ผมมีอาการน้ำดันมาที่หม้อพักเวลาเครื่องร้อน พอเครื่องเย็นก็ดูดกลับตามปกติ ถ้าวิ่งไกลๆนานๆความร้อนขึ้นน้ำในหม้อพักเดือดเชี่ยวจอดจนเครื่องเย็นลงจะดูดกลับอย่างรวดเร็ว เติมน้ำที่หม้อพักตรวจสอบไม่พบจุดรั่ว ไม่สามารถมองน้ำในหม้อน้ำได้ เพราะคอฝาหม้อน้ำเป็นรูปตัวแอลทดลองเปิดฝาไล่อากาศมีน้ำดัน พอเครื่องร้อนพัดลมทำงานจะดูดกลับ พอพัดลมหยุดก็จะดันออกมาอีกไปทำหม้อน้ำเปลี่ยนฝาหม้อน้ำเปลี่ยนวาวน้ำเปลี่ยนเทอร์โม ก็ไม่หายครับเหลือว่าจะไปเปลี่ยนปั๊มน้ำพร้อมกับสายพานไทม์มิ่งครับ

แต่ถ้าเปลี่ยนสายพานก็จัดปั้มน้ำต้วย  แล้วค่อยว่ากันใหม่

ตอนนี้เปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งกับปั้มน้ำมาแล้วครับช่างลองไล่ระบบน้ำดูไม่มีฟองอากาศแต่พอมาวิ่งน้ำดันอีกแล้วครับพอเครื่องเย็นก็ดูดกลับไม่รู้ต้องทำอะไรต่อหรือต้องปาดฝากันเลยดีครับ

เหลืออีกสองอย่างไม่ประเก็นก็หม้อนำ้ตันครับ

อาการนี้อาจจะมีปัญหามาจากตัวเทอร์โมวาวล์น้ำทำงานผิดปกติก็ได้ ในขณะที่กำลังใช้งานรถเกิดความร้อนขึ้นในระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ตัวเทอร์โมวาวล์จะต้องเปิดให้น้ำในระบบหล่อเย็น จากผนังเสื้อสูบไหลผ่านเข้ามาที่หม่อน้ำ โดยมีตัวปั้มน้ำเป็นตัวช่วยปั้มให้น้ำไหลผ่านภายในรังผึ้งของหม้อน้ำ และไหลผ่านส่วนบนของหม้อน้ำ ผ่านตัวเทอร์โมวาวล์ เข้าไปยังผนังเสื้อสูบอีกครั้ง เรียกว่าไหลวนอยู่อย่างนี้ตลอดการทำงานของเครื่องยนต์ เพราะต้องเอาความร้อนจากผนังเสื้อสูบออกไปที่ภายในรังผึ้งหม้อน้ำ เพื่อระบายเอาความร้อนแฝงออกไปจากระบบ

เมื่อใดก็ตามที่ตัวเทอร์โมวาวล์น้ำ ที่ทำหน้าที่เปิดวาวล์ให้น้ำผ่านตามอุณหภูมิที่กำหนด กลับไม่เปิดให้น้ำไหลวนผ่าน สิ่งที่ตามมาก็คือ ทำให้น้ำในระบบหล่อเย็นของเครื่องยนต์ เกิดสะสมอุณหภูมิเพิ่มขึ้น จนน้ำในระบบระบายความร้อนมีอุณหภูมิถึงจุดเดือด เปลี่ยนสถานะของน้ำให้เป็นไอน้ำ จะทำให้เกิดแรงดันอย่างมากในระบบหล่อเย็นของเครื่องยนต์ ทำใหน้ำที่เดือดและไอน้ำไหลผ่านสปริงวาวล์ของฝาปิดหม้อน้ำ และส่วนหนึ่งก็จะไหลเข้าไปที่หม้อพักน้ำ จนเต็มล้นออกมาเช่นกัน นี้เป็นอาการของเทอร์โมวาวล์เสีย ไม่เปิดวาวล์ให้น้ำไหลผ่านเมื่อถึงอุณหภูมิที่กำหนด

ตามที่ท่านเจ้าของกระทู้บอกว่า เมื่อเครื่องเย็นลง น้ำใรหม้อพักน้ำก็จะถูกดูดกลับไปยังหม้อน้ำอีกครั้ง นั้่นแสดงให้ทราบว่า ในระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ที่เป็นระบบปิด ไม่มีอากาศรั่วทำให้อากาศภายนอกระบบเข้าไป ทำให้ภายในของระบบระบายความร้อนเกิดแว็คคั่มเป็นศูนย์ญากาศ มัยจึงดูน้ำจากหม้อพักน้ำเข้าไปในระบบอีกครั้ง

