ตอบ
<Mies>


ชื่อเล่น: มี่

เข้าร่วม: 03 ธันวา 2008
ตอบ: 1463

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1962
ให้คำขอบคุณ: 1373

ที่อยู่: ขอนแก่น
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
พุธ, 19 สิงหา 2009 06:32 - =-=วิธีดูแลรักษารถเล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก =-=
อรุณสวัสดิ์ครับ

พอดีเปิดไปเจอ เห็นมีสาระดี เอามาฝากครับ

การดูแลสีรถยนต์

การทำความสะอาดหม้อน้ำ

การดูแลรักษายางรถยนต์

การเปลี่ยนแบตเตอรี่

การพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์




การดูแลสีรถยนต์

การแวกซ์รถเป็นการปกป้องพื้นผิวรถจากมลภาวะต่างๆ เราไม่จำเป็นต้องแว๊กซ์รถทุกครั้งที่เราล้างรถ เพียงปีละ 2 ครั้งก็เพียงพอ ถ้ารถเริ่มดูหมองๆ หรือน้ำไม่สามารถไหลลงที่ผิวรถเป็นหยดๆ เป็นสัญญาณว่า เราควรแวกซ์ได้แล้ว
การแวกซ์ต้องทำหลังจากการล้างรถ การแวกซ์บนพื้นผิวที่สกปรกจะขูดขีดสีรถได้ ดังนั้นล้างรถให้สะอาดและปล่อยให้แห้งสนิท ก่อนลงมือทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
สิ่งที่จำเป็น

* ผ้าขนหนูสะอาด
* น้ำสะอาด
* แวกซ์
* น้ำยาขัดเงา

ขั้นตอนที่ 1 - ขัดเงา
ขัดเงาก่อนที่จะเริ่มลงมือ เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งสกปรกจะหลุดออกไปหมด ถ้ารถคุณเป็นรุ่นปี 80 หรือหลังจากนั้น เราแนะนำให้คุณใช้สินค้าที่เป็นแบบใสมากกว่า
โดยทั่วไป ควรจะล้างรถและปล่อยให้แห้งในที่ร่ม ไม่ให้โดนแสงแดดโดยตรง เพราะความร้อนจะทำให้แวกซ์ยาก หลังจากที่เราลงน้ำยาขัดเงาแล้วเริ่มขัดเงาจากด้านบนลงล่าง (หลังคา, กระโปรงหน้า-หลัง, ด้านขวาและด้านซ้าย) น้ำมันขัดเงาอาจมีที่ขัดให้มาด้วย แต่ถ้าไม่มีใช้ผ้าขนหนูธรรมดาก็ได้ โดยให้ขัดเบาๆ และเป็นวงๆ
เมื่อเสร็จแล้ว ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีให้แห้ง แล้วใช้ผ้าสะอาดอีกผืนขัดออก

ขั้นตอนที่ 2 - ลงแวกซ์
หลังจากที่เราลงและขัดน้ำยาขัดเงาออกแล้ว ถึงเวลาที่เราจะลงแวกซ์ ใส่แวกซ์ลงผ้าสะอาดอีกผืน โดยขัดแบบเดิม เบาๆและเป็นวงๆ รอประมาณ 10 นาที จะสังเกตเห็นว่าสีของแวกซ์จะเริ่มเปลี่ยน ให้ใช้ผ้าเช็ดออกเบาๆ

ขั้นตอน 3 - ขัดสี
หลังจากนั้น ใช้ผ้าสะอาดอีกผืนออกแรงขัดให้สีรถที่เคลือบแวกซ์ใหม่ส่องประกายมากขึ้น


---------------------------------------------------------------------------------------------------------


การทำความสะอาดหม้อน้ำ

สนิม,ฝุ่นและสิ่งสกปรกไม่ได้มาจากเครื่องยนต์เท่านั้น แต่ยังมาจากระบบหล่อเย็นอีกด้วย และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เราต้องทำความสะอาดหม้อน้ำซึ่งเป็นอีกส่วนประกอบ หนึ่งในการดูแลรักษารถยนต์ ระบบหล่อเย็นของรถทำหน้าที่ปกป้องเครื่องยนต์จากความร้อนที่เกิดจากเครื่อง ยนต์ เพื่อเครื่องยนต์จะทำงานได้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม การดูแลให้ระบบหล่อเย็นไม่เป็นสนิมไม่มีฝุ่น ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดีที่สุด
โชคดีที่เราไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดหม้อน้ำอยู่บ่อยๆ เหมือนกับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง (ทุกๆ 2 ปีก็เพียงพอ) แต่มันก็ง่ายเช่นกัน เพียงทำตามคำแนะจากผู้เชี่ยวชาญของคาสตรอล ทีละขั้นตอนเท่านั้น
สิ่งจำเป็น

