sasima2527 พิมพ์ว่า: |
เล่ามั่ง ไม่มีเฉียด เต็มๆ เมื่อวันที่1เดือน6ปีที่แล้ว เหมือนนิทานเลยยาวนิดนะครับแต่เรื่องจริงครับ
ผมเคยเจออุบัติเหตุหนักครั้งเดียว(เกินพอ) ปกติขับรถเร็วมากครับไอสายที่ประสบอุบัติเหตุ 200 บ่อยครับเส้นนั้น ยอมรับผิดว่าเพราะความประมาทผมชินกับเส้นทางสายนี้มากครับแต่....ฝนตกหนักขณะขับรถกลับบ้านแฟนซึ่งอยู่ต่างอ. ซักตอนเที่ยงคืน แล้วคิดว่าคงจะไม่เป็นไรสายนี้ผมขับทุกวัน แทบทุกหลุมผมจำได้หมดว่าต้องเบี่ยงซ้ายตรงไหนหลบขวาตรงไหน (มันเป็นถนนบายพาสครับแต่ฉบับบ้านนอกลองหลับตาแล้วนึกตามผม ถนน 6 เลนส์ใหญ่ มีช่องคอนกรีตระบายนำตรงกลางลึกประมานเมตรกว่าเกือบ 2 เมตร ประดับด้วยต้นไม้ใหญ่ตามสไตล์ลูกทุ่ง ส่วนด้านขอบข้างถนนก็จะเป็นสวนยางพารามั่ง นาก็มี ความสูงอย่างตำๆก็ 2-3 เมตรโดยประมาน ครับเพื่อกันไม่ให้นําท่วมเค้าต้องถมดินสูงเพราะแถวนั้นเป็นที่ลุ่ม บายพาสที่บ้านผมจะเป็นแบบ อ. เชื่อมต่อกับอีก อ.โดยไม่ผ่านเข้าตัวเมือง ถ้าประสาคนกรุงเค้าเรียกถนนวงแหวนอะครับ ) จำขึ้นใจเลยครับ ช่วงนั้นผมทำงานอยู่ที่ภูเก็ตแล้วแฟนกลับมาเยี่ยมบ้าน ผมก็อย่างว่านานๆทีกลับบ้านไปเจอเพื่อนๆไปเมากันนิดหน่อย วันที่ 1 เดือน 6 เวลา 11.45 ออกจากผับจากในเมืองจะกลับไปนอนบ้านแฟนซึ่งอยู่ต่างอำเภอซึ่งใช้ถนนเส้นนี้แหละครับ ฝนตกไม่หนักมากเท่าไหร่+รีบ(กลัวเมียด่า)+ประมาท ขับความเร็วซัก 120 ถึงที่เกิดเหตุรถดริฟแบบไม่ได้ตั้งใจจะดริฟ น่าจะลงหลุมนำรถผมเลยหมุนแต่หนักกว่าดริฟอะครับคือตกกะใจด้วยคอนโทรลรถไม่ได้เลย รถสไลด์ออกข้างผมเห็นที่ลุ่มอะครับถนนซึ่งลึกครับเรียกว่าเหวน้อยๆก็ยังได้ครับสูงจิงๆคิดว่าไม่น่ารอด ดังนั้นสมองของผมจึงได้สั่งการให้มือทั้งสองหักพวงมาลัยไปทางขวาเพื่อหลบการตกถนน เสี้ยววินาทีนั้นเมื่อหน้ารถหันเข้าคูคอนกรีตตรงกลางคั่นถนน เสี้ยววิถัดมาเส้นสมองอันแสนไวของการกลัวตายได้พิจารณาแล้วว่า หัวรถต้องทิ่มชนคอนกรีตกะต้นไม้แน่นอนตายแน่นอนประสาทสั่งการจึงได้หักหลบซ้ายอีกครั้งเพื่อหนีความตายทีนี้มันควบคุมรถไม่ได้ครับเพราะลื่น ดังนั้นจึงคิดในใจตอนแรกคิดว่าจะดริฟซ้าย-ขวา เลี้ยงความเร็วไว้จนคอนโทรลได้แต่พอหักกลับไปก็รู้ตัวว่ารถ ไม่สามารถควบคุมได้อีกแล้วเอาไม่อยุ่ครับรถหมุนไถลเป็นวงกลม 3 รอบแล้วทำไรไม่ได้ (ตอนนั้นในใจนึกถึงพ่อกับแม่แล้วและภรรยาคิดว่าตายแน่ๆแล้วก็นึกในใจก๋งช่วยลูกด้วย)สูงจริงๆครับไว้ให้คุณเห็นเองแล้วจะรู้ว่าขนาดไหนหลังจากหมุน3รอบแล้วพุ่งถอยหลังครับยาวไปซัก50เมตร(อันนี้มาดูรอยตอนเช้า)ตอนนั้นเครื่องน๊อคดับไปแล้วประสาทในส่วนการเอาชีวิตรอดที่พ่อผมสอนมามือล๊อคพวงมาลัยแน่นเลยครับ(ไม่ได้คาด belt นะครับ บ้านนอกเค้าไม่จับเลยไม่คาดกัน )เลยปล่อยไหลเลยเลยขอบถนน จำได้ติดหูเลยครับ 3 ครั้งที่รถกระแทก ตึงๆๆแรก(ตายแน่ตุ)..ตัวลอยเสียงดังรอบทิศทาง.... ตึงๆๆๆๆที่สองหนักมากกับการกระแทกครั้งนี้ผมคิดว่าผมล๊อคพวงมาลัยแน่นเท่าที่แรงผมมีหัวไปชนกันหลังคา(คิดในใจขออย่าควํานะ แม่ตอนนั้นคิดถึงแม่ รู้เลยว่าใกล้ความตายเป็นเช่นไร)...........ตึงๆๆๆที่สามอันนี้รถสนิทแล้วความเงียบตามมานั่งแข็งอยู่ในรถซัก10วินาที ตกใจครับไอช่วงนั้นแหละครับรู้สึกนําอะไรเข้าตา อ้าวไอ shiftหาย หัวแตก คิดว่าตอนกระแทกกับพื้นครั้งที่สอง คิดในใจงานเข้าละกุอยุ่ในป่าอีกฝนก็ตก เปิดประตูออกมาด้วยความมึนงง กดเบอร์หาเมียเฮ้ยภรรยา หาเพื่อนเพื่อนมันยังเที่ยวต่อ บอกให้มันเฝ้ารถให้หน่อยส่วนแฟนผมพาผมไป รพ.หลังจากผมโทรหาแฟนซัก 30 นาทีกว่าเค้าจะหาเจอเพราะรถอยู่ลึกมากมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นต้องใช้ไฟขนาดเปิดไฟทั้งรถแล้วถ้าขับรถยังไงก็ไม่เห็นผมจึงต้องปีนขึ้นมาจากข้างทางมือนึงเอาเสื้ออีกตัวกดเลือด อีกมือคุยโทรศัพท์นั่งข้างถนน มืดๆ คนเดียว ฝนตก มีแต่ป่านึกแล้วเศร้าหลังจากไป รพ. แล้วเย็บแผลเรียบร้อยเก็บของมีค่าในรถหมดแล้วแต่ยังห่วงเครื่องเสียงอยู่ตลกแต่จริงๆครับ ไม่กล้าบอกแฟนให้เค้ามายกไปเลยกลัวโดนถอดเครื่องเสียง แต่ไม่เอาครับแค่นี้ผมก็จะตายแล้วโดนด่าเป็นชุดถ้าบอกเรื่องห่วงเครื่องเสียงอีกสงสัยคอขาด กลับถึงบ้านฟกชําดำเขียวทั้งตัวเลยครับ เจ็บ+เข็ดเมื่อย ไม่รู้กระแทกกับอะไรบ้างแต่ที่แน่ๆกระจกกับหัวผมอะคู่กรณีกัน อย่างอื่นไม่รู้ เครียดครับ งานใหญ่เข้า เอา!!!