สำหรับคำถามที่ว่า ผลลัพธ์ของการเข้าเกียร์ N-D-N บ่อยๆ อะไรจะเกิดขึ้นนั้น สรุปได้สั้นๆว่า

1. ตำแหน่ง N อย่างที่อธ ิบายไว้ด้านบน หากรถจอดนิ่ง อยู่ในรอบเดินเบา การทำงานของชิ้นส่วนต่างๆ หยุดขับดันชั่วขณะ
2. ตำแหน่ง D ชิ้นส่วนในชุดเกียร์ ประเภท Moving Parts ทั้งหลาย ที่เกี่ยวข้องกับการออกรถ จะทำงานขับแรงดัน ตามที่ผู้ขับขี่เร่งรอบเครื่องยนต์

3. ทุกครั้งที่ ลูก ทอร์ค คอนเวอร์เตอร์ จะหยุดขับแรงดัน (เกียร์ N) และขับแรงดันต่อ (หรือ เกียร์ D) อัตราแปรผันภายใน Valve body
และภายในห้องเกียร์ จะมีไม่ต่ำกว่า 2-5 bar สำหรับต้นกำลังในการออกรถ เกียร์บางรุ่น ใช้แรงดันที่แตกต่างไปตามลักษณะการใช้งาน เช่น 1.5 - 7.0 bar ก็มี

โปรดสังเกตความแตกต่างระหว่างแรงดันต่ำ จาก 2 bar แล้ววาล์ว จะต้องถูกเปิดด้วยแรงดันสูงถึง 5 bar ในเวลาเพี้ยงเส ี้ยววินาทีเท่านั้น!
ทุกครั้งของการเปิด-ปิด ก่อให้เกิดความสึกหรอของ ชิ้นส่วนอะไหล่จำพวก Moving parts ภายในเรือนเกียร์ ทุกชิ้น!

** นั่นหมายความว่า หากเข้าเกียร์ N ไป D แล้ว และสลับกลับไป N บ่อยๆ อยู่เป็นนิจ จะเป็นการบั่นทอนอายุการใช้งานของเกียร์อัตโนมัติลงถึง 50 % !! ไม่ควรเปลี่ยน Gear จาก D ไป N บ่อยๆ




อันนี้ผมก้อพึ่งรู้ครับ พอดีมีคน forward mail มาให้ ความคริงมีรายละเอียดและรูปมากกว่านี้ แต่อ่านแค่นี้ก้อน่าจะเข้าใจนะครับ

งันเวลาติดไฟแดงก็ยกเบรคมือไม่ก็เหยีบเบรค ดีที่สุดถูกมั้ย

รถผมถ้าอยู่ที่ D แล้วดึงเบรคมือเอาไม่อยู่ครับรถยังไหลได้อีกอ่ะ (กำแล้วรถเราเป็นไรป่าวเนี่ย)

ขอคุณสำหรับข้อมูลครับ....แต่มองอีกมุมมันขัดแย้งกับความปลอดภัยอย่างสิ้นเชิงเลยครับ

เพราะไม่ว่าจะเป็นการเหยียบเบรคค้าง หรือดึงเบรคมือ ก็มีโอกาสสูงมากที่รถจะเคลื่อนโดยไม่ได้เจตนา

อันนี้น่าจะอันตรายกว่านะครับ

ของคุณมากครับสำหรับข้อมูลดีๆครับ

ข้อมูลชัวร์หรือเปล่าครับ
ผู้รู้ท่านอื่นโปรดยืนยันด้วยครับ
จะได้เอาไว้เป็นแนวทาง

ใครอยากได้แบบละเอียดๆและมีภาพประกอบทิ้ง mail ไว้ครับเดี๋ยวส่งให้

ส่วนตัวถ้าหยุดไม่นานผมก็เข้า D แล้วเหยียบเบรค แต่ถ้านานก็ N ครับมันเมื่อยอะ

รอความกระจ่าง ๆๆๆ

ผมเคยอ่านเจอในเวปนึง เค้าบอกว่าข้อมูลข้างบนเป็นเกียร์รุ่นเก่าๆครับ รุ่นใหม่ๆ มันไม่ได้ทำงานแบบนั้นแล้ว เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องเหยียบค้างเอาไว้ก็ได้ ผมอ่านทั้งคู่แล้วก็ไม่รู้จะเชื่อใครดีเหมือนกัน แต่ผมว่าความปลอดภัยสำคัญกว่าครับ แล้วก็ไม่คิดว่ามันจะมีผลกระทบมากเท่ากับการขับขี่, การคิกดาวน์บ่อยๆ, หรือการเข้าเกียร์ให้สนิทก่อนเหยียบคันเร่งด้วย

