ช่วยแนะนำหน่อยคับ
รถผม ปี 02 ติด gas วันก่อนขับอยู่ดีๆ(วิ่ง gas) มันก็เร่งไม่ขึ้น รอบก็ไม่ขึ้นด้วย ผมเลยดับเครื่องแล้วสตาร์ทด้วยน้ำมัน คราวนี้สตาร์ทไม่ติดเลย เลยทิ้งไว้สักพัก ลองสตาร์ทใหม่ ก็ไม่ติด เลยลองสตาร์ทด้วย gas ดันติดแล้ววิ่งได้ปกติเลย รุ่งเช้าวันต่อมา ลองสตาร์ทดู ถ้าสตาร์ทด้วยน้ำมันมันจะดับอย่างเดียวเลย ต้องสตาร์ทด้วย gas ถึงจะติด ผมเลยจัดการเปลี่ยน ปั้มติ๊ก ไป กลายเป็นอาการดังกล่าวหายเลย
แต่พออีก 2 วัน ขับรถมาระยอง ขากลับ อาการเดิมมาอีกแล้ว มันไม่ได้ดับกลางอากาศนะคับ ขับมา 100 จะเร่งต่อปรากฏว่ารอบตก เร่งไม่ขึ้น รอบก็ไม่ขึ้น เลยจอด แล้วสตาร์ทใหม่ ทั้ง น้ำมันและgas ไม่ติดทั้งคู่ เลยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที สตาร์ทใหม่ปรากฏเหมือนเดิม คือ น้ำมันสตาร์ทไม่ติด แต่สตาร์ทด้วย gas ติดแล้วก็ขับกลับบ้านมา ( ดีไม่ต้องกินข้าวลิง)
ช่วยบอกหน่อยคับอาการแบบนี้มันคืออะไรเสียหรือคับ ผมยังลังเลว่าจะใช่ TDC Sensor หรือป่าว

ในกรณีที่คิดว่า TDC sensor เสีย คุณจะสตาร์ทด้วยระบบแกสไม่ติดเช่นกัน ให้เข้าใจไว้ว่า ตัว TDC saensor ทำหน้าที่สร้างสัญาณพัลส์ ที่ได้จากการที่เพลาข้อเหวี่ยงเคลื่อนที่ดันลูกสูบให้เคลื่อนที่ตามมุมองศาก่อนถึงจุดศูนย์ตายบน แล้วส่งสัญญาณพัลส์ที่ได้นี้
ไปให้ ECU ส่งสัญญาณจุดระเบิด IGT ไปให้วงจรช่วยจุดระเบิดสร้างไฟโวลเต็จสูงจ่ายให้กับหัวเทียน เมื่อลูกสูบเคลื่อนที่ถึงองศาที่จะทำการจุดระเบิด ดังนั้นเมื่อมีการสตาร์ทเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะใช้ระบบน้ำมันหรือแก็ส เครื่องยนต์ก็จะติดทำงานด้วยกันทั้งสองระบบ

การที่สตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด จึงไม่ใช่สาเหตุที่เกิดจากตัว TDC sensor อาการที่ตัว TDC seneor เสีย จะมีอาการขับรถไปแล้วเครื่องยนต์ดับกลางอากาศหรือระหว่างทาง เมื่อเครื่องยนต์ดับแล้วจะสตาร์ทไม่ติด เพราะไม่มีไฟสูงจ่ายให้กับหัวเทียน ต้องรอสักระยะให้ตัวมันเย็นลงก่อน(อาการเสียเริ่มแรกๆ) แล้วถึงจะสตาร์ทติด เมื่อเป็นบ่อยและเกิดขึ้นถี่ สุดท้ายจะเสียถาวร ต้องเปลี่ยน ซึ่งอาการนี้เมื่อเริ่มเสียก็ควรเปลี่ยนทันทีไม่ต้องรอให้เกิดขึ้นซ้ำเป็นครั้งที่สอง อันอาจนำพาไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้ระหว่างการใช้งาน

