รถผม ES 01 คับ อาการคือขับมาปกติครับ แล้วไฟ Engine ก็โชว์แต่เครื่องยังไม่ดับคับ พอขับมาอีกซักพักใกล้จะถึงที่พักก็เลยชลอรถปรากฎว่ารถดับคับ ก็เลยพยามจอดข้างทาง แล้วบิดกุญแจสตาร์ทใหม่ รถสตาร์ทติดไฟ Engine ไม่โชว์คับ ก็เลยขับเข้าที่พัก แต่ก่อนหน้านี้เคยมีอาการขับมาเรื่อยๆ จากเพชรบุรีถึงมหาชัย แล้วชลอปรากฎว่าเครื่องดับ แต่ไฟ Engine ไม่โชว์นะคับ พอสตาร์ทใหม่เหมือนมันจะติดแต่ไม่ติดต้องรอซักพักถึงสตาร์ทติด แล้วรอบเดินเบาตกเหลือต่ำกว่า500ก็เลยพยามขับมาให้ถึงที่พักก่อนแล้วดับเครื่องสตาร์ทใหม่รอบปกติคับ ก็เลยอยากถามเพื่อนๆ พี่ๆ คับ ว่าอาการแบบนี้เกิดจากอะไรได้บ้างหรือเป็นอาการเริ่มต้นของอะไรเสียหรือป่าวคับ

ผมก็เคยไฟเอนจิ้นโชว์ แต่ขับได้ปกติ พอดับเครื่องสตาร์ทใหม่ก็หาย

เปิดในคู่มือดู เค้าบอกว่า มันเกี่ยวข้องกับระะบบการทำงานของเครื่องยนต์ที่ไม่สมบูรณ์ แต่ไม่ได้บอกว่ามันจะขับไม่ได้หรือเสียหาย แต่บอกว่ามันเกี่ยวข้องกับการก๊าซที่ปล่อยออกมาครับ

พยายามดูเข็มความร้อนบ่อยๆ ช่วยด้วยจะดีกว่าครับ ถ้ามีปัญหายังไง ความร้อนขึ้นก่อนแน่ๆ

ยังไงลองเข้าศูนย์ไปเช็คดูดีกว่าครับ

ส่วนเรื่องเดินเบาแล้วดับ ไม่น่าจะเกี่ยวกับไฟเอนจิ้นนะ อันนี้ผมคาดเดาเอานะครับ เพราะมันมีปัจจัยให้เครื่องเดินเบาแล้วดับอยู่หลายตัวครับ

รอฟังด้วยคนครับ

ของผมก็เพิ่งโชว์ไม่กี่วันนี่เองครับ ขับมาปกตินะ พอดีชำเลืองมองดูหน้าปัท เห็นขึ้นโชว์ตกใจเลยครับแต่ดีที่ขับมาช้าๆก็เลยชะลอๆไปที่หมายอีก2-3กิโลแล้วจอดดับเครื่อง กลับมาสักครึ่งชั่วโมงได้สตาร์ทติดเครื่องไปต่อ ก็ไม่มีโชว์แล้วครับ ตั้งแต่วันนั้นมาถึงตอนนี้ก็ไม่มีโชว์เลยครับประมาณ5วันแระ งงเลย (แต่ก่อนหน้า ผมเอาเทปดำพันสายไฟไปพันไว้ที่คอยล์จุดระเบิด4ตัวเลย พอดีมันรั่วน่ะครับ ไม่รู้เกี่ยวกันเปล่า ตอนนี้ก็ยังทำอยู่ แต่ก็วิ่งเหมือนเดิมไม่มีไฟเครื่องโชว์)

ของผมก็เป็นเหมือนกันครับ
ขอรอฟังด้วยคนนะครับ

TDC ปะ = ="

engine โชว์ O2 sensor น่าจะจับค่า ออกซิเจนผิดพลาด ลองเปลี่ยนกรองอากาศ+ถอด O2 sensor มาขัดๆหน่อยน่าจะใช้ได้
เดินเบาแล้วดับ น่าจะเป็นที่ sensor ชดเชยรอบเดินเบา ลองสังเกตุดู ถ้าสตาร์ทตอนเครื่องร้อนแล้วดับ แด่เครื่องเย็นจะไม่ดับ

