Ton- พิมพ์ว่า: |
เคยอ่านเจอเหมือนกันว่า รถติดๆ หรือวิ่งทางสั้นๆ หยุดบ่อยๆ ให้ใช้ D3 จะประหยัดกว่า
แต่ ต้องระวังให้มากเพราะคนมักจะลืมว่าใส่ D3 อยู่ พอไปเจอไฟแดง ก็ดันขึ้นไป 1 ตำแหน่งเพื่อจะไป N แต่มันเป็น D โอกาสที่จะไหลไปชนคันหน้าก็มีเยอะครับ ถ้าไม่ได้ใช้จนชินผมว่า D ไปเหอะ แล้วค่อยๆ กดคันเร่งจะประหยัดและปลอดภัยกว่า ถ้าเผลอไหลไปชนคันหน้าซัก 1 ครั้งก็ไม่คุ้มค่าน้ำมันที่ประหยัดได้แล้วครับ |
Ton- พิมพ์ว่า: |
เคยอ่านเจอเหมือนกันว่า รถติดๆ หรือวิ่งทางสั้นๆ หยุดบ่อยๆ ให้ใช้ D3 จะประหยัดกว่า
แต่ ต้องระวังให้มากเพราะคนมักจะลืมว่าใส่ D3 อยู่ พอไปเจอไฟแดง ก็ดันขึ้นไป 1 ตำแหน่งเพื่อจะไป N แต่มันเป็น D โอกาสที่จะไหลไปชนคันหน้าก็มีเยอะครับ ถ้าไม่ได้ใช้จนชินผมว่า D ไปเหอะ แล้วค่อยๆ กดคันเร่งจะประหยัดและปลอดภัยกว่า ถ้าเผลอไหลไปชนคันหน้าซัก 1 ครั้งก็ไม่คุ้มค่าน้ำมันที่ประหยัดได้แล้วครับ |
tun221 พิมพ์ว่า: |
แล้วถ้าเราใช้เกียร D2 หรือ D3 เหยีบคันเร่งน้อย รอบสูง รถวิ่งช้าเพราะเกียร์ไม่เปลี่ยน (เพราะรถติดเลยใช้) = จะกินน้ำมันมาก หรือ น้อยครับ อันนี้น่าจะหยัดกว่านะครับเนื่องจากเครื่องยนต์ไม่ต้องรับภาระจากการฉุดมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ใช่ลากจน 3-4 พันนะ อีกตัวอย่างครับ รอบเครืองสูงเพราะเปลียนเกียร์บ่อย สับไปสับมา เพราะรถติด แต่เรากดคันเร่งก็ไม่มากเท่าไร น้ำมัน มันจ่ายยัีงไงเหรอครับ ฉีดตาม แรงที่เรากดคันเร่่ง หรือ ฉีดตามรอบ รอบสูงฉีดเยอะ อันนี้สงสารเกียร์ครับ อยู่เกียร์ 4 เร่งไม่ทันใจก็ต้องกดเยอะให้มันถอน วิ่งไปสักพักสับคืนอีก โอ้ สับๆถอนๆ ไม่ไหวๆ ผมคิดว่าน่าจะเปลืองกว่า เพราะต้องกดนี่แหละ |
tun221 พิมพ์ว่า: |
ตอนนี้ที่ผมเข้าใจคือ น้ำมันมันสามารถ ฉีดตามรอบด้วยใช่ไหมคัรบเวลาออกตัว เหมือนมันช่วยให้รถออกตัวใช่ไหมคัรบ |
tun221 พิมพ์ว่า: |
วันนี้มีอีกคำถาม
ถ้าเราลงจากเนินเขาหรือสะพาน ด้วยความเร็ว แต่เราไม่ได้เหยียบคันเร่่งเพราะปล่อยใหล แต่รอบมันก็ยังขึ้นอยู่ตามความเร็วรถ ลักษณะแบบนี้ น้ำมันมันลงตามรอบเครื่อง หรือ คันเร่ง ครับ |
ไปที่: |