คุณ TON- ทำให้ผมฉุดคิดถึงอัตราทดเกียร์ เพิ่มความอยากรู้เลยค้นเรื่องเกียร์ออโต้มันซะเลย อิอิ
.
เจอชุดนี้ครับ การทำงานของชุดเฟืองแพลนเนตตารี

.
เลยทำให้ผมคิดว่ารถรุ่นนี้ เป็น 3 เกียร์ + โอเวอร์ไดร์(4) และปัญหาก็น่าจะมาจากโอเวอร์ไดร์นะครับ
เท่าที่สังเกตุ เวลายกคันเร่งช่วงลงสะพานมันไม่ค่อยใหลเหมือนกับโตโยต้าอีกคันที่ใช้อยู่ลื่นปรื้ดดีจัง
งานนี้ก็คงค่อยๆไล่กันต่อไป หาทางประหยัดก่อนที่จะโดนชุดโอเวอร์ฮอลเกียร์ล่ะครับ

ลิ้งค์เกี่ยวกับเกียร์ออโต้ที่ค้นเจอมาจาก วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ ครับ
.
บทที่ 4 เรื่องเกียร์อัตโนมัติ
บทที่ 6 เรื่องเกียร์โอเวอร์ไดร์ฟ

มาต่อครับ
.
เมื่อคิดว่าเป็นกับโอเวอร์ไดร์ ก็มาดูจุดเปลี่ยนกัน
.
6.3.1.3 สวิตช์อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น (Water Temperature Switch)
ถ้าอุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นต่ำกว่า 50 องศา หน้าทองขาวของสวิตช์จะต่อวงจรให้ลิ้นโซ
เลนอยด์ลงดินได้ เพื่อป้องกันเปลี่ยนเกียร์ไปโอเวอร์ไดร์ฟ หน้าทองขาวจะเปิดเมื่ออุณหภูมิของน้ำหล่อเย็น
สูงเกินกว่า 50 องศา จึงจะเปลี่ยนเกียร์ไปโอเวอร์ไดร์ฟได้ 
6.3.1.4 ลิ้นโซเลนอยด์โอเวอร์ไดร์ฟ (O/D Solenoid Valve) 
ลิ้นโซเลนอยด์โอเวอร์ไดร์ฟ ดังแสดงในรูปที่ 6.11 ติดตั้งอยู่บนเสื้อเกียร์ และทำหน้าที่
ควบคุมความดันหลักของน้ำมันเกียร์ที่กระท าต่อลิ้นลำดับโอเวอร์ไดร์ฟ (Overdrive Sequence Valve) เพื่อ
ควบคุมให้โอเวอร์ไดร์ฟทำงานหรือไม่ทำงาน
6.3.1.5 เซ็นเซอร์ความเร็วรถยนต์ (Speed Sensor) 
เซ็นเซอร์ความเร็วรถยนต์ มีลักษณะเป็นแบบรีดสวิตช์ (Reed Switch) ติดตั้งอยู่ภายใน
เกจวัดความเร็วรถยนต์ มีหน้าที่ส่งสัญญาณความเร็วรถยนต์ในกล่อง ECU O/D เพื่อก าหนดจุดเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ขึ้นหรือลงได้ โดยคันเกียร์จะต้องอยู่ที่ตำแหน่ง D และสวิตช์โอเวอร์ไดร์ฟอยู่ที่ตำแหน่ง ON 
ด้วย
.
ตอนนี้ผมดูไปที่ สวิตช์อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น มากที่สุดเพราะผมใช้คูลเล้นของฮอนด้าอุณหภูมิของน้ำน่าจะเกินกว่า 50 องศานะครับ
ส่วนโซลินอยและสปีดเซ็นเซอร์น่าจะพังยากกว่า แต่ก็จะลองเข้าอู่ให้ช่างช่วยเช็กดูอีกทีครับ