ผมพึ่งเป็นวันนี้เลย หลังจาก ทำเฮดเดอร์มาใหม่

มีวิธีแก้มั้ยครับ

ไฟ O2 ขึ้น แล้วรถเร่งไม่ค่อยออก เป็นเพราะอะไร ขอข้อมูลครับ

ทำเฮดเดอร์มาถ้าไม่มีแคททาไลติคไฟจะโชว์คับ
 

รถแรงน่ะสิครับ ไฟเช็คเอนจิ้นโชว์

ผมโชว์มา2ปีกว่าแล้วอ่ะครับ (ตัดแคทออก เอามันส์เน้นเสียงครับ)แต่ก็ใช้งานได้ปกติดีนะครับ

อาการที่ท่านเจ้าของกระทู้เล่ามา น่าจะมีความผิดปกติที่ตัว CKPและ TDC sensor มีความผิดปกติ อาการที่แสดงให้พอเป็นที่น่าสังเกตก็คือเมื่อมีการขับรถใช้งาน ในระหว่างที่ขับรถบางช่วงของการเดินทาง เมื่อเครื่องยนต์ร้อน จะเกิดเครื่องยนต์ดับกลางทาง ต้องรอให้เครื่องยนต์เย็นลง หรือต้องใช้เวลาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง ถึงจะสตาร์ทเครื่องยนต์ติด

แต่อาการที่เครื่องยนต์ดับกะทันหันกลางทางนี้ ไฟรูปเครื่องยนต์จะไม่ติดโชว์ สาเหตุที่ไม่ติดโช้ว์เพราะว่า ที่ตัว ECU มันยังได้รับข้อมูลการเกิดสัญญาณพัลส์ จากตัว TDC หรือ CKP sensor ตลอดเวลาที่เครื่องยนต์ติด และเมื่อเครื่องยนต์ดับลงทันที ECU ยังไม่สามารถประมวลผล ของสัญญาณที่ขาดหายทันทีทันใด เครื่องยนต์ก็ดับแล้ว

เนื่องจากการทำงานของตัว TDC และ CKP sensor มันทำหน้า generate pulse หรือสัญญาณ การเคลื่อนที่ของลูกสูบ( TDC ) และการเคลื่อนที่ของเพลาข้อเหวี่ยง เพื่อกำหนดมุมองศาในการจุดระเบิด หรือกำหนดระยะเวลาการฉีดน้ำมันของหัวฉีด โดยเมื่อ ECU ได้รับสัญญาณพัลส์จากเซ็นเซอร์ดังกล่าวแล้ว ที่ตัว ECU จะต้องสร้างสัญญาณการจุดระเบิด ให้กับวงจรช่วยจุดระเบิดทำงาน สร้างสัญญาณไฟโวลเต็จสูงป้อนให้กับหัวเทียน พร้อมทั้งสัญญาณระยะเวลาการฉีดน้ำมันของหัวฉีด ให้มีความสัมพันธ์กับระยะเวลาในการจุดระเบิด ตามมุมองศาการจุดระเบิดที่กำหนด

ดังนั้นเมื่อสัญญาณ ที่มาจากเซ็นเซอร์ทั้งสองขาดหายไปทันทีทันใด ก็เหมือนกับเราดับเครื่องยนต์ สัญญาณการจุดระเบิดไม่มี เครื่องยนต์ก็ดับ อาการที่เกิดขึ้นนี้จะค่อยๆเริ่มจากนานๆครั้งเป็นเพิ่มระยะการเกิดเริ่มเป็นบ่อยครั้ง ที่เมื่อมีการขับรถเดินทางแล้วเกิดเครื่องยนต์ร้อน และในที่สุดมันก็จะดับถาวร สตาร์ทเครื่องยนต์อย่างไรก็ไม่ติด ไม่ว่าจะปล่อยให้เครื่องยนต์เย็นลงก็ตาม ช่วงนี้จึงสามารถใช้เครื่อง scan tool OBD2 ตรวจเช็ค error code ได้

