ. แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา
ความเสียหายที่คุณต้องชดใช้นั้นเทียบไม่ได้เลยกับค่าทำ พ.ร.บ. เพียง 646 บาท 
ซึ่งช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายกรณีบาดเจ็บ – เสียชีวิตสูงสุดถึง 200,000 บาท ส่วนความคุ้มครองอื่นๆ มีอะไรบ้าง

ทำ พ.ร.บ. ดีอย่างไร

คุ้มครองความเสียหายเบื้องต้นทั้งตนเองและคู่กรณี
เมื่อคู่กรณีเกิดชนแล้วหนี ยังมีค่ารักษาพยาบาล
มีสิทธิ์ต่อทะเบียนรถประจำปี
จ่ายเบี้ยถูกคุ้มครองหลักแสน

ความคุ้มครองการทำประกันภัยภาคบังคับ พ.ร.บ.
1. ความคุ้มครองเบื้องต้น (ไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด)    วงเงินคุ้มครอง  1.1 กรณีบาดเจ็บเบื้องต้น (ตามจริง)    15,000 บาท/คน
1.2 เสียชีวิต / สูญเสียอวัยวะ / ทุพพลภาพถาวร    35,000 บาท/คน
2. ค่าเสียหายส่วนเกินกว่าค่าเสียหายเบื้องต้น (หลังตรวจสอบว่าเป็นฝ่ายถูก)    วงเงินคุ้มครอง
2.1 ค่ารักษาพยาบาล    50,000 บาท/คน 2.2 เสียชีวิต / สูญเสียอวัยวะ / ทุพพลภาพถาวร    200,000 บาท/คน
2.3 ค่าชดเชยรายวัน 200 บาท รวมกันไม่เกิน 20 วัน (กรณีเป็นผู้ป่วยใน)    สูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท/คน

ตัวอย่าง

     ถ้าคุณขับรถกระบะไปเฉี่ยวชนมอเตอร์ไซค์ล้ม คนขับหัวฟาดพื้นได้รับบาดเจ็บจนต้องนำส่งโรงพยาบาล 
ซึ่งถ้าคุณทำพ.ร.บ. ไว้จะช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลของผู้บาดเจ็บ และถ้าคู่กรณีเสียชีวิต พ.ร.บ. 
ก็จะช่วยจ่ายค่าทำศพและจ่ายเงินชดเชยให้สูงสุดถึง 200,000 บาท แต่ถ้าโชคร้ายรถไม่มี พ.ร.บ. 
หรือขาดต่อค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะตกเป็นภาระของคุณเพียงคนเดียว

  สรุปง่ายๆ คือรถทุกคันต้องทำ พ.ร.บ. เพราะไม่เพียงแค่ทำตามกฎหมายกำหนด 
แต่ยังเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เพียงจ่ายเงินไม่กี่ร้อยเท่านั้น คุ้ม!
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พุธ, 20 พฤษภาคม 2015 15:39 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
ขับรถต้องรู้! ข้อควรระวังการใช้ “น้ำมันเครื่อง“

น้ำมันเครื่อง สามารถพิจารณาได้จากการแบ่งระดับ SAE น้ำมันเกรดเดียวจะมีช่วงอุณหภูมิที่สามารถใช้ได้แคบ 
ดังนั้น น้ำมันเกรดเดียวจึงเหมาะสำหรับแต่ละฤดูต้องการใช้โดยเฉพาะ ส่วนน้ำมันเกรดรวมนั้นสามารถใช้ได้ทุกฤดูกาล 
เนื่องจากช่วงอุณหภูมิที่สามารถใช้ได้กว้าง ปัจจุบันน้ำมันเกรดรวมเป็นที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย 
เนื่องจากสามารถใช้ได้ในช่วงอุณหภูมิกว้าง และมีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันสูง

การแบ่งระดับชั้น SAE คือการแบ่งระดับของน้ำมันโดยความหนืด และช่วงอุณหภูมิสามารถใช้น้ำมันนี้ได้ 
ระดับ SAE มีทั้งสิ้น 11 ระดับ จาก 0W-60 ดังนี้ 0w, 5w, 10w, 15w, 20w, 25w, 20, 30, 40, 50 
และ 60 จำนวนตัวเลขที่มากขึ้นหมายถึง ความหนืดมากขึ้นด้วย (เกรดที่มี W ต่อท้ายจะต้องผ่านการ
ทดสอบค่าแรงเสียดทานภายใต้อุณหภูมิต่ำ เหมาะสำหรับภูมิอากาศหนาว )

     สาเหตุที่ต้องกำหนดระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแต่ละครั้ง เพิ่มเติมจากการกำหนดการเปลี่ยนถ่าย
น้ำมันเครื่องตามระยะทาง เนื่องจากน้ำมันเครื่องค่อยๆ ทำปฏิกิริยารวมตัวกับออกซิเจนในอากาศและเสื่อมสภาพลง 
แม้ว่าจะไม่ค่อยได้ใช้รถก็ตาม

     โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของการเดินทางระยะสั้นๆ เครื่องยนต์หยุดการทำงานก่อนน้ำมันเครื่องจะร้อนขึ้น 
ทำให้ความชื้นผสมอยู่ในน้ำมันเครื่องไม่มีโอกาสระเหยออกมา ขณะเดียวกัน สารเพิ่มคุณภาพต่างๆ 
ในน้ำมันจะถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว จะทำให้อายุการใช้งานของน้ำมันเครื่องสั้นลง ดังนั้น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
จึงถูกกำหนดให้เปลี่ยนตามระยะเวลาด้วย

     หากใช้น้ำมันผิดประเภทใช้น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบนซินไปใช้กับเครื่องดีเซล จะทำให้การหล่อลื่นแย่ลง 
และเครื่องยนต์เกิดการกัดกร่อนและเสียหายอย่างรวดเร็ว เพราะน้ำมันโซลาร์หรือน้ำมันดีเซลประกอบด้วยสารประกอบ
ประเภทกรด เช่น ซัลเฟอร์มากกว่าน้ำมันเบนซิน
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
ศุกร์, 22 พฤษภาคม 2015 16:40 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเติมสารเพิ่มคุณภาพประเภทต้านทานการรวมตัวกับออกซิเจน 
และการป้องกันสนิมลงในเครื่องยนต์ดีเซลมากกว่าเครื่องยนต์เบนซิน เมื่อใช้น้ำมันเครื่อง
สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลในรถยนต์เบนซิน ปัญหาจะไม่เกิดขึ้นในระยะสั้น แต่ถ้ายังใช้น้ำมันเครื่องนี้
ต่อไปอีกระยะยาวจะก่อให้เกิดปัญหาขึ้น เช่น กำลังของเครื่องยนต์ลดลง เพราะการหล่อลื่น
ในเครื่องยนต์แย่ลงจะเกิดการสึกหรออย่างรวดเร็ว

     น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ประกอบด้วยสารช่วยชะล้างทำความสะอาดในปริมาณน้อย 
ทำงานอยู่ในช่วงอุณหภูมิต่ำ-กลาง ดังนั้น เมื่อใช้น้ำมันเครื่องนี้ในเครื่องยนต์เบนซินเป็นระยะเวลานาน 
ทำให้ความสามารถในการละลายยางเหนียวในน้ำมันอุณหภูมิต่ำไม่เพียงพอ และยางเหนียวจะรวมตัว
เป็นตะกอน ขัดขวางการไหลเวียนของน้ำมัน และส่งผลทำให้การหล่อลื่นในเครื่องยนต์แย่ลง

     การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องกรณีรถใช้งานไม่หนัก (เช้าขับไปทำงาน-เย็นขับกลับบ้าน) รถไม่ติด 
ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะหรือไม่ ถ้าสภาพน้ำมันเครื่องยังไม่ดำ 
ควรจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กม. เพราะรถเป็นรถใช้ตามปกติไม่หนัก
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 25 พฤษภาคม 2015 15:23 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
4 วิธีล้างรถให้สะอาดเอี่ยมเหมือนใหม่

  ถ้าเป็นไปได้คงไม่มีใครอยากขับรถที่ฝุ่นเขรอะ สีรถหมองไม่ชวนมองหรอกจริงมั้ย? ซึ่งโดยปกติแล้วสีของรถที่
ออกมาจากโรงงานสามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ในระดับหนึ่ง 
แต่ถ้าเจ้าของรถละเลยไม่ดูแล โอกาสที่สีจะเสื่อมสภาพเร็วก่อนเวลาอันควรก็มีสูง

 1.ไม่ควรปล่อยทิ้งรถให้เลอะฝุ่นโคลนเป็นเวลานานๆ  เพราะคราบโคลนจะทำให้สีผิวรถเสื่อม 
รวมทั้งอาจทำให้สารเคมีที่ติดอยู่ในโคลนซึมลึกเป็นอันตรายต่อสีรถ จนเกิดเป็นรอยด่างบนพื้นผิวรถได้

    2.หลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแจ้งโดนแดดแรงๆ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ควรหาผ้าคลุมรถสักหน่อย 
และไม่ควรล้างรถขณะที่ผิวรถยังร้อนจัด

    3.ล้างรถให้ถูกวิธี โดยเริ่มจากการปัดฝุ่นที่อยู่บนรถก่อนสัก 1  รอบ หลังจากนั้นจึงเริ่มล้างรถไล่จากด้านบนลงมา
ด้านล่างของตัวรถ สิ่งสำคัญอยู่ที่การใช้ผ้าสะอาดเนื้อนุ่มและน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างรถที่ต้องเลือกให้เหมาะสม 
สุดท้ายคือเช็ดรถให้แห้งทันที ไม่ปล่อยให้รถแห้งเองเพราะจะทำให้รถเป็นรอยด่างน้ำตลอดคัน

    4.เคลือบสีรถยนต์กันฝุ่น  หลังจากล้างรถจนสะอาดและเช็ดพอหมาดๆ ให้เทน้ำยาเคลือบสีรถใส่ผ้านุ่มๆ 
แล้วเริ่มเช็ดวนเป็นก้นหอยให้ทั่วรถ หลังจากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วค่อยเช็ดออก 
วิธีนี้จะช่วยให้สีรถจะไม่กรอบแตก ทนต่อภาวะต่างๆ ได้ดีขึ้น

 Be Careful: สารเคมีที่อยู่ในน้ำมันเบรก น้ำมันเชื้อเพลิง และทินเนอร์ เป็นสารเคมีที่อาจทำให้รถเป็นรอยด่าง 
ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงให้สารเคมีเหล่านี้สัมผัสกับตัวรถจะดีกว่า 
 
   ข้อแนะนำเพิ่มเติม: ก่อนออกเดินทางทุกครั้งอย่าลืมเช็กด้วยว่า รถของคุณได้ทำประกันภัยรถยนต์และประกัน
ยังไม่หมดอายุ เพราะเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา อย่างน้อยก็ยังอุ่นใจว่าประกันภัยจะช่วยแก้ปัญหาและแบ่งเบา
ภาระค่าใช้จ่ายแก่คุณได้ค่ะ
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พฤหัส, 28 พฤษภาคม 2015 15:03 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
ชนแล้วหนี จะเกิดอะไร!?!

