ที่มา หนังสือนักเลงรถ ฉบับที่ 316 ประจำเดือนกรกฎาคม 2552
หลักการเสริมความแรงของเครื่องยนต์ ที่ดูเหมือนจะง่ายแต่จริงๆแล้ว ไม่ง่ายอย่างที่คิด เริ่มจากการนำอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ให้ได้มากที่สุด แล้วค่อยตามด้วยน้ำมันในอัตราส่วนที่สอดคล้องเหมาะสม และจุดชนวนด้วยประกายไฟจากเขี้ยวหัวเทียน แล้วค่อยผลักดันไอเสียนั้นออกจากห้องเผาไหม้ ฟังดูเหมือนไม่มีอะไรยุ่งยาก เพียงแต่ทุกอย่างต้องสอดคล้องซึ่งกันและกัน เพราะหากองค์ประกอบอย่างใดอย่างหนึ่งขาดหรือเกิน ไอ้ที่ทำมาก็ป่วยการ เผลอๆ อาจจะวิ่งถอยหลังเอา จากที่โดนมากับตัวก่อนทำวิ่งได้ 200 km/h ทำไปทำมาเหลือ 170 km/h ค่าวิชาก็ไม่ใช่ถูกๆ เอาจ่ายค่าเทอมเรียนมหาวิทยาลัยได้เกือบปี
รถแรง ท่อต้องดัง....จริงหรือ?
เคยถามตัวเองมั้ยว่าทำไมรถแต่งต้องเสียงดังกว่าชาวบ้านชาวช่อง? โดยการตัดแคตและหม้อพักกลางออก หรือไม่ก็ขยายท่อให้ใหญ่ขึ้น ด้วยหวังว่าการกระทำดังกล่าวจะช่วยให้ลดการอั้นและช่วยให้ไอเสียไหลสะดวกขึ้น ถ้าเป็นยุคที่ก่อนเทคโนโลยียังไม่ไปไหน ก็คงไม่เถียงว่ารถแรงท่อต้องดัง กับการเอาหม้อพักไปเสียกับไส้กรองอากาศออกนอกระบบ ซึ่งจะช่วยให้อากาศไหลเข้าและไอเสียไหลออกโดยไม่มีอะไรมากีดขวางทางเดิน พูดง่ายๆ ว่าถ้าขึ้น Dyno นี่ม้ามาเห็นๆ และก็น่าเชื่อว่าท่อดังแล้วจะแรง และถอดไส้กรองอากาศแล้วม้าจะเพิ่ม อะไรประมาณนั้น...ถ้าในสนามก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้ารถแต่งที่ต้องใช้งานอยู่บนท้องถนนร่วมกับคนอื่นๆ ก็คงไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง แถมยังผิดกฎหมายอีกต่างหาก หากว่าดังเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ปัญหาจึงอยู่กับผู้ผลิตและสำนักแต่งที่จะต้องหาทางลดเสียงที่เกิดขึ้น โดยพยายามให้กระทบกระเทือนกับสมรรถนะน้อยที่สุด
การทดสอบหม้อพักไอเสีย 3 ชุด (ทดสอบโดยใช้รถ DC2 เครื่อง B18B สภาพเดิมๆจากโรงงานมาทดสอบครับ)
ชุดแรก ของเดิมติดโรงงาน (Stocker) ทำได้ 132 แรงม้า
ชุดที่สอง ปลายทรงไฮเปอร์ (ไส้ตรง) 3" ทำได้ 135 แรงม้า (แต่สร้างเสียงได้เกือบๆ 100 เดซิเบล)
ชุดที่สาม Apexi Noir Cat-Back Exhaust System (ไส้ย้อน) ขนาด 2.2" ทำได้ 134 กว่าๆ แรงม้า แต่ทำแรงบิดได้สูงที่สุดในบรรดาท่อทั้งสามชุด
เพราะฉะนั้น เครื่องแรงไม่จำเป็นต้องดังเสมอไปนี่นา
ดูดสด..แรงกว่าผ่านกรองจริงหรือ?
หลายๆ คนคิดว่าถอดกรองแล้วต้องแรงแน่ๆ เพราะไม่มีกรองมาสร้างแรงต้านให้กับการไหลของอากาศ มันก็น่าจะช่วยให้การประจุอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จริงแล้วเป็นอย่างนั้นหรือ?
