ตอบ
ขายรถฟรี ซื้อขายรถยนต์
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พฤหัส, 17 กรกฎา 2014 10:32 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
"Up garage" บุกเมืองไทยเอาใจนักซิ่ง

ร้านอะไหล่แต่งรถยนต์ญี่ปุ่น "Up garage"  บุกเมืองไทยเอาใจนักซิ่ง เปิดสาขาที่ถนนเกษตร-นวมินทร์

นายมาโกโตะ อิชิดะ ประธานบริษัท อัพการาจ บีเคเค (Up garage)ร้านขายอะไหล่ตกแต่งรถยนต์และ
รถจักรยานยนต์มือสอง จากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า การเข้ามาเปิดร้านอัพ การาจ ที่ถนนเกษตร-นวมินทร์ 
ครั้งแรกในประเทศไทย เนื่องจากมั่นใจในสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังต่อจากนี้ 
โดยบริษัท มีแผนการดำเนินธุรกิจให้บริการขายและรับซื้อสินค้าประดับยนต์ พร้อมทั้งบริการติดตั้งแบบครบวงจร 
แม้จะเป็นสินค้ามือสองจากประเทศญี่ปุ่น แต่มีคุณภาพและเป็นของแท้100% เจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม 
ที่ต้องการสินค้าราคาไม่แพง ซึ่งแตกต่างจากร้านขายอะไหล่เชียงกง

ทั้งนี้ ตั้งเป้ายอดขายในช่วงครึ่งปีหลังเดือนละ 5 ล้านบาทหรือ 30ล้านบาทในสิ้นปีนี้ โดยทางร้านมี
สัดส่วนสินค้าประกอบด้วย ยาง-ล้อแม็ก 50% ชิ้นส่วนแอร์โร่พาท 25% และเครื่องเสียง 25% 
ซึ่งตลาดตกแต่งรถยนต์ในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น ในขณะที่ตลาดในประเทศญี่ปุ่นลดลง 
เนื่องจากคนญี่ปุ่นหันมาใช้รถยนต์ขนาดเล็ก หรือ รถกลุ่ม เค เซกเม้นท์

สำหรับการลงทุนก่อสร้างอาคารและพื้นที่ให้บริการติดตั้งใช้เงินจำนวน17ล้านบาท 
ส่วนงบการทำตลาดโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้แก่ลูกค้าจำนวน1.5 ล้านบาท 
และในปีต่อไปคาดว่าจะขยายเปิดสาขาในประเทศฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย 
ในอนาคตโดยให้ประเทศไทยเป็นจุดกระจายสินค้าต่อไปอีก
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 21 กรกฎา 2014 13:27 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
วิธีขัดคราบเหลือง ขุ่นมัว ล้างโคมไฟหน้าด้วยตัวเอง

ใครกำลังมีปัญหาโคมไฟหน้ารถขุ่นมัวหรือหมอง ไฟไม่สว่างพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถบ้านรุ่นใหม่ๆ 
สมัยนี้โคมไฟหน้าส่วนมากเป็นพลาสติกไม่ใช่แก้ว เมื่อใช้รถไปนานๆ เจอแดดเจอฝน 
มีฝุ่นละอองหรือไอน้ำเล็ดลอดเข้าไปทำให้เกิดคราบขุ่นมัว ไม่สดใสทำให้รถดูเก่า 
หรืออีกปัญหานึงคือเกิดจากความร้อนจากหลอดไฟที่สูงเกินไป หรือให้ความสว่างมากเกินไป 
ก็เป็นสาเหตุให้เกิดคราบขุ่นเหลืองที่โคมไฟได้เช่นกัน อยากหาวิธีแก้แบบทำได้ด้วยตัวเอง 
ไม่ต้องเสียเงินจ้างอู่หรือคาร์วอชทำให้ เรามาดูวิธีเลย

วิธีทำความสะอาดโคมไฟหน้า
ใช้กระดาษทรายเบอร์ 2,000 ตัดเป็นชิ้นแล้วแช่น้ำ จากนั้นราดน้ำลงบนโคมไฟให้ทั่วทั้งโคม 
ใช้กระดาษทรายที่แช่น้ำขัดเอาคราบเหลืองออก (ขณะที่ขัดนั้นควรให้ฉีดพรมน้ำไปด้วย) 
เมื่อขัดเสร็จเช็ดโคมไฟให้แห้ง ใช้ครีมขัดรถป้ายที่โคมไฟจนทั่ว แล้วใช้ผ้าขนแกะหรือเครื่องปั่นขัดออก 
ทำซ้ำ 2-3 รอบจนกว่าโคมไฟจะกลับมาใสปิ๊งงงง...
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
อังคาร, 22 กรกฎา 2014 15:27 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
โคมไฟหน้ารถบ้านแต่ละรุ่นนั้นไม่เหมือนกัน ในกรณีที่รถเราสามารถถอดไฟหน้าออกมาล้างได้ก็คงไม่มีปัญหา 
แต่โดยมาแล้วรถเล็กส่วนใหญ่จะถอดไม่ได้ หากโคมไฟหน้ามีคราบเหลืองขุ่น มีรอยขีดข่วน 
ต้องใช้ยาขัดหยาบขัดแล้วใช้เครื่องปั่น ซึ่งอาจจะทำด้วยเองไม่ได้ ถ้าไม่อยากเสี่ยงทำเองก็อาจจะต้องนำเข้าอู่ 
คาร์วอช บริการล้างโคมไฟ เลือกร้านที่ไว้ใจได้แล้วตกลงราคาค่าใช้จ่ายกันดีๆ อีกอย่างคือก่อนจะล้างโคมไฟหน้า 
อย่าลืมเช็คดูร้านอะไหล่ประดับยนต์ว่าราคาของใหม่ ราคาขายเท่าไหร่ ถ้าซื้อของใหม่ราคาไม่สูงมาก 
ก็เปลี่ยนใหม่ซะเลยดีกว่า คุ้มกว่ามานั่งขัด เพื่อความปลอดภัยของรถคุณเอง
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 28 กรกฎา 2014 14:03 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
สอท.ลดเป้าผลิตรถยนต์ปีนี้2แสนคัน

สภาอุตสาหกรรมฯปรับลดเป้าผลิตรถยนต์ปีนี้ลง 2 แสนคัน เหลือ 1 ล้านคัน 
เหตุยอดขายในประเทศ 6 เดือนแรกต่ำกว่าคาดนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ 
รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) 
เปิดเผยว่า กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ฯ ได้ปรับประมาณการตัวเลขประมาณการการผลิตรถยนต์ 
และรถจักรยานยนต์ของสมาชิกกลุ่มฯ ในปี พ.ศ.2557 ซึ่งปรับใหม่ในเดือนมิถุนายน 2557 
โดยแยกเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก และการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ

โดยในส่วนของรถยนต์ ประมาณการการผลิตปี พ.ศ.2557 ประมาณ 2.2 ล้านคัน 
ปรับลดเป้าการผลิตจากเป้าเดิมลง 2 แสนคัน น้อยกว่าปี พ.ศ.2556 จำนวน 2.57 แสนคัน 
หรือลดลง10.46% 

ทั้งนี้ เป็นการปรับลดในส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ปรับลดลงจากเป้าเดิม 2 แสนคัน 
เป็นผลิต 1 ล้านคัน ซึ่งคิดเป็น45.45% ของยอดผลิตทั้งหมด ลดลงจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 1.33 ล้านคัน 
หรือลดลง 25.14% โดยปัจจัยในการปรับลดนั้นเป็นผลจากยอดขายในประเทศใน 6 เดือนแรก
ที่ต่ำกว่าที่คาดไว้เดิมว่าจะขายได้ 5 แสนคัน แต่ปรากฎว่าขายได้เพียง 4.41 แสนคันเท่านั้น
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 4 สิงหา 2014 15:18 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
ส่วนการผลิตเพื่อส่งออก คงเป้าเดิม 1.2 ล้านคัน  คิดเป็น54.54%  ของยอดผลิตทั้งหมด 
เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 1.12 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้น 7.87 หมื่นหรือเพิ่มขึ้น 7.02%

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า  สำหรับยอดผลิตรถยนต์ในเดือนมิ.ย. มีทั้งสิ้น 1.6 แสนคัน 
ดีขึ้นจากเดือน พ.ค. 8.41%  แต่ยังคงลดจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 26.1% 
ปัจจัยหลักๆมาจากสิ้นสุดโครงการรถคันแรกแล้ว โดยยอดผลิตเดือนมิ.ย.
ดังกล่าวได้ทำให้ยอดผลิตรถยนต์ 6 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 9.53 แสนคัน 
ลดลง 28.95%  

ขณะที่ข้อมูลยอดขายรถยนต์ ในเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 7.38 หมื่นคัน ลดลง 30.4%  
ทำให้ทำให้ยอดขายรถยนต์ 6 เดือนแรกอยู่ที่ 4.41 แสนคัน  ลดลง 40.5%
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พฤหัส, 7 สิงหา 2014 11:25 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
ผลสำรวจเผยเจ้าของรถยนต์พอใจศูนย์บริการลดลง

เผยผลสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้รถยนต์ต่อศูนย์บริการ พบปี57ลดต่ำลง สะท้อนลูกค้าต้องการคำแนะนำด้านการดูแลรถ

เมื่อวันที่ 4 ส.ค. บริษัท เจ.ดี.พาวเวอร์ เอเชีย แปซิฟิก เปิดเผย ผลการศึกษาวิจัยดัชนีด้านการบริการลูกค้าใน
ประเทศไทย ประจำปี 2557 พบว่า  ความพึงพอใจของเจ้าของรถยนต์ใหม่ที่มีต่อบริการหลังการขายที่
ศูนย์บริการรถยนต์ในประเทศไทยลดต่ำลงอย่างมาก

ทั้งนี้ คะแนนความพึงพอใจโดยรวมของตลาดรถยนต์แบรนด์ยอดนิยมในปี 2557เฉลี่ยอยู่ที่ 838 คะแนนจากคะแนนเต็ม
1,000 คะแนน ลดลงจากปี 2556ซึ่งอยู่ที่ 889 คะแนน โดยคะแนนความพึงพอใจลดต่ำลงในทุกปัจจัยของการให้บริการ
ลูกค้า 5 ปัจจัยหลักคือ การเริ่มต้นให้บริการ, ที่ปรึกษาด้านบริการสิ่งอำนวย, ความสะดวกของศูนย์บริการ, 
การรับรถคืนและคุณภาพงานบริการ โดยเฉพาะปัจจัยที่ปรึกษาด้านบริการมีคะแนนลดต่ำลงเมื่อเทียบกับปี 2556 
ถึง 58 คะแนน

“เจ้าของรถยนต์ใหม่ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นเจ้าของรถยนต์คันแรก ให้ความสำคัญมากขึ้นในเรื่องของการมี
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างพนักงานผู้ให้บริการกับลูกค้า และคาดหวังให้การปฏิสัมพันธ์ต่างๆ นั้นมีคุณภาพที่ดีกว่านี้
”โลอิคเปอ็อง ผู้จัดการอาวุโสของ เจ.ดี. พาวเวอร์ เอเชีย แปซิฟิก กล่าว
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
อังคาร, 12 สิงหา 2014 10:02 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
ผลสำรวจระบุด้วยว่า แม้ว่าโดยรวมแล้วศูนย์บริการสามารถปรับปรุงกระบวนการการให้
บริการได้เป็นอย่างดีแต่ลูกค้ากลับแสดงออกถึงความไม่พึงพอใจที่ศูนย์บริการขาดการ
ใส่ใจในความต้องการของตัวเองและต้องการได้รับคำแนะนำที่ดีกว่านี้เกี่ยวกับการดูแลรักษารถยนต์

อย่างไรก็ตามจากการสำรวจพบว่า โตโยต้าครองอันดับ 1ด้านความพึงพอใจโดยรวมของ
ลูกค้าแบรนด์รถยนต์ยอดนิยม โดยได้ 850คะแนน โตโยต้าทำได้ดีเป็นพิเศษในปัจจัย
การเริ่มต้นให้บริการ สิ่งอำนวยความสะดวกของศูนย์บริการ การรับรถคืน และคุณภาพ
งานบริการอีซูซุ ตามมาเป็นอันดับ 2ด้วยคะแนน 848 คะแนน และทำได้ดีเป็นพิเศษ
ในปัจจัยที่ปรึกษาด้านบริการมาสด้า อันดับ3 (843) และฮอนด้า อันดับ 4(840)

การศึกษาวิจัยดัชนีด้านการบริการลูกค้าในประเทศไทย ประจำปี 2557 ทำการศึกษาจากการประเมิน
คำตอบของเจ้าของรถยนต์ใหม่จำนวน 3,902 รายที่ซื้อรถยนต์ในช่วงเดือนม.ค. 2555 
ถึงเดือนเม.ย. 2556 และนำรถยนต์เข้ารับบริการที่ศูนย์บริการมาตรฐานในช่วงเดือนก.ค. 2556 
ถึงเดือนเม.ย. 2557 โดยมีการเก็บรวบรวมข้อมูลภาคสนามในช่วงเดือนม.ค.ถึงเดือนเม.ย. 2557
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
ศุกร์, 22 สิงหา 2014 11:19 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
รถยนต์ไตรมาสสามยังซึม

นิสสัน-ฮอนด้า ชี้ตลาดรถยนต์ยังไม่ฟื้น คาดทั้งปีทำได้แค่ 9 แสนคัน แนะผู้ผลิตปรับเป้าตามตลาด

นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) 
เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ 2 เดือนที่ผ่านมา (มิ.ย.-ก.ค.) มีแนวโน้มดีขึ้นแต่ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร 
และมองว่าภาพรวมตลาดรถยนต์ในปี 2557 จะอยู่ในระดับ 9 แสนคัน ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่
ประมาณการไว้ 9.25 แสนคัน

นอกจากนี้ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์เอง|ต้องมีการปรับฐานตัวเลขการผลิตและจำหน่ายให้เหมาะสมกับสภาพตลาดในปัจจุบัน 
หลังจากตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมีอัตราเติบโตลดลงติดต่อกันแล้ว 2 ปี

สำหรับนิสสันปีนี้ คาดว่าส่วนแบ่งตลาดของบริษัทจะลดลงเหลือ 9% คิดเป็นยอดขายประมาณ 8 หมื่นคัน 
จากเดิมคาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาด 10% หรือ 1 แสนคัน ซึ่งเป็นผลจากสภาพตลาดรวมที่เติบโตลดลง

“ผลิตภัณฑ์ของบริษัทรุ่นล่าสุดของบริษัท นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่จะสร้างยอดขาย 
ซึ่งการเปิดตัวที่เลยครึ่งปีหลังมาในครั้งนี้อาจช้าไปสักนิด ปัจจุบันมียอดจองแล้วกว่า 1,000 คัน 
และอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการส่งมอบให้กับลูกค้าตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ขณะที่ตลาดรถกระบะถือได้ว่า
เป็นตลาดใหญ่ถึงกว่า 50%”นายประพัฒน์ กล่าว
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 25 สิงหา 2014 15:27 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
ขณะที่ในช่วงสุดท้ายของปีนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ “นิสสัน เอ็กซ์เทรล 
ใหม่” รถยนต์อเนกประสงค์ (เอสยูวี)และอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตในประเทศไทย 
ควบคู่ไปกับประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นฐานผลิตรถยนต์อเนกประสงค์ของบริษัท 
โดยปีนี้บริษัทได้วางตลาดรถครบ 10 รุ่นตามแผน และมองว่าในปี 2558 จะเพิ่มเป็น 11-12 รุ่น ต่อไป

ด้าน นายสมภพ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) 
กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ตั้งแต่เดือน มิ.ย.ถึงปัจจุบัน อยู่ในสถานการณ์คงที่ 
ซึ่งมองว่าการแข่งขันจัดโปรโมชั่นยังคงรุนแรงอยู่ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีฮอนด้าได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ไปแล้วกว่า 4 รุ่น 
ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นความต้องการของลูกค้าได้

ทั้งนี้ บริษัทยังเน้นการสร้างยอดขายโดยสนับสนุนการจำหน่ายของผู้แทนจำหน่ายในทุกทาง
เพื่อดึงคนเข้ามายังโชว์รูม อีกทั้งยังคงเดินหน้าแผนการขยายผู้แทนจำหน่าย 
และศูนย์บริการเพื่อรองรับปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นของบริษัท
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
อังคาร, 2 กันยา 2014 13:12 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
นายจรวย ขันมณี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยานยนต์ สแควร์ กรุ๊ป 
ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล แกรนด์ มอเตอร์ เซลส์” 
กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นครั้งแรกของบริษัท โดยมีบริษัทรถยนต์เข้าร่วมงานกว่า 49 บริษัท 
และบริษัทรถจักรยานยนต์กว่า 19 บริษัท รวมถึงผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ (เกรย์มาร์เก็ต) 
คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 1 ล้านคนผู้สื่อข่าว ระบุว่า วันแรกของการจัดงานมี
ผู้เข้าร่วมชมอย่างหนาตา อีกทั้งบริษัทผู้เข้าร่วมงานได้นำพนักงานขาย (เซลส์) 
จำนวนมากมาให้บริการสำหรับลูกค้าผู้สนใจช่วยสร้างความคึกคักมากขึ้น
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 8 กันยา 2014 11:32 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
จอดรถกลางแดด ยกก้านปัดน้ำฝนช่วยยืดอายุยางจริงหรือ ?

