srithanon พิมพ์ว่า: |
เห็นด้วยกับท่านเจ้าของกระทู้
ช่างที่ดีก็มีและไม่ดีก็มีมาก แน่นอนช่างที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์และความรู้ย่อมจะเกิดความไม่พอใจ เมื่อท่านเจ้าของรถรู้ดีกว่าว่าควรจะทำอย่างไร และเห็นช่างทำไม่ถูก ย่อมทำให้เจ้าของรถ ไม่เชื่อมั่นในความรู้ของช่าง และช่างเองก็กลัวมาก เพราะทราบหรือไม่ว่า บางท่านเป็นถึงระดับวิศวกร หรือผู้เชี่ยวชาญบางสาขา ที่มีความเกี่ยวพันกับโครงสร้างทางแม็คคานิคกลไก รวมทั้งด้านอีเลคโทรนิคส์ยานยนต์ แต่ท่านเจ้าของรถเหล่านั้น ไม่มีเวลาและที่สำคัญ เขาให้โอกาสกับผู้มีประสบการณ์ตรงในเรื่องเครื่องยนต์ และความชำนาญของช่าง ที่เขาคิดว่าจะทำและซ่อมรถให้เขาอย่างถูกวิธีและมีหลักการ แม้กระทั้งการใช้เครื่องมือ แค่หยิบประแจไขน็อต ต่างๆ ไขควง และอื่นๆ พอหยิบมาใช้ขันหมุน ผิดประเภท ใช้เครื่องมือผิดประเภท เขาก็กลัวแล้ว ไม่ใช่แค่มีคีมล็อคก็ขันถอดมันได้ทั้งหมด หัวน็อตก็รูดเหลี่ยมเสีย ยับเยิน เพราะใช้เครื่องมือผิดประเภท และที่สำคัญที่สุดของช่าง มักจะกล่าวกับลูกค้าว่าอย่ามายืนดูเขาซ่อม เพราะจะขาดสมาธิในการทำงาน แต่ความจริงเรื่องนี้ ได้มีความเห็นจากช่างที่มีประสบการณ์และความรู้จริง เขาจะพอใจมากกว่าที่เห็นเจ้าขงมาดูการทำงานของเขา เพราะจะทำให้ท่านเจ้าของรถมีความเชื่อมั่น ว่าแนวการแก้ปัญหา และวิธีการต่างๆที่เขากำลังซ่อม มีความสุขุม ปราณีต ว่าส่วนไหนต้องทำตามหลักการและสิ่งที่ถูกต้อง แม้กระทั้งถอดชิ้นส่วนต่างของเครื่องยนต์ มีความละเอียดและถอดออกมาไม่ชำรุดหรือเสียหายระหว่างถอดชิ้นส่วน ไม่ใช่ช่างเถอะ ที่เวลาถอดชิ้นส่วน ทั้งงัดและแงะ ไม่ถูกขั้นตอนในการถอด ไม่ใช่แค่มีไขควง คีม ประแจ ก็จะงัดเอาออก งานโครงสร้างของส่วนประกอบเครื่องยนต์ ทั้งที่เป็นบอดี้ และชิ้นส่วนประกอบของตัวรถ ช่างที่เขาเรียนรู้ทางด้านเครื่องยนต์ จะต้องมีแมนนวลเครื่อง หรือเท็คนิคอลบุ๊ค ที่รวบรวม วิธีการถอดชิ้นส่วนของเครื่องยนต์และบอดี้รถ ว่าจะกระทำการทอดที่ส่วนไหนเป็นอันดับแรกและต่อๆไป เพื่อไม่ให้ชิ้นส่วนนั้นๆชำรุดเสียหาย เมื่อเวลาประกอบกลับ แต่ส่วนมาก จะพบว่า เมื่อใดที่มีการเรื้อชิ้นส่วนจะมีการชำรุดเสียหายซะส่วนมาก การชำรุดที่เสียหายนี้ ท่านเจ้าของรถรถเป็นผู้จ่าย รวมถึงความไม่รู้ในระบบการทำงานของเครื่องยนต์สมัยใหม่ ที่ควบคุมด้วยระบบ ECU ที่ช่างรุ่นเก่าๆ อาจจะวิเคราะห์ไม่ถูก ทำให้ทดลองผิดทดลองถูก คิดนั่งเทียนคาดว่า น่าจะเป็นที่ตัวนี้และตัวนั้น บางครั้งตัวที่ไม่มีส่วนได้เสียกับอาการที่เกิดขึ้น ก็พลอยเสียไปด้วย ท่านเจ้าของรถก็จ่ายเงินไป ช่างบอกว่ามันเสียด้วย เจ้าของรถเอาเสียก็เสีย เพราะไม่มีความรู้ ก็ต้องเชื่อช่าง น่าเห็นในท่านเจ้าของรถ เสียเงินในส่วนที่ไม่ควรจะเสีย เพราะช่างที่คิดว่าเก่งกลับเอา รถของเราเป็นที่ลองวิชาหาประสบการณ์ไปในตัว โดยที่ไม่ต้องลงทุน ช่างที่ดีนะมีมากเช่นกัน แต่เราจะไม่ค่อยทราบ โดยมากจะแนะนำจากเพื่อนฝูง ว่าที่นั้นที่นี้ ช่างเก่ง บังเอิญไปเจอเคสง่ายๆ หรือโชคเข้าข้าง ก็แก้ไขได้ (ขออภัยสำหรับช่างที่มีความรู้จริง) แต่มาเจอกระดูกที่ต้องมีความรู้ด้านวิชาการ และหลักการทำงานของเครื่องยนต์แต่ละภาคส่วน ถึงจะเอามาแก้ไขได้ ก็ทำไม่ได้ ในกรณีที่ท่านเจ้าของรถพอที่จะมีความรู้และหลักการณ์ ด้านเครื่องยนต์ แต่ไม่สามารถที่จะลงมือด้วยตนเอง หรือเพราะความไม่ชอบในเรื่องความเปรอะเปื้อน หรือถือว่า ควรแบ่งอาชีพที่แต่ละคนถนัดไปก็แล้วกัน การรู้ทางวิชาการอย่างเดียวไม่พอ ต้องลงมือหาประสบการณ์จริงด้วย ในกรณีอย่างนี้ ให้ทำเป็นคนโง่เข้าไว้ อย่าอวดฉลาด ดังคำพังเพยที่ว่า คนอวดฉลาดคือคนโง่ คนโง่คือคนฉลาด เพราะอะไร การที่เราถ่อมตัว ย่อมเห็นว่าความรู้ที่ตนมีอยู่ อาจจะไม่ถึงขั้น หรือไม่ตรงกับสิ่งที่เขารู้ งั้นการที่เราบอกไม่รู้ ย่อมเห็นความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ว่ารู้จริงหรือไม่ บางครั้งสิ่งที่เรารู้ยังรู้ไม่เท่าเขา หรือสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามรู้ รู้ไม่เท่าเรา หรือรู้ไม่จริง เราก็จะพอประเมิณในความเป็นผู้รู้ของเขาได้ และบางครั้งในสิ่งที่เราไม่รู้เราอาจจะได้ความรู้จากฝ่ายตรงข้ามกับเรา โดยที่เราไม่เสียหน้า และที่สำคัญในการแกล้งโง่ของเรา ไม่ทำให้ช่างคนนั้นระแวง เขาก็จะปล่อยข้อเสียที่เกิดกับเขาให้เราได้เห็น ว่าที่แท้เขาเป็นอย่างไร เก่งหรือไม่เก็งหรือดีแต่โม้ เราจะได้ไม่หลวมตัวที่จะให้ทำการแก้ไขต่อไป หากเห็นว่าระหว่างการตรวจซ่อมของช่างหลงเข้าป่า หาทางออกไม่พบ ก็ควรหาทางเอารถออกมาจากอู่นั้นซะ จะได้ไม่เสียเงินให้ช่างเขาเรียนหาประสบการณ์ บนความทุกข์ของเรา ที่เป็นนายทุนออกเงินให้เขาเรียนหาประสบการณ์กับรถของเรา สะใจช่างแต่ไม่สะใจเราได้งัย ........srithanon |
ไปที่: |