เรื่องจริงของชีวิตผมครับ
ปล. ขอบคุณพี่รัฐมากครับ ที่อุตสาห์โทรมาเล่าประสบการณ์ของพี่ให้ฟัง ขอบคุณจิงๆ พี่ มาระยองเจอกันได้ครับ อยากคุยด้วย
เมื่อ 4 ปีที่แล้ว (2007) ด้วยเหตุผลทางครอบครัว ทำให้ผมตัดสินใจออกรถคันหนึ่ง เป็น ISUZU Dmax Space CAB 2.5 สีเงิน ทะเบียน ตศ 7471 จากศูนย์ในระยอง ทั้งๆ ที่ผมไม่อยากออกมือ 1 เพราะเงินเดือนไม่พอ ผ่อนแล้วเหลือตังนิดเดียว

แต่ก็เพราะเหตุผลที่ว่า ทำให้จำต้องออกรถใหม่
และที่สำคัญผมต้องส่งน้องเรียนมหาลัยด้วย และมีเหตุการณ์ที่เริ่มเป็นมรสุมชีวิตเข้ามาหลังจากออกรถมาได้เพียง 3 เดือน บริษัทที่ผมทำงานอยู่ต้อง Layoff พนักงานหลายร้อยคน และ 1 ในนั้นคือผม แต่ผมก็ยังโชคดีที่เจ้านายเก่าชวนไปทำงานที่ Office เขา ซึ่งเขาจะจ่ายเงินเดือนให้เท่าที่เดิม ซึ่งตอนนั้นผมคิดว่าดีกว่าตกงานอยู่แล้ว รีบรับทันที แต่เรื่องของเรื่องก็คือ ผมต้องย้ายไปอยู่เมืองทองฯ ที่นนท์ ซึ่งทำให้เงินที่เหลือน้อยอยู่แล้ว ไม่เพียงพอ เพราะจากอยู่บ้านตัวเอง ต้องไปเช่าห้องอยู่ อีกทั้งค่ากินค่าอยู่อีก ซึ่งทำให้เงินที่ต้องส่งน้องไม่พอ...
นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่อง...ผมต้องรีบขายรถคันนี้ให้ได้ภายในเดือนนั้น (ประมาณกรกฏาปีนั้น) ผมรีบลงประกาศขายรถในเวปขายรถหลายเวป และก็ทำให้มีหลายคนโทรเข้ามาสอบถาม เพราะเป็นรถใหม่ 5 เดือน เพิ่งวิ่งครบ 10000 โลไปเอง ใจผมอยากได้แค่เงินดาน์วคืนเท่านั้น แต่เต็นท์รถกดราคามาก ผมเลยยังไม่อยากปล่อย จะรอให้ถึงที่สุดก่อน
..แล้วก็มีคนคนหนึ่งโทรมา มันชื่อ "ไอ้หมู" ชื่อจริง "ผลายุทธ ผลหมู่" มันบอกว่าทำธุรกิจค้าเฟอร์นิเจอร์อยู่ เช่ารถเขาวิ่งส่งของอยู่ อยากได้รถสภาพดีๆ ไว้เอง เห็นรถผมยังเป็นรถใหม่อยู่ และยอมจ่ายเงินดาน์วที่ผมต้องการ นัดดูรถกัน มันก้อมาที่เมืองทองฯ ผมรอที่ออฟฟิส พอมาถึงมันก็โทหาผมว่าอยู่ตรงไหน จนได้เจอกัน แต่ที่น่าสงสัยคือ
- ทำไมเดินมา ซึ่งผมถามมันก็บอกว่า ให้เพื่อนมาส่ง จอดรออยู่ข้างหน้านู๊น ซึ่งไม่จำเป็นเลยว่าทำไมต้องจอดรอตั้งไกล ทั้งๆ ที่ควรจะขับมาดูก่อนว่ามีที่จอดใกล้หรือเปล่า
- แต่งตัวดี พูดจาดี ยกแม่น้ำทั้ง 5 มาอ้างความน่าเชื่อถิอ
- ไม่ลองรถ อ้างว่ารถยังใหม่ ไม่ต้องลองก็ได้ (คนจะซื้อรถผมว่าใหม่เก่าต้องลองหมดครับ) ซ้ำยังไม่เปิดประตูรถดูข้างในด้วยซ้ำ
- อ้างว่ายังไม่สามารถโอนรถได้ เพราะน้องสาวที่จะเป็นคนค้ำ ยังไม่กลับจากทำทัวร์ที่ลาว จะกลับสิ้นเดือน แต่พยายามบอกว่าอยากได้รถไปค้าขายก่อนยังไงทำสัญญาซื้อขายกันไว้ก่อนได้ไหม...ผมตกลงคับ อันนี้ไม่อยากแก้ตัวนะครับ แต่เพราะว่าผมเป็นคนง่ายๆ มองโลกในแง่ดี ไม่อคติกับใครก่อนครับ ยังคิดว่าเขาช่วยเรา เราช่วยเขาอยู่เลย... "ผมไม่คิดว่าจะเจออะไรแบบนี้กับชีวิตตัวเองครับ"
แล้วมันก็กลับไป.. นัดกันวันเสาร์ถัดมาว่าจะมาทำสัญญาซื้อขายกัน มันมาเหมือนเดิมครับ เดินมา... ผมสงสัย แต่ก็ไม่ถาม มันมาพร้อมเงินสด และหลักฐานอ้างอิง รวมทั้งตีเชคเป็นจำนวนเงินที่เหลือเพื่อให้ผมตายใจว่า ถ้ามันโกง ก็เอาเช็คไปแจ้งความจับมันได้เลยครับ และมันยังพาผมขับรถไปดูสถานที่อ้างอิงตัวเอง บุคคลปลอมๆ ที่มันจัดฉากขึ้น เพื่อความสมจริง..