 บ่อยครั้งที่มักได้ยินคำแนะนำให้ยกก้านที่ปัดน้ำฝนเวลาจอดรถกลางแดด 
รวมทั้งเห็นผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ปฎิบัติอย่างนี้ แต่การยกก้านที่ปัดน้ำฝนจะช่วยยืดอายุยางปัดน้ำฝน 
แต่อาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของสปริงยกก้านที่ปัดน้ำฝน 
การจอดรถยนต์ตากแดดนานๆ การยกที่ปัดน้ำฝน เพื่อไม่ให้ยางใบปัดสัมผัสแนบอยู่กับกระจกเสื่อมสภาพ 
จะช่วยให้ยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพช้าลง แต่การยกก้านที่ปัดน้ำฝนบ่อยๆ 
และยกก้านที่ปัดน้ำฝนค้างไว้ครั้งละนานๆ จะส่งผลให้สปริงยกก้านที่ปัดน้ำฝนเกิดอาการล้าเร็ว 
อายุการใช้งานสั้นลง ทำให้แรงกดของใบปัดน้ำฝนกับกระจกหน้าลดลง ส่งผลต่อแรงปัดของก้านปัดน้ำฝน 
ทำให้ปัดน้ำฝนไม่เกลี้ยง หรือมีคราบน้ำเป็นเส้น ๆ ตามรอยโค้ง  
ซึ่งหากสปริงยกก้านที่ปัดน้ำฝนล้าค่าใช้จ่ายในการซ่อมจะสูงกว่าค่ายางที่ปัดน้ำฝนทั้งสองข้าง

     โดยปกติยางที่ปัดฝนมีคุณสมบัติทนต่อความร้อนได้ดี และที่ผิวกระจกไม่ได้มีความร้อนสูงมากมาย 
ไม่ว่าจะยกก้านหรือไม่ยกก้าน ยางปัดน้ำฝนก็จะเสื่อมสภาพไปตามธรรมชาติ 
และสาเหตุที่ยางปัดน้ำฝนเสื่อมเร็วกว่าปกติ
ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากความร้อน แต่เกิดการใช้งานและการดูแลรักษามากกว่า
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พฤหัส, 11 กันยา 2014 10:44 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
การถนอมยางปัดน้ำฝนที่ดีที่สุดเมื่อต้องจอดรถยนต์ตากแดดกลางที่โล่งแจ้ง 
คือ ก่อนที่จะออกรถยนต์ออกหลังจากจอดตากแดดทุกครั้งให้ยกก้านใบปัดน้ำฝนขึ้นมา 
แล้วนำผ้าหรือกระดาษเช็ดหน้านุ่ม ๆ เช็ดลูบเบา ๆ ตามความยาวของยางปัดน้ำฝน 
แล้วจึงไปเช็ดบนกระจกบริเวณที่ยางปัดน้ำฝนแนบอยู่ เพราะบริเวณนั้นจะมีเศษฝุ่นผงเล็ก ๆ 
ปลิวมาตกค้างอยู่บนกระจก หากไม่เช็ดออกเมื่อเปิดที่ปัดน้ำฝน 
ยางปัดน้ำฝนจะกวาดเอาเศษฝุ่นผงหรือเศษทรายเล็ก ๆ นั้น กดกับกระจกจนยางฉีกเป็นรอย
ทำให้การปัดน้ำฝนบนกระจกไม่เกลี้ยงได้

     และควรทำความสะอาดยางปัดน้ำฝนด้วยตนเองสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ด้วยการยกก้านปัดน้ำฝนขึ้น
และใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดบิดหมาด เช็ดรูดไปตามความยาวของยางปัดน้ำฝนในทิศทางเดียว  
หากพบร่องรอยการฉีกขาดหรือแข็งกรอบ ควรเปลี่ยนใหม่ทันที เพราะหากใช้ต่อไปจะทำให้ปัดน้ำฝนไม่สะอาด 
และทำให้เกิดเสียงดัง หรือสะดุดขณะปัด หรืออาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนกระจกได้อีกด้วย
 
 
     หมายเหตุ : ยางปัดน้ำฝนมีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พฤหัส, 18 กันยา 2014 16:10 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
มารู้จัก 10 อะไหล่รถที่ต้องเปลี่ยนบ่อยที่สุด

 การดูแลรักษารถยนต์ ถือเป็นสิ่งสำคัญของผู้ใช้รถ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น 
และยังช่วยให้การขับขี่มีความปลอดภัยขึ้นด้วย เนื่องจากชิ้นส่วนต่างๆในรถยนต์นั้น 
มีการสึกหรอตามการใช้งานอยู่แล้ว จึงควรเปลี่ยนเมื่อครบอายุการใช้งานของมัน10 ชิ้นส่วนในรถยนต์
ที่ต้องเปลี่ยนบ่อยที่สุด ได้แก่

     1.น้ำมันเครื่อง และไส้กรองน้ำมันเครื่อง

     น้ำมันเครื่องถือเป็นปัจจัยหลักในการหล่อลื่นชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนตามกำหนดทุกครั้ง 
หรือหากตรวจพบว่าน้ำมันเครื่องเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท ก็สามารถเปลี่ยนก่อนกำหนดได้เลย 
เพราะอาจบ่งบอกว่าน้ำมันเสื่อมสภาพแล้ว

     ระยะเวลาเปลี่ยน ทุกๆ 5,000 - 10,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ประเภทน้ำมันเครื่อง)

     2. ผ้าเบรค

     ผ้าเบรคเป็นชิ้นส่วนที่ส่งผลต่อความปลอดภัยโดยตรง หากผ้าเบรคใกล้หมด จะมีเสียงดังเอี๊ยดเกิดขึ้นขณะเหยียบเบรค 
บ่งบอกว่าถึงเวลาเปลี่ยนได้แล้ว หากยังดึงดันที่จะใช้ต่อแล้วล่ะก็ อาจทำความเสียหายกับจานเบรคได้ 
ซึ่งมีราคาแพงกว่าผ้าเบรคหลายเท่าตัวเลยล่ะ

     ระยะเวลาเปลี่ยน ประมาณ 50,000 - 70,000 กิโลเมตร (หากใช้งานในเมืองอายุจะสั้นกว่า)
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 6 ตุลา 2014 10:25 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
3. แบตเตอรี่
    แบตเตอรี่มีทั้งแบบแห้งและเปียก โดยแบบแห้งไม่จำเป็นต้องดูแลรักษาใดๆตลอดอายุการใช้งาน 
แต่หากเป็นแบบเปียกนั้น จำเป็นต้องมีการเติมน้ำกลั่นให้ได้ระดับอยู่เสมอเพื่อให้
แบตเตอรี่สามารถเก็บประจุไฟได้อย่างเต็มที่
    ระยะเวลาเปลี่ยน ประมาณ 2-3 ปีแล้วแต่การใช้งาน แบตเปียกควรเช็คน้ำกลั่นอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง

4. ไส้กรองอากาศ 
    เครื่องยนต์จำเป็นต้องได้รับอากาศบริสุทธิ์ในการเผาไหม้จำนวนมาก ดังนั้น 
ไส้กรองอากาศจึงเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการกรองสิ่งสกปรกในอากาศก่อนเข้าไปยังเครื่องยนต์ 
ซึ่งหากมีสิ่งสกปรกอุดตันเป็นจำนวนมากก็จะทำให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ กำลังเครื่องยนต์ลดลง
    ระยะเวลาเปลี่ยน ประมาณ 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร และเป่าทำความสะอาดทุกๆ 3,000-5,000 กิโลเมตร

5. น้ำมันเกียร์และไส้กรองน้ำมันเกียร์
    ระบบเกียร์มีชิ้นส่วนประกอบที่เป็นโลหะเข้าด้วยกันจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเกียร์อัตโนมัติแบบทั่วไป, 
แบบ CVT หรือแบบ Dual-clutch ซึ่งมีการเคลื่อนที่ภายในห้องเกียร์ตลอดเวลา จึงมีอัตราการสึกหรอสูง 
น้ำมันเกียร์เป็นสิ่งสำคัญในการลดการสึกหรอดังกล่าว ไม่ให้ระบบเกียร์กลับบ้านเก่าไปก่อนวัยอันควร 
หากใช้ไปนานๆจะทำให้เกิดเศษโลหะในน้ำมันเกียร์ที่เป็นอันตรายต่อระบบเกียร์ได้
    ส่วนน้ำมันเกียร์แบบ Long-life นั้น แม้ว่าผู้ผลิตจะระบุว่าสามารถใช้ได้ตลอดอายุการใช้งาน 
แต่ก็ควรได้รับการเปลี่ยนถ่ายบ้าง เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานระบบเกียร์
    ระยะเวลาเปลี่ยน ประมาณ 20,000 - 40,000 กิโลเมตรแล้วแต่รุ่นรถ

6. ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง
    ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงพบได้ทั้งรถที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินและดีเซล โดยมีหน้าที่ดักจับสิ่ง
สกปรกต่างๆและน้ำ ที่มากับน้ำมันที่เราเติมตามปั๊มนั่นเอง ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้นานๆแล้ว 
จะทำให้ไส้กรองตัน จนแรงดันน้ำมันไปยังเครื่องยนต์ไม่พอ ส่งผลให้ครื่องยนต์มีอาการเร่งไม่ขึ้น 
กระตุก หรือสตาร์ทยากได้
    ระยะเวลาเปลี่ยน ประมาณ 2 ปีหรือ 40,000 กิโลเมตรแล้วแต่รุ่นรถ
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
อังคาร, 14 ตุลา 2014 14:38 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
7. หลอดไฟต่างๆ

     ควรตรวจเช็คหลอดไฟต่างๆรอบตัวรถ ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า (ไฟต่ำ, ไฟสูง, ไฟหรี่), 
ไฟเลี้ยวทั้ง 4 มุมรวมถึงด้านข้าง, ไฟท้าย, ไฟเบรค ไฟถอยหลัง, ไฟตัดหมอก ฯลฯ 
ว่าติดครบทุกดวงหรือไม่ หลอดไส้แบบฮาโลเจนนั้นมีโอกาสขาดได้ง่ายกว่าแบบ 
Xenon และ LED มาก การขับรถผ่านทางขรุขระบ่อยๆก็อาจทำให้หลอดขาดได้ 
จึงควรหมั่นตรวจสอบสม่ำเสมอ

     ระยะเวลาเปลี่ยน เปลี่ยนเมื่อหลอดขาด

 8. สายพานไทม์มิ่ง

     เครื่องยนต์ทั่วไป มีสายพานจำนวนหลายเส้นช่วยขับเคลื่อนเครื่องยนต์ให้สมบูรณ์ 
เช่น สายพานไทม์มิ่ง, สายพานคอมแอร์, สายพานเพาเวอร์, สายพานปั๊มน้ำ ฯลฯ 
แล้วแต่รุ่นรถ แต่หากสายพานไทม์มิ่งซึ่งเป็นสายพานหลักของเครื่องยนต์ขาดจะ
ส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์อย่างรุนแรง

     ระยะเวลาเปลี่ยน ประมาณ 100,000 กิโลเมต

9. หัวเทียน

     หัวเทียนส่งผลต่อสมรรถนะของเครื่องยนต์ หากหัวเทียนเก่าเกินไป อาจทำให้เครื่องยนต์สะดุด 
ทำงานได้ไม่เต็มที่ อีกทั้งหัวเทียนแบบปกติมีราคาไม่แพง สามารถซื้อหามาเปลี่ยนได้ง่าย

     ระยะเวลาเปลี่ยน ประมาณ 40,000 กิโลเมตร

 10. ใบปัดน้ำฝน

     อากาศร้อนอบอ้าวของเมืองไทย ส่งผลให้อายุการใช้งานใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพเร็ว 
ดังนั้น หากใบปัดไม่สามารถรีดน้ำได้อย่างสมบูรณ์แล้ว จึงควรรีบเปลี่ยนทันที 
โดยเฉพาะเมื่อเข้าหน้าฝนแบบนี้

     ระยะเวลาเปลี่ยน ประมาณ 1 ปี
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 20 ตุลา 2014 11:11 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
5 เทคนิคจอดรถในห้างฯไม่กลัวรถหาย

จจุบันมีการเหตุโจรกรรมรถยนต์เกิดขึ้นไม่เว้นในแต่ละวัน หรือเบาหน่อยก็คงเป็นการงัดแงะ ทุบ 
เพื่อฉกฉวยสิ่งของมีค่าในรถยนต์ ถ้าหากจอดไว้ในบ้านที่มีรั้วรอบขอบชิดก็ดีหน่อย 
เพราะช่วยให้หัวขโมยทำมิดีมิร้ายได้ลำบากขึ้น แต่ถ้าจอดรถตามห้างสรรพสินค้าหรือที่จอดรถสาธารณะล่ะ 
จะรับมืออย่างไรดี?

     เราจะพาไปรู้จักเทคนิค 5 ข้อสำหรับจอดรถในห้างฯแบบไม่ต้องกลัวหัวขโมยกันครับ

 1. จอดรถในชั้นที่มีทางเข้าห้างฯเท่านั้น

     ห้างสรรพสินค้าบางแห่ง อาจแบ่งที่จอดรถออกเป็นสองชั้น ต่อชั้นของตัวห้างฯหนึ่งชั้น 
ทำให้เกิดเป็นชั้นครึ่งที่ไม่มีทางเข้าห้างโดยตรง จำเป็นต้องเดินขึ้น-ลงบันไดเพื่อไปยังชั้นที่มีทางเข้าตัวห้างฯ 
ซึ่งชั้นครึ่งเหล่านี้มักมีผู้คนเดินพลุกพล่านน้อยกว่าชั้นปกติ ทำให้หัวขโมยสามารถลงมือได้ง่ายขึ้น 
ทางที่ดีควรเลี่ยงชั้นครึ่งเหล่านี้ ไปจอดชั้นที่มีทางเข้าห้างสรรพสินค้าแทนเสียจะดีกว่า 
อย่างน้อยก็มีคนเดินผ่านไปผ่านมาช่วยเป็นหูเป็นตา

 

     2. จอดรถใกล้ทางเข้าห้างฯมากที่สุด

     นอกจากจะจอดรถในชั้นที่มีทางเข้าไปยังตัวห้างฯแล้ว ยังควรจอดรถใกล้กับประตูห้างฯด้วย 
เนื่องจากเป็นจุดที่มีคนเดินผ่านอยู่แล้ว หากจอดรถไว้ที่ไกลๆ อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยวและลับตาคน 
เพิ่มความเสี่ยงต่อการโจรกรรมมากยิ่งขึ้น
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 27 ตุลา 2014 15:22 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
     3. ตรวจสอบให้แน่ใจทุกครั้งว่าล็อคประตู

     เจ้าของรถควรดับเบิ้ลเช็ค หรือตรวจสอบซ้ำทุกครั้งหลังล็อคประตูรถ ว่าถูกล็อคเรียบร้อยแล้วจริงๆ 
ด้วยการดึงมือเปิดประตูอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเปิดไม่ออก สำหรับรถบางรุ่นที่มีระบบ Keyless Entry 
ที่ใช้มือเปิดประตูแบบสัมผัส ก็เพียงก้มลงไปดูว่าตัวล็อคภายในถูกกดลงแล้ว

     เนื่องจากปัจจุบันหัวขโมยมีเครื่องมือที่สามารถส่งสัญญาณรบกวนคลื่นรีโมทของรถ 
ซึ่งหากเจ้าของรถไม่ตรวจสอบอย่างรอบคอบ ก็อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้โดยง่าย