ว่ากันว่าฟ้าฝนนั้นห้ามไม่ได้ ไม่ต่างอะไรกับอุบัติเหตุบนท้องถนนจากการขับขี่ ที่บางทีก็เกิดขึ้นโดยกระทันหัน 
ไม่ทันได้ตั้งตัว บางคนขับรถไปเฉี่ยวชนคนแล้วชิ่งหนี ด้วยกลัวความผิด ไม่รู้ทำยังไงดี อันนี้แย่นะครับ 
ขอบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดมากๆ เพราะนอกจากจะเจอโทษหนักในภายหลังแล้วตราบาปในใจยังยากจะลบเลือน

     หากคุณไม่อยากถูกตราหน้า ขึ้นชื่อว่าเป็น “นักซิ่งตีนผี” รู้จักวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องหลังเกิดอุบัติเหตุเอาไว้ 
ผ่อนหนักให้เป็นเบา ดีกว่านะครับ

 เมื่อขับรถชน “อย่าหนี”

     คุณประสบอุบัติเหตุขับรถชน สิ่งแรกที่ต้องทำคือ “ตั้งสติ และ อย่าหนี” เพราะความผิดฐานขับรถประมาทนั้น 
ไม่ใช่เรื่องเจตนา ผู้กระทำผิดไม่ใช่อาชญากร จึงควรจะอยู่เพื่อต่อสู้กับความจริง มิฉะนั้นท่านจะต้องหลบหนี 
นานถึง 15 ปี ถ้าคนที่ท่านขับไปชนนั้นเกิดเสียชีวิต และอาจเจอข้อหาหนักอื่นๆ อีกด้วย 
แต่ถ้าท่านช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ มอบตัวสู้คดี บางทีคดีอาจยอมความกันได้ 
และศาลก็ปรานีลดโทษให้ตามความถูกต้องเหมาะสม
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
อังคาร, 2 มิถุนา 2015 15:24 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
ข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน

     1. เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะต้องทำเครื่องหมายสัญญาณให้เห็นชัดเจน

     เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นซ้ำ เช่น วางป้าย สิ่งของ เป็นสัญญาณให้รถคันอื่นสังเกตเห็นได้ เมื่อมีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ

     2. ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นแก่ผู้บาดเจ็บ และรีบนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยเร็ว

     แต่หากคุณตื่นตกใจ อาจทำอะไรไม่ถูก ควรโทร 1669 หมายเลขรับแจ้งอุบัติเหตุ การเจ็บป่วยฉุกเฉิน 
ซึ่งจะให้คำแนะนำในการปฐมพยาบาล และส่งรถพยาบาลมายังจุดเกิดเหตุ ซึ่งบริการของ โทร 1669 เป็นสวัสดิการฟรี 
ผู้บาดเจ็บไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเรียกใช้บริการรถพยาบาลแต่อย่างใด

     3. แจ้งตำรวจ เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชน

     ไม่ว่าจะมีผู้บาดเจ็บหรือไม่ ต้องรีบแจ้งตำรวจในท้องที่โดยเร็วที่สุด (โทร. 191) เพื่อตำรวจจะได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ 
และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และตำรวจจะเป็นผู้สั่งให้เคลื่อนย้ายรถออกจากสถานที่เกิดเหตุได้

     4. แจ้งประกันภัย

     เพื่อให้บริษัทประกันภัย ตรวจสอบรายละเอียดของเหตุ และความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วออกเอกสารเคลมให้ 
เพื่อนำไปติดต่อประเมินราคาและซ่อม กับบริษัทประกัน โดยหลักการประกันภัย บริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับ
ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งของยานพาหนะและบุคคลภายนอก รวมถึงคดีทางแพ่ง ภายในวงเงินที่ระบุไว้ในสัญญา

     5. เตรียมเอกสาร

     เช่น สำเนากรมธรรม์ประกันภัยรถคันที่เกิดเหตุ สำเนาบัตรประชาชน หรือหลักฐานอื่นใดที่ออกโดยราชการ 
กรณีเรียกร้องค่าเสียหาย

