เตือนอีกอย่างครับ....ให้เติมน้ำมันให้เสร็จค่อยจ่ายตังค์อย่าจ่ายก่อนเติม....
เดี๋ยวสับสนเผื่อเติมนานลืมๆเอ๊ะมะกี้นี่จ่ายยังว่ะน่าจะยัง จ่ายอีก โดนมาแล้วว...เด็กปั๊มไม่บอกเรยยยย

อีกข้อรับอันนี้เกิดขึ้นกับตัวเองเลยครับ....เติมเสร็จแล้วคอนสังเกตด้วยว่ามันปิดฝาถังด้านในให้เราหรือยัง....รู้อีกทีตอนเติมน้ำมันครั้งต่อไปน่ะครับ

ได้ความรู้เพิ่มอิอิ ขอบคุณมาก ครับ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับ

และอีกอย่างคือคุณเคยเติมน้ำมันมันแตกต่างกันใหมครับ เติม ป ต ท กับ เชล หรือ เอสโซผมว่าแตกต่างเพราะการเติมอาจเท่ากัน และการออกตัว และการกินน้ำมัน ป ต ท กินกว่า ผมก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะอะไร เพราะผมเติม เชลดีกว่าเพราะการออกตัวและขับรถได้ไกลกว่า อัตราการเร่งก็เท่ากันรอคิดดูนะครับแล้วแต่ละคนครับผม ก

คนมีรถยนต์ส่วนใหญ่อาจจะเคยได้ยินเคล็ดลับเติมน้ำมันให้คุ้มค่ามาก่อน แรกๆ อาจจะเฉยๆ แต่ในยุคน้ำมันแพงเช่นนี้ ใครมีเรื่องดีมาบอกคงจะต้องหยุดฟังหน่อยแล้ว อย่างเรื่องต่อไปนี้

จากรายงานในนิตยสาร "Business Turbo" ฉบับ Energy saving" เดือนก.ค.บอกว่า มีบุคคลในวงการน้ำมันแห่งแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีประสบการณ์กว่า 31 ปี ทำงานอยู่คลังน้ำมันแห่งหนึ่งใน San Jose, CA

บอกเล่าเป็นวิทยาทานว่า จงเติมน้ำมันตอนเช้าขณะอุณหภูมิบนพื้นดินยังเย็นอยู่ เนื่องจากปั๊มน้ำมันทุกแห่งมีถังน้ำมันฝังอยู่ใต้ดิน เมื่อพื้นดินยิ่งเย็นน้ำมันยิ่งควบแน่น เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น น้ำมันจะขยายตัวตาม

หากเติมน้ำมันช่วงบ่ายหรือเย็น เราจ่ายค่าน้ำมัน 1 แกลลอนก็จริง แต่จะได้น้ำมันไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย

กลไกเหนี่ยวหัวฉีดน้ำมันมี 3 ระดับ คือ low, middle และ hight ขณะเติมน้ำมันอย่าให้เด็กปั๊มตั้งหัวฉีดอยู่ในตำแหน่งไหลเร็ว (ในอเมริกาเจ้าของรถเติมน้ำมันเอง) ให้การตั้งระดับไหลช้า จะเกิดไอระเหยของน้ำมันน้อยที่สุด หากตั้งในระดับไหลเร็ว น้ำมันบางส่วนจะกลายเป็นไอระเหย และถูกสูบย้อนกลับไปยังถังใต้ดิน

นั่นหมายถึงเราต้องจ่ายเงินมากกว่าที่ควร

ควรเติมน้ำมันเมื่อน้ำมันในรถเหลือครึ่งถัง เหตุผลคือ น้ำมันบรรจุในถังยิ่งมาก เนื้อที่ว่างสำหรับไอระเหยก็ยิ่งน้อย เพราะน้ำมันระเหยเป็นไอเร็วกว่าที่เราคาดคิด ในคลังเก็บน้ำมันจะมีอุปกรณ์ภายในถัง ทำหน้าที่เป็นเพดานลอยขึ้นลงตามระดับน้ำมัน ทำให้ไม่มีช่องว่างระหว่างน้ำมันกับอากาศ ลดไอระเหยของน้ำมันให้น้อยที่สุด รถขนส่งน้ำมันเมื่อมาบรรทุกน้ำมัน จึงเติมได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ผิดกับที่ปั๊มน้ำมันซึ่งไม่มีการชดเชยอุณหภูมิ