     4. จอดรถในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ

     การจอดรถในที่มืด ช่วยให้เหล่ามิจฉาชีพทำงานได้สะดวกขึ้น เนื่องจากโอกาสที่จะถูกพบเห็นมีน้อยกว่า 
ทางที่ดีควรจอดในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ เพราะนอกจากตัวรถจะปลอดภัยขึ้นแล้ว 
ยังเพิ่มปลอดภัยต่อเจ้าของรถขณะอยู่เดินอยู่ในที่จอดรถอีกด้วย

     5. เก็บของมีค่าให้มิดชิดที่สุด

     ข้อนี้เป็นจุดที่คุณผู้หญิงส่วนใหญ่มองข้ามอยู่บ่อยๆ เนื่องจากบางคนมักเก็บกระเป๋าถือไว้ใต้เบาะคนนั่ง 
แล้วปล่อยให้สายกระเป๋าโผล่ออกมาโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งหัวขโมยก็จะรู้ทันทีว่ามีของมีค่าอยู่ใต้เบาะแน่นอน

     ทางที่ดีควรเก็บสิ่งของประเภทกระเป๋า อุปกรณ์ราคาแพงต่างๆ หรือแม้แต่ถุงที่มีลักษณะสวยงาม เช่น 
ถุงผ้าสักหลาด เอาไว้ในกระโปรงท้ายรถให้หมด ส่วนรถที่มีลักษณะแฮทช์แบ็คก็ควรปิดแผงบังตาไว้ตลอดเวลา 
เพื่อไม่ให้โจรพบเห็นสิ่งของได้ง่าย

     แม้ว่าที่กล่าวมานั้น อาจไม่ช่วยป้องกันมิจฉาชีพได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงลงได้เป็นอย่างดี
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พุธ, 5 พฤศจิกา 2014 15:39 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
จีเอ็ม สร้างยอดขายสูงสุดในรอบ 34 ปี

เจนเนอรัล มอเตอร์สผู้ผลิตรถยนต์ เชฟโรเลต สร้างสถิติยอดขายประจำไตรมาสสามสูงสุดในรอบ 34 ปี

          เจนเนอรัล มอเตอร์ส รายงานยอดขายรถทั่วโลกอยู่ที่ 2,449,595 คันในไตรมาสที่สามของปี 2014 
เพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นับเป็นการสร้างสถิติยอดขายประจำไตรมาสสามที่สูงที่สุดในรอบ 34 ปี 
ขณะที่ยอดขายรถในเก้าเดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 7,371,743 คัน เติบโต 2 เปอร์เซ็นต์

          ในสหรัฐอเมริกาและจีนซึ่งเป็นตลาดรถที่ใหญ่ที่สุดของจีเอ็มเติบโตเพิ่มขึ้น 8 เปอร์เซ็นต์ 
และ 14 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ขณะที่ยอดขายรวมตั้งแต่ต้นปีเพิ่มขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์ ในสหรัฐอเมริกา 
และเติบโต 12 เปอร์เซ็นต์ในประเทศจีน

          ประเทศจีนกำลังก้าวขึ้นมาเป็นอีกตลาดสำคัญของ จีเอ็ม โดยในปี 2014 นี้คาดว่ายอดรถจะขายเกิน 3 ล้านคัน
ต่อเนื่องกันเป็นปีที่สอง

          "จีเอ็มสร้างสถิติยอดขายประจำไตรมาสสามสูงสุดในรอบ 34 ปี ซึ่งได้แรงขับเคลื่อนจากการเติบโตอันมั่นคง
ในสหรัฐอเมริกาและจีน รวมถึงส่วนแบ่งการตลาดที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องของโอเปิล" แมรี่ บาร์ร่า 
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีเอ็มกล่าว

          ซึ่งการเปิดตัวรถใหม่หลายรุ่นทั้ง เชฟโรเลต โคโลราโด และจีเอ็มซี แคนยอน ในอเมริกาเหนือ โอเปิล/วอกซ์ฮอลล์ 
คอร์ซ่า ในยุโรป และบูอิค เอ็นวิชั่น และคาดิลแลค เอทีเอส-แอล ในจีน เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะกระตุ้นยอดขายของจีเอ็ม
ให้เติบโตอีกทางหนึ่งด้วย
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 10 พฤศจิกา 2014 15:20 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
12 เทคนิคขับรถสุดประหยัดช่วงน้ำมันถูก

  เชฟโรเลตได้แนะนำเทคนิค 12 ประการ ที่จะช่วยประหยัดน้ำมันยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะช่วงที่น้ำมันปรับราคาลง 
ช่วยเซฟเงินในกระเป๋าแบบสุดๆ จะมีอะไรกันบ้าง

    1. ตรวจสอบแรงดันลมยางก่อนใช้รถ

     การเติมลมยางอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่ให้มากขึ้น 3.3 เปอร์เซ็นต์ 
พร้อมกับมีความปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น ถ้ายางทั้งสี่เส้นมีลมอ่อนเกินไปหนึ่งปอนด์ต่อตารางนิ้ว 
จะทำให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น 0.3 เปอร์เซ็นต์ เพราะยางจะมีแรงเสียดทานขณะขับเคลื่อนมากขึ้นจึงต้อง
ใช้กำลังและเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้นในการขับเคลื่อนตัวรถ

     แนะนำว่าผู้ขับขี่ควรซื้ออุปกรณ์วัดลมยางและตรวจเช็คลมยางสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง 
ยางรถยนต์ที่มีแรงดันเหมาะสมจะทำให้รถมีการเกาะถนนดี ส่งผลต่อการตอบสนองของพวงมาลัยและ
เพิ่มประสิทธิภาพการเบรก

     2. หลีกเลี่ยงการปรับแต่งขนาดล้อและยาง

     ล้อที่มีขนาดใหญ่เต็มซุ้มล้อและยางแก้มเตี้ยจะเพิ่มอัตราการบริโภคน้ำมันให้สูงขึ้น ล้อและยางที่มีขนาดใหญ่
จะเพิ่มแรงเสียดทานขณะขับเคลื่อน เพิ่มน้ำหนักใต้สปริง และส่งผลต่อหลักอากาศพลศาสตร์ของตัวรถ 
ทำให้ใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้นและส่งผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่ ในกรณีร้ายแรงอาจเป็นอันตรายต่อการ
เบรกและการควบคุมรถ

      3. ไม่บรรทุกสิ่งของน้ำหนักมากที่ไม่จำเป็นไว้ในรถ

     การขับขี่ทางไกลจำเป็นต้องมีการบรรทุกสัมภาระแต่ควรระวังไม่บรรทุกมากเกินไป เนื่องจากน้ำหนักที่
เพิ่มขึ้นจะทำให้รถต้องใช้กำลัง และเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้นในการขับเคลื่อน ดังนั้นควรทำให้รถมีน้ำหนักเบาอยู่เสมอ 
การบรรทุกสัมภาระที่ไม่จำเป็นจะทำให้รถทำงานหนักเพิ่มขึ้นและใช้น้ำมันมากกว่าปกติ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 45 กก. 
จะเพิ่มอัตราการบริโภคเชื้อเพลิง 2 เปอร์เซ็นต์ และมากกว่านี้ในรถขนาดเล็ก

     ราวหลังคา ที่มีการบรรทุกสัมภาระจะเพิ่มการบริโภคน้ำมันขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ น้ำมันประมาณหนึ่งลิตรจะถูก 
เผาผลาญในการขับเคลื่อนตัวรถให้ผ่านแรงเสียดทานอากาศ ดังนั้นรถที่มีการบรรทุกสัมภาระไว้บนหลังคาจะทำ
ให้การประหยัดน้ำมันลดลง
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 17 พฤศจิกา 2014 16:20 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
4. ดูแลรักษารถให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ

     ที่กรองอากาศและน้ำมันเครื่องที่สกปรก เซ็นเซอร์ออกซิเจน และหัวเทียนที่ทำงานผิดปกติ 
รวมถึงชิ้นส่วนที่บกพร่องอื่นๆ จะทำให้การบริโภคน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น เครื่องยนต์ที่มีการดูแลรักษา 
อย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้นประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ การซ่อมแซมปัญหาทีมี
ความสำคัญอย่างเซ็นเซอร์ออกซิเจนจะช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่ได้สูงขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์

     การเปลี่ยนไส้กรองที่อุดตันอย่างรุนแรงจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ 
แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องที่บริษัทผู้ผลิตรถแนะนำ เพราะจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้นอีก 
1 – 2 เปอร์เซ็นต์ ผู้ขับขี่ไม่ควรละเลยสัญญาณไฟเตือนให้เข้ารับบริการ