การตรวจสอบว่าตัว TDC sensor เสีย ก็ตรวจสอบได้ง่ายๆ เพียงทำความรู้จักตำแหน้งที่ติดตั้งของตัว TDC sensor ที่ตัวเครื่องยนต์ว่าอยู่ตรงตำแหน่งไหน และดูว่ามีปลั๊กเสียบสายไฟสองเส้นที่ต่อไปยังตัว TDC sensor ก็ให้ทำการดึงปลั๊กสายไฟนั้นออก(ระหว่างที่เครื่องดับแล้วจอดข้างทางหรือที่ปลอดภัยในการจอกรถ) ให้ใช้โอมห์มิเตอร์วัดที่ขั่วเสียบสายไฟสองเส้นที่ต่อจากตัวปลั๊กลงไปที่ตัว TDC sensor หากมันเสียจะวัดอ่านค่าความต้านทานไม่ได้ หากไม่เสียหรือดี จะวัดค่าความต้านทานอ่านได้ประมาณ 600-700 Ohm ก็ทำให้เราทราบปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากตัว TDC sensor เป็นแบบปิคอัพคอย ที่มีขดลวดพันอยู่บนแกนเหล็ก เมื่อมีแม่เหล็กถาวรที่ติดตั้งที่เพลาข้อเหวี่ยง หรือจากชุดสร้างสัญญาณในตัวจานจ่ายในรถบางรุ่นที่ใช้จานจ่าย ก็จะทำให้เกิดสนามแม่เหล็กตัดกับขดลวดที่พันบนแกนเหล็ก เป็นจังหวะการหมันผ่านของแม่เหล็กถาวรที่ติดตั้ง จึงทำให้ตรวจสอบสัญญาณที่ว่านี้ได้ง่าย

เมื่อทราบข้อมูลในเรื่องตัว TDC sensor กันแล้ว ก็มาวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้น สมมุติว่าไม่ได้เกิดจากตัว TDC ตามที่กล่าวมา
ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นก็น่าจะมาจากระบบเชื้อเพลิงทั้งสองระบบคือแกสและน้ำมัน ซึ่งสาเหตุของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงมีปัจจัยที่จะทำให้เกิดอาการสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด มีได้หลายกรณีและหลายส่วน ต้องตรวจสอบตามขั้นตอน กล่าวคือการที่สตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด อันมาจากสาเหตุที่เกิดมีระบบหัวฉีดน้ำมันร่ว หรือหัวฉีดแก็สรั่ว ทั้งสองกรณีจะทำให้มีการสตาร์ทเครื่องยนต์ติดยาก ทั้งคู่

รถที่ใช้เชื้อเพลิงสองระบบเมื่อระบบหนึ่งระบบใดเกิดมีหัวฉีดรั่ว ย่อมทำให้มีน้ำมันหรือแกสรั่วไหลไปอยู่ในห้องสูบและในท่อไแดี หรือเรียกว่ามีน้ำมันตกค้าง ทำให้มีปริมาณน้ำมันหนาในห้องเผาไหม้ บวกกับในจังหวะสตาร์ทเครื่องยนต์ ECU จะสั่งจ่ายน้ำมันหนาในจังหวะจุดระเบิด เมื่อรวมกับน้ำมันแลหรือแก็สที่สะสมจากการรั่วของหัวฉีด จะยิ่งทวีคูณความหนาของนำ้มัน ในอัตราส่วนผสม การจุดระเบิดจะเกิดขึ้นอยาก จึงเป็นที่มาว่าทำไมถึงสตาร์ทไม่ติดเมื่อดับเครื่องยนต์แล้วทิ้งไว้สักสองสามนาทีแล้วมาสตาร์ทเครื่อง หรือในจังหวะที่เครื่องยนต์ทำงานขับอยู่ เมื่อมีอีกระบบหัวฉีดหนึ่งหัวฉีดใดรั่ว ทำให้อัตราส่วนผสมหนา การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ เครื่องยนต์ไม่มีกำลังรอบตกเร่งไม่ขึ้น จนเบาเครื่องยนต์ก็ดับ และเมื่อดับจะสตาร์ทไม่ติดทันที่ เพราภายในห้องสูบและท่อไอดียังมีน้ำมันตกค้างหนา