ขณะขับรถเข้าปั๊ม ถ้าเห็นรถบรรทุกกำลังถ่ายน้ำมันเข้าสู่ถังเก็บใต้ดิน อย่ารีบร้อนเติมน้ำมัน เพราะตอน "ลงของ" สิ่งแปลกปลอมซึ่งปกติจะตกตะกอนอยู่ใต้ถังจะถูกปั่นป่วนจนลอยตัว หากเราเติมน้ำมันช่วงเวลานั้น อาจมีโอกาสดูดเอาสิ่งแปลกปลอมใส่ถังน้ำมันในรถเราได้

เป็นเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ น่าสนใจในยุคน้ำมันแพง

ข้อมูลจาก : นิตยสาร "Business Turbo" ฉบับ Energy saving" เดือนก.ค.

ตอบสั้นๆนะครับถ้าอธิบายจะยาวครับแปลมาจากเวปนอก
เวลาไปเติมน้ำมันอย่าบอกเด็กว่าเต็มถังนะครับ เพราะลูกลอยของเครื่องส่งมันจะสั่งคัดน้ำมันเมื่อได้ระดับ ทำให้น้ำมันค้างอยู่ในสาย เราจะขาดทุนอยู่ประมาณ1สว่น4ของลิตร เฉพาะนั้น เวลาเติมเราควรบอก1000 ถ้าอยากให้ได้ปริมาณเต็มจำนวนเงินที่จ่ายจริง

เวลาเติมเราควรบอก1000 ถ้าอยากให้ได้ปริมาณเต็มจำนวนเงินที่จ่ายจริง
+1
เวลาไม่มีตังค์น่ะ เติมน้อยๆแว้บเดียวหมด (คิดในใจว่าอะไรอ่ะ เพิ่งเติม หมดอีกและ ยิ่งไม่มีตังอยู่)
พอเติมเต็มถังจะรู้สึกวิ่งได้หลายวันกว่า เกจ์ก็ลดช้า ดีกับถังน้ำมันด้วย

ใครให้เด็กปั้ม เติมน้ำมันใส่แกลอน สองแกลอนสี่ลิตรเท่าๆกัน
1แกลอนเติมช้า อีก1แกลอนเติมไว
พบว่าได้น้ำมันในแกลอนเท่ากันเลยครับ

ทริปที่ผมเอามาลงไม่ใช่แบบที่คุณAndy ผูดมานะครับ

เป็นทริปที่จะบอกว่า น้ำมันเหลือครึ่งถังก็เติมให้เต็ม เพราะมันจะไม่มีช่องว่างของอากาศเยอะทำให้น้ำมันไม่ระเหยออกไปเยอะครับ
ลองสังเกตุเล่นๆแบบที่คุณppn กล่าวดู น้ำมันหมดเติมทีละ200-300ทำไมหมดไวกว่าเติมเต็มถังก้เพราะน้ำมันมีช่องว่างของอากาสเยอะ
แล้วต้องขอขอบคุณ คุณpop_2008มากครับ ที่มาช่วยกันสรุปข้อคิดดีๆครับ ไม่ใช่ว่าจะโดนโกงจากหัวจ่ายตามที่คุณAndyกล่าวนะ

สรุปคือ เติมตอนเช้าๆหรืออากาศเย็น น้ำมันจากในถังจะไม่ระเหยเยอะ แล้วก้ออย่าปล่อยให้มีช่องว่างของอากาศในถังเยอะ น้ำมันจะระเหยได้ไวถ้ามีช่องอากาศมาก ขอบคุณทุกคอมเม้นครับ