จากการทดสอบโดยให้ใช้รถคันเดิมกับการทดสอบกรองเปลือย 3 แบบ
แบบที่ 1 กรองเปลือยกับท่อไอดีที่ใส่อยู่ ทำได้ 134.28 แรงม้า
แบบที่ 2 ดูดสดผ่านท่อไอดีที่ใส่อยู่โดยไม่มีกรองอากาศ ทำได้ 133.57 แรงม้า
แบบที่ 3 AEM Cold Air ทั้งชุด ทำได้ 137.51 แรงม้า (แต่หากเอากรองอากาศในชุดออกจะเหลือ 136.02 แรงม้า)
เหตุที่ทำให้ชุด AEM ทำแรงม้าได้ดีที่สุดเนื่องจากว่าไส้กรองเป็นทรงกรวย (Cone-type Filter) ซึ่งจะจัดระเบียบให้กับอากาศและได้สัดส่วนกับขนาดของท่อไอดี ทำให้อากาศไหลเข้าท่อไอดีได้มาก(และเร็ว) เต็มพื้นที่ท่อไอดีโดยไม่มีการสะดุดหรืออออยู่หน้าท่อไอดีนั่นเอง แต่อย่างไรก็ดี หากกรองอากาศไม่มีคุณภาพหรือเสื่อมสภาพย่อมหมายถึงสิ่งสกปรกที่เข้าสู่ห้องเครื่องที่จะสร้างความสึกหรอได้อย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นกรองของ ES อย่างเรา จะของเดิมโรงงาน กรองแผ่น K&N หรือ Simota ก็ต้องหมั่นดูแลรักษานะครับ
แคตมีหรือไม่มีดีน้า.....?
หน้าที่ของแคตก็ทราบๆ กันอยู่ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยกรองไอเสียก่อนปล่อยออกสู่บรรยากาศทางปลายท่อ (หรือก็คือ อุปกรณ์ลดโลกร้อนน่ะแหละ) แต่ด้วยลักษณะการทำงานของแคตที่เป็นรูรังผึ้งที่ขวางทางการไหลของไอเสีย ใครต่อใครที่จะแต่งรถให้แรงก็มักที่จะเอาแคตออกกัน แต่จริงๆ แล้ว มันจะทำให้มีแรงม้า หรือแรงโม้ มาดูกัน
ทดสอบโดยใช้ 3 กรณีด้วยกันคือ (รถที่ใช้ทดสอบในรอบนี้คือ MX-5 เดิมๆ ครับ)
กรณีแรก แคตเดิมๆ ติดรถ ทำได้ 104.1 แรงม้า แรงบิด 92.63 ปอนด์-ฟุต
กรณีที่สอง แตตที่ถูกทะลวงไส้ ทำได้ 103 แรงม้า แรงบิด 92.1 ปอนด์-ฟุต (แรงม้าหาย 1.1 แรงบิดหาย 0.53)
กรณีที่สาม เดินท่อตรงแทนแคตเดิม (Testpipe) ทำได้ 105.4 แรงม้า แรงบิด 93.9 ปอนด์-ฟุต (แรงม้าเพิ่ม 1.3 แรงบิดเพิ่ม 1.27)
สรุปคือ แคตที่ถูกทะลวงไส้ออกทำให้แรงม้าลดลงเนื่องจากทำให้ไอเสียเกิดการปั่นปวน ส่งผลให้เกิดแรงดันย้อนกลับ อย่างไรก็ดี แม้ Testpipe จะทำคะแนนได้สูงที่สุดในการทดสอบ แต่แรงม้าและแรงบิดก็มาในรอบสูง (ดูกราฟได้ในหนังสือครับ แต่ผมดูกราฟไม่เป็น

)
ผมว่าท่อไอเสียทำไม่ง่ายนะครับ เพราะมันมีหลายๆปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง สูตรท่อเกียร์ธรรมดากับออโต้ก็ไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะเกียร์ออโต้ ทำยากมาก เอาแคตออก เดินท่อตรง บางคันทำแล้ววิ่ง บางคันทำแล้วไม่วิ่ง มันมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก เช่น Header กรอง เป็นต้น ควรเก็บข้อมูลและศึกษาให้ดีก่อนทำนะครับ แต่ถ้าให้ง่ายๆ ก็ลอกข้อสอบครับ (สอบถามจากคนที่ทำมาแล้ววิ่งดี แต่กรุณาทำตามทั้งหมด เพราะหากไม่ทำตามทั้งหมดผลที่ได้อาจจะไม่เหมือนกัน อาจจะแตกต่างกันเล็กน้อยหรือแตกต่างกันสิ้นเชิงเลยก็ได้)
ปล. ผมก็สรุปและแต่งเติมไปบ้างเพื่อไม่ให้โดนฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ครับ แต่แนะนำให้ไปหาอ่านในหนังสือดีกว่าครับ ชัดเจนกว่าและมีกราฟ Dyno ให้ดูด้วย

แต่หากไม่เหมาะสมก็ลบกระทู้ได้เลยครับ