oat_es03 พิมพ์ว่า: |
ขอบคุณครับ ไอ้พวกเหี้ยๆมันจะคิดได้มั้ยเนี่ย
ปล.เมื่อวานดูทีวีช่องนึง(ช่องสีสดๆ) คนดำเนินรายการและผู้ร่วมรายการมันบอกว่า พื้นที่แค่ 4.6 ตร.กม.มันนิดเดียว จะไปหาเรื่องทะเลาะกันทำไม เอาความสัมพันธ์ไว้ดีกว่า เดี๋ยวฮุนเซ็นเค้าโกรธจะกระทบกระเทือนความสัมพันธ์ มันพูดยังกับมันไม่ใช่คนไทย |
kobkobok พิมพ์ว่า: |
สุดยอด |
LnwwasaD พิมพ์ว่า: |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
อ้างอิงจาก: |
ผมขอ ขวางโลก หน่อยครับ!
พวกเราหยุดชื่นชมทีมทนายไทยเถอะครับ เพราะ แท้ที่จริง ทีมทนายไทย ก็ไม่ได้ไปทำสิ่งที่ดีแก่ประเทศไทยหรอกครับ ที่ผมแน่ใจเพราะผมเพิ่งฟังคำถอดเทปของทีมทนายไทย โดย อัครพงษ์ ค่ำคูน หนึ่งในนักวิชาการ 7.1 ล้าน และ ป้าสำเนียง ของพวกเรา สองคนนี้พูดตรงกันว่า คำแถลงคดีของทนายฝ่ายไทย พูด ดังนี้ (ที่ก่อนหน้านี้ไม่รู้เพราะ ไอ้และอีคนแปลมันจงใจพูดให้คนไทยไม่รู้เรื่อง ซึ่งนี่ก็คือส่วนหนึ่งในแผน ยอมแพ้ ของทางการไทย คือ แกล้งแปลมั่วๆ คนจะได้ตามไม่ทัน แล้วก็มาหลงรูป นส. มิรง และท่าทีที่ดูน่าชื่นชมของ นายวีรชัย กันแทน ซึ่งได้ผลอย่างชงัด จริงหรือไม่ ดูจากเสียงชื่นชมของคนไทยใน โซเชียล มีเดีย) 1. รัฐบาลไทยได้จงใจสละ ข้อสงวนสิทธิ์ ของพันเอก ถนัด คอร์มันต์ เมื่อ เดือน กรกฎาคม 2505 ทิ้งไป ซึ่ง มีผลใ้ห้เท่ากับว่า - ไทยได้สละสิทธิ์ที่จะเรียกร้องตัวปราสาทพระวิหารคืนในอนาคต - ไทยได้ยอมรับคำตัดสินเมื่อ 15 มิถุนายน พศ. 2505 ของศาลโลก ทั้งๆ ที่ ที่ผ่านมาเราประกาศไม่ยอมรับ และป็นข้อต่อสู้อันแข็งขันของเรามาตลอด แต่จากการแถลงในศาลโลก 2 ครั้งที่ผ่านมา เราได้สละข้อต่อสู้นี้ไปแล้ว - ไทยได้ยอมรับว่า เส้น หรือ แนวรั้วลวดหนามตามมติ ครม. 2505 เป็นเส้นเขตแดน ทั้งๆ ที่ในอดีตเราพูดถึงเส้นนี้ว่าไม่ใช่เส้นเขตแดน แต่ เป็นแนวปฏิบัติการ (operation line) ซึ่งทำให้เส้นเขตแดนของเราตรง เป้ยตาดี อันเป็นที่ตั้งตัวปราสาท ไม่ได้เป็น แนวสันปันน้ำ อีกต่อไป 2. รัฐบาลไทย แถลง ตลอด 2 วันว่า ไทยยอมรับคำตัดสินเมื่อปี 2505 ทั้งๆ ที่ไทยมี ข้อสงวนสิทธิ์ (ตามข้อ 1) แล้วแกล้งแถลงว่าไทยยอมรับคำตัดสินด้วยการถอนทหารไปแล้ว แต่ข้อแก้ตัวเช่นนี้ ส่งผลร้ายต่อประเทศไทย เพราะ เท่ากับเรายอมรับคำตัดสินไปโดยปริยาย 3. รัฐบาลไทยส่งทีมทนายไปเล่น ปาหี่ ตบตาคนไทยทั้งประเทศ ว่าต่อสู้เต็มที่แล้ว แต่เนื้อหาของการต่อสู้ คนไทยไม่ได้ตระหนักรู้เลยว่าเป็นผลร้ายต่อไทย เพราะพวกกระทรวงการต่างประเทศมันจงใจแปลคำแถลงคดี แบบ 'คำต่อคำ' ซึ่งไม่มีทางจะแปลให้ฟังแล้วรู้เรื่องอยู่แล้ว