วันนี้ลองขับมอเตอร์ไซด์ ไปทำธุระ น่ากลัวมากครับโดยเฉพาะถนนใหญ่ รถยนต์ไม่ค่อยสนใจมอเตอร์ไซด์คันเล็กๆอย่างผมเลย อยากจะเบียดก็เบียด อยากจะบาดก็ปาด เข็ดเลยผม คล่องตัวจริงครับ แต่อันตรายใช้ได้ เพื่อนพี่ๆขัยรถระวังๆกันด้วยนะคร๊าบบบบ

ก็เพราะมอโซด์ชอบทำนิสัยเสียไงครับ แหวกไปเรื่อย ทั้งที่กฏจราจรก็บอกไว้ว่า 1 ช่องทางจราจรรถวิ่งได้แค่ 1 คัน

เยอะครับไม่รู้จะบรรยายยังไง ที่เจอบ่อยสุดก็ตอนรอเลี้ยวซ้ายมันก็แหวกซ้ายขึ้นมา พอเราออกรถเลี้ยวเจอมันแหวกมาพอดี เบรคกันหัวทิ่ม

ลองขี่ในกทม.ดูจะรู้ครับว่ามันอันตรายมาก. มอไซค์ถ้าไม่ติดรถใหญ่ที่จอดขวางเกยกันอยู่ก็จะไม่เปลี่ยนเลนหรอกครับ! อันตรายมาก..
ถ้าลองขับทั้งสองอย่างจะรู้เขารู้เราและจะไม่รู้สึกไม่ดีกับอีกฝ่ายแน่นอนครับ. กรณีผมขับรถยนต์ไปในที่รถเยอะๆก็พยายามขับแบบพอมีช่องให้มอไซแทรกไปได้ไม่กีดขวาง. และกรณีที่ผมขับมอไซก็เหมือนกันขับมาตามช่องที่รถเยอะเคลื่อนตัวอยู่เมื่อเจอรถเก๋งจะเปลี่ยนเลนข้างหน้ากระทันหันผมก็จะเบรคให้โดยไม่เข้าไปแทรกเพราะผมได้ใช้รถทั้งสองอย่างมาตลอด. อย่างมอไซที่ขับแบบแย่ๆก็เพราะเค้าไม่เคยใช้รถเก๋งหรือรถเก๋งที่เกลียดมอไซก็เพราะเค้าไปเจอประสบการณ์ที่เจอมอไซแย่ๆนี่แหละครับ. สงสารมอไซนิดนึงครับถูกก็เจ็บผิดก็เจ็บ

เกลียดสุดก็มอไซต์วิ่งกลางเลน ถนนสองเลน พวกวิ่งกลางเลน สองคัน คันละเลน วิ่งยั๊งเต่า


รวบซะดีมั๊ง

มอเตอร์ไซค์คือเนื้อหุ้มเหล็ก
รถยนต์คือเหล็กหุ้มเนื้อ
ผมก็ขับทั้งสองอย่างล่ะครับ
เกลียดสุดคือ ไอ้พวกขับรถยนต์จะขับแซงแล้วไม่เปิดไฟเลี้ยวอ่ะครับ ขับปาดหน้าปาดหลังกูไม่ว่า แต่ให้บอกสถานะหน่อยกูจะได้รู้บ้าง

ตอนนี้ขับอะไรก็ต้องทำใจคับ คนมันเอาแต่ใจตัวเองกัน...เหอะๆ

ก่อนผมมาขับ ES ผมขี่มอไซค์มาประมาณ 9 ปี ระยะทางรวมประมาณ 200,000 กิโลเมตร ต้องใช้ชีวิตแบบระวังตัวเป็นพิเศษ พอมาขับ ES ผมก็เลยต้องระวังมอไซค์เป็นพิเศษเหมือนกัน เพราะถ้าเค้ามีตังค์เค้าคงไม่ขี่มันหรอกครับ หน้าร้อนก็ร้อนจนแสบตัว หน้าฝนก็เปียก เสียเวลาต้องหาที่หลบฝน หน้าหนาวก็ขับไปสั่นไป ผมเข้าใจครับ

เพื่อนร่วมทางกันครับเห็นใจเค้าครับ