คือรถผมมีอาการสตาร์ทไม่ติดเวลาเครื่องร้อนนะครับ
คือแบบว่าขับไปแล้วจอดทำธุระกลับมาก็จะสตาร์ทไม่ติดต้องรอซัก10นาทีถึงจะสตาร์ทติด
แต่เป็นบางครั้งนะครับไม่เป็นทุกครั้ง แต่ช่วงนี้เป็นบ่อยครับ
เอาแบ็ตไปเช็คแล้วไม่มีปัญหาอะไรครับ คือจะถามพี่ๆว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไรหรอครับ
มีใครเคยเป็นบ้างหรือป่าวอาการแบบนี้ แล้วจะแก้ไงยังไงหรอครับ

เดี๋ยวจะมีคนมาตอบว่า ให้เปลี่ยน TDC sensor ตัวละประมาณ 1,xxx กว่าบาทครับ

รอหน่อยนะครับ

น่าจะเป็นที่ TDC senser ใช่มั้ยครับแล้ว
มีอู่นอกแนะนำบ้างมั้ยครับ พอดีงบน้อยอะครับ

มีอะไรมากกว่านี้ เช่น...ไฟหน้าปัดโชว์ไหม + ความร้อนขึ้นไหมหรืออื่นๆๆอ่ะคับจะได้ตอบให้ชัดเจน...ชัดเจนไปเลย แบบติ๊กไงคับ...

ไฟหน้าปัดไม่โชว์อะไรครับ
ความร้อนก็ปรกติครับ
อ๋อ มีไฟเบรคมือกระพิบขณะขับรถอะครับไม่รู้ว่าเกี๋ยวหรือป่าวครับ
ช่วยตอบหน่อยนะครับจะได้แก้ปัญหาถูก
ตอนนี้ไปไหนไม่ค่อยกล้าดับเครื่องเลยกลัวสตาร์ทไม่ติด
ขอบคุณทุกๆที่ช่วยแนะนำด้วยครับ

นอกจาก TDC Sensor แล้ว ลองตรวจ BAT ก็ดีนะคับ
เปลี่ยนล่าสุดเมื่อไหร่คับ ถ้ายังใหม่ ก็ ไม่เกี่ยวกับแบต

แนะนำศูนย์อย่างเดียว อู่นอกไม่มีครับ ไฟเอนจิ่นไม่โชว์ตลอดครับ

เปลี่ยนศูนย์ดีกว่าครับ รับประกันด้วยครับ

ผมเคยเป็นคับ เข้าศูนย์เปลี่ยนฟรี เพราะตอนนั้นยังไม่ครบ แสนโล
หรือ 3 ปี ผมจำไม่ได้ว่าเรียกว่าตัวอะไร แต่เค้าบอกว่า เซนเซอร์ ตรงใต้เกียร์เสียคับ
หรือที่เค้าเรียกกัน TDC อะไรประมาณเนี้ยอ่ะคับ

อาการของรถผม
- ขยับเกียร์ขึ้นลงไปมา แล้วสตาร์ทจะติดคับ ศูนย์บอกว่าเซนเซอร์เกียร์มันไม่สัมผัสคับ -
** ถ้าอาการเหมือนกันใช่เลยคับ ผมดูในบิลที่เค้าให้มา ตัวละ 1600 ก่าบาทได้น่ะถ้าจำไม่ผิด เดี๋ยวกลับไปหาบิลของศูนย์มาให้ดูน่ะคับ แต่ผมเปลี่ยนฟรี เพราะอยู่ในระยะประกันคับ **

ขอบคุณที่ช่วยให้ความรู้นะครับ
แต่ตอนนี้ยังดูอาการอยู่เลยครับเพราะปกติมาหลายวันแต่ถ้าเป็นอีกคงต้องเข้าไปเปลี่ยนแล้วครับ

เช็คกรองเบนซินด้วยก็ดีนะครับ

อาการที่ท่านเจ้าของกระทู้บอกมานั้น   มันไม่ใช่อาการของตัว TDC sensor เสีย   อาการเสียของ TDC sensor  เสียจะมีอาการดังนี้  ในขณะที่ขับรถไปตามถนน  แล้วจู่ๆเครื่องยนต์ก้ดับทันที หรือเีรียกว่าดับกลางอากาศ     และหลังจากที่เครื่องยนต์ดับลงจะสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด   ต้องรอให้เครื่องยนต์หรือที่ตัว TDC sensor มัยเย็นลง  ซึ่งจะต้องใช้เวลานานประมาณหนึ่งชั่วโมงถึงจะสตาร์ทเครื่องยนต์ติด  และอาการที่เป็นนี้  จะเพิ่มระยะการเกิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ   จนในที่สุดก็สตาร์ทไเครื่องยนต์ไม่ติดตลอดไป   ต้องเปลี่ยนตัว TDC sensor ถึงจะสตาร์ทได้ตามปกติ


เนื่องจากอาการที่เกิดขึ้นกับท่านเจ่าของกระทู้  มันไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ติดได้  เมื่อมีการดับเครื่องยนต์หลังจากที่ใช้งาน  หรือและลงไปทำธุระ 5-10 นาที่ขึ้นไป   ในเวลานี้จะกลับมาสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด  ที่เป็นดังนี้เพราะว่า  หัวฉีดน้ำมันมันรั่ว  มีน้ำมันหยดลงในห้องสูบและมีไอน้ำมันเชื้อเพลิงสะสมอยู่ในห้องไอดีของเครื่องยนต์
  

ในขณะที่ดับเครื่องยนต์ทันที่  น้ำมันในท่อรางหัวฉีดยังคงมีแรงดันของน้ำมันอยู่  แรงดันของน้ำมันนี้ยามที่หัวฉีดยังปกติไม่รั่ว  แรงดันน้ำมันในท่อรางหํวฉีดจะไม่สามารถดันออกมาได้  เพราะบ่าวาวล์ตรงหัวฉีดปิดสนิทไม่รั่ว   มันจะดันน้ำมันออกได้ก็ต่อมเมื่อมีสัญญาณโวลเต็จ  จากการคอนโทรลของ ECU  จ่ายมาให้ห้วฉีด ยกบ่าวาวล์ให้น้ำมันพุ่งออกไปด้วยแรงดัน   แต่ถ้าหัวฉีดรั่วมันก็จะมีน้ำมันหยดจากหัวฉีดลงสู่ห้องสูบ ตรงกับหัวฉีดประจำสูบนั้นๆ


น้ำมันเชื้อเพลิงที่หยดรั่วจากหัวฉีดจะเริ่มมีปริมาณน้ำมันที่รั่วมากขึ้นไปเรื่อยๆ  จนแรงดันน้ำมันในท่อรางหัวฉีด  เริ่มจะหมดแรงดันเพราะน้ำมัน มันหยดรั่วออกไป  จนที่สุดก็ไม่มีแรงดันพอที่จะให่รั่วออกจากหัวฉีด   มันก็หยุดรั่ว   จะพบว่าตั้งแต่ดับเครื่องยนต์ทันทีน้ำมันจะรั่วและก่อนที่มันจะหยุดรั่วก็ใช้เวลานานอาจจะ15-20 นาที่    และในช่วงนี้เองหากกลับมาสตาร์ทเครื่องยนต์จะสตาร์ทไม่ติด  ที่ไม่ติดก็เพราะว่า  ในอัตราส่วนผสมในการจุดระเบิด  มีน้ำมันมากกว่าอากาศ   ประกอบกับในเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด  ที่ควบคุมด้วยระบบ ECU ในการสตาร์ทเครื่องยนต์ครั้งแรก   ECU จะสั่งให้หัวฉีด  ฉีดน้ำมันมากกว่าปกติเพื่อให้มีอัตราส่วนผสมหนาในการจุดระเบิด  เพื่อช่วยให้รอบการทำงานของเครื่องยนต์ไม่ต่ำในตอนแรก  


เมื่อเป็นดังนี้เท่ากับว่ามีน้ำมันเพิ่มมากขึ้นอีก  ทำให้อัตราส่วนผสมในการจุดระเบิด  มีน้ำมันมากเรียกว่ามีส่วนผสมหนา   ทำให้การจุดระเบิดเกิดขึ้นยาก   จึงทำให้การสตาร์ทเครื่องยนต์ติดยาก   และอาการนี้จะต้องรอให้น้ำมันในห้องสูบหรือในท่อไอดีมันระเหยออกไปหมดก่อนถึงจะสตาร์ทติด  นั้นหมายความว่าจะต้องรอให้น้ำมัน มันระเหยออกไปให้หมดก่อน    นี้คือสาเหตุที่ไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ติดได้ตามเวลาที่กล่าวมา