แต่อาการที่กล่าวมาข้างต้นนี้ อาจจะมีตัวแปรอีกหนึ่งกรณี คืออาจจะมีประเก็นฝาสูบรั่วที่ส่วนหนึ่งส่วนใดของฝาสูบ อาจจะเป็นประเก็นรั่ว เมื่อสภาวะของเครื่องยนต์ร้อน แล้วทำให้วัสดุโลหะของฝาสูบเกิดการขยายตัว เกิดช่องว่างเล็กๆ ทำให้แรงอัดภายในกระบอกสูบ สูบใดสูบหนึ่ง มีแนงอัดจากระบอกสูบ ผ่านเข้าไปในห้องระบายความร้อนของเสื้อสูบได้ เป็นผลให้เกิดแรงดันน้ำผ่านออกที่ฝาหม้อน้ำและไปที่หม้อพักน้ำเช่นกัน อาการคล้ายกับที่กล่าวมาข้างบน

แต่เราสามารถตรวจสอบอาการนี้ได้ด้วยเครื่องมือตรวจสอบการรั่วของปะเก็นฝาสูบหรือฝาสูบ แต่ก่อนอื่นจะต้องตรวจสอบเจ้าตัวเทอร์โมวาวล์เสียก่อน โโยถอดตัวเทอร์โมวาวล์ออกมา นำไปใส่ในภาชนะต้มน้ำ รอจนน้ำมีความร้อนเพิ่มขึ้นประมาณน้ำเดือด จะเห็นว่าตัววาวล์ ที่มีสปริงขดลวด ที่เป็นสารโลหะเมื่อโดนความร้อนสูงตามที่กำหนด มันจะอ่อนตัว ทำให้ผาวาวล์เปิดออก ให้เห็นได้ชัดเจนด้วยสายตา หากว่าเป็นตามที่กล่าวก็แสดงว่าปกติ แต่หากไม่เปิดก็แสดงว่า เทอร์โมวาวล์เสีย ให้เปลี่ยนใหม่

ในกรณีที่เป็นปกติ แสดงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ให้สงสัยไว้ก่อนว่าน่าจะมาจากปะเก็นฝาสูบ หรือฝาสูบเกิดการรั่วในขณะที่ตัวเครื่องยนต์มีความร้อน ขั้นตอนนี้ต้องทำการตรวจสอบจากเครื่องมือวัดการรั่วของระบบระบาบความร้อนของเครื่องยนต์ ที่สามารถบอกให้ทราบว่ารั่วในขณะไหน เมื่อเครื่องยนต์เย็นหรือร้อน รั่วจากปะเก็นหรือฝาสูบ เพราะเครื่องมือตรวจเทสมีเกจวัดแรงดันของระบบน้ำหล่อเย็น
เมื่อเชครั่วของระบบ เมื่อเพิ่มอัดลมเข้าไปในระบบ จนถึงจุดแรงดันที่กำหนด หากรั่วในระบบแรงดันจากเกจมิเตอร์ก็จะลดลง หรือเกิดแรงดันอัดจากการรั่วของปะเก็นฝาสูบหรือฝาสูบ ก็จะมีแรงอัดดันให้เข็มของเกจมิเตอร์เพิ่มขึ้น ทั้งจัวหวะเร่งเครื่องและรอบเครื่องเดินเบา

ก็ขอให้ท่านเจ้าของกระทู้ลองไปให้ช่างตรวจสอบดูตามที่กล่าวมาก่อน .....srithanon

เพิ่มเติมครับเปลี่ยนวาล์วมาแล้วครับก่อนหน้านี้หม้อน้ำตันจึงซ่อมหม้อน้ำพร้อมเปลี่ยนวาล์วครับสงสัยคงต้องเช็คประเก็นกับฝาสูบแล้วล่ะครับแล้วพัดลมมีผลกับอาการของผมไหมครับ