* ตัวทำละลาย (1-2 แกลลอล หรือ 4-8 ลิตร)
* <น้ำกลั่น (1-2 แกลลอล หรือ 4-8 ลิตร)
* ที่รองหรือถังน้ำ
* สายยางพร้อมก๊อก
* ถุงมือ (ควรกันน้ำได้)
* แปรงไนล่อนที่มีขนนิ่ม
* น้ำสบู่
* แว่นตานิรภัย
* ภาชนะมิดชิดเพื่อทิ้งตัวทำละลาย (ตัวทำละลายมีพิษมากและควรทำลายอย่างถูกต้อง)
* ผ้าขี้ริ้ว
* คีมและไขควง (หากจำเป็น)

ขั้นตอนที่ 1 - สิ่งแรกที่สำคัญ
สิ่งสำคัญที่สุดลำดับแรก เครื่องยนต์ต้องเย็นก่อน หากเครื่องยนต์ร้อนนั่นหมายถึงการที่สารหล่อเย็นร้อนไปด้วย และเป็นไปได้ที่จะทำให้คุณได้รับอันตรายเมื่อเปิดฝาหม้อน้ำ และน้ำเย็นก็สามารถทำความเสียหายให้กับเครื่องยนต์ที่ร้อนด้วย

ขั้นตอนที่ 2 - ทำความสะอาดหม้อน้ำ
เปิดกระโปรงรถและติดตั้งขาตั้งให้แน่นเพื่อป้องกันการปิดทับลงมา แล้วใช้แปรงไนลอนจุ่มน้ำสบู่เพื่อขัดทำความสะอาดพวกแมลงหรือฝุ่นต่างๆ ที่ติดอยู่ที่หม้อน้ำ โดยต้องเช็ดไปในทางที่ไม่สวนกับการหมุนของใบพัดเพราะใบพัดโค้งงอได้ง่าย และอาจเสียรูปทรง เมื่อใบพัดสะอาดให้ใช้สายยางฉีดน้ำทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่ง
แม้ว่าคุณจะล้างหม้อน้ำทุกๆ 2 ปี แต่เราแนะนำให้มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหม้อน้ำ ทุกๆ 20,000 กม. สำหรับน้ำยาหม้อน้ำชนิดเข้มข้นที่ต้องผสมน้ำก่อนใช้ ทั้งนี้ควรอ้างอิงคู่มือการใช้ของรถแต่ละรุ่นเป็นหลัก

ขั้นตอนที่ 3 - การทิ้งสารหล่อเย็นที่ใช้แล้วด้วยวิธีที่เหมาะสม
การทิ้งสารหล่อเย็นที่ใช้แล้วด้วยวิธีที่เหมาะสมนั้น สำคัญมาก เพราะสารหล่อเย็นมีพิษสูงแต่ด้วยกลิ่นหวานๆ ล่อใจเด็กๆ และแมลงมาก เราจึงไม่ควรทิ้งสารหล่อเย็นเอาไว้ หรือเทลงบนดิน ควรแน่ใจว่าภาชนะที่นำมารองจะไม่เอาไปใช้ในงานครัวอีก ควรเลือกใช้ภาชนะที่ใช้แล้วทิ้งจะดีกว่า และควรจะมีขนาดเล็กพอดีที่จะใส่ใต้ท้องรถได้พอดี
เมื่อหาที่รองที่เหมาะสมได้แล้ว เลื่อนมันเข้าไปใต้ท้องรถและจัดให้อยู่ตรงกับวาล์วของท่อทิ้ง