     5. ตรวจสอบฝาถังน้ำมันอยู่เสมอ

     ฝาถังน้ำมันที่หลวมหรือปิดไม่แน่นไม่เพียงแต่จะทำให้ “ไฟสัญญาณเตือนรูปเครื่องยนต์” 
ปรากฏขึ้นเท่านั้น ข้อมูลจากดิสคัฟเวอรี่ แชนเนล ยังระบุว่าจะทำให้น้ำมันระเหยไปโดยเปล่า
ประโยชน์เกือบ 518 ล้านลิตรต่อปี ฝาถังน้ำมันที่หลวมหรือปิดไม่แน่นจะทำให้การประหยัด
น้ำมันลดลง 1 – 2 เปอร์เซ็นต์

     6. พิจารณาใช้น้ำมันเชื้อเพลิงผสม

     การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเอทานอลจะช่วยลดค่าใช้จ่ายลง รถที่ใช้เครื่องยนต์
เบนซินทุกรุ่นรองรับเชื้อเพลิง E20 และ E85 ช่วยลดค่าใช้จ่ายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 24 พฤศจิกา 2014 16:51 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
7. ขับรถให้ช้าลง

     การขับรถออกตัวจะใช้น้ำมันมากกว่าการรักษาความเร็วรถให้คงที่ ผู้ขับขี่ควรเหยียบคันเร่ง 
ออกจากทางแยกหรือสัญญาณไฟจราจรอย่างนุ่มนวล การเร่งรถอย่างรวดเร็วจะใช้ความเร็วมาก
เกินความจำเป็นและการเบรกอย่างรุนแรง จะทำให้การประหยัดเชื้อเพลิงลดลง 33 เปอร์เซ็นต์ 
บนถนนหลวงทางไกล และ 5 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการขับขี่ในเมือง

     ความเร็วที่ช่วยประหยัดน้ำมันมากที่สุดสำหรับ รถส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 65 – 100 กม./ชม. 
อัตราการบริโภคเชื้อเพลิงจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อขับรถด้วยความเร็วเกินกว่า 96 กม./ชม.

8. ใช้เกียร์สูง

     ถ้าขับรถด้วยเกียร์ธรรมดา แนะนำให้ใช้เกียร์สูงเพื่อรักษารอบเครื่องยนต์ให้ต่ำซึ่งจะบริโภค
น้ำมันน้อยกว่าแต่ไม่ควรขับขี่เช่นนี้มากเกินไปจนฉุดกำลังเครื่องยนต์หรือทำให้เครื่องยนต์ดับ 
ถ้าขับขี่รถเกียร์อัตโนมัติ ควรผ่อนคันเร่งเล็กน้อย (ไม่ควรถอนคันเร่งออกทั้งหมด) 
ในจังหวะที่ระบบเกียร์ “เปลี่ยน” สู่เกียร์ที่สูงขึ้น

     รถที่ใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ซึ่งมีอัตราการทดเกียร์ที่สูงกว่า 
ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่และประหยัดน้ำมัน 
ควรหลีกเลี่ยงการใช้สวิทช์ “Hold” ถ้าไม่จำเป็น

9. ตั้งสติและขับขี่อย่างนุ่มนวล

     ถ้าหากรถของคุณมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือครูสคอนโทรล 
ให้เปิดใช้ระบบนี้โดยเฉพาะเมื่อขับรถทางไกล ระบบครูสคอนโทรลจะช่วยป้องกัน
ไม่ให้ขับรถเร็วเกินกำหนดและช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันด้วยการเร่งและผ่อนความ
เร็วอย่างนุ่มนวล ระบบครูสคอนโทรลจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับเกียร์โหมด
ประหยัดหรือโหมดออโต และไม่ควรใช้ครูสคอนโทรลเมื่อฝนตกหนักหรือขับรถบนพื้นถนนที่เปียกลื่น
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พุธ, 26 พฤศจิกา 2014 11:24 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
 10. ลดความเร็วลงอย่างนุ่มนวลหรือปรับเกียร์ลงจนกระทั่งรถจอดสนิท

     การขับรถเกียร์อัตโนมัติในสภาพการจราจรที่หนาแน่น คุณสามารถแล่นไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ได้เพราะรถจะแล่นช้าๆ ไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติ ถ้าขับรถเกียร์ธรรมดา แนะนำให้ลดเกียร์ลงอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งรถจอดสนิท ผู้ขับขี่สามารถถอนคันเร่งออกขณะที่ยังใส่เกียร์เดินหน้าอยู่ได้เนื่องจากเครื่องยนต์สมัยใหม่แทบจะไม่ใช้น้ำมันและเพียงพอต่อการเลี้ยงเครื่องยนต์ไม่ให้ดับ เครื่องยนต์จะใช้เชื้อเพลิงมากกว่าถ้าปล่อยให้เกียร์อยู่ในตำแหน่งว่างขณะรถจอดนิ่ง

 

     11. หลีกเลี่ยงการจอดรถติดเครื่องยนต์นานเกินไป

     หากคุณต้องขับรถอยู่ท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด แนะนำให้ดับเครื่องยนต์ การจอดรถติดเครื่องยนต์ไว้จะเผาผลาญน้ำมันอย่างไร้ประโยชน์ การสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่จะใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อยแต่การจอดรถติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ 15 นาที จะเผาผลาญน้ำมันเกือบหนึ่งลิตร

 

     12. ใช้ระบบปรับอากาศอย่างชาญฉลาด

     การเปิดใช้ระบบแอร์ลดการประหยัดน้ำมันลง 10 เปอร์เซ็นต์ ถ้าสภาพอากาศภายนอกเอื้ออำนวย ผู้ขับสามารถปรับเพิ่มแรงลมให้สูงขึ้นแทนการปรับลดอุณหภูมิลง ถ้าขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกิน 64 กม./ชม. ผู้ขับสามารถปิดแอร์และเปิดหน้าต่างแทนได้ แต่ถ้าขับด้วยความเร็วเกินกว่า 72 กม./ชม. แรงฉุดของลมที่ไหลเวียนเข้ามาทางหน้าต่างจะทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าการเปิดแอร์

ที่มา Chevrolet
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พฤหัส, 11 ธันวา 2014 15:53 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
การดูแลรถสีขาวที่ถูกต้อง ก่อนจะเหลืองหมอง

 รถสีขาวถือเป็นสียอดฮิตของคนไทยในปัจจุบันไปแล้ว แต่คุณผู้อ่านทราบหรือไม่ว่า 
รถสีขาวอาจเหลืองหมองได้อย่างรวดเร็วหากดูแลรักษาไม่ถูกวิธี ทำให้ดูเก่าเร็วกว่ารถสีอื่น  

1.หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดด

     สีขาวจะเสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็ว หากได้รับแสงแดดเป็นเวลานานๆ ทำให้เกิดคราบหมอง 
เหลือง ได้เร็วกว่าสีอื่นๆ ทางที่ดีควรหาที่จอดรถในร่มทั้งที่บ้าน หรือที่ทำงาน 
เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกับแสงแดดโดยตรง ซึ่งถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ช่วยให้รถไม่หมองเร็ว

     2.ล้างรถอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

     จริงๆแล้วข้อนี้สำคัญกับทุกสี เนื่องจากจะเป็นการช่วยล้างคราบสกปรกต่างๆ เช่น มูลนก, 
โคลน, คราบน้ำมัน และอื่นๆออกไป ก่อนที่จะทำอันตรายต่อชั้นผิวสี แต่สำหรับรถสีขาวนั้น 
ควรแยกฟองน้ำออกเป็น 2 ส่วน คือ ฟองน้ำสำหรับล้างตัวถังส่วนบนและตัวถังส่วนล่าง 
เนื่องจากส่วนล่างของรถสกปรกกว่ามาก การใช้ฟองน้ำร่วมกันจะทำให้เกิดคราบจางๆบนตัวถังได้ 
ซึ่งรถสีขาวจะเห็นได้ชัดกว่าสีอื่น
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
อังคาร, 16 ธันวา 2014 15:22 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
 3.เช็ดรถให้แห้งและสะอาด
    เมื่อล้างเสร็จแล้ว ไม่ควรปล่อยให้รถแห้งเอง ทางที่ดีควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้าชามัวร์
สำหรับเช็ดรถโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอย และต้องมั่นใจว่าเช็ดจนแห้งทุกจุด 
เพราะตัวถังสีขาวจะเห็นคราบน้ำได้ยาก อาจทำให้เป็นรอยด่างได้

