ผมไปถ่ายรูปตอนประกอบร่างไม่ทัน เผลอแป๊บเดียวช่างใส่เสร็จเรียบร้อย
ข้ามมาที่ตอนขับเลยละกัน
1. พื้นผิวต่างระดับ หลุมบ่อ ดีขึ้นมาก จากที่เคยลงแล้วกระเทือนไปทั้งคัน อันใหม่ก็ยังรู้สึกอยู่ แต่น้อยลงซัก 30-40% เลยทีเดียว
2. พื้นผิวขรุขระ ดีขึ้นพอสมควร
3. เรื่องประสิทธิภาพ ผมยังไม่ค่อยได้ลอง แต่เท่าที่รู้สึก ไม่ต่างจากเดิมมาก แต่ปกติผมไม่ได้ขับโหดอยู่แล้วเลยไม่ได้คาดหวังตรงนี้เท่าไร แต่จากเวปฝรั่ง เค้าบอก การเข้าโค้งจะบาลานดีขึ้นมาก เพราะสปริงมันมี ค่า K ที่เ็ป็น linear มากๆ
เหมาะกับใคร
1. คนที่ใส่ Tein SS แล้วยังรู้สึกว่ามันกระด้างไป หรือถ้าอยากนิ่มลงไปอีก ให้หา 5K มาใส่ก็ได้ (EP3 SS ก็สปริงหน้าแค่ 5K ไม่ต้องกลัวนิ่มไป)
2. พวกโช้คปรับเกลียวที่เป็นสปริงหลอดทั้งหลาย สามารถเลือกค่า K ได้เลย บางคนใส่ K มากกว่าเิดิม แต่รถขับนุ่มหนึบกว่าเดิมด้วยซ้ำ
ใครขับโหดอยู่แล้ว แล้วไม่รู้สึกอะไรกับความกระด้างของสปริงหลอดเดิมๆ ข้ามไปได้เลย ไม่เหมาะกับท่านแน่ๆ
สุดท้ายใครอยากรู้ว่ามันดีกว่าสปริงยี่ห้ออื่นเพราะอะไร ลองอ่านดูครับ
http://www.swiftsprings.net/faq01.html
http://www.swiftsprings.net/products-coilover_springs.html
http://www.swiftsprings.net/advantage.html
สรุปคร่าวๆ
1. เบา (แต่ tein กับ swift ที่ผมชั่ง น้ำหนักเท่ากันเลย ประมาณ 1.2 กิโลต่อข้าง) unsprung weight น้อย ก็ทำให้ภาระต่อช่วงล่างน้อยลง
2. โคตรทน ไม่ล้าง่ายๆ
3. มีค่า k ที่เป็น linear มากๆ ยกตัวอย่างถ้าเป็นยี่ห้ออื่น ถ้ากดสปริงลงไป 3 เซ็น ค่า K อาจเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าเลย แต่ swift ค่า K จะแทบไม่เปลี่ยนเลย (หดได้ประมาณ 10 เซ็น โดยค่า k ยังเป็นเท่านั้น) อันนี้เป็นเหตุผลให้ฝรั่งบอกว่าเข้าโค้งแล้วรู้สึกบาลานมากๆ เวลารถโยนกลับคืนตอนออกจากโค้ง
4. ด้วยความที่ค่า K มัน linear นี่เอง ทำให้สตรัทประเภทที่ไม่สามารถสไลด์กระบอกเพื่อปรับความสูงได้ เมื่อใส่สปริงตัวนี้แล้วปรับให้ต่ำๆ ก็ไม่ทำให้ค่า K เปลี่ยนไป (Tein ss ไม่มีสไลด์กระบอก) Swift spring มีค่า usable stroke ประมาณ 10 เซ็น คือปรับเตี้ยได้เกือบ 3-4 นิ้วเซ็นโดยค่า K ยังเป็น linear (ลองอ่า่นในเวปไซต์ของ swift ดู แต่ละรุ่น usable stroke ไม่เท่ากัน)
http://www.swiftsprings.net/file/metric.pdf
5. จัดการกับถนนที่พื้นผิวไม่ค่อยเรียบได้ดี หรือ พูดง่ายๆ ว่า ไม่ค่อยกระเทือนเวลาเจอถนนขรุขระ
เอาแค่นี้ก่อนละกันครับ