ขั้นตอนที่ 4 - ตรวจสอบฝาหม้อน้ำ
ฝาหม้อน้ำถูกปิดด้วยแรงดันเพื่อเก็บสารหล่อเย็นเอาไว้เพื่อรักษาเครื่องยนต์ ให้เย็น แรงดันของสารหล่อเย็นแตกต่างกันไปตามแต่ชนิดของเครื่องยนต์ และบนฝาจะระบุแรงดันเอาไว้
ฝาหม้อน้ำจะประกอบด้วยสปริงและยาง ความแข็งของสปริงและยางจะเป็นตัวบอกได้ว่าหม้อน้ำมีแรงดันมากน้อยเพียงใด และสามารถทนแรงดันได้เท่าไร ถ้าสามารถกดสปริงได้ง่าย ก็ถึงเวลาที่ควรจะต้องเปลี่ยนฝาใหม่แล้ว สัญญาณอีกอย่างที่จะบอกได้ว่าเราควรเปลี่ยนได้ คือ มีสนิมมากหรือการเสื่อมสภาพของยางโดยทั่วไปควรเปลี่ยนทุก 2 ปี หรือจำง่ายๆ ว่า เราล้างหม้อน้ำเมื่อไร ก็เปลี่ยนฝาใหม่ไปพร้อมกันเลย และอย่าลืมว่าฝาหม้อน้ำต่างกัน และก็ทนแรงดันต่างกันด้วย

ขั้นตอนที่ 5 - การตรวจดูท่อของหม้อน้ำ
ขั้นต่อไปคือ การตรวจดูท่อของหม้อน้ำ ซึ่งจะมีอยู่ 2 สาย สายแรกอยู่ด้านบนของหม้อน้ำซึ่งเป็นสายที่นำเอาสารหล่อเย็นที่ร้อนออกจาก เครื่องยนต์ อีกสายอยู่ด้านล่างซึ่งจะเป็นสายที่นำเอาสารหล่อเย็นเข้าไปหล่อเย็นเครื่อง ยนต์ ก่อนการเปลี่ยนสารหล่อเย็นควรตรวจสอบสภาพของสายทั้ง 2เส้น และก้านยึดก่อนว่ายังอยู่ในสภาพดีแข็งแรงไม่เป็นสนิม ถ้าชำรุดหรือมีปัญหาที่สายใดสายหนึ่ง ควรเปลี่ยนพร้อมกันทั้งคู่ ควรเลือกสายที่มีลักษณะอ่อนนุ่มมีความคงตัวสูง แล้วจึงค่อยทำความสะอาดหม้อน้ำ

ขั้นตอนที่ 6 - ถ่ายน้ำยาหม้อน้ำที่ใช้แล้ว
วาล์วทิ้งของเสียของหม้อน้ำควรจะมีที่จับ เพื่อจะได้ง่ายต่อการเปิด ให้ขันสกรูออก (อย่าลืมว่าใส่ถุงมือด้วย เพราะสารหล่อเย็นนั้นมีพิษ) และปล่อยให้สารหล่อเย็นไหลออกมาลงภาชนะที่เรารองไว้ด้านล่างของรถตามขั้นตอน ที่ 4 เมื่อไหลออกหมดแล้วให้ปิดวาล์วนั้น และใช้กรวยเติมสารหล่อเย็นที่ใช้แล้วเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด แล้วรองถาดกลับเข้าไปที่เดิม

ขั้นตอนที่ 7 - ทำความสะอาดหม้อน้ำ
ตอนนี้เราพร้อมที่จะล้างหม้อน้ำแล้ว ใช้สายยางเติมน้ำลงในหม้อน้ำจนกระทั่งเต็ม แล้วจึงเปิดวาล์วออกเพื่อให้น้ำไหลลงไปให้หมดเพื่อล้างหม้อน้ำ ทำซ้ำจนกระทั่งน้ำที่ไหลออกมาใส แล้วนำน้ำล้างเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด ปิดวาล์วให้เรียบร้อย

ขั้นตอนที่ 8 - เติมน้ำยาหม้อน้ำ
สารหล่อเย็นที่ดีควรมาจากการผสมสารหล่อเย็นเข้มข้นกับน้ำในอัตราส่วนที่เท่า กัน ควรใช้น้ำกลั่นในการผสม เนื่องจากสะอาดและป้องกันการเกิดตะกรัน ควรผสมในภาชนะอื่นให้เสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วจึงนำมาเติมในหม้อน้ำ โดยทั่วไปหม้อน้ำจะมีความจุประมาณ 2 แกลลอน

ขั้นตอน 9 - ไล่ฟองอากาศในระบบ
ท้ายสุด เราต้องปล่อยฟองอากาศที่อาจมีในระบบหล่อเย็น โดยติดเครื่องยนต์ในขณะที่ปิดฝาหม้อน้ำด้วย (เพื่อป้องกันการเกิดแรงดัน) โดยปล่อยให้เครื่องทำงานประมาณ 15 นาที แล้วเปิดฮีทเตอร์ให้ร้อน การกระทำนี้จะช่วยในการหมุนเวียนของสารหล่อเย็นและเป็นการไล่อากาศที่มีอยู่ ในระบบ ทำให้มีพื้นที่ในการเติมสารหล่อเย็นได้อีกนิดหน่อย แล้วจึงเติมสารหล่อเย็นลงไป ระวังฟองอากาศที่จะถูกแทนที่โดยสารหล่อเย็นกระเด็น เพราะมันค่อนข้างร้อน
จากนั้นปิดฝาและเช็ดของเหลวส่วนเกินออกให้สะอาด