แต่จุดประสงค์ของการแปลให้ไม่รู้เรื่องหาใช่เป็นข้ออ่อนด้อยทางภาษาแต่อย่างใด แต่การแปลให้ไม่รู้เรื่องเป็นแผนหลอกให้คนไทยตายใจจากท่าทีที่ดูน่าเชื่อถือของทนายไทย ต่างหากครับ (ย้ำอีกที! คนที่กำลังหลงไหลได้ปลื้มกับหน้าตาของน้องมิรง และ มาดอันดูดีของ นายวีรชัย คุณกำลังถูกหลอกครับ) 4. รัฐบาลไทย เพิกเฉย ข้อเสนอของ ศ. สมปอง ที่ให้สู้ด้วยการประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาล (ไม่ใช่ไปสู้ด้วยการแถลงคดีว่า ศาล ไม่สามารถรับตีความคดีนี้นะครับ มันคนละเรื่องกันเลยครับ) เพราะ การต่อสู้ตามคำเสนอของ ศ. สมปอง จะทำให้ไทยได้เปรียบอย่างมาก แต่ กท. การต่างประเทศ ไม่เลือกแนวทางนี้ ก็เท่ากับว่า กท. การต่างประเทศ รับใบสั่งนักการเมืองมาให้ไปสู้แบบ ยอมแพ้ ดังนั้น เลิก เห่อเหิม แห่แหน นส. มิรง ท่านทูตวีรชัย กันเถิดครับ คนพวกนั้นเขาเล่นละคร ตบตา คนไทยอยู่ครับ สิ่งที่ควรทำ คือ จับมือรวมตัวกันไว้ เพื่อรอรับคำตัดสินที่จะออกมาตอนปลายปี ซึ่งเป็นผลร้ายต่อประเทศไทยอันเป็นที่รักของพวกเราอย่างแน่นอน แล้วร่วมกันกดดันให้รัฐบาลไทยประกาศไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลโลก (ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้ายแล้วที่เราจะใช้วิธีนี้ต่อสู้ ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เราไม่เสียดินแดน) ปล. เตรียมตัวรับ มุข ของรัฐบาลไทยในอนาคตอันใกล้นี้ที่จะพูดประมาณว่า ถ้า คำตัดสิน ไม่ได้ให้เราเสียดินแดนตามเส้นในแผนที่ Annex1 เราน่าจะยอมรับได้ หรือ ถ้าเราเสียพื้นที่เพิ่มขึ้นบ้างเล็กน้อย รัฐบาลไทย ก็จะหลอกให้คนไทยยอมรับได้นะครับ ระวังกันไว้ให้ดี! ลองใช้วิจารณญาน กันดูนะครับ |
อ้างอิงจาก: |
ผมจึงขอชี้แจง ดังนี้
ก่อนอื่น ผมไม่ได้คิดว่าท่านทูตวีรชัยและคณะทนายไทย เป็นทีมงานที่หลอกลวงคนไทยนะครับ ผมดูการทำงานของท่านทูตวีรชัยและคณะด้วยความชื่นชมยินดี เพียงแต่ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแนวทางที่ ท่านทูตวีรชัย และ คณะ ไปต่อสู้นั้นเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เราแน่ใจได้อย่างไรว่า ทีมงานท่านทูตวีรชัย (ที่ผมตอนนี้อยากเรียกว่า ทีมงานน้องมิรง และ คณะ) (ฮา) ไม่ได้ถูกหลอกให้ไปทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่แท้ที่จริงแล้ว ศาลโลก มีธงอยู่ในใจอยู่แล้ว นั่นคือ ต่อให้การแถลงของทนายฝ่ายไทยดีแค่ไหน แต่ ศาลโลก ก็จะยังตัดสินโดยยืนอยู่บนพื้นฐานผลประโยชน์ของกำพูชา เพราะ 'ใบสั่ง' มันมีมาอย่างนั้น นี่คือประเด็นที่ผมพูดถึงทีมงานทนายไทยครับ ผมไม่ได้ไม่ชื่นชมทนายไทยครับ แต่ผมอยากเตือนสติว่าอย่าหลงประเด็น มัวแต่หลงระเริงดีใจไปกับ ท่าที ที่ดูดีของทนายไทยครับ เพราะ ศึกครั้งนี้ เราไม่ได้สู้กับเขมรฝ่ายเดียวครับ เราสู้อยู่กับทุนนิยมสามานย์ ที่ใหญ่กว่า เขมร ศาลโลก และ ละคอนลวงโลก บทนี้มากกว่านั้นเยอะครับ ดังนั้น ข้อเขียนในสเตตัสนั้นของผม ถ้าไปสร้างความกังวลให้แกท่านใด ผมขออภัยที่เขียนไม่รอบคอบครับ ความผิดนั้นผมขอรับไว้คนเดียว แต่อยากบอกให้ เชื่อมั่น และ ต่อสู้อย่างร่าเริง ต่อไปครับว่า ไม่ว่าปลายปีนี้ ผลของคำตัดสินจะเป็นอย่างไร (ผมก็ยังชอบน้องมิรง อยู่ดี) (กร๊ากกกกกกก) เราไม่ได้ แพ้พ่าย นะครับ เพราะถึงตอนนั้นเรายังสามารถเลือกแนวทางตามที่ อ. ปานเทพ พูดมาไงครับว่า ถ้าผลคำตัดสินเป็นโทษต่อไทย เราก็ประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลโลกเสียก็หมดเรื่อง (แต่ไม่หมดเรื่องเลยหรอกครับ เพราะต้องเตรียมทำสงครามกับเขมรแน่ๆ หลังจากนั้น!!!!) (อันนี้ต่างหากที่น่ากังวลใจ ต่อจากนั้น) ดังนั้น! อยากขอย้ำเตือนให้ทุกท่าน ติดตาม เหตุการณ์นี้อย่างใช้การไตร่ตรองให้มากที่สุด อย่ามองอะไรชั้นเดียวง่ายๆ ครับ (เรื่องนี้มันไม่มีอะไรง่ายๆ ชั้นเดียวมาตั้งแต่เริ่มแล้วล่ะครับ) แต่อย่าได้กังวลเกินไป เพราะผมมั่นใจว่าในที่สุด ความดี ย่อมชนะ ความชั่ว อยู่วันยันค่ำครับ ใครคือความดี ก็ลองเทียบคำปิดคดีของไทย ที่ว่า "เราไม่ได้เรียกร้องอะไรมากกว่าสิ่งที่เป็นของเรา" เทียบกับคำปิดคดีของ ไอ้เฒ่าสามานย์ที่ชื่อฮอนัมฮง ที่ว่า "ถ้ากำพูชาไม่ได้สิ่งที่ต้องการ สองประเทศก็ยากที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ" แค่นี้ก็เห็นชัดแล้วครับ ใครคือฝ่ายความดี! สุดท้าย สู้ต่อด้วยความเบิกบานครับผม |
undertaker55 พิมพ์ว่า: | ||
ก่อนอื่นลองอ่านบทความของคุน Wiput Sukprasert เขาเขียนในมุมกลับได้น่าสนใจทีเดียวครับ
|
undertaker55 พิมพ์ว่า: | ||
อีกข้อความครับ
สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหารครับ รอฟังคำตัดสินจากศาลโลกอีก 6 เดือนก่อนครับ แล้วทีนี้เราจะได้รู้ว่ามันจะหมู่หรือจ่า |
ekdanai พิมพ์ว่า: |
ผมรักประเทศไทย ทรงมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ใครไม่รักประเทศเชิญไป... |
OUM พิมพ์ว่า: |
อิอิอิ |
wisarutj พิมพ์ว่า: |
รักผระเทศไทย |
Ekk_bangyai พิมพ์ว่า: |
![]() |
davidian พิมพ์ว่า: |
เอาใจช่วยครับ |
Pantamitr พิมพ์ว่า: |
แปลภาษาฝรั่งเศสไม่ออกซะด้วย
