กึ่งสังเคราะห์ ข้อ2 ครับ

ไว้เผื่อตัดสินใจครับ

เรื่องข้อดีกับข้อเสีย ถ้าให้บอกจริงๆ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ย่อมดีกว่าอยู่แล้วครับ เพราะมันผลิตมาจากสารสังเคราะห์ที่เค้าคิดค้นขึ้นมาเพื่อให้การปกป้องเครื่องยนต์โดยเฉพาะครับ  ทั้งในเรื่องการทนทานของตัวน้ำมันเครื่อง ความทนทานของความหนืดตัวของน้ำมันเครื่อง และอีกหลายๆอย่างครับ

แต่อย่างไรก็ดีครับ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ก็มีราคาสูงกว่าน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ถึงเท่าตัวเลยครับ

น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์  ถ้ามามองกันจริงๆ มันก็ไม่เชิงกับจะเป็นกึ่งสังเคราะห์ซะทีเดียวหรอกครับ  เพราะว่าเพียงแค่มีส่วนผสมของสารสังเคราะห์เจือลงไปแค่ 20% เค้าก็เรียกว่า "น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์" แล้วล่ะครับ  ค่าความหนืดก็น้อยกว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ครับ เพราะฉะนั้น การคงสภาพความลื่นของน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ก็จะมีน้อยกว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แน่นอนครับ

บางท่านเคยกล่าวว่า ใช้น้ำมันเครื่องธรรมดา แต่เปลี่ยนถ่ายบ่อยๆดีกว่า  ถูกครับกับคำกล่าวนี้ แต่ก็คงจะไม่ทั้งหมดครับ เพราะว่าน้ำมันเครื่องเมื่อมันโดนความร้อนจากเครื่องยนต์แล้ว ประสิทธิภาพในการหล่อลื่นของมันก็จะค่อยๆลดลงตามไปด้วยครับ แต่น้ำมันเครื่องสังเคราะห์จะรักษาระดับค่าความหนืดตรงนี้ไว้ให้คงสภาพอยู่ได้นานกว่านั่นเองครับ  และที่สำคัญ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์จะรักษาสภาพของฟิลม์น้ำมันเครื่องให้ยึดเกาะตามชิ้นส่วนต่างๆภายในเครื่องยนต์ได้ดีกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดาหรือกึ่งสังเคราะห์ด้วยครับ เพราะในขณะที่เราไม่ได้ติดเครื่องไว้หรือจอดไว้เฉยๆ น้ำมันเครื่องก็จะไหลเทกลับลงสู่อ่างน้ำมันเครื่องด้านล่างครับ ซึ่งเมื่อเรา Start เครื่องครั้งแรกหลังจากที่เราจอดรถทิ้งไว้ ฟิลม์น้ำมันเครื่องจะบางกว่าขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน มันจึงทำให้เครื่องยนต์สึกหรอได้มากกว่าครับ แต่เจ้าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์มันสามารถที่จะยึดเกาะชิ้นส่วนเครื่องยนต์ได้ดีกว่า เพราะว่าน้ำมันมันรักษาสภาพความหนืดได้คงที่กว่า มันจึงเปรียบเสมือนว่าเครื่องยนต์เราได้รับสารหล่อลื่นหุ้มอยู่ตลอดเวลานั่นเองครับ

ที่เค้าบอกว่า "ปกป้องตั้งแต่ครั้งแรกที่สตาร์ท" ไงครับผม

สรุปแล้ว ถ้าบอกว่าอย่างไหนดีกว่า ผมก็คงจะบอกว่า น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ดีกว่าแน่นอนครับ ให้การปกป้องเครื่องยนต์ที่สูงกว่าน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ครับ แต่ถ้าถามว่าน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์พอเพียงต่อความต้องการของเครื่องยนต์หรือไม่ ผมก็จะบอกว่า พอเพียง เหมือนกันครับ  ที่เหลืออยู่ที่ความพึงพอใจและทุนทรัพย์ของแต่ละบุคคลครับ


credit : Win1976
จาก : http://www.thaimarch.com/index.php?topic=12808.0;wap2

ข้อ 1 ครับ สังเคราะห์ครับ ราคาประมาณ 1600-1700
รถดมแก็ซ เลยให้ของดีหน่อย

wow wow wow ข้อ1 ครับ แบบว่าของรักครับ

mobil1 0w40 เท่านั้น

Shell helix ultre 5w-40 ผมเสริมด้วย S1R สารปกป้องเครื่องยนต์ ไม่รู้ว่าพี่ๆ เคยได้ยินชื่อของS1R หรือป่าวคับ

HKS

หัวหน้าบอกมา valvoline max life ก้ดี ล้างเครื่องไปในตัว กระป๋องแดงๆ ว่าจะลองซื้อมาให้

BLITZ 5w40. แกลลอนละ1800 รับรองว่าok.
ขี่มาเกือบ6000 โลยังใส่อยู่. ขับซัดบ่่อยมาก ผมใช้ยี่ห้อนี้ตลอด
อาเฮียเจ้าของร้านบอกว่ารองรับได้ถึง 400-500 แรงม้าแน่ะ

Mobil1 0W-40
+1 ครับ วันนึงผมใช้รถประมาณ 300+กิโล
เนียนๆเลยครับ

ราคาด้วยนะ

1.Mobil1 0W-40 ครับ

ถ้ามีตังค์ Mobil1 0W-40
ถ้าตังค์เหลือน้อย Mobil Super2000 10W-40

 Valvoline  Maxlife 5w 40  สังเคราะห์  100 ครับเหมาะกับรถยนต์ที่วิ่งเกิน95000 โล ครับ
   มันมีสารช่วยยืดอายุ ซีล ต่างๆครับให้กลับมานิ่มๆเหมือนเดิม เหมาะกับรถ ติด LPG NGV ด้วยนะครับเผื่อเป็นทางเลือกครับ

Mobil1 0-40   

Mobil 1 สังเคราะห์ท100% ครับ ลื่นเรียบเงียบดีจริงๆ รถติดแก็สควรใช้ครับช่วยถนอมเครื่องได้เยอะ

ของผม ปตท. กึ่งสังเคราะห์ ครับ เครื่องแกส (เกรดอาจไม่ดีมาก อาศัยเปลี่ยนบ่อยๆครับ ที่ 5000 โล)

จากที่เคยลาก shell 5w40เกินกำหนด มา12000โล ขับเข้าไปเปลี่ยน ptt กึ่งสังเคราะห์ ทันที่ที่ขับออกมาจากปั้มหวังว่าน้ำมันเครื่องเพิ่งเปลี่ยนคงจะกระปรี้กระเป่าขึ้น แต่เปล่าเลยอืดมากๆๆๆๆๆๆๆๆ คิดดูครับ shellวิ่งมา12000 ยังลื่นเงียบกว่า ptt เพิ่งเปลี่ยน ใช้ไปได้3000 ทนไม่ไหว ใส่mobil1 ow40 ลื่นขึ้นแบบว่าเอายายแก่ๆมาขับก็สัมผัสได้ ดังนั้นผมขอยืนยันครับว่า นมค ดีๆ เปลี่ยนแล้วรู้สึกได้จริงๆครับ

พวกพี่ใช้น้ำมันเครื่องยี่ห้ออะไรกันบ้างหรอคับ  อยากขอเพือเป็นแนวทางอ่ะคับ  ยี่ห้อบวกราคาด้วยก๊ดีนะคับ

แนะนำกันบ้างนะคับ  ขอบคุณล่วงหน้าคับผม 

ไดเกียว ใช้แล้ว "เครื่องฟิตสตาร์ทติดง่าย"