มีอีกตัวครับคือ ECT sensor = Engine coolant temperature sensor

ตัวนี้ทางศูนย์ใช้อะไรจับสํญญาณไม่รู้ เพราะผมไม่เห็น แต่เท่าที่ถามเค้าบอกว่า มันให้ค่าไม่เหมือน standard ควรเปลี่ยน แต่อะไหล่ต้องสั่ง จนถึงวันนี้ผมก็ไม่ได้เปลี่ยน ก็ยังปรกติดี

http://www.civicesgroup.com/forum/topic24103

ขอบคุณครับคุณ TON- เดี๋ยวให้อู่เช็กเพิ่มอีกตัว
.
ต่อครับ ยกหูคุณกะช่างแล้วได้ความว่า
.
สวิตช์อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น ถ้าพัดลมหม้อน้ำทำงาน,เข็มวัดเกิน 1/4 น้ำร้อนเกิน 50 องศาแน่ๆ
และตัวนี้ไม่น่าเสียถ้ารอบเดินเบาปกติ ของผมเช้าๆเร่งรอบ ออกมาหน่อยก็ปกติ..ตัดไปหนึ่ง
.
ลิ้นโซเลนอยด์โอเวอร์ไดร์ฟ ตรวจด้วยการเอาไฟจี้ที่ขั่ว(เหมือนของแพล้นปูนเลยแฮ่ะ)มีเสียงทำงานไม่เสีย แต่
น้ำมันอาจเดินไม่สะดวกเปิดปิดยากหรือช้า(เป็นเรื่องภายในกรองน้ำมัน)ก็จะทำให้เป็นๆหายๆได้ ของผมไม่เสีย
ส่วนภายในถ้าตัวอื่นไม่เป็นอะไรก็จะลองล้างเกียร์ดู ถ้าไม่จบคงปล่อยตามเลยรอโอเวอร?ฮอลทีเดียว
.
เซ็นเซอร์ความเร็วรถยนต์ ช่างบอกว่าครั้งก่อนจับโค้ดไม่มีอาการของตัวนี้ แล้วเสียยากมากกกกกกก ตัดไป
.
.
สรุปคันของผม
เดี๋ยวเข้าไปตรวจ  ECTsensor อีกที ที่อู่น่าจะมีอะไหล่อยู่เพราะช่างก็ใช้รุ่นนี้
ถ้าไม่เสียก็จะมาอยู่ที่ การปรับตัวของกล่อง ECU และความสกปรกของกรองน้ำมันแล้วล่ะครับ 
.
.
ส่วนคันของคุณ yam ช่างบอกว่าถ้าเป็นยาวไม่มีเปลี่ยนบ้างเลยก็น่าจะโซลินอยครับ 

รองล้างลิ้นปีกผีเสื้อ มอเตอร์เดินเบา แล้วก็ตั้งวาว ดูยังครับ

โซลินอยดูตามกระทู้นี้ได้เลยครับ -> http://www.civicesgroup.com/forum/topic67548

ส่วนกระทู้นี้อาการคล้ายของคุณ yam -> http://www.civicesgroup.com/forum/topic45124

คันผมหายแล้วครับ
.
สรุปว่า
เกิดจากน้ำมันเกียร์น้อยกว่าปกติ(ราว 1/3 ลิตร)บวกกับเกียร์เก่า(สองแสนโลแล้ว)
กรองคงเริ่มใหลผ่านไม่สะดวก ทำให้เมื่อวิ่งเกิน 90 น้ำมันเกียร์มีไม่พอสร้างแรงดัน
เกียร์เลยรวน หลังเติมเพิ่มก็ปกติสุขดี
.
จากที่เช็กแรงบิด(เกียร์ D เร่งอยู่กับที่)ช่างคาดว่าจะใช้ได้อีกไม่น้อยกว่าห้าหมื่นกิโล
แต่ขอให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกๆหมื่นกิโลหรือหนึ่งปีครับ
.
จบข่าวล่าซีวิคศูนย์หนึ่ง ^^


ปล.เรื่องไฟโชว์กับเกียร์อาจจะไม่เกี่ยวกันนะครับ ลองเช็กดูก่อน

ใช้ของ honda ลิตรละร้อยกว่าบาท เปลี่ยนทั่วไปก็ราวๆสามลิตรหน่อยๆ
ถ้าดูดออกด้วยเห็นว่าห้าลิตรโดยประมาณ ลองวัดแล้วเติมเพิ่มดูครับ