อ้างอิงจาก: |
บช.น.เปิดโครงการเด็ด! "จราจรตาเพชร" ช่วยแก้ปัญหาบนท้องถนน ให้พลเมืองดีบันทึกภาพผู้ใช้รถทำผิดกฎหมาย ส่งให้ตำรวจผ่านเว็บไซต์จะมีใบสั่งเดลิเวอร์รี่ไปถึงประตูบ้าน ด้านมนุษย์เงินเดือนได้เฮไม่ถูกปรับหากขับป้ายแดงกลับดึกโดยไม่เจตนา ปัดฝุ่นกฎหมายหมวกนิรภัยกระจกฉาบปรอทเจอเป็นจับปรับหนักแน่ สิงห์นักบิดระวังไว้ปล่อยคนซ้อนท้ายหัวโล่งเมื่อไหร่โดนทันที 2 เด้ง
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 6 มี.ค.51 พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานด้านการจราจร ได้เรียกประชุมนายตำรวจระดับ รอง สว.จร.จนถึง รอง ผบก.ที่ดูแลงานด้านการจราจรทุกท้องที่ มากำชับแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ภายในห้องประชุมใหญ่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ต.ภาณุ ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมว่า ในวันนี้จะมีการหารือกันเพื่อกำชับเรื่องรถยนต์ป้ายแดงที่เป็นปัญหาอย่างมากในขณะนี้ ซึ่งผู้ใช้รถมักหาข้ออ้างว่ายังไม่ได้รับป้ายทะเบียนจากกรมการขนส่งทางบก แต่เท่าที่ได้ประสานไปแล้วทราบว่าทางกรมการขนส่งทางบกสามารถจดทะเบียนป้ายดำให้ผู้ใช้รถได้โดยใช้เวลาเพียง 2 วันเท่านั้น สำหรับเรื่องนี้จะมีการกำหนดมาตรการในการปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ จะอนุโลมให้เฉพาะรถคันที่ใช้งานไม่เกินระยะทาง 3,000 กิโลเมตร หรือไม่เกิน 1 เดือนเท่านั้น ส่วนการห้ามนำออกมาแล่นบนท้องถนนในช่วงเวลากลางคืนให้ตำรวจใช้ความอะลุ้มอล่วย หากผู้ใช้รถบางท่านกลับจากที่ทำงานในช่วงเย็น กว่าจะถึงบ้านก็ช่วงพลบค่ำ ถ้าเป็นกรณีนี้ก็พอที่จะอะลุ้มอล่วยกันได้ ในทางกลับกันถ้าพิจารณาแล้วผู้ใช้รถตั้งใจนำรถยนต์ป้ายแดงออกมาใช้งานในช่วงกลางคืนก็ต้องจัดการไปตามกฎหมาย คือปรับไม่เกิน 1,000 บาท และต้องทำการบันทึกการใช้งาน ส่วนการตัดแต้มให้ทางโรงพักเป็นผู้ดำเนินการโดยให้ระบบฐานข้อมูลเชื่อมโยงกันได้ทุกโรงพัก ไม่ต้องส่งมาตัดแต้มที่ บก.จร.เหมือนที่ผ่านมา ซึ่งมาตรการนี้จะเริ่มนำร่องใช้ในเขต กทม.และปริมณฑล ก่อนเป็นพื้นที่แรก พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวอีกว่า ต่อจากนี้จะมีการกวดขันจับกุมผู้ใช้รถ จยย.ที่สวมหมวกนิรภัยฉาบสี หรือฉาบปรอท ที่กระจกหน้าหมวกอย่างจริงจังมากขึ้น แต่เดิมกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2535 ที่ผ่านมาตำรวจอะลุ้มอล่วยให้มาโดยตลอด นอกจากนี้คนซ้อยท้ายที่ไม่สวมหมวกนิรภัย ก็จะถูกปรับไม่เกิน 500 บาท ขณะเดียวกันคนขับจะถูกปรับเพิ่มเป็น 2 เท่า ฐานปล่อยปละละเลยให้คนซ้อนท้ายกระทำผิดกฎหมาย ในส่วนของพวกชอบเมาแล้วขับจะมีการเพิ่มโทษขึ้นไปอีก สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนนอกจากจะถูกปรับแล้วศาลยังจะมีการสั่งพักใบอนุญาตขับขี่อีกด้วย และหากถูกจับซ้ำซากศาลอาจจะสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทันที และพวกที่ชอบใช้โทรศัพท์ขณะขับรถได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทำการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งต่อไปนี้จะมีการนำกล้องดิจิตอลให้ตำรวจบันทึกภาพของผู้ฝ่าฝืนไว้เป็นหลักฐานอีกด้วย ส่วนประชาชนที่อยากมีส่วนร่วมตอนนี้กำลังจะมีโครงการ "จราจรตาเพชร" เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนที่พบเห็นผู้กระทำผิดโดยใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ สามารถช่วยเหลือทางราชการได้ด้วยวิธีบันทึกภาพนิ่ง หรือภาพวีดีโอ ส่งมาที่ www.trafficpolice.go.th จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบ ซึ่งหากพบว่ามีการทำผิดจริงก็จะส่งใบสั่งไปให้บุคคลในภาพถึงบ้านทันที "ส่วนเรื่องที่ทางบริษัทฮัลโหลบางกอก มีการนำรถโฆษณามาจอดกีดขวางเส้นทางจราจรในพื้นที่รับผิดชอบประมาณ 10 โรงพัก จนประชาชนได้รับความเดือดร้อน และมีการร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้มีการกำชับให้ทุกพื้นที่สอดส่องดูแลอย่างใกล้ชิด และออกใบสั่งทันทีที่พบการฝ่าฝืน นอกจากนี้จะมีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเพื่อแจ้งตัดไฟ และให้เจ้าของรถรีบขยับรถออกนอกพื้นที่อย่างเร่งด่วน ถ้าหากพบว่ายังฝ่าฝืนอีกก็จะให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกเจ้าของรถมาทำการสอบสวน 2 ครั้ง และถ้าไม่มาก็จะดำเนินการออกหมายจับต่อไป" พล.ต.ต.ภาณุ กล่าว ที่มา บ้านเมือง |
ไปที่: |