ส่วนตัว ติดแป๊บเดียวก็ไม่เปลี่ยนเกียร์ ถ้าติดนานก็ N ครับ เพราะมันเมื่อย

จะระวังไว้คับ ขอบคุณคับ

เปลี่ยนไปๆ มาๆ พังเร็วแน่นอนครับ แต่คงไม่เร็วขนาดว่า เสียเร็วกว่า 50% หรอกครับ

ผมดูที่ว่า ติดไฟแดงนานไหม ถ้านานเกิน 1 นาที ผมเข้า N ครับ แต่ถ้าไหลเรื่อยๆ ก็เหยียบเบรคไว้
รถผมเกียร์ เดิมๆ วิ่งมา จะ 2 แสนแล้วเน้อ

ส่วนตัวใช้เวลาจอดพร้อมดึงเบรกมือค่ะ
เพราะเท่าที่ทราบการดึงเบรกมือมันช่วยเวลามีรถมาชนหลัง
เกียร์เราจะได้ไม่พัง

ไม่เหมือนที่ผมได้ยิมมานะ เลยไม่รู้อันไหนถูกอ่ะ

ทุกวันนี้ถ้าติดนานๆจะเข้า N ถ้าเป็บๆ จะเหยียบ เบรคอ่ะ

ไม่อยากเปลื่ยนบ่อยๆเหมือนกัน . .

รอผมรู้มาไขด้วยคนครับ

และขอบคุณมากครับที่มาแบ่งปันกันฟัง . . .

ตามพี่ๆ ข้างบนครับ

ถ้าแป๊ปเดียว ก็เหยียบเบรคค้างไว้
ถ้านาน ก็เข้า N เลยครับ

ขอออกความเห็นแบบคนขับรถบ้านๆนี่แหละครับ

จะขอพูดถึงกรณีที่ต้องจอดนานๆนะครับ เอาเป็นหลักนาทีขึ้นไปแล้วกัน

เบรคมือ...ดึงไว้ทั้งๆที่อยู่ D เนี่ย เสี่ยงมากๆเลยครับ รถเกียร์ออโต้รู้ๆกันอยู่แล้วว่าถ้าคาเกียร์ D อยู่ ไม่ต้องแตะคันเร่งเลยมันก็เดินหน้าให้ได้อยู่แล้วดังนั้นเบรคมือก็จะต่อสู้กับแรงของเครื่องที่พยายามจะไปข้างหน้าตลอดเวลา ใครตั้งเบรคมาดีๆก็น่าจะเอาอยู่ แต่ลักษณะที่มีแรงกระทำสองอย่างที่ขัดแย้งกันแบบนี้ (ไอ่รถก็จะไปข้างหน้า ไอ่เบรคก็จะจับให้อยู่)ผมว่าคนออกแบบเค้าคงไม่อยากให้เราทำแบบนี้หรอกนะครับ.....นานๆไปก็ตัวใครตัวมันนะครับ

เหยียบเบครเท้าค้างไว้ตลอดเวลา.....จะเมื่อยไปมั้ยครับ ลองคิดดูวิ่งมาเจอไฟเหลืองไกลๆ พอเราจะผ่านแยกแดงพอดี เอาเป็นว่าติดแดงเต็มๆ เอาเวลาที่ตั้งไว้ของไฟแดงแถวบ้านผมแล้วกันนะครับ ข้างละ 30 วินาที วนกว่าจะถึงเรา ก็3 ด้าน รวม 90 วินาที
(1 นาทีครึ่ง) อืมห์ เหยียบไว้อย่าปล่อยเชียวนะ คันยุบยิบหลังที่หลังก็อย่าไปเกานะ ปล่อยมันเดี๋ยวก็หายไปเองแหละ...เฮ้อ....ลำบากไปมั้ยครับ (พิจารณาจากความรู้สึกเราๆคนขับรถนี่แหละครับ)เพราะคนออกแบบรถเค้าก็ต้องคิดถึงคนใช้เหมือนกัน ออกแบบทุกอย่างก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และความสะดวกสบายมาเป็นอันดับต้นๆอยู่แล้วล่ะครับผมว่า....
แล้วนี่ถ้าตกอกตกใจดันปล่อยเท้าออกจากเบรคขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจล่ะก็ 555+ งานเข้าครับ

สมมุติติดไฟแดงอยู่คันแรกเลย เหยียบเบครค้างไว้ แต่ดันอยากจะหยิบรองเท้าที่เบาะหลัง เอียวตัวไปหยิบนิดนึง อ่าเท้าดันละออกจากเบรค รถไหลไปกลางแยก 18 ล้อขนแกลบวิ่งผ่านไฟเขียวมาจากด้านขวาพอดี 555+ มานจะเป็นไงครับเนี่ย...