ช่างมันคืนนี้โดนหลายแล้วพรุ่งนี้ไปกู้ซากขึ้นมาคิดว่าคงไม่มากเพราะเท่าที่ดูกระจกแตก คอนโซลกลางแตก หลับ ZZZzzz วันนรกแตกมาถึงแล้วโอ้วแม่เจ้ารถตุรถยก 4 ล้อยกไม่ได้ ต้อง 6 ล้อใหญ่ โทรบอกพ่อให้เรียกให้ เซอร์ไพรซ์ประจำวันที่บ้านเลย กลับบ้านมาก็ไม่เข้าบ้านแถมไปเมามาหัวแหกรถพัง ประกันก็ม่ายมีพอตรวจสภาพตอนเช้า 555 เครื่องเสียงตุยังอยุ่ครบไม่เป็นไร เลยลองสตาร์ทรถดู เฮ้ยเวรแท้ไม่ติดหรือว่าเครื่องน๊อคตอนรถถอยหลัง นี่มันไม่ใช่งานวัดแล้ว นี่มันงานกาชาดชัดๆ แม็ค 3 วงแตกหมดแลยยกออกมาได้แต่ก้านเหลือแต่ขอบ บางววงหัก ยางไม่ต้องพูดถึงเลย กันชนหน้า เก็บไว้แล้วตั้งแต่เมื่อคืนกันชนหลังก็เก็บแล้วเช่นกัน ด้วยความสูงของขอบถนนกันพื้นดินอันแสนนิ่ม(ดีกว่าคอนกรีตกับต้นไม้ตั้งเยอะ)และดินโคลน+รถเตี้ย กว่าจะยกขึ้นมาได้ก็จะเที่ยงแล้วละครับ เอาไงดีทีนี้ประกันไม่มี ทางขวาแม่ด่า ทางซ้ายเมียด่า(เข้าข้างแม่ตุเดวจะโดนพอกลับไปภูเก็ต) หลังจากลากรถด้วยความทุลักทุเลมาถึงบ้าน ตัวใครตัวมันละครับเดวงานเข้ายาวเลยลาพ่อกับแม่กลับภูเก็ตไปทำงานต่อ ร้านซ่อมรถยนต์ข้างบ้านมาดูให้ปรากฎว่า แรคทั้งชุด ชุดบังคับเลี้ยวทั้งหหมด โช๊ค 4 ต้น ปีกนกหัก ล้อไม่ต้องพูดถึงแงแงแง CE28 ปวดร้าวใจแทบสลายแต่โชคยังดีเครื่องไม่เป็นไรเค้าทำให้ติดได้ ไม่รุ้ทำไงเก่งจัง แต่ผมไปละค๊าปพ่อกับแม่ ฝากรถด้วยนะแล้วรีบขึ้นรถแฟนกลับบ้าน พูดด้วยก็โหหยิ่งมะพูดด้วยตุเจ็บจะตายแล้วเนี่ยมะสงสารตุมั่งหรอวะ (คิดในใจ) แล้วก็บ๊ายบายตรัง โก ทู พูเก็ต บาย บัส จบแล้วครับ มานั่งคิดดูดีๆๆ ประมาท คำเดียวเท่านั้นเรื่องนี้ส่วนตอนนี้เจอฝนขับ60ค๊าป ธรรมดา100 ฝังจิตจริงๆนะครับ อ่านดูตลกปนฮานะครับผมเองนั่งพิมพ์ยังขำเลย แต่เรื่องจริงๆนะครับถ้าคว๊านี่ตายแน่ๆถือว่าโชคดีมากเฉียดตายครับ ไม่เกิดกับใครคนนั้นจะไม่มีวันได้รู้ถึงความรู้สึกแบบนั้นได้ โชคดีของผมครับ อยากเล่าถ่ายทอดให้เพื่อนๆฟัง ว่าอย่าประมาทความเป็นกับความตายอยู่ติดกันแค่เส้นยาแดง แค่อยากเตือนเพื่อนๆอย่าซิ่งกันมากนะครับคิดถึงคนที่อยู่ข้างหลังเรา ที่สำคัญอย่าประมาท ค่าซ่อมหนักเอาเรื่องเลยละครับชุดแรคทั้งชุด คันส่ง ปีกนก โชคดีได้สตรัทมือ2มาถูกๆ แม็คใหม่อีกยางอีก เอิกกๆๆ จุกๆจิกๆอีกเยอะแยะกว่าจะเหมือนเดิม ฝนเหรอเดี๋ยวนี้แกมะมีได้กินชั้นหรอก เพราะชั้นขับ 60 |
ไปที่: |