     4.เคลือบสีรถเป็นประจำ
     ควรให้น้ำยาเคลือบสีรถเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยให้ผิวรถเกิดฟิล์มบางๆเคลือบเอาไว้ 
ช่วยชลอการเกิดคราบเหลือง และที่สำคัญควรเลี่ยงน้ำยาเคลือบที่มีส่วนผสมของ 'คานูบ้า' 
เนื่องจากจะยิ่งเป็นการทำให้รถเหลืองเร็วกว่าปกติ

     5.ใช้ดินน้ำมันล้างรถ
     การใช้ดินน้ำมันล้างรถ ถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากสามารถดึงคราบ
สกปรกออกจากตัวรถได้เป็นอย่างดี และจะช่วยให้คืนความเงางามของสีรถกลับมาได้อีกด้วย

     คำแนะนำที่กล่าวไปข้างต้นสามารถใช้ได้กับทุกสีรถนะครับ ถึงแม้ว่าจะดูธรรมดาๆไปสักหน่อย 
แต่หากปฏิบัติได้ดังนี้แล้ว ก็จะช่วยยืดอายุของสีรถให้ยังคงสดใสได้อย่างยาวนานแน่นอนครับ
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 22 ธันวา 2014 15:27 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
เช็กด่วน! 7 อาการรถยนต์ส่อมีปัญหา!!

มาสังเกตอาการรถยนต์ของคุณกันดีกว่า ว่ามีสิ่งผิดปกติใดๆหรือไม่ ด้วยวิธีเช็คง่ายๆ 7 ประการ 
ช่วยบ่งบอกอาการเสียเบื้องต้นไม่ให้ลุกลามเกินแก้ไข ไปดูกันว่าทำอย่างไรบ้าง?

1.สตาร์ตเครื่องนานกว่าปกติ

     เสียงสตาร์ตนั้นยังบอกอาการของรถท่านได้ เพราะปกติแล้วการสตาร์ทเครื่องยนต์นั้นจะใช้การถีบตัวไม่เกิน 3 ครั้ง
ใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาที ถ้านานกว่านั้นแสดงว่ารถเริ่มมีปัญหา หมายถึงแบตเตอร์รี่อาจจะเริ่มเสื่อมสภาพ 
ยิ่งถ้ารถคุณสตาร์ตช้า เตรียมเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ลูกใหม่ได้เลย

     2.ร่องรอยน้ำมัน

     บางครั้งเมื่อจอดรถแล้วพบรอยน้ำมันหยดเป็นทางนั้น หรือเป็นจุด อย่าวางใจโดยเด็ดขาด เพราะตามปกติแล้วน้ำมันจะ
ไม่หยดได้เอง นอกจากเกิดความเสียหายต่อระบบนั้นๆ หมายถึงต้องมีอะไรผิดปกติแล้ว ดังนั้น ถ้าพบข้อนี้รีบตรวจสอบด่วน

     3.เสียงที่ผิดปกติ

     อาจเป็นเรื่อง ยากในการสังเกตในระหว่างขับรถ แต่สามารถสังเกตได้เมื่อรถจอดหรือเดินเบาเครื่องยนต์ก่อนขับออกถนน 
โดยทั่วไปแล้วการทำงานของเครื่องยนต์จะไม่มีเสียงผิดแปลก โดยเฉพาะเสียงเหล็กกระทบกัน หรือทางศัพท์ช่าง 
เรียกว่า "เสียงน็อก" (Knocking) หากได้ยินเสียงดังกล่าว และไม่เคยได้ยินมาก่อนนั้น ให้รีบไปหาผู้เชี่ยวชาญทันที 
แต่ทางที่ดีอันนี้อยากแนะนำบันทึกเสียงนั้นไว้ก่อน อาจจะถ่ายคลิป เพื่อใช้ประกอบในการอธิบายปัญหา

     4.ควันขาวออกท่อ

     รถที่ดีต้อง ไม่มีควันขาว เมื่อไรก็ตาม ที่รถมีอาการควันสีขาวออกท่อ พร้อมกลิ่นฉุน นั่นหมายถึงต้องมีสิ่ง
ที่ผิดปกติกับระบบเครื่องยนต์ หากชี้ชัดไปนั้นจะมีหลายอาการมาก แต่ถ้าเห็นแล้วรีบหาช่างจะดีกว่า
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 5 มกรา 2015 15:24 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
 5.ขับรถแล้วดูนุ่มนวลผิดกว่าปกติ

     บางครั้งที่คุณขับรถนั้นเวลาขับสังเกตดีๆ ว่ารถเรานิ่มนวลผิดปกติไปหรือไม่จากที่เคยใช้มา 
ถ้าใช่แสดงว่ามีความเป็นไปได้ใน 2 ทาง คือ ลมยางอ่อน บางครั้งอาจจะหมายถึงยางรั่ว หรือ 
ระบบช่วงล่างบางชิ้นเสื่อมสภาพ โดยมากคือสปริงหรือโช้ก

     6.เสียงจี๊ดๆ ตอนเบรก

     เมื่อกดเบรก แล้ว ได้ยินเหมือนเสียงหนูร้องเอยู่ในรถ อาจจะด้านหน้า หรือ ด้านหลัง 
หมายถึงผ้าเบรกกำลังหมดอายุการใช้งาน ถ้าได้ยินแล้วอย่ารอช้า รีบหาเวลาไปเปลี่ยนผ้าเบรกก่อน
จะทำความเสียหายต่อชุดจานเบรก

     7.รถเร่งแล้วอืดกว่าเดิม

     ถ้าเมื่อไรเร่งแล้วรู้สึกว่าไม่พุ่งเหมือนเดิม แต่ไม่มีความผิดปกติอย่างอื่น เช่น รอยน้ำมัน 
นั่นหมายถึงอาจจะต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแล้ว แต่หากถ่ายมาแล้วและยังวิ่งอืดอยู่ 
ก็จะมีอีก 2 เรื่อง คือ กรองน้ำมันเชื้อเพลิง กรองอากาศ อาการรถมีอัตราเร่งถอยนี้ 
มีผลโดยตรงต่ออัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พุธ, 7 มกรา 2015 11:06 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
เติมลมยางนั้นสำคัญอย่างไร?

ด้วยหน้าที่ของยางรถยนต์ที่มากมายและสำคัญเกินกว่าภาพลักษณ์ที่เห็นเป็นเพียงแค่ส่วนประกอบชิ้นหนึ่งของรถ 
ทำให้เพื่อนๆ หลายๆคนไม่ค่อยจะให้ความสำคัญกับวัถตุกลมๆชิ้นนี้ซักเท่าไหร่นัก ทั้งๆ ที่ในความจริงแล้ว 
ยางเป็นส่วนที่ดราม่าที่สุดส่วนหนึ่งของรถเลยก็ว่าได้ เพราะต้องรับหน้าที่อันหนักอึ้ง 
ทั้งสร้างแรงเสียดทานกับพื้นถนน (ยึดเกาะถนน) ทั้งในขณะเร่งความเร็ว, เลี้ยวและที่สำคัญคือการเบรค 
นอกจากนี้ยังต้องทนการกดดันจากน้ำหนักของรถ, คนและสัมภาระ อีกด้วย สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ทำร้ายหน้าสัมผัส
และโครงสร้างของยางทั้งนั้น ที่นี้เห็นรึยังครับว่าเจ้าวัตถุกลมๆดำๆ นี้มันสำคัญกับรถเราแค่ไหน ?