ถูกอย่างที่คุณnokmodify กล่างมาทั้งหมดครับ เรื่องการระเหอยตัวและค่าอุณหภูมิต่างๆของน้ำมัน
ผมขอแค่เสมอข้อมูลละกันนะครับ (เผื่อเป็นอีกทางเลือก)
เรื่องหัวจ่าย จะบอกเอาเข้าใจง่ายๆว่า เวลาเราบอกเด็กว่าเต็มถังน้อง! หัวจ่ายจะคำนวนค่าน้ำมันที่ถูกส่งมา แล้วพอได้ระดับ ตัวเลขที่เครื่องจะหยุดที่ตัวเลขเงินที่เราต้องจ่าย แต่น้ำมันที่ถูกปล่อยออกมาจะถูกดึงกลับไปที่หัวจ่าย เนื่องจากลูกลอยที่หัวจ่ายจะเขาใจว่าเป็นน้ำมันที่จะล้น แต่นั่นมันคือเงินที่เราจ่ายไปแล้ว(ตัวเลขมันจะไม่หมุนกลับนะครับ) อาจจะไม่มากแต่ก็เป็นเงินของเรา //สว่นเรื่องการเติมตามจำนวนเงินนั้นเป็นสิ่งที่ดีครับเพราะหัวจ่ายจะจ่ายจริงตามจำนวนที่เราจ่าย เช่น เติม 1000ก็ออกเท่าที่จ่าย แต่เต็มถังบางทีเราเองยังกะผิดๆถูกเลย อยู่ที่ตอนเติมปั้มนั้นๆ แต่จริงๆแล้วหัวจ่ายมันมาตรฐานเท่ากัน อยู่ที่การตัดน้ำมันกับตัวเลขหน้าเครื่องมากกว่านะครับ //สว่นการเติมใส่ภาชนะต่างๆนั้นเป็นการเติมตามจำนวนเงินที่เราจ่าย จะช้าหรือเร็วก็ออกเท่าที่เราจ่ายครับ
คงไม่มีแบบสั่งเติมเต็มแกรอนแล้วปล่อยให้เครื่องตัดเอง อันนั้นมันกะยากนะครับ
ขนาดมอไซค์บอกเติมถังยังกลัวล้นเลยครับ(honda click)เด็กยังกดทีแรก50บ.ก่อนครับ

ขอบคุณทุกคนครับ

เก็บเป็นข้อมูลครับ แล้วถ้าเป็นก๊าชล่ะ

ยุกต์นี้ต้องประหยัดจริงมะ ขอบคุณ คุณAndy นะครับ

เทคนิคการเติมน้ำมัน...ดีมากๆ?

--------------------------------------------------------------------------------

น้ำมันแพง ............ ..ต้องฉลาดเติม

ไม่ทราบว่าเหล่าผู้ชายเช่นคุณควักกระเป๋าจ่ายเงินค่าน้ำมันกันยังไงแต่ที่ California ผู้ใช้รถก็จ่ายไม่เบา จนมีผู้รู้สอนเคล็ดลับการเติมน้ำมันเพื่อช่วยให้ผู้ใช้รถจ่ายเงินอย่างคุ้มค่า
ผู้รู้ซึ่งมีประสบการณ์ในวงการน้ำมันกว่า 31 ปี

เล่าว่าเขาทำงานที่คลังน้ำมันแห่งหนึ่งใน San Jose , CA ซึ่งมีคลังเก็บ 34 คลัง ขนาดบรรจุรวม 16,800,000 แกลลอน ณ ที่นั่นแต่ละวันจะจ่ายน้ำมัน ประมาณ 4 ล้านแกลลอน ตลอด 24 ชม.โดยวันหนึ่งจ่ายน้ำมันดีเซล อีกวันหนึ่งจ่ายน้ำมันเครื่องบินและน้ำมันรถยนต์เกรดต่างๆ สลับกันเขาบอกว่า