ขั้นตอนที่ 10 - ทำความสะอาดและตรวจสอบความเรียบร้อย
ตรวจสอบความเรียบร้อยของฝาปิดต่างๆ, ผ้าที่เช็ด, สายท่อเก่า และภาชนะที่ต้องทำลาย
มันสำคัญมากที่จะทิ้งสารหล่อเย็นอย่างเหมาะสมเช่นเดียวกับน้ำมันเครื่องที่ ใช้แล้ว อย่าลืมว่าสารหล่อเย็นมีกลิ่นที่เด็กๆ ชอบดังนั้นอย่าปล่อยทิ้งเอาไว้ นำเอาไปทิ้งที่รับขยะรีไซเคิลที่อยู่ใกล้บ้าน อย่าทิ้งเอาไว้ ดูคำแนะนำเกี่ยวกับการทำลายวัตถุอันตรายที่ส่วนของน้ำมันเครื่อง


------------------------------------------------------------------------------------------------
การดูแลรักษายางรถยนต์

คุณทราบหรือไม่ว่า สิ่งของ 4 ชิ้นที่จะนำพาคุณกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยคืออะไร ใช่แล้วคำตอบคือ ยางรถยนต์นั่นเอง ด้วยทุกเวลาที่คนที่คุณรักอยู่บนรถนั้น คุณจำเป็นต้องมั่นใจว่ายางอยู่ในรูปทรงที่ดี และการรักษาที่เหมาะสมก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การขับขี่เป็นไปอย่าง ปลอดภัย วิธีต่อไปนี้เป็นวิธีที่จะดูแลยางของคุณให้อยู่ในลักษณะที่ดี


ขั้นตอนที่ 1 - การทำให้ยางมีความสมดุลย์กัน
การทำให้ยางมีความสมดุลย์กัน เพื่อมั่นใจว่าการหมุนทำได้อย่างถูกต้อง (ไม่สนุกนะกับการนั่งบนรถที่เหมือนอยู่บนหลังปลาวาฬ!) ล้อรถของคุณติดตุ้มถ่วงล้อลงบนยางรถหรือไม่ น้ำหนักของตุ้มนี้เหล่านี้จะทำให้ยางมีหน้าสัมผัสเท่ากัน ถ้าพบว่ามันสั่นละก็ อาจต้องรีบไปตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ หรือนำรถส่งช่างเพื่อตรวจเช็ค

ขั้นตอนที่ 2 - มั่นใจว่าล้ออยู่ในสภาวะสมดุลย์
การปรับให้สมดุลย์ของล้อทั้ง4ให้อยู่ในระดับเดียวกันเป็นตัวหลักในการช่วย ให้คุณมั่นใจว่ารถคุณได้มีการตรวจสอบสภาพ และรถสามารถวิ่งได้อย่างราบรื่น มันช่วยให้ยางทำงานเข้ากันได้ดี และสร้างสมดุลย์ให้กับรถยนต์ ถ้ารถที่คุณใช้เป็นแบบ 4 ล้ออิสระจากกัน จะต้องมีการปรับตั้งทุกล้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งล้อคู่หน้า การปรับตั้งสมดุลย์เป็นตัวหลักในการกำหนดอายุของยาง และทำใหการทำงานของรถยนต์ประสานกันได้ดี หากคุณต้องขับรถผ่านภูเขาอัลปาลาเชี่ยน (หรือบนถนนที่ขรุขระ) คุณต้องการที่จะตรวจยางปีละสองครั้ง เมื่อไหร่ก็ตามที่ดอกยางของล้อไม่สม่ำเสมอ หรือขับรถแล้วไม่ตรงทางมีการกินเลนส์ด้านซ้ายหรือขวา แสดงว่าถึงเวลาที่ควรจะตรวจสอบยางได้แล้ว

