คืองี้ครับ

ไม่ทราบว่ามีใครเคยเป็นกันบ้างรึเปล่าครับ  ปกติเวลาสตาร์ท(ทุกทีนะครับ) มันก็ติดง่ายๆเหมือนรถทั่วไปนี่แหละครับ

ถ้าเป็นตอน เช้าๆหรือว่า ตอนที่ขับไปจอดที่ทำงานแล้วเครื่องมันเย็นอยู่ ก็จะสามารถสตาร์ทติดได้อย่างปกติ

แต่ถ้าเป็นช่วงกลางวันบางวันที่ต้องทำธุระหลายที่  ถ้าไปจอดแล้วดับเครื่องแล้วมาสตาร์ทใหม่ขณะที่เครื่องยังร้อนอยู่

มันจะติดแล้วก็ดับครับ...ต้องเหยียบคันเร่งช่วยสักพัก ประมาณ 2-5วินาที ก็จะไม่ดับ อยากทราบว่ามันเป็นกับอะไรครับ

            อีกอย่างที่ สองครับ  เวลาที่เครื่องเย็นแล้วเราขับออกไป  บางทีจะมีเสียงจี๊ดๆอี๊ดๆ ลากตามจังหวะเหยียบคันเร่ง

ถ้าถอนคันเร่งก็หาย เหยียบลงไปใหม่ก็จะดังอีก  แต่วิ่งไปซักพักก็หาย ไม่เกิน 50 เมตร คืออะไรเหรอครับ

วานผู้รู้ช่วยตอบให้ด้วยนะครับ...จะได้แก้ถูกจุด...ขอบพระคุณครับ

รู้ guru es มาช่วยตอบหน่อยครับ
รอฟังด้วยคนครับ ยังไม่เคยเจอ

น่าจะไดสตาร์ทนะครับ เห็นรถเพื่อนก้อเป็นตอนเครื่องร้อนดับเครื่องแล้วจะสตาร์ทไม่ติด แต่ถ้าเครื่องเย็นจะติดปกติดี ค่าซ่อมประมาณ 1000 ครับ

นี่หละครับ อาการแรกเริ่มของ TDC และ BDC sensor ตัวใดตัวหนึ่งครับ(เปลี่ยนไปทั้งคู่ก็ดีครับทีเดียวจบ) รีบเปลี่ยนก่อนดับกลางอากาศแบบผมนะครับบบ 

ผมพึ่งเปลี่ยนไปอ่ะคับ ตัวล่ะสองพันกว่า รวมค่าแรงด้วยสี่พันสี่

ตัวแรกน่าจะ TDC
ตัวสองเสียงนี้คุ้นหู เอาง่าย ๆ นะสตาร์ทเปิดกะโปงแล้วเอาน้ำหยอดสายพานคอมฯแอร์ดู ถ้าหายนั่นหมายถึง ยาน สมควรเปลี่ยน

TDC เบิกศูนย์ประมาณ 1600 บาทครับ

เก็บข้อมูลครับ

ไอจี๊ดๆ น่าจะคอมแอนะคับ เป้นเหมือกัน ตอนนี้เปลี่ยนคลัชคอมละ เงียบฉี่

อาการที่ท่านเจ้าของกระทู้บอกมานั้น  น่าจะเป็นอาการของหัวฉีดน้ำมันรั่ว    อาการนี้ในช่วงเวลาที่ท่านเจ้าของกระทู้บอกว่าตอนเช้าๆ  หรือจอดรถเป็นเวลานานๆ  สตาร์ทเครื่องยนต์ได้ปกติ   เพราะว่าน้ำมันที่รั่วจากหัวฉีดที่ไหลลงไปอยู่ในห้องสูบหรือท่อไอดี  มันถูกระเหยออกไปหมดแล้ว   ทำให้ไม่สมีน้ำมันตกค้าง   อัตราส่วนผสมระหว่างอากาศกับน้ำมันก้ปกติ   การสตาร์ทเครื่องยนต์ก็จะสตาร์ทได้ง่ายเป้นปกติ