จากที่เคยพบและซ่อมอาการเมื่อขับรถใช้ควมเร็วแบบปกติ 80-100 กม/ชม ในการเดินทางไกล จะพบว่าความร้อนอยู่ปกติ เข็มวัดความร้อนเกือบครึ่งของเกจวัดความร้อน แต่เมื่อใดที่เหยียบความเร็วเพิ่มขึ้นจากร้อยขึ้นไป เกจวัดความร้อนจะเริ่มขึ้นสูงเรื่อยๆ จนเกือบเต็มเกจเข้าขีดแดง จนน้ำในหม้อน้ำเดือด ดันน้ำทะลักออกจากฝาหม้อน้ำและหม้อพักน้ำ ต้องจอดรถดับเครื่องจนเครื่องเครื่องเย็นตัวลง แล้วค่อยเติมน้ำลงไป(น้ำในหม้อน้ำลดลงเกือบหมด) แต่หากใช้ความเร็วเกินร้อยแล้วความร้อนขึ้น ต้องลดความเร็วลงมาอยู่ที่ 70-80 ความร้อนก็จะลดลงมาเป็นปกติ ต้องประคองขับกลับมาถึงที่บ้าน

อาการที่เกิดขึ้นนี้เหมือนกับอาการของฝาสูบโก่งหรือรั่ว จากการตรวจซ่อมผลปรากฏว่า ในระบบทางเดินของระบบน้ำหล่อเย็น มีคราบตะกรันของสนิมสีน้ำตาลแดง เ้ข้าไปอุดตามท่อแป็บท่อแยกน้ำต่างๆ ที่นำน้ำเข้าไประบายความร้อนต่างๆ ที่นอกเหนือจากผนังห้องน้ำหล่อเย็นของเสื้อสูบ และที่เป็นผลอย่างมากก็เห็นพบว่าในห้องน้ำระบายความร้อนของเสื้อสูบ มีคราบสนิมสีน้ำตาลแดงเกาะผนังโลหะที่เป็นผนังของเสื้อสูบ ที่ต้องการระบายความร้อนของห้องสูบ ถูกผอกหนา และตามท่อทางเดินของน้ำที่เป็นทั้งโลหะและท่อยาง กว่าจะใช้น้ำที่มีแรงดันอัดเข้าไปในห้องน้ำระบายความร้อนของเสื้อสูบ (อัดแรงดันน้ำสวนทางกับระบบน้ำที่ไหลตามปกติ)และท่อทางเดินของน้ำต่างๆ ทำอยู่นานกว่าคราบสนิมสีน้ำตาลแดงจะมีน้ำใสปกติ คราบตะกรันสนิมที่ออกมาดูแล้วน่าตกใจมันมีมาก

การที่มีตระกรันสนิมไปพอกที่ผน้งของเสื้อสูบที่เป็นห้องน้ำระบายความร้อน  จะทำให้การถ่ายเทความร้อนจากเสื้อสูบลดลง  และถูกสะสมความร้อน  หากใช้เครื่องยนต์ในการเดินทางที่นาน  ทำให้เครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูง ทำให้น้ำในหม้อน้ำเดือดและระบบหม้อน้ำแห้งไป จนเกิดทำใหเเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีทได้    ช่างหลายอู่ที่แก้อาการนี้ไม่ตก ไม่ว่าจะลองเปลี่ยนปะเก็นฝาสูบ ฝาสูบก็ตาม


หลังจากที่ทำการล้างระบบเสร็จ ตรวจสอบความเรียบร้อยของข้อต่อท่อน้ำต่างๆในระบบน้ำหล่อเย็น ก็ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ วอร์มอยู่นาน ทั้งเร่งรอบเครื่องยนต์สูงๆ สี่ห้าพันรอบ สักพักความร้อนก็เป็นปกติ นำรถออกไปวิ่งทางไกลความร้อนก็ปกติ
ที่นำมากล่าว ก็อยากให้เป็นข้อเปรียบเทียบกับอาการของเจ้าของกระทู้ว่า มันจะเป็นไปได้ไหมว่าน่าจะมาจากอาการที่ผมนำมากล่าวลองทดสอบดูว่าจะเหมือนกันหรือไม่ ที่เวลาใช้แรงดันของน้ำอัดเข้าไปในห้องน้ำของเสื้อสูบและท่อทางเดินของน้ำต่างๆ แล้วอาการที่เป็นอยู่นี้จะหายเป็นปกติหรือไม่ ก่อนที่จะนำระไปตรวจเรื่องการรั่วของปะเก็นฝาสูบ หรือฝาสูบโก่ง ก็เป็นส่วนหนึ่งที่น่าทดสอบหาข้อมูลครับ และสิ่งที่ควรจะต้องทำก่อนที่จะมีการตรวจซ่อมอาการต่างๆ  ที่เครื่องยนต์ควรจะต้องตรวจสอบเรื่อวมุมองศาการจุดระเบิดให้ถูกต้องเสียก่อน  เพราะว่าหากมุมองศาการจุดระเบิดผิดไปในกรณีที่ มีมุมองศาการจุดระเบิดช้าไป  จะทำให้เครื่องยนต์มีความร้อนสูงร้อนในขณะใช้งาน