ขั้นตอนที่ 3 - สลับยาง
ขั้นตอนนี้ต้องทำบ่อยกว่าขั้นตอนอื่นอยู่สักหน่อย เพื่อที่จะให้ยางอยู่ในรูปทรงที่ดีนานที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ บริษัทยางส่วนใหญ่จะบอกให้ทำการสลับยางทุกๆ 10,000 กม. โดยประมาณ สำหรับรถที่ไม่ได้ขับบ่อยๆ หรือรถขับเคลื่อนล้อหน้า เราแนะนำว่าควรสลับยางทุกๆ 15,000 กม. เป็นอย่างน้อย ควรตระหนักอยู่เสมอว่ายางประเภทต่างๆใช้ระยะเวลาในการสลับยางต่างกัน ควรดูจากคู่มือรถประกอบ




--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


การเปลี่ยนแบตเตอรี่

พวกเราเหนื่อยกันมาก และมันน่ากลัวด้วยที่จะทำการพ่วงแบตเตอร์รี่แล้วมันใช้ไม่ได้ แต่ด้วยคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญว่าเราจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้อย่างไร แต่ก่อนที่จะเริ่มเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ รถยนต์ต้องไม่ได้ติดเครื่องอยู่ เพราะในแบตเตอร์รี่มีสารไวไฟ ควรทำงานในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก และจะดีมากถ้าจะมีแว่นตานิรภัยและถุงมือด้วย ตอนที่ทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่

ขั้นตอนที่ 1 - แน่ใจแล้วว่า จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่
คุณคงไม่ต้องการที่จะโยนแบตเตอรี่เครื่องเก่าทิ้งไปก่อนที่จะรู้ว่ามันเสีย หายที่ไหน เรามารู้จักแบตเตอรี่ให้มากกว่านี้เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเปลี่ยน แบตเตอรี่ แบตเตอรี่จะมีขั้วสองขั้วเป็นขั้วบวกและขั้วลบ ซึ่งยึดกับสายไฟ บางครั้งจะเกิดการจับตัวของซัลเฟต นั่นอาจเป็นปัญหาที่ทำให้แบตเตอรี่ทำงานได้ไม่ดีนัก ให้ลองใช้ค้อนเคาะเบาๆ หากไม่ออกให้ใช้น้ำผสมเบคกิ้งโซดาและใช้เช็ดที่ขั้วดูซึ่งอาจจะทำให้ดีขึ้น อากาศเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหากับแบตเตอรี่ของคุณได้ ให้เปิดจุกแบตเตอรี่ถ้าสารละลายภายในแข็งตัว หากเป็นเช่นนั้นต้องทำให้แบตเตอรี่อุ่นก่อน เพื่อที่ว่าจะได้ทำงานได้อีกครั้ง

ขั้นตอนที่ 2 - ถอดแบตเตอรี่เดิม
เมื่อคุณตัดสินใจแล้วว่าต้องการแบตเตอรี่ใหม่ อย่าลืมว่าต้องปิดเครื่องยนต์ก่อน ให้ถูด้านบนของแบตเตอร์รี่เก่าด้วยน้ำผสมเบคกิ้งโซดา แล้วใช้คีมหนีบเอาที่รัดแบตเตอร์รี่ที่ขั้วลบออก ทำเช่นเดียวกันนี้กับแบตเตอรี่ขั้วบวก แล้วยกแบตเตอรี่ออกอย่างระมัดระวัง ทำความสะอาดถาดใส่แบตเตอรี่ด้วยน้ำผสมเบคกิ้งโซดา ถ้ายังไม่สะอาดอาจต้องเปลี่ยนอันใหม่

ขั้นตอนที่ 3 - ใส่แบตเตอรี่อันใหม่
วางแบตเตอรี่ใหม่ลงบนถาดแบตเตอรี่อย่างระมัดระวัง ต้องแน่ใจว่าขั้วของแบตเตอรี่ทั้งสองวางถูกต้องแล้วขันให้แน่น หนีบสายบวกเข้ากับขั้วบวกและขั้วลบเข้ากับขั้วลบ แล้วสตาร์ทเครื่องไปได้เลย

ขั้นตอนที่ 4 - การนำแบตเตอรี่เก่ามาใช้ใหม่
แบตเตอรี่เก่าจะก่อให้เกิดมลภาวะเป็นพิษสูงมากถ้ากำจัดด้วยวิธีที่ไม่เหมาะ สม เนื่องจากภายในแบตเตอรี่จะมีสารละลายที่มีสภาพเป็นกรด การกำจัดควรส่งกลับที่ร้านบริการต่างๆ แต่ทางผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำว่าถ้าสามารนำกลับมาใช้ใหม่ได้จะเป็นวิธีที่ดี ที่สุด