แล้วผมก็รับเงิน..เซ็นสัญญากับมัน โดยนัดกันไว้ตอนสิ้นเดือนเมื่อน้องสาวที่มันอ้างกลับมา จะมาโอนรถกัน
และแล้วสิ้นเดือนผมโทรไปตามนัด มันเริ่มอ้าง "น้องสาวยังไม่กลับ" "น้องสาวไม่ยอมค้ำให้ ถ้ามันไม่คืนเงินที่มันยืมน้องเสียก่อน" "ทำธุรกิจขาดทุน" บลาๆๆๆๆ ทั้งหมด 5 เดือน แต่ถึงยังไงผลก็ยังคิดว่าผมไม่ได้โดนหลอก เพราะ 5 เดือนที่ผ่านมา มันยังโอนเงินค่างวดรถมาให้ผมจ่าย (แต่กว่าจะได้เงินแต่ละเดือนต้องทวงกันหลายครั้ง) เล่นเอาผมหัวเสีย บอกว่า ถ้าเดือนหน้ายังไม่โอนผมขอรถคืน มันบอกว่าได้ครับ แต่ยังไงถ้าผมขายได้แล้วมันขอเงินส่วนหนึ่งจากการขาย เพราะมันบอกว่ามันจ่ายให้ผมมา 5 เดือนแล้ว ผมก็บอกว่า อ้าวคุณเอารถไปใช้นี่ครับ มันก็เหมือนกันค่าเช่ารถไม่ใช่เหรอ แต่ผมไม่ได้อยากเอากลับ ผมแค่อยากให้คุณมาโอนรถกันให้จบเรื่อง หลังจากนั้นคุณจะไปขายเอาเงินคืนยังไงก็แล้วแต่คุณ...
และที่เดือนที่ 6 นั่นแหละเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้คุยกับมัน ผมโทรไปทวงค่ารถอีก (เหมือนเดิม) มันรับบอกว่าตอนนี้มาขายของอยู่ทางใต้ เดี๋ยววันเสาร์จะโอนเงินให้...และแล้ววันเสาร์ผมก็โทรไป "ไม่สามารถติดต่อหมายเลขที่ท่านเรียก" ไม่เป็นไร รอก่อน เพราะผมเคยติดต่อมันไม่ได้ 3 วันมาก่อน แต่จนสิ้นสัปดาห์ ก็ยังติดต่อไม่ได้ ผมต้องยืมเงินเพื่อนจ่ายงวดรถไปก่อน ผมต้องชวนเพื่อนไปตามหาตามบ้านเลขที่ที่อยู่ในสำเนาทะเบียนบ้าน...และนี่คือข้อสรุปทั้งหมดของเรื่องนี้
1 ที่อยู่ของมันเป็นของจริงครับ แต่มันย้ายออกไปเป็นสิบปีแล้ว แต่มันยังใช้ที่อยู่เดิมเพราะมันไม่ได้ย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้าน และผมเพิ่งรู้ว่าเจ้าทุกข์หลายรายพาตำรวจมาที่นี่หลายครั้งแล้ว
2 รู้สึกโง่มากก.. แค่ Search ชื่อมันจาก Google ก็เจอชื่อมันหราแล้ว เพราะเจ้าทุกคนอื่นตามอยู่ครับ
3 มีแต่คนหวังเอาประโยชน์จากเราที่เดือดร้อน ทั้งๆ ที่เราเล่าให้เขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่นายไปรษณีย์ที่เราไปขอให้เขาช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าบ้านหลังนี้อยู่ไหน จะมาเรียกเก็บค่าบอกเรา, ทนายที่พ่อบอกว่ารู้จักๆ ก็มาพูดเรื่องค่าดำเนินการทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย
4 ตำรวจจะไม่ยอมตีเป็นคดีอาญา ทั้งๆ ที่เราเอาหมายศาลจากเจ้าทุกข์คนอื่น(ที่ตีเป็นคดีอาญา) มาแนบให้ดู อ้างว่า แล้วแต่เจ้าหน้าที่เขาพิจารณา ของเราไม่เกี่ยวกับของเขา แถมยังบอกเรานั่นแหละต้องโดนดำเนินคดี เพราะเอารถไฟแนนซ์ ไปซื้อขายกันเอง (อันนี้ผิดจริงครับ แต่ผมคุยกับไฟแนนซ์แล้ว ตรงๆ เขาก็ไม่เอาเรื่องกับผม เพราะตราบใดที่ผมยังจ่ายค่างวดเขาอยู่ก็ไม่มีปัญหา และยังยอมออกเอกสารเป็นเจ้าทุกข์ร่วมกับผมอีก) แต่ยังไงตำรวจก็ไม่รับ (ผมไปแจ้งถึง 4 สถานีครับ) เพราะคดีพวกนี้ได้ของคืนยาก และหากเขาปิดไม่ได้มันมีผลกับผลงานของเขา สุดยอดด...
5 ผมวุ่นหลายเรื่องมากกับเรื่องนี้ คิดอยากแจ้งความเท็จ ทำยังไงให้ประกันรับผิดชอบ... 3 เดือนทำงานแทบไม่ได้ ไม่มีอารมณ์ จนต้องตัดสินใจยอมจ่ายเอง แล้วหางานใหม่ ทำเอง แก้เอง
6 มีหลายคนแนะนำว่าปล่อยไปเลย รถไม่อยู่แล้ว ประกันจะยึดอะไรได้... ผมทำไม่ได้ครับ เพราะเพื่อนสนิทผมเป็นคนเซ็นต์ค้ำให้ ผมทำให้เขาเดือดร้อนไม่ได้ แล้วจะมีใครเชื่อถือผมอีก กับคนที่ทำให้เพื่อนเดือดร้อน... ผมคิดว่าผมทำถูกนะ การที่ผมยังสู้ กลับส่งผลดีให้ผมเพราะคนอื่นเห็นว่าผมไม่ใช่คนไร้ความรับผิดชอบครับ
7 ถึงอย่างนั้น ก็ยังเจ็บปวดทุกครั้งที่ต้องเดินเข้าเซเว่นตอนสิ้นเดือน นับเงินแบงค์พัน 12 ใบ แล้วยื่นให้พนักงาน
8 เหลืออีก 10 เดือนจะหมดแล้วครับ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านนะครับ
ขอให้ประสบการณ์แย่ๆ ของผมได้เป็นภูมิคุ้มกันให้ชาว ES Group ทุกคนครับ
เพิ่มเติมครับเชคเงินสดที่มันให้มา ไม่มีประโยชน์อะไรเลยครับ
มีคนแนะนำให้ผมเอามันไปขึ้น ให้กลายเป็นเชคเด้ง แล้วค่อยเอาเชคไปแจ้งความ
ผมลองแล้ว และเพิ่งรู้ว่า ถ้าเชคเขียนอย่างนี้
ตัวหนังสือ หกแสนบาทถ้วน
ตัวเลข 600000.xx
ใช้ไม่ได้ครับ ผมไม่รู้คิดว่า .xx ไม่มีความหมาย
แต่ไม่ใช่ครับ พนักงานธนาคารบอกผมว่า .xx นั่นสามารถเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่ .00 - .99 ดังนั้น คนเขียนตั้งใจเขียนไม่ให้เชคใช้ได้ตั้งแต่แรกแล้ว ทางธนาคารไม่สามารถทำอะไรกับเชคที่เขียนไม่ถูกต้องได้
เผื่อสำหรับคนไม่รู้คับ ส่วนผมไม่รู้จิงๆ โดนไปแบบนี้รู้เลยว่าโลกนี้ยังกว้างอีกเยอะ