ระบบการทำงานของตัวเซ็นเซอร์ทั้งสอง เมื่อเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เมื่อเพลาข้อเหวี่ยงหมุน เจ้าตัวเซ็นเซอร์ทั้งสองก็จะทำการสร้างสัญญาณพัลส์ โดยหลักการ ที่ว่า ที่ตัวเซ็นเซอร์จะเป็นขดลวดเส้นเล็กๆพันบนแกนเหล็กออ่อน หรือที่เรียกว่าปิคอัพคอย เมื่อแกนเพลาข้อเหวี่ยงที่มีการสร้างปุ่มแท่งแม่เหล็กถาวรเล็กๆ ตามส่วนมุมองศาของการเคลื่อนที่ของแกนเพลา เมื่อเพลาข้อเหวี่ยงหมุนผ่านไปถึงจุดที่มีแท่งแม่เหล็กถาวรเล็กๆ ตัดกับขดลวดของปิ๊กอัพคอย มันก็จะเกิดสนามแม่เหล็กตัดกับขดลวด ทำให้เกิดกระแสไฟในขดลวดเกิดขึ้น ตามระยะเวลาที่แท่งแม่เหล็กหมันตัดผ่าน ทำให้เกิดการยุบของสนามแม่เหล็ก เกิดพัลส์โวลเต็จขึ้น
ซีรีย์เกาหลี หนังเกาหลี

รูปข้างบนนี้เป็นรูปสัญญาณพัลส์ ที่ตัว CKP sensor สร้างสัญญาณในขณะที่เพลาข้อเหวี่ยงเริ่มหมุนในขณะทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ หรือในขณะที่เคร่องยนต์ทำงานในจังหวะรอบเดินเบา

เมื่อเกิดพัลส์โวลเต็จขึ้นแล้วสัญญานี้จะถูกส่งไปให้ ECU สร้างสัญยาณพัลส์ IGT ซึ่งเป็นสัญญาณการจุดระเบิด ส่งไปให้ ภาควงจรช่วยจุดระเบิด ทำหน้าที่สร้างสัญญาณไฟโวลเต็จสูง ให้กับหัวเทียน และสัญญาณกำหนดระยะเวลาการฉีดน้ำมันของหัวฉีด นี้คือหลัการเคร่าๆของวงจรช่วยจุดระเบิด

ดังนั้นการทำงานของระบบเครื่องยนต์ที่ควบคุมการทำงานด้วยระบบสมองกล ECU จึงจำเป็นที่จะต้องทราบระบบการทำงานของแต่ละภาคส่วน ที่เป็นส่วนประกอบให้เครื่องยนต์ทำงาน จึงจะสามารถที่จะแก้ไขและวิเคราะหืปัญหาเครื่องยนต์ได้ถูกต้องและตรงประเด็น เมื่อมีหลักการณ์ที่ถูกต้อง ก็จำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือทางอีเลคโทรนิคส์ เข้ามาช่วยตรวจสอบสัญญาณพัลส์ต่างๆ ของระบบอีเลคโทรนิคส์ที่เข้ามากำหนดการทำงานของเครื่องยนต์

อาการที่ตัว TDC หรือ CKP sensor เสียนี้ สามารถที่จะตรวจเช็คที่ตัวมันได้ด้วยวิธีการง่ายๆ ก็คือเมื่อเครื่องยนต์ดับกลางทางทันที่ ให้เข็นรถจอดเข้าข้างทาง เพื่อความปลอดภัย จากนั้นให้ใช้ VOM หรือ โอมห์มิเตอร์ ตั้งวัดค่าโอมห์ จะเป็นโอมห์มิเตอร์ ที่เป็นแบบ digital หรือแบบเข็ม Analog ก็ได้ กำหนด Range ย่านการวัด ที่ประมาณพันโอมห์ แล้วนำไปวัดที่ตัว sensor ให้วัดตรงขั่วปลั๊กเสียบ ช่วงมี่มีสายไฟต่อไปที่ตัวเซ็นเซอร์นั้น