     นี่คือข้อควรรู้เบื้องต้นในการปฏิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตามการปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด 
และใช้รถใช้ถนนอย่างมีสติ มีน้ำใจ จะช่วยให้คุณปลอดภัยไกลจากอุบัติเหตุได้ดีที่สุดครับ



     ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : กรมการประกันภัย, lannalaw

     ที่มา Kaidee.com

 
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
ศุกร์, 5 มิถุนา 2015 11:16 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
สัญญาณเตือนภัย จากพวงมาลัย

 พวงมาลัยรถยนต์ทำหน้าที่ควบคุมทิศทางของรถ หากเกิดปัญหาขึ้นมาย่อมเป็นอันตรายแน่นอน 
สำหรับสัญญาณเตือนภัยที่บอกว่ารถของคุณกำลังมีปัญหา สามารถตรวจสอบได้ดังนี้

1.อาการพวงมาลัยสั่น

     หลายคนเจอบ่อย เกิดจากยางเก่าหรือมีสิ่งผิดปกติกับยาง แต่ถ้าสั่นเฉพาะที่ความเร็วใดความเร็วหนึ่ง 
มักเกิดจากการถ่วงล้อ แต่ถ้าสั่นเพิ่มตามความเร็วของรถ จะเกิดจากลูกปืนล้อหรือโช้กอัพอาจจะเสีย
หรือยางเครื่องแท่นเกียร์ชำรุด ก็ทำให้พวงมาลัยสั่นได้เช่นกัน นอกจากนี้ ยังสามารถเกิดขึ้นได้จาก
การขันนอตล้อไม่แน่น หรือรูนอตล้อไม่ดี ทำให้ล้อไม่ได้ศูนย์ และบางทีก็เป็นปัญหาจากตัวล้อเองที่บิดเบี้ยว

 

     2.อาการพวงมาลัยหลวมมีช่วงฟรีมาก

     ทำให้ควบคุมทิศทางได้ยาก บางทีเกิดขึ้นจากพวงมาลัยเองบางครั้งอาจเกิดจากลูกหมากปลายแร็ก 
โดยจะมีเสียงดังตอนเลี้ยว ต่อมาอาการเสียงดัง แสดงว่าเกิดการสึกหรอของชิ้นส่วนบางอย่าง 
หากปล่อยทิ้งไว้ อาจมีผลต่อการควบคุมทิศทาง อย่างเช่น ลูกหมากปลายแร็กที่มีปัญหา 
หรืออาจเกิดจากการสึกหรอของฟันแร็ก ความห่างของลูกปืนในกระปุกพวงมาลัยกับลูกปืนคอพวงมาลัย 
และที่มีปัญหามากคือ การหลวมคลอนของข้อต่อแกนพวงมาลัย

3.อาการพวงมาลัยหนัก

     เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ขาด สายพานหย่อน แต่ถ้าหนักเฉพาะ
ตอนเลี้ยวข้างใดข้างหนึ่งมักจะเป็นที่วาล์ว รถรุ่นใหม่อาจเป็นเพราะปั๊มเพาเวอร์ไฟฟ้าบกพร่อง 
หรือแรงดันลมยางโดยเฉพาะล้อหน้าอ่อนเกินไปหรือศูนย์ล้ออาจมีปัญหา

 

      4.อาการพวงมาลัยเลี้ยวแล้วไม่คืน

     ตัวการหลักมักเกิดขึ้นจากศูนย์ล้อไม่ถูกต้อง ควรไปร้านตั้งศูนย์ด่วน
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 8 มิถุนา 2015 15:02 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
3ค่ายญี่ปุ่นเรียกรถคืน