สำหรับเรื่องพัดลมหม้อน้ำถามว่ามีส่วนไหม  จะตอบว่าไม่มีส่วนก็จะพูดได้ไม่เต็มปาก หากเป็นที่พัดลมหม้อน้ำมีความเร็วรอบลดลงไม่สัมพันธ์กับการดูดเอาความร้อนออกจากหม้อน้ำ  ก็มีส่วนบ้างในกรณีที่รถมีการจราจรติดขัด  ไม่สามารถใช้ความเร็วของรถได้  แต่เมื่อใดที่รถใช้ความเร็วในการเดินทาง  จะมีอากาศที่ปะทะไหลผ่านตัวรังผึ้งของหม้อน้ำ  ช่วยระบายความร้อนให้เป็นอย่างดี ก็จะไม่ทำให้ความร้อนเกิดขึ้นสูง  แต่อาการที่คุณบอกว่าวิ่งไปแล้วเครื่องร้อนจะมีความร้อนสูงมีน้ำดันออกที่หม้อน้ำ  จึงไม่น่าจะใช่....srithanon

เราสามารถทำเองได้ไหมครับสำหรับการเอาแรงดันน้ำอัดเข้าไปที่ห้องน้ำเสื้อสูบหรือมีร้านไหนแนะนำบ้างครับผมอยู่แถวๆพระสมุทรเจดีย์เพิ่งมาทำงานได้ไม่นานไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์เลยครับ

เพิ่มเติมครับอาการของผมเหมือนกับที่คุณsrithanonกล่าวมาทุกประการครับผมไปล้างหม้อน้ำมาแล้วแต่ยังมีคราบสนิมสีน้ำตาลแดงออกมาที่หม้อพักเปิดฝาหม้อน้ำเช็คก็มีคราบสนิมสีน้ำตาลแดงเป็นเศษเล็กที่หม้อน้ำครับ

ทำเองได้ครับ หาปั้มน้ำแรงดันที่สามารถปรับได้ เช่นปั้มน้ำสำหรับล้างรถปรับความดันได้ หรือปั้มน้ำทั่วไปท่ใช้ในบ้าน วิธีการก็คือใช้วิธีการฉีดน้ำย้อนกลับเข้าห้องน้ำระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ให้ถอดท่อยางของหม้อน้ำออกทั้งท่อบนและท่อล่างที่ต่อมาจากตัวเครื่องยนต์ แล้วให้ถอดวาวล์น้ำออก เอาสายท่อน้ำที่มาจากปั้มน้ำ ใส่ลงไปที่ทางเข้าท่อยางด้านบนของหม้อน้ำที่ถอดออกตรงท่อเหล็กที่ต่อไปยังเทอร์โมวาวล์ แล้วเพิ่มแรงดันน้ำให้แรงพอสมควร อย่าแรงมาก

ก่อนออื่นให้เอาน้ำยาล้างหม้อน้ำ ผสมน้ำเทใส่เข้าไปในห้องระบายความร้อนของครื่องยนต์ โดยอุดท่อทางออกของน้ำด้านล่างตรงท่อยางที่ต่อไปเข้าหม้อน้ำ กันน้ำไหลออก ปล่อยไว้สักครึ่งชั่วโมงก่อน เพื่อให้น้ำยาล้างหม้อน้ำกัดสนิมตามผนังเสื้อสูบในห้องระบบายความร้อนของเสื้อสูบ แล้วค่อยทำตามข้างบน ใช่แรงดันน้ำไล่สนิมออกมา จนน้ำเป็นสีธรรมดาไม่มีสีของสนิม และอย่าลืมใช้แรงดันน้ำไล่ตามท่อยางของท่อน้ำทั้งหมดด้วย