เคสนี้ผมยอมซ่อมเกียร์ครับ

โปรดสังเกตความแตกต่างระหว่างแรงดันต่ำ จาก 2 bar แล้ววาล์ว จะต้องถูกเปิดด้วยแรงดันสูงถึง 5 bar ในเวลาเพี้ยงเสี้ยววินาทีเท่านั้น! ทุกครั้งของการเปิด-ปิด ก่อให้เกิดความสึกหรอของ ชิ้นส่วนอะไหล่จำพวก Moving parts ภายในเรือนเกียร์ ทุกชิ้น!

คงหมายถึงช่วงที่เปลี่ยนเกียร์คับแต่ช่วงที่อยู่ในตำแหน่ง N ไปแล้วคงไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ

อย่างไงดีเนี่ย

คงไม่ถึงกับทำอายุการใช้งานน้อยลงไป 50 % หรอกครับ ถ้าเราใช้รถแบบปกติ
ก่อนจะเข้าเกียร์ทุกครั้งก็เหยีบบเบรคและให้รถหยุดนิ่งสนิทก่อน
รอซักพักให้รู้สึกว่าเกียร์จับเข้าที่เรียบร้อยแล้วค่อยออกรถ
รถติดก็เปลี่ยนเป็น N ถ้ารอไม่นานมากก็เหยียบเบรคค้างไว้

การเปลี่ยน จาก N เป็น D ทุกครั้งที่รถติด
เท่าที่เคยรู้ข้อมูลมา ไม่ได้มีผลถึงขนาดนั้นครับ
อย่างไงก็ดู ความปลอดภัยและความเหมาะสม
ประกอบด้วยครับ

เครื่องจักรย่อมมีการสึกหรอครับ เป็นสัจจะธรรมครับ

ยิ่งเราใช้งานแบบทะนุถนอม เครื่องจักรก็จะมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นไปอีกครับ

ใช้เกียร์อัตโนมัติ ให้มันอัตโนมัติครับ

สำหรับผม ตั้งแต่เข้า D จนถึงที่หมาย ไม่เคยลงมา N เลยครับ นอกจาก ติดนานๆ แบบ 15-20 นาทีขึ้นไป

ขับรถมาตั้งแต่ปี 94 ทำแบบนี้ตลอด ไม่เคยมีเกียร์พังเลยครับ


เปลียน D ไป N ทุกครั้ง มันคงไม่ถึงขนาดพังคาเท้า แต่สึกหรอเยอะกว่าแน่นอนครับ กีเปอร์เซนต์ นั้น ผมยังไม่เคยเห็นมีคนทดสอบออกมาเป็นตัวเลขครับ

สำหรับเรื่องอุบัติเหตุ ถ้าเข้า D เหยียบเบรคแล้ว รถไหล ผมว่า เบรคน่าจะแย่แล้วน๊ะครับ แค่ D มันยังเอาไม่อยู่ ขับเร็วๆ ไม่อยากนึก

และเวลาติดไฟแดง ถึงแม้ไม่ได้เข้า D แล้วเหยียบเบรค หรือ ดึงเบรคมือ อยู่ที่ N ผมว่า ก็ควรจะทำน๊ะ ดึงเบรคมือก็ได้ เพราะ เหยียบเบรคแล้ว ไฟท้ายมันไปแยงตาชาวบ้านครับ

เรื่องการใช้งานเกียร์อัตโนมัติ เป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ มีเหตุมีผล พิสูจน์ได้ ไม่ควรเอาความรู้สึก มาตัดสินครับ

แทบไม่เปลี่ยนจากDไปNเลยตั้งแต่บ้านยันจุดหมาย เคยชินแล้วอ่ะ10กว่าปี^^"
แต่ตอนนี้กำลังพยายามเปลี่ยนอยู่นะ ใครๆก็บอกใส่Nไว้ปลอดภัยกว่า^^"