1. จงเติมน้ำมันตอนเช้าขณะที่อุณหภูมิบนพื้นดินยังเย็นอยู่
อย่าลืมว่าปั๊มน้ำมันทุกแห่งมีถังน้ำมันฝั่งอยู่ใต้ดิน เมื่อพื้นดินยิ่งเย็นน้ำมันยิ่งควบแน่น เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น น้ำมันก็จะขยายตัวตามดังนั้น หากเติมน้ำมันช่วงบ่ายหรือเย็น คุณจ่ายค่าน้ำมัน 1 แกลลอน แต่ได้มาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยธุรกิจค้าน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเบนซิน ดีเซล น้ำมันสำหรับเครื่องบินเอทานอล หรือผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื่นๆ อุณหภูมิและความถ่วงจำเพาะมีบทบาทสำคัญ อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเพียง 1 องศา หมายถึง.........เงินมหาศาลในธุรกิจนี้ แต่ปั๊มน้ำมันไม่มีการชดเชยอุณหภูมิให้ลูกค้า

2. ขณะเติมน้ำมัน อย่าให้เด็กปั๊มตั้งหัวฉีดอยู่ในตำแหน่งไหลเร็ว (ในอเมริกาเจ้าของรถต้องลงมือเติมเอง)
หากคุณสังเกต จะเห็นว่ากลไกเหนี่ยวมี 3 ระดับ คือ low, middle, และ higt เมื่อตั้งในระดับไหลช้า จะเกิดไอระเหยของน้ำมันน้อยที่สุดหากตั้งในระดับไหลเร็ว น้ำมันบางส่วนจะกลายเป็นไอระเหยและถูกสูบย้อนกลับไปยังถังใ้ต้ดิน นั่นหมายถึงคุณจ่ายเงินมากกว่าที่ควร

3.เคล็ดลับอีกอย่างคือ
ควรเติมน้ำมันเมื่อน้ำมันในรถเหลือครึ่งถัง(แหล่งข้อมูลบางแห่งแนะนำว่า เติมน้ำมันแค่ครึ่งถังก็พอจะได้ลดน้ำหนักบรรทุกและประหยัดน้ำมัน ทั้งนี้และทั้งนั้นขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณตัดสินเอาเองก็แล้วกัน?หมายเหตุผู้แปล)

เหตุผลคือ น้ำมันบรรจุในถังยิ่งมาก เนื้อที่ว่างสำหรับไอระเหยก็ยิ่งน้อยเพราะน้ำมันระเหยเป็นไอเร็วกว่าที่คุณคาดคิดในคลังเก็บน้ำมันจะมีอุปกรณ์ภายในถัง ทำหน้าที่เป็นเพดานลอยขึ้นลงตามระดับน้ำมัน ทำให้ไม่มีช่องว่างระหว่างน้ำมันกับอากาศลดไอระเหยของน้ำมันให้น้อยที่สุด รถขนส่งน้ำมันเมื่อมาบรรทุกน้ำมันจึงเติมได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ผิดกับที่ปั๊มน้ำมันซึ่งไม่มีการชดเชยอุณหภูมิ

4. ข้อเตือนใจอีกข้อหนึ่ง
ขณะที่คุณขับรถเข้าปั๊มถ้าเห็นรถบรรทุกกำลังถ่ายน้ำมันเข้าสู่ถังเก็บใต้ดินจงอย่ารีบร้อนเติมน้ำมันช่วงเวลานั้น เพราะตอน "ลงของ" สิ่งแปลกปลอม ซึ่งปกติตกตะกอนอยู่ใต้ถัง จะถูกปั่นป่วนจนลอยตัว หากคุณเติมน้ำมันช่วงเวลานั้น อาจมีโอกาสดูดเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่รถคุณได้

ที่มาFw.mail

Attached File :

มีประโยชน์ดีจริงๆ ขอบคุณครับ

ขอบคุนคับ

เยี่ยมไปเลยครับ