ถ้าเป็นจริงอย่างที่ Wiput Sukprasert เขาเขียนละก็ มันจะเป็นไปได้หรือ ก็คนไทยตั้ง 60 กว่าล้านคน ต้องมึคนที่เฝ้าดู และรู้ภาษาฝรั่งเศส เฝ้านั่งดูอยู่หลายคนแน่ๆ เป็นไปได้หรือที่คนแปล จะกล้าแปลบิดเบือน โดยไม่กลัวคนอื่นจะรู้ ผมไม่ค่อยเชื่ออะ แต่Wiput Sukprasert เขาเขียนแบบนั้นทำไม นี่สิ ทำให้ผมคิดหนัก คนไทยเดี๋ยวนี้ ไว้ใจกันเองยังไม่ค่อยได้เลย บางคน แฝงตัวมา แสร้งทำเป็นฝ่ายหนึ่ง เพื่อเปิดช่องให้อีกฝ่ายหนึ่งโจมตีก็มี บางคน แสดงออก สีเข้มแจ๋ แต่อันที่จริง เป็นใส้ศึก ก็มี ยิ่งเดี๋ยวนี้ สื่อ Social network มีอิทธิพลมากๆๆ และมันช่างชักจูงคนได้ง่ายดาย เพียงแค่เขียบทความ มีที่อ้างอิง ซึ่งที่มาที่ไป ใครจะไปรู้ว่ามันจริงหรือไม่ เพราะต่างก็ Copy มาเหมือนกัน ฯลฯ ผมจึงอยากจะเตือนว่า อย่าเพิ่งไปปักใจเชื่ออะไร เต็ม 100 มันอาจมีการหลอกลวงแฝงอยู่ก็ได้ เดี๋ยวนี้ จะเชื่ออะไรได้ซักอย่าง ต้องหาข้อมูลรอบด้าน มากๆ |
Rain06 พิมพ์ว่า: |
เราเสวยสุขบนแผ่นดินที่ปู่ย่าตายายหามาให้ด้วยชีวิต..
เรามีหน้าที่แค่ดูแลและรักษามรดกชิ้นนี้เอาไว้..เพราะในยุคของเราแผ่นดินไม่เคยงอกเงยขึ้นมาเลยสักนิ้ว ถ้าแค่รักษาเอาไว้ยังทำไม่ได้...เวลาตายไป...คงอับอายไม่กล้าสบตามองหน้าผีปู่ผีย่า ยามเขมรเดือดร้อนจากสงคราม...เราเคยส่งทหารไปร่วมรบเพื่อป้องกันชาวเขมรจากเขมรแดง ทหารไทยนับร้อยต้องไปตายในประเทศที่ไม่ใช่แผ่นดินของตัวเอง ชาวเขมรอพยพหนีตายเข้ามาอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพตลอดแนวชายแดนประเทศไทย บรรดาชนชั้นสูงอพยพครอบครัวหลบเข้ามาเสวยสุขอยู่ในกรุงเทพ....คงลืมกันหมดแล้ว ตอนนี้ตามแนวชายแดนเขาก็พยายามแหย่เราทุกวัน.. คงไม่มีใครอยากรบ..อยากให้มันจบลงได้ด้วยดี เราคงไม่ได้แผ่นดินเพิ่ม..แต่ก็ต้องไม่เสียไปเพราะเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองของใครบางคน ไม่เช่นนั้น...เราต้องรบกันอีกแน่นอน..เชื่อเถอะ ไม่ได้จดจำฝังใจ..ไม่ได้เคียดแค้นคนเขมร..กับทหารเขมรก็ยังเคยคุยกัน แบ่งปลากระป๋องไปให้กิน..อยากกินเหล้าก็ให้..อยากได้หนังสือโป๊ทหารไทยก็หาไปให้ แต่พ่อแม่สอนไว้ว่า....อย่าลืม..อย่าไว้ใจ เราจะได้ไม่พลาดเป็นครั้งที่สอง...แค่ครั้งเดียวมันก็มากเกินพอแล้ว ปอลิง...แค่เล่าให้ฟังเฉยๆ..พิมพ์ไปผิวปากไปสบายๆ..ไม่ซีเรียดขอรับ จะไปซีเรียดอีกทีก็คงตอนที่มีคำสั่งให้เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า...บินเข้าสู่อำเภอกันทรลักษ์นี่แหละ แล้วค่อยว่ากัน.. |
chokpiti พิมพ์ว่า: | ||
+1 สุดยอดครับท่าน ![]() ![]() |
chokpiti พิมพ์ว่า: |
นายทหารตัวจริง![]() |
ham_ter พิมพ์ว่า: |
...หากศาลโลก รับฟ้องกัมพูชา ไทยเสียดินแดนแน่ เพราะ MOU43...