นการณีที่หัวฉีดรัวเราจำเป็นที่จะต้องรวจสอบการรั่วของระบบหัวฉีดว่ามาจากแก็สหรือน้ำมัน ให้ตรวจสอบดังนี้
หากไม่ได้ทำการตรวจการรั่วของหัวฉีดในเบื้องแรก ให้พิจารณากับการใช้ระบบแกสในการใช้รถยนต์ในครั้งนั้น ว่าเป็นอาการที่เจ้าของกระทู้มีปัญหาว่าเร่งไม่ขึ้นในขณะใช้งาน ให้ตัดการใช้ระบบน้ำมันโดยสิ้นเชิงก็คือให้คลายน็อตที่ท่อรางแรงดันน้ำมันออกปล่อยให้น้ำมันไหลออกให่หมด และที่ระบบสวิชททรานเฟอร์น้ำมันแกส ให้ใช้ระบบแก้สอย่างเดียว ลองลองขับรถใช้งานดู หากอาการที่เกิดปัญยหาขึ้นกลับมาเป็นปกติ ก็ให้แน่ใจว่ามีปัญหากัยระบบน้ำมัน อาจจะมีหัวฉีดรั่วแน่นอน(มักพบปัญหานี้บ่อย)

หากว่ายังคงมีอาการเดิมให้ ลองสลับมาใช้ระบบน้ำมันอย่างเดียว ปิดการใช้ระบบแกส ลองใช้รถยนต์ดูว่ามีแาการปกติหรือไม่ หากว่าปกติ แสดงว่าในระบบแกสมีปัญหา เครื่องยนต์ที่ใช้ระบบแกสแบบ Fix mixer จะมีปัญหาเรื่องหม้อต้มแกส ส่วนระบบหัวฉีด มักจะพบว่าระบบการคอนโทรลการจ่ายแกสมักมีปัญหา หรือในระบบแรงดันในท่อเพรชเชอร์ที่จ่ายแกส ลองตรวจสอบดูตามที่แนะนำก่อน เพราะปัญหานี้มีตัวร่วมในการเกิดปัญหามาจากส่วนอื่นอีก แต่หลักๆก็ตามที่ชี้แนะ......srithanon

ข้อมูลแน่นเลยครับ

ขอบคุณมากนะครับ คุณ Srithanon ผมจะลองดู จากที่อ่านทำให้เข้าใจได้แจ่มแจ้งเลยเกี่ยวกับ TDC Sensor ถ้างั้นเดี๋ยวผมลองทำตามที่ท่านบอกเลยนะคับ ผลเป็นไง เดี๋ยวผมจะมาแจ้งนะครับ

ขอบคุณอีกครั้งครับ

มาแจ้งความคืบหน้าคับ
ผมมาเช็คไฟ ปรากฏว่า ไดชาร์ตจ่ายไฟไม่พอ มันจ่ายแค่ 11-12 เอง(ยังไม่เปิดแอร์) ช่างบอกว่ามันควรจะอยู่ที่ 13-14 (เปิดแอร์ด้วย) เลยจัดการซ่อมไดรชาร์ต แล้วก็เปลี่ยนถ่านด้วยเลย
โดนไป ค่าอะไหล่ ผมไม่รู้เรียกว่าอะไร มันเป็นตัวแผ่นคล้ายฝาครอบ 1000 บาท + ถ่าน 300 + ค่าแรง 300 = 1,600 บาท

อาการหายเลยครับ แต่วิ่งเฉพาะใน กทม. ยังไม่ได้ลองต่างจังหวัดเลย