หากวัดในขณะที่เครื่องยังร้อนหลังเครื่องยนต์ดับ จะวัดค่าความต้านทานไม่ขึ้น แต่เมื่อปล่อยให้เครื่องยนต์หรือที่ตัวเซ็นเซอร์เย็นลง แล้วกลับมาวัด จะอ่านค่าความต้านทานได้ประมาณ 600-700 Ohm ช่วงที่สามารถวัดได้นี้ หากสตาร์ทเครื่องยนต์ก็จะติดทันที นี้คืออาการเสียของตัว เซ็นเซอร์ทั้งสอง

เนื่องจากเจ้าของกระทู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เคยขับรถระหว่างทางขณะที่ชะลอรถ เครื่องยนต์ดับ แล้วสตาร์ทขึ้นมาใหม่ สตาร์ทไม่ติดต้องรอสักพัก ถึงจะสตาร์ทติด พอติดเครื่องยนต์มีรอบต่ำ อาการนี้น่าจะมาจากสาเหตุในระบบอากาศ ช่วยรอบเดินเบาของเครื่องยนต์บกพร่อง พวกสเต็ปมอเตอร์ หรือระบบ ISC แบบต่างๆ เพราะในขณะที่ยกเท้าจากการกดคันเร่ง

นั้นหมายความว่าลิ้นปีกผีเสื้อปิดมาอยู่ในต่ำแหน่งของรอบเดินเบา เป็นการตัดน้ำมันที่จ่ายในอัตราเร่งมาอยู่ในจังหวะรอบเดินเบา หากระบบอากาสช่วยรอบเดินเบาทำงานผิดปกติ เครื่องยนต์ก็จะดับเมื่อชะลอดรถ และอีกสาเหตุหนึ่งเป็นไปได้ว่าระบบไฟสูงที่จ่ายให้กับหัวเทียน อาจจะมีการรั่วลีคหรือมีการชอร์ทเทินของขดลวดที่ตัว Ignition coil เมื่อเกิดความร้อนสะสมในระหว่างเดินทาง ทำให้ไม่มีไฟสูงออกที่หัวเทียน แต่เมื่อมันเย็นจะใช้งานได้ ม ก็เป็นเพียงข้อสันนิฐานไว้ก่อน ต้องตรวจสอบการทำงานของมันด้วยเครื่องเมือตรวจเทสไฟสูงจึงจะทราบ

ซีรีย์เกาหลี หนังเกาหลี

เป็นรูปสัญญาณจุดระเบิด IGT หลังจากที่มันได้รับสัญญาณจาก CKP sensor แล้ว ECU จึงสร้างสัญญาณการจุดระเบิดไปให้วงจรช่วยจุดระเบิด ทำการสร้างไฟโวลเต็จสูงจ่ายให้กับหัวเทียน

และที่สำคัญ การที่ Error code ไปรูปเครื่องยนต์ติด น่าจะมาจาก O2 sensor หรือระบบอื่นบกพร่องมากกว่า การที่จะตรวจสอบว่าเกิดเพราะสาเหตุอะไร จะต้องใช้อุปกรณ์เครื่องมือทางอีเลคโทรนิคส์ พวก Digital Oscilloscope และอื่นๆเข้ามาวิเคราะห์ ที่สามารถเห็นการทำงานของระบบการคอนโทรลของเครื่องยนต์ ว่ามีส่วนไหนผิดปกติ และชำรุดเสียหายไม่ทำงาน จะใช้แบบตาดูหูฟัง แบบเครื่องยนต์รุ่นเก่าๆคงไม่ได้อีกแล้ว

สำหรับกรณีที่เพื่อนสมาชิกถามมาว่า ได้ดัดแปลงเปลี่ยนระบบท่อไอเสียใหม่ แล้วทำให้ ไฟรูปเครื่องยนต์ติด และรถวิ่งไม่ออก นั้น เป็นเพราะว่าเมื่อมีการเปลี่ยนระบบท่อไอเสียจากเดิมที่มี Catarlytic converter ไปเป็นแบบท่อโล่งๆ หรือรูปแบบของระบบท่อพักกลางแบบใหม่ ที่ทำให้ไอเสียถูกระบายออกได้เร้วขึ้น แต่ระบบเครื่องยนต์มีการติดตั้ง O2 sensor ที่ท่อไอเสีย หลัง Catalytic converter เพื่อตรวจจับปริมาณอีอกซิเจนที่หลงเหลือจากการจุดระเบิดที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่ง O2 sensor ที่ติดตั้งที่ท่อไอเสียนี้ เป็นแบบ wide band ที่มีการตรวจจับรายละเอียดของตัวออกซิเจนที่หลงเหลือได้มากกว่า O2 sensor ตัวที่หนึ่ง ที่ท่อไอเสียตรงเขาควาย ซึ่งเป็นแบบ narrow band ที่เก็บรายละเอียดได้น้อยกว่า