-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

การพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์

ลองถามคนที่เคยต้อง รออยู่ข้างทางหลวงนานๆ จะมีรถผ่านมาซักคันเพื่อขอความช่วยเหลือในการพ่วงแบตเตอรี่ หากคุณไม่อยากตกอยู่ในสถานการ์เช่นนั้น คุณควรจะเรียนรู้ เรามีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญให้คุณ

ขั้นตอนที่ 1 - ใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับรถของคุณ
ก่อนอื่น เราต้องหารถอีกคันเพื่อทำการนี้ แต่ก็ไม่แน่เสมอไปว่า จะมีใครที่ยอมให้เราพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ของเขาหรือไม่และจะมีสายพ่วง แบตเตอรี่ที่เหมาะสมด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องมีสายพ่วงแบตเตอรี่ที่มีความยาวอย่างน้อย 10 ฟุต เตรียมพร้อมในรถคุณ เพื่อที่จะง่ายสำหรับพ่วงกับรถทุกประเภท

ขั้นตอนที่ 2 - แน่ใจว่าแบตเตอรี่ของคุณ พ่วงสายได้
หากแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณได้รับความเสียหายก่อนที่จะทำการพ่วงแบตเตอรี่รถ ยนต์ ไม่ต้องเสียเวลาทำเลย มีหลายวิธีในการตรวจดูว่า เสียหรือไม่ ถ้าแบตเตอรี่ของคุณมีฝาอยู่ ให้ลองดูว่าน้ำกลั่นแข็งหรือไม่ หากแข็งก็ไม่ต้องดูอย่างอื่นแล้ว และคุณควรกระโดดถอยห่างไม่ต้องพ่วงแบตเตอรี่แล้ว และหากคุณพบรอยแตกที่แบตเตอรี่ เป็นเรื่องร้ายที่สุด และคุณก็ควรถอยห่างเช่นกัน

ขั้นตอนที่ 3 - ขั้นตอนก่อนการพ่วงสายแบตเตอรี่
หลังจากตรวจดูว่า เราจะทำการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ได้หรือไม่ ต้องตรวจเช่นกันว่าแบตเตอรี่ของรถคันอื่นมีกระแสไฟตรงกับรถคุณหรือไม่ด้วย มันอาจจะตรงกันแต่ตรวจสอบก่อนดีกว่า และควรดับเครื่องรถทั้งสองคันก่อนการพ่วงสายแบตเตอรี่

ขั้นตอน 4 - พ่วงสายแบตเตอรี่
ที่แบตเตอรี่แต่ละตัว จะมีขั้วโลหะสองขั้ว อันหนึ่งเป็นขั้วบวก (+) และอีกอันเป็นขั้วลบ (-) หนีบสายพ่วงที่เป็นขั้วบวกที่รถทั้งสองคันให้ตรงกัน จากนั้นหนีบสายพ่วงขั้วลบเข้ากับรถที่มีแบตเตอรี่เต็ม ส่วนอีกด้านต่อกับตัวถังรถของคันที่แบตเตอรี่หมด อย่าให้สายขั้วลบไปแตะกับแบตเตอรีที่หมดหรือตำแหน่งอื่นๆที่อยู่ใกล้กับ แบตเตอรี่

ขั้นตอนที่ 5 - สตาร์ทเครื่องยนต์!
ติดเครื่องรถคันที่มีแบตเตอรี่เต็มและทิ้งเอาไว้สักพัก หลังจากนั้นให้ลองสตาร์ทเครื่องรถอีกคัน ถ้าไม่ได้ ให้ทิ้งเอาไว้อีกสักพักแล้วลองใหม่

ขั้นตอนที่ 6 - เดินทางสู่จุดหมาย!
ถอดสายพ่วงออกจากรถที่มีแบตเตอรี่ก่อน แล้วจึงถอดจากคันที่มาขอพ่วง แล้วออกรถไปได้เลย



ขอบคุณ Castrol Thailand ครับ:P :P :P :P :P :P :P :P
jonatan


ชื่อเล่น: โจ

เข้าร่วม: 02 ตุลา 2008
ตอบ: 6291

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 19304
ให้คำขอบคุณ: 13458

ที่อยู่: ประชาอุทิศ - สุขสวัสดิ์ - สีลม
ปี: 2005
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
พุธ, 19 สิงหา 2009 09:10 - =-=วิธีดูแลรักษารถเล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก =-=
เยี่ยมเลยคับผม.....แจ่ม
ได้รับคำขอบคุณจาก: <Mies> 
whitechoc


