kimberly55 พิมพ์ว่า: |
จากความรู้สึกตัวเอง
คิดว่าข้อดีคือ มันขับง่ายอ่ะค่ะ ตอนหัดขับก็เอาคันนี้หัด หัดสองวันออกถนนใหญ่ขับข้ามจังหวัดได้เลย เทียบกะรถเพื่อนรุ่นอื่นที่ลองขับ บังคับยากมาก จับไม่แน่นก็จะชนเผลอคุยไม่ได้เลย แต่ ES ปล่อยมือขับได้สบายเลยอ่ะค่ะ ข้อเสีย คือ เหยียบไม่ทันจะถึงร้อย เสียงก็ดังมากละค่ะ เวลาเดินทางไกลๆนี่หูอื้อไปเลย คนที่ใช้มาก่อนอย่างพ่อ ก็บอกว่าที่ชอบวัสดุของมันอ่ะค่ะ เค้าบอกว่ารุ่นใหม่ๆ ออกมาหลังๆ ทำวัสดุยังกะรถของเล่นเด็ก ฮ่าๆ |
sfb พิมพ์ว่า: | ||
สนับสนุนข้อดีครับ โครงสร้างแข็งแรงยืนพิงไม่มียุบ (ไม่เหมือนบางยี่ห้อ) เลยคิดว่าจึงทำให้กระด้างบ้างในการขับขี่แต่ถ้าเรานำมาเสริมนิดหน่อยรับรองจะติดใจครับ ส่วนเรื่องเสียงดังจากภายนอกมีวิธีแก้อยู่หลายวิธีครับไม่ใช่ข้อที่จะกังวลในการซื้อรถ ทางที่ดีวิเคราะห์และคำนวนราคาพร้อมทั้งสภาพของตัวรถและเครื่องยนต์จะดีกว่าครับ |
inspire พิมพ์ว่า: |
สวยจริงๆ แม้ราคามือสองครบๆ ออกยาริส หรือ แจ๊ส ได้สบายๆ
แต่ยังเลือกES เพราะมันงามกว่าเห็นๆ |
อ้างอิงจาก: |
ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ...เป็นสมาชิกใหม่ ES ชอบมากเลยค่ะ...แต่ยังต้องบำรุง..สู้ตาย ES Group.. |
DRINK พิมพ์ว่า: |
สำหรับพี่นะครับ ไม่รวมความคิดเห็นท่านอื่น เพราะคงไม่เหมือนกัน
ข้อดี -ใช้มาเป็นคันที่สองแล้วครับ ชอบรูปทรง -มุมมอง ทัศนะวิสัย ใช้ได้ดีมาก -ของแต่งสามารถใช้ร่วมกับDC5ได้ -แต่งได้ง่าย -CIVIC ES GROUP -ผมมีเพื่อนในรถรุ่นนี้แหละครับที่ประทับใจ -การดูแลรักษาง่าย บอดี้แข็งแรง -สาวคนไหนได้นั่ง ชะตาอุ๋มอิ๋มขาดทุกคน -อายุการใช้งานยังอีกนาน -ขับง่าย ช่วงล่างอิสระ -เซอร์วิสง่าย ดูแลรักษาง่าย -ความเป็น Honda ข้อเสีย -อะไหล่แพงมาก แทบจะทุกชิ้น -ตัว1700 เสียเปรียบเครื่องแคมคู่กับ1800 แต่ผมไม่วอรี่เพราะเป็นเครื่องK -รูน๊อต 4H100 อยากได้ 5x114.3 มากกว่า -เสียดายน่าจะภายในดำทุกคัน -ของแต่งก็แพงครับ แพงกว่ารถหลายๆรุ่น -แอร์ไม่ดิจิตอล แต่ยังดีเป็นออโต้(บางรุ่น) -ไม่ใช่คันเร่งไฟฟ้าและแรคไฟฟ้า(ยกเว้นตัว 2.0) -ลำโพงที่ให้มายังเป็นลำโพงกระดาษ -นน ตัวรถ ค่อนข้างมากไปหน่อยน่าจะเบาลงสัก 50 กก -คันเกียร์ไม่สวย (ยกเว้นเกียร์ธรรมดา) |
chonburi_ES พิมพ์ว่า: |
มาเพิ่มเรื่องเกียร์ auto ตัว 01-02 เปราะครับพี่ๆเตือนมาว่าเล่นมากไม่ได้มานแพง |
chokpiti พิมพ์ว่า: |
เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ของรุ่นTOP 1.7MT VTEC ปี2003 เดิมๆไม่แต่งใช้ยางMichelin185/65R15 energy XM1(มองเรื่องการออกแบบ การใช้งานเป็นหลักและก็เทียบกับรถรุ่นอื่นในสมัยนั้น)
ข้อดี -โดยภาพรวมสวยที่สุดในยุคนั้นแล้ว 2001-2005 -ภายนอกและภายในออกแบบได้สวยงาม หรูหรา -ไฟท้ายสวยมาก สปอร์ตดี -ประสิทธิภาพเครื่องยนต์สูง 130hp แรงบิดสูงในรอบต่ำ 155N.m อัตราเร่งดีมาก(รถใหม่ๆเคยวิ่งได้200km/hr มาแล้ว แทบจะบินได้เลย) -มีพนักพิงแขนที่สามารถพิงได้จริงๆ ป้องกันการเมื่อยล้า เมื่อขับทางไกล -ห้องโดยสารหลังแบบแบนราบ วางเท้าได้สะดวก (สมัยนั้นรุ่นอื่นก็ไม่มี) -เรือนไมล์สวยสุดยอด (สมัยนั้นรุ่นอื่นก็ไม่มี) -ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ออกแบบลงตัว แต่ผมว่ามันก็เย็นดีนะ -กินน้ำมันน้อยเมื่อขับไม่เกิน 120km/hr(สถิติที่ผมเคยทำได้เมื่อปี2011เติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์91เต็มถังที่มหาชัยวิ่งความเร็วคงที่100-110km/hr.ผู้โดยสาร4คนรวมคนขับแล้ว+สัมภาระ=240กิโลกรัม เปิดแอร์และเครื่องเสียงตลอด,พักรถ3ครั้งระหว่างเดินทางแล้วขับรถกลางคืน ถึงอำเภอพุนพิน สุราษฏร์ธานีที่ปั้มน้ำมันปตท.ใกล้ทางเลี้ยวไปอำเภอปลายพระยา ระยะทางรวม664กิโลเมตร ใช้น้ำมันไปเพียง 38.15ลิตรเฉลี่ยแล้วกินน้ำมันเพียง16.88กิโลเมตร/ลิตร ภูมิใจสุดๆ) -ช่วงพื้นถึงตัวรถสูง ไม่ต้องหลบเนินลูกระนาด ข้ามทางรถไฟไม่มีปัญหาเลย ช่วงล่างไม่ติด -บำรุงรักษาง่าย ไม่ยุ่งยาก วางตำแหน่งเครื่องดี -ขับแล้วสาวต้องมองแน่ๆ 555 ข้อเสีย -ลำโพงเครื่องเสียงเป็นกระดาษ ฟังแล้วไม่ค่อยไพเราะ (ต้องติดเพิ่มเอง) -มีเสียงดังจากเครื่องยนต์และลมเข้ามาในห้องผู้โดยสารเมื่อขับเกิน120กิโลเมตร/ชม.(แก้โดยติดตั้งแดมป์) -อะไหล่ศูนย์แพงกว่าtoyota(ทั้งที่ผลิตจากโรงงานในประเทศเหมือนกันและโรงงานเดียวกัน งงไม่เข้าใจเลย!) -ช่วงล่างไม่ค่อยเกาะถนน (ยกเว้นถ้าคุณเปลี่ยนหน้ายางจาก185ไปเป็น195มันจะเกาะเป็นตุ๊กแกเลย) -ไม่มีsensorถอยหลัง (ต้องติดเพิ่มเอง สมัยนั้นรุ่นอื่นก็ไม่มีเหมือนกัน) -ไม่มีปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย(สมัยนั้นรุ่นอื่นก็ไม่มีเหมือนกัน) -ไม่มีเสาสัญญาณวิทยุด้านนอกรถ ทำให้รับสัญญาณฟังวิทยุไม่ค่อยชัดเจน(NISSANมี) ข้อเสียอื่นก็ไม่ค่อยมียกเว้นออพชั่นที่มันล้าสมัยแล้วเท่านั้น และไม่มีออพชั่นใหม่ๆเหมือนรถปี2011 ส่วนตัวไม่คิดจะเปลี่ยนรถด้วยเพราะรักรถคันนี้มากเพราะมันคือ My first car |
ไปที่: |