นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 ก.ย.นี้ กรมการขนส่งทางบก จะประชุมร่วมกับตัวแทนแพทยสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดคุณสมบัติเพิ่มเติมในการทำใบขับขี่ โดยจะเพิ่มกลุ่มภาวะเสี่ยงต่อการขับรถอีก 10 อาการ จากกฎหมายเดิมที่กำหนดอาการต้องห้ามในการขับขี่รถยนต์เพียง 5 ประเภท คือ ต้องไม่เป็นโรคติดต่อเป็นที่รังเกียจ เช่น โรคเท้าช้าง โรคเรื้อน ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต ไม่ติดสุรา ยาเสพติด หรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ซึ่งถือว่ายังไม่ครอบคลุมอาการบางประเภทที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการขับรถ



สำหรับ 10 กลุ่มเสี่ยงที่เพิ่มเติม ได้แก่
1.กลุ่มเสี่ยงในระบบประสาทและสมอง  เช่น โรคลมชัก
2.กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน
3.กลุ่มเสี่ยงอาการวูบหมดสติ
4.กลุ่มเสี่ยงโรคหัวใจ
5.กลุ่มเสี่ยงโรคหลอดเลือด
6.กลุ่มเสี่ยงด้านการมองเห็น เช่น ลานประสาทตามองเห็นด้านตรงแต่มองไม่เห็นด้านข้าง
7.กลุ่มเสี่ยงประสาทการได้ยิน เช่น หูหนวก หูตึง
8.กลุ่มเสี่ยงการเคลื่อนไหวผิดปกติ เช่น โรคพาร์กินสัน
9.กลุ่มเสี่ยงปัญหาทางจิตผิดปกติ ความเสี่ยงนอนหลับผิดปกติ ซึ่งเสี่ยงอาจให้เกิดโรคหลับใน
10.กลุ่มเสี่ยงจากใช้ยาประเภทต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดการกดประสาท ง่วงซึม ดังนั้นต่อไปผู้สอบใบขับขี่จะต้องตรวจสุขภาพและได้รับใบรับรองแพทย์ 10 อาการก่อนมาทำใบขับขี่ทุกครั้ง

ราคาใบรับรองแพทย์จะสูงขึ้นครับ

ใบขับขี่หมดอายุเดือนนี้พอดีเลย ไม่รู้จะเจอขั้นตอนอะไรบ้าง

เห็นด้วยครับ ที่การสอบใบขับขี่จะเข้มงวดขึ้น มันเป็นความปลอดภัยต่อเพื่อนร่วมทาง อาจจะไม่สะดวกเรา แต่เราต้องเป็นห่วงเพื่อนร่วมทางด้วย



ส่วนการต่อใบขับขี่ ผมต่อที่ใบขับขี่ที่ขนส่งนนท์

ทดสอบประสาทสัมผัส ทดสอบสายตา

อบรม 1 ชั่วโมง มีวิทยากร ไม่เปิดวีดีโอ อบรมสนุกขำขัน ไม่น่าเบื่อ

ถ่ายรูปรับบัตร

ค่าใช้จ่ายประมาณ 600


ปล.ถ้าขาดเกิน 1 ปี ไม่เกิน 3 ปี ต้องทำข้อสอบ 50 ข้อเพิ่ม คะแนน 45 ขึ้นไปผ่าน

ปล.2 การทำข้อสอบวิเคราะห์ ให้ยึดกฏจราจรเป็นหลัก ความรู้สึกส่วนตัวให้เก็บไว้อย่าเอามาทำข้อสอบ

ปล.3 สามารถรวบทำพร้อมกันทั้ง รถยนต์และมอไซด์

อะไรกันครับพี่น้อง 555

คงยากครับ
คำจำกัดความว่ากลุ่มเสียงคืออะไร มันไม่ชัด
เช่น กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน คือคนแบบไหน มันก็เสียงทุกคน อ้วน ผอม ก็เป็นได้