งานcarbonที่ผมผลิตเป็นงานที่ใช้เทคนิคที่เรียกว่า carbon vacuum infusion อธิบายง่ายๆคือ การรีดอากาศออกจากชิ้นงาน และฉีดน้ำยาเข้าไป
ผลที่ได้ชิ้นงานจะไม่มีอากาศหลงเหลืออยู่ บาง และเบา ครับ

ลักษระเด่นที่งาน vacuum แตกต่างจากงาน hand lay-up คือ ผ้าจะมีลักษณะแบบ เรียบสมั่มเสมอ ไม่ว่ามองจากมุมไหนก็จะเห็นลายผ้า carbon อยู่ครับ

เจ้าของรถท่านไดส่นใจ หรือ อย่ากหาข้อมูล เขาไปดูผลงานและอ่านได้ใน http://www.facebook.com/jandbcarbon.vacuum
(ต้องขอโทษไว้ก่อนเลยครับ อาจจะมีรูปของ civic FD เยาะไปหน่อย เพราะปกติงานหลักของผมผลิตให้ FD เยาะครับ พอดี รุ้นน้องอยากได้ ของ ES ก็เลยทำไห้ เลยมีโมลไว้ในครอบครอง)

หรืออยากมาเห็นงานกับตาก็มาดูที่โรงงานผมได้นะครับ (จูน TEL: 0815537496)

ช่องไฟ สันมุม ตรงตามตำแหน่ง

ผ้าแบนๆ เห็นทุกมุมมอง

เงาๆ

ลองชั่งน้ำหนักไห้ดูคับ

น้ำหนักลดลงมาจากกระโปรงเหล็ก 5 โล กว่า
ส่วนกระโปรงเดิมถอดเก็บไว้บ้านได้เลยครับ

ใครต้องการจัดเลยครับ

ฝาหลังเท่าไหร่ครับ

ขอราคาหน่อยคร้าบบบบบ

ขอราคาด้วยคับ ร้านอยู่ตรงไหนคับเพ่

ราคาเท่าไหร่นร้า...

ขอราคาหน่อยครับ 

ขอทราบราคาด้วยคนครับ..
ฝาหน้า+หลัง..

ขอราคาฝาหน้า 04  ครับ Thanks

ชอบๆ

ขอราคาด้วยคับ ฝาหน้า + หลังราคาเท่าไหร่ ร้านอยู่แถวไหนคับ รบกวนด้วยคับ

ฝาหน้าราคาเท่าไหร่ครับ

เนียบ เนียบ

ราคาค๊าฟฟฟฟฟ

ขอโทษด้วยครับ ลืมลงราคา
 
ฝาหน้า กับหลัง ขอเป็น ราคาเดียวกันนะครับ อย่างละ 15000 บาท (ต่อลองกันได้นะครับผมใจดี) ราคานี้ผมเปิดราคาถูกกว่า รุ้น FD อยู่หลายพันครับ

ทางที่ดีอยากให้เข้ามาดูงานกันแบบเห็นกันจะๆไปเลยครับได้ลองยกดู ได้จับ จะรู้ว่าคุ้มค่าเงินทุกบาทครับ

ร้านอยู่ พระราม 3 ครับ ไม่ไกลจาก เซ็นทรัล พระราม3 ครับ เดียวค่ำๆจะลงแผนที่ไห้นะครับ

ปล.ฝาหน้าเป็นตัวตาเหยี่ยวนะครับ se ตัวแรกไม่มีโมลครับต้องขอโทษด้วย แต่ถ้าอยากได้ลงชื้อไว้นะครับ ถ้ามีจำนวน อาจจะทำครับที่บ้านมีอยู่คันนึงของพี่สาวเดียวขอยืมได้ครับ

ถ้าชอบ ยกนิ้วโป้ง ให้ด้วยนะครับ http://www.facebook.com/jandbcarbon.vacuum (เอาไว้แลกเปลี่ยนความรู้กันครับ)

ขอบคุณที่ให้ความสนใจครับ J&B Carbon Product Premium Quality

สวยงาม

งานสวยมาก

สวยจัง _
อยากได้

เออ....คือมันเป็นยังไงเหรอคับ  ไม่รู้จิงๆคับ  มันทำเหมืนอกับงานคาร์บอนทั่วไปหรือป่าวคับ หรือยังไงฮะ  ไม่รุจิงๆคับ

ได้ครับจะอธิบายให้ฟังนะครับ อาจจะยาวไปสะหน่อยนะครับ

                            การผลิตผลิตภัณฑ์จากไฟเบอร์กล๊าส (FRP) ในรูปแบบปกติ  เราพอทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นกระบวนการผลิตแบบใช้มือทา  (Hand  Lay up) ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันมานาน  และยังใช้ได้ดี  เพราะต้นทุนไม่สูง  ทำง่าย  แต่ประสิทธิภาพของชิ้นงานที่ได้ออกมา จะอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น  ซึ่งขึ้นอยู่กับ ฝีมือและความชำนาญของผู้ปฏิบัติงาน   แม้แต่ชิ้นงานที่ผลิตจาก Carbon  fiber  ก็ยังใช้กรรมวิธีการผลิตแบบ  Hand  Lay up  ทำให้ประสิทธิภาพของ ชิ้นงานที่ได้ไม่ดีพอ   ในปัจจุบัน กรรมวิธีการทำงานแบบ  Hand  lay up  นี้จะถูกทดแทนด้วย Technology ที่ดีขึ้น คือ วิธีการผลิตแบบใหม่ที่ี่เรียกว่า Vacuum infusion