แต่เมื่อใดก้ตามที่ีมีการใช้รถขับออกไปทำธุระ     ในระหว่างทางอาจจะแวะจอดรถดับเครื่องยนต์  สักครู่แล้วกลับมาสตาร์ทเครื่องยนต์  จะไม่ติด   ที่เป็นดังนี้เพราะว่าหัวฉีดน้ำมัน  มันรั่วทำให้มีน้ำมันตกค้างในห้องสูบและภายในท่อรวมไอดี    ในระยะตั้งแต่ 5-15 นาทีขึ้นไปจะไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ติดได้ตามปกติ    เพราะว่าในอัตราส่วนผสมมีน้ำมันมากกว่าอากาศ   หรือเรียกว่าส่วนผสมหนา  การจุกระเบิดเกิดขึ้นยาก   จึงสตาร์ทไ่ค่อนจะติด    ประกอบกับในจังหวะสตาร์ทเครื่องยนต์  ECU  สั่งจ่ายน้ำมันหนากว่าปกติ  เพื่อให้มีส่วนผสมหนาในการจุดระเบิดจังหวะสตาร์ทเครื่องยนต์  เท่ากับเพิ่มปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงบวกกับน้ำมันที่รั่วจากหัวฉีด  เรียกว่าสองเด้งประมาณนั้น
เป็นผลให้มีส่วนผสมหนา   

อยากแนะนำให้ท่านเจ้าของกระทู้  นำเจ้าสุดหล่อสุดสวย  ไปให้ช่างทำการตรวจเช้คหัวฉีดดูนะครับ   ช่างที่ชำนาญจะถอดหัวฉีดออกมาตรวจการั่วของน้ำมัน   ก็จะพบว่ามันรั่ว  เท่าที่เคยซ่อมมา   ซื้อมือสองมาเปลี่ยนก็ได้ครับ ราคาคบหากันได้

สำหรับเรื่องตัว TDC sensor   หรือ crankshaft  sensor  ตัวที่ทำหน้าที่ generate สัญญาณพัลส์  จากการเคลื่อนที่ของลูกสูบ  หรือการหมุขของเพลาข้อเหวี่ยง   เพื่อที่จะกำหนดมุมองศาการจุดระเบิด  ซึ่งสัญญาณที่เกิดจาก sensor ดังกล่าว  จะถูกส่งไปยังกล้อง ECU  เพื่อให้ ECU ผลิตสัญญาณ IGT  ซึ่งเป้นสัญญาณการจุดระเบิด  ไปให้วงจรช่วยจุดระเบิดสร้างสัญญาณไฟโวลดต็จสูง  ที่ตัว Ignition coil  จ่ายไฟสูงให้กับหัวเทียน

ดังนั้นหากTDC  sensor  หรือ crankshaft  sensor  เสีย  มันก็จะไม่มีสัญญาณส่งไปให้ ECU สร้างสัญญาณ IGT หรือสัญญาณจุดระเบิด
ก็จะทำให้เครื่องยนต์ดับกลางอากาศ    แต่อาการที่มันเริ่มจะเสียอย่างถาวร   มันจะเริ่มมีเครื่องยนต์ดับกลางอากาศ   จากนานๆครั้งก็ก็จะเริ่มเป็นบ่อยขึ้น   และทุกครั้งที่เครื่องยนต์ดับ  จะต้องรอให้เครื่องยนต์เย็นก่อน   มันถึงจะสตาร์ทติด   

อาการนี้สามารถตรวจวัดเจ้าตัว sensor  ดังกล่าวได้  ในขณะที่มันดับทันที่  ให้ใช้มอเตอร์วัดค่าโอมห์ ของตัว TDC sensor หรือ  crankshaft  sensor  จะวัดค่าโอมห์ไม่ขึ้น    หากตัวมันเย็นแล้ว   จะวัดค่าความต้านทานได้ประมาณ 600 Ohm  นี้เป็นการตรวจเช็คที่ทำได้ง่าย  ก็อยากให้ท่านเจ้าของกระทู้ลองตรวจสอบตามที่ผมกล่าวแนะนำมาดูครับ  ขอให้โชคดีครับ  ............srithanon

เรื่องสตาร์ทผมไม่ค่อยแน่ใจครับแต่ ถ้าเรื่องดังอี๊ดๆตามคันเร่งผมคาดว่าน่าจะเป็นที่สายพานมันเริ่มเสื่อมครับ

คือเวลาวิ่งไปนานๆ แล้วดับเครื่องกะทันหันรึปล่าวครับ ถ้าเป็นอย่างงั้น เวลามาสตารจ์ มันจะไม่ติดครับ ผมเคยเป็นครับ 
กับต่างจังหวัด จอดปั๊ม เพอดับกุลแจเลย  ปรากฏตารจ์ ไม่ติดสะงั้นน