MOU 43 สมัยรัฐบาลชวน หลีกที่ลงนามกับกัมพูชา นั่น เป็นการรับรองแผนที่ของฝรั่งเศส 1:200,000 เต็มๆ เป็นการเสียค่าโง่กัมพูชาอีกครั้ง หลังจากปี 2505 ฉะนั้น พรรคประชาธิปัตย์ ก็รู้ดีว่าตนเอง "โง่อย่างมหันต์" กับ MOU43 ที่พยายามจะหลอกลวงคนไทยว่า ดีนักดีหนา จึงหาวิธีใช้เทคนิคทางกฏหมายกับศาลโลก ด้วย 2 ประเด็น คือศาลโลกไม่มีสิทธิ์ตีความ และเขมรไม่มีสิทธิ์ฟ้องเพิ่ม หากศาลโลก "เข้าทาง"ไทย ก็ดีไป แต่หากเข้าทางกัมพูชา..รับรองหายนะมาเยือนไทย ยังไว้ใจไม่ได้... MOU43 คือมีดที่จ่อคอหอยไทยอยู่ ที่พรรคประชาธิปัตย์ทำไว้ นายนพดล ปัทมะ พยายามจะแก้ไข ทำแผนที่ L7017 1:50000 เพื่อให้ละเอียดยิบ ไม่ครอบคลุมเหมือน 1:200,000 เอาตัวปราสาทไปขึ้นทะเบียน แล้วเอาพื้นที่ทับซ้อน มาพัฒนาร่วมกัน ได้ผลประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย แต่ประชาธิปัตย์ เล่นแต่การเมือง ไม่สนใจประเทศชาติทำร้ายคู่แข่งอย่างเดียว จึงบิดเบือนว่านพดล ขายชาติ ทาสเขมร เพราะแม้ว แต่ความจริง ตัวมันนั่นแหละ โง่ เสียทีกัมพูชา ไปลงนามใน MOU43 ที่ไทยเสียเปรียบเต็มๆ พอคนอื่นจะมาแก้ไข ก็ขัดขวาง ใส่ร้ายเขาเสียนี่ ในที่สุดจึงมีวันนี้ วันที่ไทย ตกเป็นจำเลยต่อศาลโลก เพราะพรรคประชาธิปัตย์..โดยนายอภิสิทธิ์ เลวววววววว ! ให้ดูข้อที่ 1 เป็นพิเศษ แล้วจะซึ้งใจกับพรรคประชาธิปัตย์ ว่าใคร ขายชาติตัวจริง !!! แม้ว รัฐบาลนี้ หรือใครกันแน่ ที่ขายชาติ โปรดศึกษา MOU43 และสุดท้าย จะเป็นอะไร ก็ตามมันได้ถูกยกเลิกไปแล้ว เพียงเพราะต้องการค้าน ทุกอย่างที่รัฐบาล ทำ โดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา เรื่องคงไปไม่ถึงศาลโลก การสู้รบ ...หรือการล้ำแดน ของ 2 คนไทย ที่ถูกจับ ก็คงไม่เกิด จนป่านนี้ เขาก็ยังไม่สำนึกกันอีก คดีที่ศาลโลกวันนี้ เกิดขึ้นเพราะอะไร ได้แต่แห่ ตะโกน ...ขายชาติ... อยู่นั่นแล้ว... อ่อนใจกับการรักชาติ ในครั้งนั้นมากๆ ...อ้าว จะถูกกล่าวหาว่า เป็นคนไทย หัวใจเขมรไหมเนี่ยะ .... |
Zenkii พิมพ์ว่า: | ||
ก๊อบมา หรือคิดเอง ถ้าก๊อบมา ให้ Credit คนที่เค้าคิดด้วย ![]() ![]() ![]() |
Goo_golf พิมพ์ว่า: | ||
ใช่คับ ถ้ามีคนข้างบ้านจะมาแย่งพื้นที่บ้านมัน มันจะพูดอย่างงี้มั้ยเนี่ย |
ไปที่: |