  ถ้าจะอธิบายง่าย ๆ ก็คือ มันคล้ายกับการฉีดเรซิ่นเข้าไปในโมลด์โดยตรงเพื่อผลิตชิ้นงาน แต่จริงๆแล้วมันคือ การดูดเรซิ่น (vacuum) เข้าไปในโมลด์มากกว่า  โดยวิธีนี้จะทำให้เรซิ่นวิ่งผ่านใยแก้ว หรือ Carbon เข้าไปทุกซอกทุกมุม โดยไม่ต้องกลัวการเกิดฟองอากาศ ที่จะทำให้ชิ้นงานไม่แข็งแรง   ไม่ใช่แค่นั้น วิธี Infusion นี้ ยังบีบอัดชั้นของใยแก้วและ Carbon ให้บางลงด้วย ทำให้ชิ้นงานที่ได้มีความหนาแน่นสูง บางลง  แข็งกว่า และ เบากว่า  ซึ่งส่งผลถึงเรซิ่นที่ใช้จะน้อยลงด้วย น้ำหนักจึงเบาลงนั่นเอง   ยกตัวอย่าง  ถ้าเราใช้วิธี Hand Lay up ชิ้นงาน 1 ชิ้น   โดยใช้ใยแก้วน้ำหนัก 450 g/ตรม.  เรซิ่น 900 กรัม/ตรม. ผลิตชิ้นงานที่ความหนา 1 มิลลิเมตร  ผลงานที่ออกมาจะมีน้ำหนัก = 450 g + 900 g = 1,350 g ต่อตารางเมตร  หรือ 1.35 กิโลกรัม ต่อตารางเมตร   แต่ถ้าใช้วิธี Infusion  ใยแก้ว น้ำหนัก 450 g/ตรม.  ถูกกดให้บางลงเหลือ 0.5 มิลลิเมตร  เรซิ่นที่ใช้ก็จะน้อยลง 50% ด้วย ผลงานที่ออกมาจะมีน้ำหนัก  = 450 g + 450 g = 900 g ต่อตารางเมตร  หรือ 0.9 กิโลกรัม ต่อตารางเมตร   เบากว่าแล้วใช่มั้ยล่ะ   นอกจากนี้ เมื่ออัตราส่วนใยแก้วต่อปริมาณเรซิ่นมีมากขึ้น ก็จะทำให้ความแข็งแรงเพิ่มขึ้นด้วย  เปรียบเทียบง่าย ๆ เช่น เมื่อคุณเทปูนโรงจอดรถ ที่ความหนาของปูน 10 เซ็นติเมตร ใช้เหล็กเส้นวายเมช 1 ชั้น  ความแข็งแรงก็จะอยู่อีกระดับนึง  แต่หากใช้วายเมช 2 หรือ 3 ชั้น  ความแข็งแรงย่อมมีมากกว่า แน่นอน  ใยแก้วเปรียบเสมือนเหล็กเส้น  เรซิ่นเปรียบเสมือนปูน  เมื่อทุกอนูของเรซิ่นมีใยแก้วแล้ว มันจึงเหนียวมากขึ้น (ถ้าใช้เครื่องมือวัดค่าความเหนียวและ แข็งแรงจะเห็นค่าชัดเจน)   แต่มันก็ใช่ว่าจะทนแรงชนของรถนะครับ  เมื่อเปรียบเทียบแรงกระทำ  สมมุติที่แรงชนของรถ (ความรุนแรงในการชน)  อยู่ที่ 100 %     ชิ้นงานที่ผลิตด้วย  Hand lay up     สามารถทนแรงกระแทกได้ 70 %   กันชนก็ยังคงแตกอยู่     ชิ้นงานที่ผลิตจาก  Infusion            สามารถทนแรงกระแทกได้ 90 %   กันชนก็ยังคงแตก   แต่หากแรงชนของรถอยู่ที่ 80 %  หล่ะ

ข้อมูลอาจจะเยาะไปหน่อนนะครับต้องขอโทษด้วย
ขอบคุญครับ by j&b carbon

น่าจะวิธีทำประมาณนี้แหละครับ
คลิปนี้ดูมานานแล้ว แต่ไม่ค่อยเห็นคนทำด้วยวิธีนี้มั้งครับ^^

เพิ่งเห็นพี่เค้าทำเหมือนกัน^^

เบาแบบนี้ เก็บตังค์ๆๆๆ^^

สุดยอดครับพี่จูน ได้ใช้บริการแน่นอน ผมนัยเองครับ

น่าสนใจครับ.

ถูกต้องแล้วละครับ ทำแบบเดียวกับ video present ด้านบนนะครับ

ขอบคุณ คุณโมด้วยครับที่หามาให้ชมกัน

โห น่าโดนมากๆครับ

น่าสนคับ แต่ค่อนข้างแรงไปนิส