มาสด้า-ซูบารุ-มิตซูบิชิ ประกาศเรียกรถคืนอีกกว่า 7.1 แสนคัน เซ่นวิกฤตถุงลมนิรภัย

ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของญี่ปุ่น คือ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ป, ฟูจิ เฮฟวีส์ อินดัสตรีส์ (ซูบารุ) และมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ป ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ว่า เตรียมประกาศเรียกรถยนต์คืนอีกราว 7.1 แสนคัน เนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับถุงลมนิรภัยที่ผลิตโดย ทากาตะ ซึ่งกำลังประสบปัญหาอื้อฉาว.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/ยานยนต์/เปิดโลกยานยนต์/366411/3ค่ายญี่ปุ่นเรียกรถคืน
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พุธ, 10 มิถุนา 2015 13:57 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
มือใหม่เลือกรถ คันไหนที่ใช่ ป้ายแดงหรือมือสอง

หลายคนมีความคิดที่ตั้งใจจะถอยรถยนต์สักคัน แต่มักจะมีปัญหาที่คิดไม่ตกอย่าง จะเลือกอะไรดี ระหว่าง รถใหม่ป้ายแดงหรือ
รถมือสองราคาสุดคุ้ม เราจึงรวบรวมข้อดี และข้อเสีย ของการออกรถใหม่ และรถมือสอง เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่าย 
และได้รถแบบที่ตรงใจคุณ

รถใหม่ป้ายแดง

ข้อดี 

- ได้สเปคตรงใจคุณทั้งคัน : เพราะเป็นรถมือใหม่ป้ายแดง คุณจึงสามารถเลือกรถเองได้ตามใจคุณทั้งคัน ทั้งสี เบาะ กระจก 
ฟิล์ม ชอบแบบไหนก็เลือกได้เลย

- ประกันแบบเต็มๆ :  เมื่อซื้อรถป้ายแดง สิ่งที่ตามมาด้วยก็คือประกันศูนย์ที่พร้อมจะดูแลแบบจัดเต็ม ทั้งการเช็คระยะ 
การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือหากรถมีปัญหาจะต้องซ่อมเปลี่ยนอะไรก็แล้วแต่ ยังมีส่วนลดของอะไหล่ด้วย

 รุ่นใหม่ เทคโนโลยีแจ่มว้าว :เป็นเหมือนสิ่งของทั่วไปที่รุ่นใหม่ๆ ออกมาเทคโนโลยีก็จะพัฒนาขึ้นไปอีก 
รถใหม่ป้ายแดงของคุณก็อาจจะมีระบบเชื้อเพลิงที่ดีกว่า ประหยัดน้ำมันได้มากกว่า 
หรืออาจจะมีเทคโนโลยีเชื้อเพลิงประหยัดน้ำมันใหม่ๆ มาอีก


ข้อเสีย

- ใช้เงินค่อนข้างสูงในการซื้อ : แค่เงินดาวน์ก็ไม่ใช่เล่นๆ แล้วยังมีค่าเบี้ยประกัยรถยนต์ที่แพงกว่ารถมือสองหลายส่วน

- อาจต้องรอคิวในการรับรถ : ถ้ารถรุ่นที่อยากได้ดันเป็นรุ่นยอดนิยมแบบสุดๆ คุณอาจจะต้องต่อคิวรอตามใบสั่งซื้อ 
กว่าจะได้จับคันจริงคงจะต้องรออีกหลายเดือนเลยทีเดียว

- ค่าเสื่อมในตัวรถ : ถ้าจะซื้อรถใหม่ป้ายแดงอาจจะต้องทำใจสักหน่อย เพราะแค่ซื้อก็ราคาตกแล้วด้วยค่าเสื่อมราคา 
ซึ่งมีเรทสูง 30-50%
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 15 มิถุนา 2015 11:18 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
ข้อเสีย

- ใช้เงินค่อนข้างสูงในการซื้อ : แค่เงินดาวน์ก็ไม่ใช่เล่นๆ แล้วยังมีค่าเบี้ยประกัยรถยนต์ที่แพงกว่ารถมือสองหลายส่วน