เนื่องจากการติดตั้งต่ำแหน่งของตัว O2 sensor ตัวที่สอง มันอยู่หลังตัว Catalytic converter เมื่อมีการตัดอกหรือทะลวงใส้แค็ทออก ทำให้อากาศร้อนของท่อไอเสีย มีอุณหภูมิที่ไหลผ่านตัว O2 sensor มีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นจากเดิม
เนื่องจากเมื่อยังมีตัว Catalytic ต่ออยู่ ที่ตัวมันจะสะสมความร้อนสูงเพื่อทำการเผาไหม้พวกคราบน้ำมันและไอคาร์บอนด์ ที่หลงเหลือจากการเผาไหม้ในห้องสูบในครั้งแรก ให้มีการเผาไหม้อีกครั้ง แล้วผ่านการกรองในส่วนของแค็ท ทำให้ระบบอากาศที่ผ่านตัว O2 มีปริมาณที่พอเหมาะกับการทำงานของ O2 ensor ที่ติดตั้งหลังตัว Catalytic converter ทำให้มันตรวจจับตัวอ็อกซิเจนที่หลงเหลือได้อย่างละเอียดมากกว่าตัวที่หนึ่ง

เมื่อตัดแค็ทออกไปเป็นท่อแบบตรงหรืออย่างอื่นที่ผิดรูปแบบการไหลของอากาศ ณ จุดนั้นเปลี่ยนไป ทำให้ตัวออกซิเจน
เซ็นเซอร์ ทำงานผิดไป ที่จับปริมาณอ๊อกซิเจนได้มากขึ้น ไฟรูปเครื่องยนต์ก็ติดโชว์ เพราะไม่มีการเผาไหม้ในขั้นตอนสะสมความร้อนในตัวแค็ทตาไลท์ติค ทำให้ O2 sensor ส่งค่าโวลเต็จทีผิดไปให้ ECU ทำให้มันสั่งปรับระยะเวลาความถี่ให้หัวฉีดน้ำมัน ฉีดน้ำมันมีระยะเวลาเพิ่มขึ้น เป็นผลให้อัตราส่วนผสมไม่สมบูรณ์ มีน้ำมันหนา การจุดระเบิดก็ไม่สมบูรณ์ เครื่องยนต์ไม่มีกำลังเร่งไม่ค่อยตอบสนอง และ กินน้ำมัน
การแก้ก็สามารถทำได้ด้วยการย้ายต่ำแหน่ง O2 sensor เสียใหม่ ส่วนตรงไหนนั้นขึ้นอยู่กับระบบท่อพักกลางที่เปลี่ยน ว่าเป็นแบบได จึงเจอะจงไม่ได้ ต้องขออภัยที่กระทู้ยาว เพราะอยากจะสื่อให้เห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนี้มาจากส่วนไหนอย่างไร ก็เคร่าๆแค่นี้ก่อนนครับ รายละเอียดมันมีมาก ทำให้ขี้เกียจอ่าน ………srithanon


ซีรีย์เกาหลี หนังเกาหลี

เป็นรูปสัญญาณพัลส์ ของหัวฉีดน้ำมัน

สุดยอดเลยครับ สำหรับข้อมูลด้านบน

ว้าวๆๆ ข้อมูลแน่นปึก

ข้อมูลๆอีกแล้วครับท่าน

สุดยอดข้อมูล เยี่ยมเลยครับ

ขอบคุณมากๆเลยครับ

คือ ผมต้อง ไปหาซื้อ เซ็นเซอร์ O2 ไปถามศูยน์7600

วิ่งไปดูเชียงกง 2800  ทำไมแพงจัง  400-500 ไ่ม่มีหร๋อ
 

-ข้อมูลเเน่นเลยครับ