ชื่อเล่น: ปัช

เข้าร่วม: 25 พฤษภาคม 2009
ตอบ: 446

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 1148
ให้คำขอบคุณ: 1130

ปี: 2004
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
พุธ, 19 สิงหา 2009 09:38 - =-=วิธีดูแลรักษารถเล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก =-=
เก็บครับ ของดีมีสาระ
ได้รับคำขอบคุณจาก: <Mies> 
kaisuh


ชื่อเล่น: ปอปลา

เข้าร่วม: 17 ตุลา 2008
ตอบ: 2822

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1703
ให้คำขอบคุณ: 8904

ที่อยู่: ตูริน
ปี: 2003
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
พุธ, 19 สิงหา 2009 09:56 - =-=วิธีดูแลรักษารถเล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก =-=
ถ้าต้องทำเองนี่เหนื่อยมากเลยนะครับ
ขอบคุณครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: <Mies> 
hokhuk77


เข้าร่วม: 08 กุมภา 2009
ตอบ: 1018

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1825
ให้คำขอบคุณ: 994

ที่อยู่: คลองด่าน บางบ่อ สป. & Liverpool city
ปี: 2002
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
พุธ, 19 สิงหา 2009 10:15 - =-=วิธีดูแลรักษารถเล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก =-=
สาระข้อมูลดีๆ ขอบคุณครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: <Mies> 
soloshot


ชื่อเล่น: แฟลช

เข้าร่วม: 17 มิถุนา 2009
ตอบ: 1243

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 2428
ให้คำขอบคุณ: 1275

ที่อยู่: ประชาอุทิศ (ทุ่งครุ)
ปี: 2001
สี: ทอง ไทเทเนียม (เมทัลลิก) (YR-525M)
พุธ, 19 สิงหา 2009 13:04 - =-=วิธีดูแลรักษารถเล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก =-=
ขอบคุณมากครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: <Mies> 
cisco


ชื่อเล่น: เต้น

เข้าร่วม: 25 พฤศจิกา 2008
ตอบ: 3557

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 5197
ให้คำขอบคุณ: 9940
พุธ, 19 สิงหา 2009 13:15 - =-=วิธีดูแลรักษารถเล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก =-=
สาระ ทั้งนั้น

ขอบคุณครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: <Mies> 
witnu


ชื่อเล่น: หมู

เข้าร่วม: 16 ตุลา 2008
ตอบ: 399

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 315
ให้คำขอบคุณ: 694

ที่อยู่: ลพบุรี
ปี: 2002
สี: เทา ซิกเน็ต (เมทัลลิก) (RP-31M)
พุธ, 19 สิงหา 2009 13:40 - =-=วิธีดูแลรักษารถเล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก =-=
ข้อมูลดี ๆ ขอบคุณครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: <Mies> 
saw


ชื่อเล่น: ซอ เพชรบุร

เข้าร่วม: 24 มกรา 2009
ตอบ: 2873

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 2127
ให้คำขอบคุณ: 2684

ที่อยู่: บ้านลาด เพชรบุรี รับพาเสียวทั่วเพชรบุรี
ปี: 2004
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
พุธ, 19 สิงหา 2009 13:46 - =-=วิธีดูแลรักษารถเล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก =-=
ขอบคุณมากครับ

ข้อถาม1ข้อครับ

น้ำยาขัดเงานี่หาซื้อได้ที่ไหนครับ ยี่ห้อไรดีครับ ราคาเท่าไหร่อ่าครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: <Mies> 
love_siam


เข้าร่วม: 27 กรกฎา 2009
ตอบ: 12

น้องใหม่
น้องใหม่

ได้รับคำขอบคุณ: 8
ให้คำขอบคุณ: 0

ที่อยู่: phuket
ปี: 2002
พุธ, 19 สิงหา 2009 14:30 - ต้องขอบคุณ
ดีมากๆครับ[img]=-=วิธีดูแลรักษารถเล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก =-=
[/img]
ได้รับคำขอบคุณจาก: <Mies> 
boss


ชื่อเล่น: บอส

เข้าร่วม: 15 ตุลา 2008
ตอบ: 840

Guru ES
Guru ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1138
ให้คำขอบคุณ: 1530

ที่อยู่: ชัยพฤกษ์ -ทิปโก้ ทาวเวอร์ พระราม6
ปี: 2002
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
พุธ, 19 สิงหา 2009 15:14 - =-=วิธีดูแลรักษารถเล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก =-=
แซงคิวน่ะมี่ เอิ๊กๆ
ได้รับคำขอบคุณจาก: <Mies> 
battery3k


