ถ้าซ้ำก็ขออภัยด้วยนะครับ

ขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมัน

การขับรถ ไม่ใช่เพียงนั่งหลังพวงมาลัย แล้วบังคับให้รถวิ่งไปตามถนน ได้อย่างปลอดภัยไม่ผิดกฎจราจรเท่านั้น แต่คนใช้รถควรจะรู้จักรถของตนเอง ให้มากที่สุด เช่น การออกตัว การชะลอ การเบรก และความเร็ว ฯลฯ จะต้องประมาณไหนจึงจะปลอดภัย อีกย่างหนึ่งที่หลายคนให้ความสนใจคือ การขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมัน เรามีวิธีซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าได้ผลมาแนะนำ

การออกตัว หลักการสตาร์ทเครื่องยนต์ ก่อนออกตัวควรติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้นาน ครึ่งถึง 1 นาที เพื่อให้เครื่องยนต์ปรับสภาพ จากนั้นออกตัวด้วยรอบเครื่อง และความเร็วไม่สูงนัก เมื่อเครื่องยนต์ร้อนถึงอุณหภูมิปกติจึงขับได้ตามปกติ 

การเพิ่มความเร็ว ควรควบคุมความเร็วและจังหวะเกียร์ให้สัมพันธ์กัน รักษาน้ำหนักในการกดคันเร่ง ให้สม่ำเสมอ และกดคันเร่งลึกพอประมาณ ไม่ควรกดคันเร่งจมมิดหรือกระแทก คันเร่งอย่างแรง เพราะจะทำให้รอบเครื่องยนต์ สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สิ้นเปลืองน้ำมัน เชื้อเพลิงมากขึ้น

การรักษาความเร็ว ควรใช้ความเร็วไม่เกิน 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และรักษารอบเครื่องไว้ที่ 2,500 – 3,000 รอบต่อนาที ทั้งนี้ต้องสัมพันธ์กับเกียร์ด้วย หากเป็นระบบเกียร์ธรรมดา ไม่ควรเปลี่ยนเกียร์ที่รอบต่ำเกินไป เพราะเครื่องยนต์กำลังน้อย ไต่ความเร็วได้ช้า ต้องกดคันเร่งมากขึ้น และไม่ควรเปลี่ยนเกียร์ที่รอบสูงเกิน 3,000 รอบต่อนาที ควรเปลี่ยนเกียร์ที่ 2,500 – 3,000 รอบต่อนาที สำหรับเกียร์อัตโนมัติใช้เกียร์ D โดยเครื่องยนต์จะเปลี่ยนเกียร์ให้ที่ความเร็วที่เหมาะสม

การลดความเร็ว เช่นเดียวกับการกดคันเร่ง ในการถอนคันเร่ง ควรรักษาน้ำหนักในการถอนคันเร่ง ให้สม่ำเสมอ ไม่ควรลดความเร็วกะทันหัน เพราะหากต้องเพิ่มความเร็วต้องกดคันเร่ง เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

การเบรก ควรใช้เบรกเท่าที่จำเป็น ทั้งนี้ควรประเมินสถานการณ์ของการจราจรด้วย ควรใช้ความเร็วและเว้นระยะห่างจากค้นหน้าให้เหมาะสมไม่ขับจนชิดคันหน้ามากเกินไป เพราะอาจทำให้ต้องใช้เบรกมากขึ้น

ปัจจัยที่มีผลต่อการประหยัดน้ำมัน

ลมยาง ควรตรวจสอบแรงดันลมยางเป็นประจำ ทุกล้ออย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง เพราะหากลมยางอ่อนจะทำให้มีแรงเสียดทานระหว่างยางกับพื้นถนน ทำให้เครื่องยนต์ต้องรับภาระให้การหมุนล้อเพิ่มขึ้นทั้งสิ้นเปลืองน้ำมัน และสึกหรอยิ่งขึ้น    

อุปกรณ์ไฟฟ้า ควรปิดระบบปรับอากาศ ไฟหน้ารถ เครื่องเสียง ทุกครั้งก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ เพราะในขณะสตาร์ทมอเตอร์จะใช้กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่สูงมาก ทำให้ต้องเสีย น้ำมันที่จ่ายเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยเปล่าประโยชน์ หากเปิดแอร์ควรปรับปุ่ม ทำความเย็นไว้ที่ 50-75 % เพื่อให้คอมเพรสเซอร์แอร์ตัดการทำงานบังลดภาระ ของเครื่องยนต์ ช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้

น้ำหนักการบรรทุก การบรรทุกสิ่งของต่าง ๆ ไว้ในรถเกินความจำเป็น จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพลิง ยิ่งขึ้นโดยมีการวิจัยบอกว่า ถ้าขับรถโดยบรรทุกน้ำหนัก ที่ไม่จำเป็น 10 กิโลกรัม เป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร จะทำให้สิ้นเปลือง น้ำมันเชื้อเพลิงประมาณ 40 ซีซี

การตรวจเช็ดตามระยะ ควรดูแลเครื่องยนต์และอุปกรณ์ต่าง ๆ อาทิ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ ไส้กรองอากาศ เบรก ฯลฯ โดยเข้ารับการตรวจเช็ดตามระยะ และเปลี่ยนอะไหล่ต่าง ๆ ตามกำหนด เพราะความไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ และชิ้นส่วนต่าง ๆ จะทำให้เกิดการสิ้นเปลือง น้ำมันเชื้อเพลิง และส่งผลต่อ อายุการใช้งานของรถ

การวางแผนการเดินทาง การเดินทางโดยมีการวางแผนว่าจะใช้ถนนสายใด เพื่อให้ถึงที่หมายโดยเร็วที่สุด หรือศึกษาทางลัดต่าง ๆ จากแผนที่ จะได้ไม่ต้องไปติดบนถนน ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน และเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์

สิ่งสำคัญที่สุดของการขับรถควรคำนึงถึงความปลอดภัยมากที่สุด ส่วนการขับรถให้ ประหยัดน้ำมันสามารถทำได้พอสมควร หากสถานการณ์คับขัน เช่น ต้องเร่งแซง หลบหลีกก็ต้องกดคันเร่ง เพิ่มความเร็วเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

ขับไปจอดบ้านเพื่อนแล้วอาศัยรถมันไปครับ ขับไปถึงรีบจอดแล้วก็ล็อครถเดินไปเปิดประตูรถมันเลย รีบขึ้นรถไปแล้วก็คุยเรื่องอื่นต่อทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

หลักการง่ายๆ ถ้าจะให้กินน้ำมันน้อย ประหยัดน้ำมัน คือ
ใช้คันเร่ง และเบรค ให้น้อยที่สุด

ได้ความรู้ดีๆอีกแล้ว 

ขับรถให้น้อยที่สุดคับโคตรประหยัด