 เพราะฉะนั้นยางทุกเส้นจึงต้องได้รับการดูแลทะนุถนอมเป็นอย่างดี ควรรักษาระดับความดันลมยาง
ให้ใกล้เคียงกับที่โรงงานผู้ผลิตกำหนดจะดีที่สุด  แน่นอนว่ารถราเราใช้กันทุกวันความดันลมยาง
จะลดลงหลังจากการใช้งานอยู่แล้ว  ดังนั้นจึงควรเช็คระดับความดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ  
เพื่อยืดอายุการใช้งานของยางรถที่คุณรักด้วย งั้นเรามาดูวิธีการเติมกันเลยดีกว่า

เติมลมเมื่อยางเย็น

     อันที่จริงควรเช็คลมยางในขณะที่ยางเย็น  หรือก่อนการใช้งานนะครับ  แนะนำตอนเช้าก่อนขับออกไปทำงานก็ได้
เพราะเมื่อล้อเริ่มหมุนยางจะเกิดการเปลี่ยนรูป  ทำให้อากาศภายในเกิดการเคลื่อนไหวจนทำให้เกิดความร้อนขึ้น 
แล้วจะทำให้ค่าที่ได้จากการวัดแรงดันผิดเพี้ยน เพราะฉะนั้นควรเติมลมเพิ่มขึ้นอีก 2 ปอนด์
เพื่อชดเชยความดันอากาศที่ขยายตัว
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 12 มกรา 2015 16:30 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
การสูบลมยาง

ตรวจเช็คลมยางขณะที่ยางยังเย็นอยู่หรือในช่วงเวลาก่อนออกเดินทางและปรับแต่งให้ถูกต้องตามอัตรา
ที่โรงงานผู้ผลิตรถยนต์กำหนดเป็นประจำ
ในกรณียางใหม่  ให้เพิ่มความถี่(ขยันนิดนึง)ในการตรวจเช็คลมยางให้มากกว่าปกติ (ในช่วง 3,000 กม. แรก)  
เนื่องจากโครงยางในช่วงนี้จะมีการขยายตัวทำให้ความดันลมยางลดลง
ห้ามปล่อยลมยางออก  เมื่อความดันลมยางสูงขึ้นในขณะกำลังใช้งานเพราะความร้อนที่เกิดขึ้นขณะที่
ใช้งานเป็นตัวทำให้ความดันลมภายในยางสูงขึ้น
เพื่อป้องกันลมรั่วซึมที่วาล์ว  ควรเปลี่ยนวาล์วและแกนวาล์วทุกครั้งที่เปลี่ยนยางใหม่และมีฝาปิดวาล์ว(จุ๊บลม)ตลอดเวลา
สำหรับยางอะไหล่  ให้ตรวจเช็คลมยางให้ถูกต้องทุกครั้งอยู่เสมอ
ในกรณีรถเก๋งที่ขับด้วยความเร็วสูง หรือเดินทางไกล  ให้เติมลมยางให้มากกว่าปกติ  3-5  ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
 
  ตรวจเช็คความดันลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง

     ควรตรวจเช็คความดันลมยางของรถคุณ ให้อยู่ระดับที่ผู้ผลิตกำหนดเพื่อให้หน้ายางสัมผัสกับผิวถนนได้อย่างสม่ำเสมอ  
โดยปกติโรงงานประกอบรถยนต์จะระบุระดับความดันลมยางที่เหมาะสมกับรถไว้บนแผ่นโลหะบริเวณขอบประตูหรือ
กำหนดในคู่มือประจำรถ  การเติมลมยางที่ถูกต้องจะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและยังช่วยยืดอายุการใช้งาน
ให้กับรถคุณอีกด้วย

     การเติมลมยางมากเกินไป

     จะทำให้หน้าสัมผัสของยางกับพื้นผิวถนนลดลง  ดอกยางบริเวณกลางจะสึกมากกว่าด้านข้างทั้งสอง 
รถกระดอนเมื่อวิ่งบนถนนขรุขระและการรับแรงและการยืดหยุ่นด้อยลง เมื่อมีการรับน้ำหนักหรือการกระแทก 
ก็อาจทำให้เกิดการระเบิดของยางได้ง่าย เพราะฉะนั้นควรเติมให้พอดีๆนะครับ
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
พฤหัส, 15 มกรา 2015 15:46 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
เช็คลมยางอย่างไรให้ถูกต้อง

ลมยางจะลดลงโดยตัวมันเองประมาณ 2-3 ปอนด์ต่อตารางนิ้วต่อเดือน 
ดังนั้นจึงควรเช็คลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง ขณะที่ยางยังเย็นอยู่ 
โดยเติมลมยางตามคู่มือรถแต่ละคันที่ติดอยู่ที่ข้างประตูรถครับ

การสลับตำแหน่งยาง

ยางรถยนต์จะเกิดการสึกหรอไม่เท่ากันทุกเส้น โดยมีหลายสาเหตุ เช่น สภาพรถ, สภาพผิวถนน, ศูนย์ล้อ, 
การหักเลี้ยวของรถ, การสูบลมยาง, ลักษณะการขับขี่ เป็นต้น โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งในตำแหน่งล้อหน้าจะเกิดการสึกผิดปกติของดอกยางง่ายที่สุด ดังนั้น เพื่อให้ยางมีอายุการใช้งานได้นาน 
ควรสลับตำแหน่งยางยางทุก 10,000 กม. เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ครับ

เห็นมั้ยครับว่ายางสำคัญมากแค่ไหน ทีนี้ขอให้ทุกคนที่เป็นเจ้าของรถ ใช้ความระมัดระวัง และความเข้าใจ 
ในการ เติมลม ทุกครั้ง ถึงแม้ว่าบางครั้งเราอาจจะไม่ได้เติมเองแต่อย่างน้อยก็ควรบอก เด็กปั๊ม 
เติมลมยางให้ได้ตามมาตรฐานที่กำหนด ก็จะเป็นผลดีต่อ ล้อแม็ก ยาง 
และรวมไปถึงความปลอดภัยแก่ตัวเราเองด้วยนะครับ
d-credit


เข้าร่วม: 07 พฤษภาคม 2014
ตอบ: 271

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 19 มกรา 2015 11:39 - สินเชื่อรถยนต์ รถแลกเงิน รถผ่อนอยู้ก็กู้ได้ ไม่เช็คแบล็คลิส ติดแบล็คลิสก็จัดได้
รถมือสอง ทำยังไงให้ขายได้เร็ว

อยากขายรถเก่า ขับไปให้เต็นท์ตีราคาก็โดนกดราคาจนน่าใจหาย ขายเองดีกว่ามั้ย?? 
เว็บไซต์ซื้อขายออนไลน์เป็นอีกสื่อที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมจากทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ 
เพราะสะดวกในการลงประกาศ โพสต์ปุ๊บก็แสดงผลเลย คนเห็นเยอะ ที่สำคัญคือลงประกาศฟรี 
ได้ราคาดีกว่าเอาไปขายเต็นท์
 เพื่อทำให้รถของท่านที่จะนำมาลงขายนั้นดูน่าสนใจ และง่ายต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อมากขึ้น 
มาดูคำแนะนำสิ่งที่ผู้ขายรถมือสองควรปฏิบัติ

     1. ตั้งราคาที่เหมาะสม

     อาจใช้วิธีเอารถเข้าไปเต็นท์รถตีราคา และดูราคาจากเว็บรถมือสองต่างๆ เปรียบเทียบจากรถปีเดียวกัน 
รุ่นเดียวกัน แล้วตั้งราคาในใจเอาไว้ ถ้ารถเราสภาพดีจริงและไม่ได้เร่งรีบที่จะขายก็อาจตั้งราคาสูงหน่อย 
ซึ่งโดยมากถ้าเป็นรถตลาด สภาพดี และเป็นสีที่ได้รับความนิยม ใช้เวลาไม่นานก็ขายได้แล้ว

     การประเมินราคา ควรมองความนิยมของรถรุ่นนั้นว่าเป็นที่นิยมหรือไม่ ถ้าตลาดมีความต้องการสูง
ก็อาจจะต่อรองได้บ้าง โดยมากค่าเสื่อมราคาจะลดลงตามอายุของรถ หรือถ้ารถรุ่นนั้นมีโฉมใหม่
ออกมาก็จะต้องปรับราคากันอีกครั้ง

     2. ภาพถ่ายชัดเจน

     ถ้าอยากได้ราคาดี ก่อนถ่ายควรล้างรถดูดฝุ่นให้สะอาดเอี่ยมที่สุด ทั้งภายนอก ภายใน และห้องเครื่อง 
ถ่ายภาพให้เห็นสภาพรวมของรถ ได้แก่ หน้าเต็ม หลังเต็ม ข้างรถ เครื่องยนต์ ช่วงล่าง 
และรูปลักษณ์ภายใน เช่น เบาะ คอนโซล หน้าปัด วิทยุ ฯลฯ

 
ตอบ
หน้า 2 จาก 9
ไปที่: 
ติดต่อโฆษณา admin@civicesgroup.com
Copyright © 2008-2024 Civic ES Group. All rights reserved.