เข้าร่วม: 09 ธันวา 2008
ตอบ: 1247

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1251
ให้คำขอบคุณ: 3414

ที่อยู่: onnuch-srinakarin-bangkok
ปี: 2002
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
พุธ, 19 สิงหา 2009 16:20 - =-=วิธีดูแลรักษารถเล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก =-=
thanks a lot krab
ได้รับคำขอบคุณจาก: <Mies> 
<Mies>


ชื่อเล่น: มี่

เข้าร่วม: 03 ธันวา 2008
ตอบ: 1463

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1962
ให้คำขอบคุณ: 1373

ที่อยู่: ขอนแก่น
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
พุธ, 19 สิงหา 2009 16:24 - =-=วิธีดูแลรักษารถเล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก =-=
boss พิมพ์ว่า:
แซงคิวน่ะมี่ เอิ๊กๆ



555 พึ่งเห็นนะเนี่ยพี่บอส

เล่นเว่า แล้วเข้านอน

555
iMan


ชื่อเล่น: แมน

เข้าร่วม: 04 สิงหา 2008
ตอบ: 2838

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 12149
ให้คำขอบคุณ: 3080

ที่อยู่: Civic ES Group
ปี: 2005
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
พุธ, 19 สิงหา 2009 16:47 - =-=วิธีดูแลรักษารถเล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก =-=
<Mies> พิมพ์ว่า:
boss พิมพ์ว่า:
แซงคิวน่ะมี่ เอิ๊กๆ



555 พึ่งเห็นนะเนี่ยพี่บอส

เล่นเว่า แล้วเข้านอน

555


สุดไหมหละ วัยรุ่นไทย......"เล่นเว่า แล้วเข้านอน"
ได้รับคำขอบคุณจาก: <Mies> 
<Mies>


ชื่อเล่น: มี่

เข้าร่วม: 03 ธันวา 2008
ตอบ: 1463

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1962
ให้คำขอบคุณ: 1373

ที่อยู่: ขอนแก่น
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
พุธ, 19 สิงหา 2009 16:57 - =-=วิธีดูแลรักษารถเล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก =-=
iMan พิมพ์ว่า:
<Mies> พิมพ์ว่า:
boss พิมพ์ว่า:
แซงคิวน่ะมี่ เอิ๊กๆ



555 พึ่งเห็นนะเนี่ยพี่บอส

เล่นเว่า แล้วเข้านอน

555


สุดไหมหละ วัยรุ่นไทย......"เล่นเว่า แล้วเข้านอน"




สุดๆ อ่ะ อย่าลืมล้างด้วยหละ

ก๊ากกก ๆ ๆ
pol4056


เข้าร่วม: 08 ตุลา 2008
ตอบ: 99

สมาชิกสับสน
สมาชิกสับสน

ได้รับคำขอบคุณ: 34
ให้คำขอบคุณ: 37
พฤหัส, 20 สิงหา 2009 12:34 - =-=วิธีดูแลรักษารถเล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก =-=
ตาลายเลย แต่เป็นความรุ้ที่สุดยอดเลยคับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: <Mies> 
Asuerada_boy


เข้าร่วม: 07 ตุลา 2008
ตอบ: 1093

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 576
ให้คำขอบคุณ: 1645

ปี: 2002
สี: น้ำเงิน อิเทอนอล (B-96P)
พฤหัส, 20 สิงหา 2009 21:16 - =-=วิธีดูแลรักษารถเล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก =-=
ขอบคุณข้อมูล แค็บ
ได้รับคำขอบคุณจาก: <Mies> 
PAM


ชื่อเล่น: แป๋ม

เข้าร่วม: 17 กรกฎา 2009
ตอบ: 1514

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 2753
ให้คำขอบคุณ: 2884

ที่อยู่: โคราชมหานคร
ปี: 2004
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
พฤหัส, 20 สิงหา 2009 22:04 - =-=วิธีดูแลรักษารถเล็กๆ น้อยๆ เก็บมาฝาก =-=
พรุ่งนี้ ลงมือเลยดีกว่าเรา เด๋วความรู้หาย
ได้รับคำขอบคุณจาก: <Mies> 
ตอบ
หน้า 1 จาก 1
ไปที่: 
ติดต่อโฆษณา admin@civicesgroup.com
Copyright © 2008-2025 Civic ES Group. All rights reserved.