พอดีผมเอารถไปล้างห้องเครื่องมาตอนกลับมาจากร้านก็วิ่งปกติแต่วันรุ่งขึ้นพอสตาร์ทรถแล้วเครื่องมันสำลักเหมือนเครื่องทำงานไม่เต็มสูบรอบสวิงตลอด วิ่งเกิน80เครื่องก็กระตุกพอมีวิธีแก้ไขยังไงบ้างครับ เข้าศูนย์ไปแล้วมันบอกว่าห้องเครื่องชื้นอาจจะเป็นที่หัวเทียนกับคอย์ล ถ้าใครเคยทำพอจะรู้ราคามั้ยครับว่าประมาณเท่าไหร่

น้ำน่าจะเข้าหัวเทียนคับ

เคยเป็นคับ แต่วิ่งไปสัก2-3วันก้อหายคับ

เคยได้ยินเค้าบอกว่าให้เอาสเปรไล่ความชื้นฉีดคับ แต่ไม่เคยลอง รอผู้รู้ก่อนแล้วกันคับ

ถอดคอยล์ออกมาเป่าให้แห้งในหลุมหัวเทียนด้วยนะคับแล้วเอาพวกsonexฉีดแล้วเป่าอีกทีน่าจะดีขึ้นคับ

เคยเป็นครับล้างเอง เอาน้ำไปฉีดห้องเครื่อง เห็นมันสกปรก บวกกับเคยฉีดมาแล้วก็ไม่เห็นเป็นไร

คราวนี้...เครื่องเดินไม่เรียบ สะดุดๆ ตลอด เลยเอาสเปรย์ Phillips กระป๋องฟ้ามาฉีดตามจุดต่างๆในห้องเครื่อง

พออีกวันขับไปก็หายเป็นปกติเลย ลองดูครับ

เป็นเหมือนกันครับ สรุปน้ำเข้าไปที่หัวเทียน ต้องถอดออกมาเป่าให้แห้งครับ

จัดตามข้างบนเลยครับ ผมก็เคยน้ำเข้ามาแล้ว

ปัญหาที่นำรถไปล้างอัดฉีดเพื่อทำความสะอาดรถ และแม้แต่ห้องเครื่องยนต์ คนที่ล้างอัดฉีดก็ไม่เข้าใจว่าควรจะฉีดและไม่ควรฉีดน้ำที่ส่วนไหนของเครื่องยนต์ ตั้งหน้าตั้งตาฉีดจนน้ำในห้องเครื่องเปียกโซก ผลที่ตามมาก็คือน้ำส่วนหนึ้งที่มีกำลังอัดฉีดได้เข้าไปตามหัวคอนเน็คเตอร์ ของสายสัญญาณไฟฟ้าต่างๆ ตามเบ้าหัวเทียน ทำให้สัญญาณไฟฟ้า ที่เป็นระบบเซ็นเซอร์ของคอนโทรล การทำงานของเครื่องยนต์ เกิดลี๊คหรือชอร์ท เพราะมีน้ำและความชื้นเป็นตัวสื่อไฟฟ้า ทำให้การทำงานของระบบเครื่องยนต์มีปัญหา สิ่งที่เห็นได้ง่านก็คือ ที่ปลั๊กขั่วหัวเทียน รวมทั้ง ตัว Ignition coil ที่สร้างไฟสูงให้กับหัวเทียน เกิดลี๊คลงกราวด์ ทำให้บางสูบเกิดการจุดระเบิดไม่สมบูรณ์เพราะกระแสไฟโวลเต็จ ลี๊คลงกราวด์ ทำให้เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง รอบตกและสวิง
ในกรณีอย่างนี้หลังจากที่ล้างรถเสร็จใหม่ๆ สิ่งที่ควรจะกระทำก็คือตัวโบรวเวอร์ เครื่องเป่าลม ที่มีฮีทความร้อน แบบไดร์เป่าผม เอามาเป่าตามซ๊อคเก็ต หัวคอนเน็คเตอร์ต่างๆ ให้แห้ง ทั้งที่เบ้าหัวเทียน ควรถอดแค็บที่ปลายสายหัวเทียนมาเป่าด้วย อย่ารอให้มันแห้งไปเอง
ความชื้นที่เกิดขึ้นนี้ หากยังสะสมอาจจะเกิดสนิมอ๊อกไซด์ เกิดขึ้นกับส่วนของขาพินเสีบยของหัวคอนเน็คเตอร์ ทำให้เกิดฟีล์มหรือแบ็คคอนแท็ค เกาะตามผิวของโลหะหรือทองแดง ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านไม่สะดวก และจะเกิดขึ้นในภายหลังที่มีน้ำเข้า ไม่เกินอาทิตย์
ผลที่ตามมาอาจจะทำให้เกิดปัญหากับการคอนโทรลของเครื่องยนต์ด้วยระบบ ECU
ทางที่ดีภายในห้องเครื่องควรทำความสะอาดแห้ง หรือใช้ผ้าชุบน้ำยาล้าง อย่าพยายามให้น้ำยาเข้าไปในหัวพวกคอนเน็ตเตอร์ และชื้นส่วยที่เป็นจุดต่อของสายสัญญาณ ระบบไฟระบบพัลส์ ก็จะเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาที่ตามมาครับ.......srithanon

ขอบคุณทุกคำตอบน่ะครับ..ผมจะลองไปทำดู

สาเหตุที่เจ้าของกระทู้บอกว่าตอนรับรถออกมาวิ่งปกติไม่เป็นไร
แต่พอทิ้งไว้หนึ่งคืนเช้ามารถวิ่งกระตุกเป็นเพราะ
ขณะล้างใหม่อาจจะมีความชื้นเข้าไปในระบบไฟแต่ยังไม่มีผลต่อการจุดระเบิด
แต่พอผ่านช่วงกลางคืนอากาศเย็นลงความชื้นกลับรวมตัวเป็นหยดน้ำเป็นอุปสรรคต่อระบบไฟจุดระเบิด

แนะนำการล้างที่มีความปลอดภัยที่สุดในขณะนี้คือการล้างด้วย เครื่องพ่น(ขัด) Dry ice blasting
ที่ไม่ใช้น้ำ ไม่ใช้เคมี ไม่ต้องถอดอุปกรณ์ใดๆ ออกจากตัวรถ เร็วกว่าการล้างแบบเดิม 5 เท่า ใช้เวลา 10-15 นาที

ความเร็วทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้น

ผมพึ่งเป็นเหมือนกันครับ วิ่งไม่ออก ไฟเกียร์ D กระพริบตลอด ถอดกรองออก ไล่ลมความชื่นตามปลั๊ก หายเป็นปกติแล้วครับ