อาการความร้อน ที่ใช้รถวิ่งระยะนานๆหรือทางไกล ก็จะเป็นปกติ เหตุการที่ผมเล่ามาให้ฟังตั้งแต่แรก เป็นประสบการณืจริงที่เกิดขึ้นกับผมเอง ใช้รถฮอนด้าซีวิค วิ่งไปบ้านพ่อตาที่นครศรีธรรมราช ช่วงสงกรานต์ ระหว่างทางขาไปเริ่มแสดงอาการความร้อนขึ้นสูงหากใช้ความเร็วรถเกินร้อย และหากขับต่อไปเครื่องจะมีเข็มความร้อนขึ้นสูง ต้องผ่อนคันเร่ง หากเผลอหม้อน้ำเดือดเกจวัดความร้อนขึ้นสูง น้ำในหม้อน้ำดันออกมา น้ำแห้งหม้อน้ำ พอขับไปถึงแถวบางสะพาน มรซุ้มนักศึกษาเทคนิค ตั้งเต้นบริการผู้เดินทางในวันสงกรานต์ ผมก็เอารถเข้าไปให้นักศึกษาและอาจารย์ที่คุมมาตรวจสอบ ทุกคนลงความเห็นว่า ฝาสูบโก่งบ้าง ปะเก็นรั่วบ้าง แต่ผมมีความคิดในใจว่าไม่น่าจะใช้ ตกลงก็ขับรเดินทางต่อ ไม่ใช้ความเร็ว ประคองไปเรื่อยๆ หากช่วงไหนขึ้นเนินเขา ใช้รอบเครื่องยนต์สูงความร้อนก็จะขึ้น จนกระทั้งขากลับมาถึงกรุงเทพ เลยให้ลูกน้องที่อู่ ทำการล้างหม้อน้ำและในห้องระบายความร้อนในห้องเสื้อสูบ ตามที่เล่าให้ฟังข้างต้น สุดท้ายก็ปกติ มีคำถามว่าทำไมจึงปักใจเชื่อ ก็เพราะผมอ่านตำราทางวิชาการด้านเครื่องยนต์มา ก็มีการกล่าวถึงเรื่องนี้กับปัญหาความร้อนขอเครื่องยนต์ที่เกิดขึ้น ในหลายๆส่วนที่ทำให้เกิดความร้อนขึ้นสูงระหว่างการใช้งานรถ

ขอเพิ่มเติมอีกนิด  กรณีความร้อนขึ้นสูงระหว่างใช้งาน  ให้ตรวจสอบปั้มน้ำ ว่าทำงานปกติหรือไม่  โดยการเมื่อวอร์มเครื่องยนต์จนมีอุณหภูมิความร้อนห้องเครื่อง  หรือพัดลมหม้อน้ำทำงาน  จากนั้นให้ดับเครื่องยนต์ หาผ้าชุบน้ำผืนใหญ่ๆ โปะฝาหม้อน้ำ แล้วค่อยคลายออกช้าๆ เพื่อให้แรงดันไอน้ำค่อยๆระบายออกจนหมด  แล้วค่อยเปิดฝาหม้อน้ำออก  จากนั้นให้สตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้ง แล้วให้ดูตรงที่เติมน้ำของหม้อน้ำ  ว่ามีน้ำไหลวนหรือไม่ แล้วค่อยๆเร่งเครื่องยนต์อีกนิดหน่อยว่าไหลวนเพิ่มขึ้นหรือไม่  ในกรณีที่ไม่ค่อยไหลวน  ให้สงสัยไว้ก่อนว่า ใบพัดของปั้มน้ำอาจสึก จากการกัดกร่อน อาจจะมีใบพัดชำรุดหรือมีใบสั้นลง จนไม่สามารถปั้มน้ำให้ไหลวนได้ปกติ  อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่เกิดทำให้ความร้อนขึ้นสูงเมื่อใช้รถไปสักระยะหนึ่ง  หากตรวจสอบแล้วไหลวนดี ก็ให้ทดลองทำตามที่แนะนำไว้  อาจโชคดีก็ได้ครับ(การที่ให้เปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่ร้อน ก็เพราะว่าวาวล์น้ำมันทำงานเปิดวาวล์ให้น้ำไหลผ่าน  หากอดฝาหม้อน้ำออกในขณะที่เย็น วาวล์น้ำยังไม่เปิด ก็จะไม่เห็นน้ำไหลวน  ยกเว้นในกรณีที่วาวล์เปิดค้างตลอกเวลา)......srithanon

ขอบคุณมากครับวันศุกนี้จะเดินทางจากกรุงเทพไปตราดแล้วจะไปทำที่บ้านครับได้ผลแล้วจะแจ้งครับอู่ของคุณsrithanonอยู่ที่ไหนครับมีโอกาสจะเอารถไปเข้าครับ

ข้อมูลดีๆมาให้เก็บเกี่ยวใส่หัวสมองอีกแล้ว

ขอติดตามเลยคุณ Srithanon.