- อาจต้องรอคิวในการรับรถ : ถ้ารถรุ่นที่อยากได้ดันเป็นรุ่นยอดนิยมแบบสุดๆ คุณอาจจะต้องต่อคิวรอตามใบสั่งซื้อ 
กว่าจะได้จับคันจริงคงจะต้องรออีกหลายเดือนเลยทีเดียว

- ค่าเสื่อมในตัวรถ : ถ้าจะซื้อรถใหม่ป้ายแดงอาจจะต้องทำใจสักหน่อย เพราะแค่ซื้อก็ราคาตกแล้วด้วยค่าเสื่อมราคา 
ซึ่งมีเรทสูง 30-50%

รถมือสอง

ข้อดี 

- ได้รถรุ่นที่สูงขึ้นในราคาที่เท่าเดิม : เพราะเป็นรถมือสองราคาจึงถูกกว่ารถมือหนึ่ง จนบางทีคุณอาจจะได้ Honda Civic 
ในราคาของ Honda City เลยล่ะ

- ใช้เงินในการออกรถน้อยกว่าแต่คุ้มค่ามากกว่า : เพราะเป็นรถที่มือหนึ่งมักจะราคาตกค่อนข้างเร็ว บางทีการใช้งานของรถอาจ
จะไม่ได้หนักมาก แต่สภาพยังดูดีสุดๆ เรียกได้ว่าคุ้มแบบ 2 ต่อ สบายกระเป๋า ได้รถถูกใจ

- ได้รถแต่งมาพร้อมแบบสวยเช้ง :  รถมือสองหลายคันมักผ่านการตกแต่งมาอย่างเต็มที่ เช่น เครื่องเสียง, ล้อแม็ก, 
ซันรูฟ เป็นต้น ทำให้คุณอาจจะได้รถที่โดนใจแถมแต่งมาเรียบร้อยในราคาแสนคุ้ม

- เลือกซื้อและเปรียบเทียบได้ง่ายตั้งแต่อยู่บ้าน : ปัจจุบันมีเว็บไซต์ซื้อขายรถมือสองเป็นจำนวนมาก ทำให้ง่ายต่อการเลือกซื้อ 
และบางเว็บก็มีการบริการที่รองรับในหลายๆ ด้าน 


ข้อเสีย 

- รถผ่านการใช้งานมาแล้ว : ขึ้นชื่อว่ารถมือสองย่อมผ่านการใช้งานมาแล้วแน่นอน ซึ่งก่อนซื้อคุณอาจจะมีผู้เชี่ยวชาญสักคน
ไปช่วยดูรถที่คุณสนใจให้มั่นใจได้ว่า รถมือสองสภาพพร้อมใช้งานแค่ไหน

- หารถโดนใจยาก : บางทีรถที่อยากได้ก็หายากมาก จนต้องตระเวนตามเต็นท์รถจนแทบถอดใจ ไม่เหมือนกับรถมือหนึ่งที่
สามารถเลือกได้ตรงที่ต้องการ ข้อแนะนำสำหรับการหารถมือสองโดนใจควรลองเข้าเว็บไซต์รถมือสองที่มีรถให้เลือกมากมายหลายรุ่น 
ยกตัวอย่างเช่น Krungsri Market ที่นอกจากจะมีให้เลือกแล้วยังสามารถฟีเจอร์ที่ช่วยให้ค้นหารถที่โดนใจได้ง่ายขึ้น 
ทำให้ได้รถโดนใจโดยไม่ต้องเดินทางตามหา


สำหรับใครที่กำลังจะเล็งซื้อรถใหม่ก็สามารถลองเปรียบเทียบจากข้อดีข้อเสียด้านต้นแล้วลองช่างใจดูว่า แบบไหนที่จะโดนใจคุณ!

 
ตอบ
หน้า 3 จาก 9
ไปที่: 
ติดต่อโฆษณา admin@civicesgroup.com
Copyright © 2008-2024 Civic ES Group. All rights reserved.