สำหรับอาการที่เกิดกับท่านเจ้าของกระทู้  คาดว่ายัวรั่วไม่มาก  ทำให้ระยะเวลาที่น้ำมันมันระเหยมีไม่นานก็หมด  จึงสตาร์ทติดในช่วงเวลาไม่เกิน15 นาที   หากรั่วมากจะใช้เวลาเกือบชั่วโมงถึงจะสตาร์ทเครื่องยนต์ติดได้
 
แนวทางการแก้ไข ก็ให้น้ำรถไปให้ช่างตรวจเช็คการรั่วของหัวฉีด  ช่างจะทราบวิธีการตรวจเช็คได้ดี   หากให้ดีควรซื้อมือสองจากเชียงกงอาไหล่มือสองมาเปลี่ยน  ราคาไม่แพงประมาณ 3-400 บาท  ของศูนย์แพงครับ..............srithanon
 

ขอเพิ่มเติมอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนี้ได้เช่นกัน    ลองตรวจดู เซ็นเซอร์อุณหภูมิน้ำ  หากทำงานผิดปกติ มันจะสตาร์ทเครื่องติดยากเช่นกัน  เพราะที่เซ็นเซอร์ตัวนี้จะทำงานในลักษณะการเกิดค่าความต้านทานในตัวมันต่อการเปลี่ยนแปลงของอุรหภูมิน้ำ  หมายความว่า
ในขณะที่น้ำในระบบระบายความร้อนของเคื่องยนต์  ยังเย็นอยู่ที่ตัวเซ็นเซอรือุณหภูมิน้ำจะมีค่าความต้านทานสูง   หากน้ำในระบบระบายความร้อนสูงขึ้น   ค่าความต้านทานในตัวมันจะน้อยลง   ทำให้เกิดค่าโวลเต็จตกคร่อมที่ตัวมันเปลี่ยนแปลง  และค่าโวลเต็จที่ได้นั้น  จะส่งไปยัง ECU  สั่งให้หัวฉีด  ฉีดน้ำมันพิ่ม   เพื่อให้เกิดส่วนผสมหนาในการจุดระเบิด  ทำให้รอบเครื่องยนต์สูงในตอนแรกหรือตอนเช้าๆที่เครื่องยังเย็นอยู่

เมื่อใดก็ตาม  ที่ตัวเซ็นเซอร๋นี้บกพร่องผิดปกติ  ไม่เปลี่ยนค่าความต้านทานตามการแปรผันของอุณหภูมิที่สูง  ก็จะทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ติดยาก  หรือบางครั้งพบว่าหัวเสียบของสายไฟสัญญาณไม่แน่น  ทำให้เกิดอาการหายๆเป็นๆ ที่สตาร์เครื่องยนต์ปกติบ้างไม่ปกติบ้าง   ยังงัยก็ลองตรวจสอบกับอาการที่เกิดขึ้นนี้ด้วย  อาจเป็นสาเหตุหนึ่งก้ได้   อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอกับระบบอีเลคโทรนิคส์ที่ใช้ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์  สิ่งที่ใช่ในคราวแรก  แต่อาจจะไม่ใช่ในคราวต่อไป  กับปัญหาที่เกิดขึ้นในอาการเดียวกัน  เพราะมันมีปัจจัยในการทำงานร่วกันของหลายภาคส่วน  ที่ก่อให้เกิดการทำงานของเครื่องยนต์ที่สมบูรณ์..........srithanon

tdc ราคากันเองไม่น่าเกิน 2200 ครับ

รถผมก็เป็นเหมือนกันครับ
มีอู่แนะนำไหมครับ
 

ความรู้ล้วนๆ

เก็บข้อมูล

..อันดับแรกเช็ค น้ำในหม้อน้ำครับ แล้วดูพัดลม หม้อน้ำทำงานทั้งสองตัวไหม ถ้าทำงานตัวเดี่ยว อุหภูม น้ำ สูงเกินไปก็ไม่ติดครับ ต้องรอสักพัก

เก็บข้อมูลครับ

!!!

ผมเพิ่งไปซ่อมอาการนี้มาเหมือนกันครับ CIVIC EK 96 Vtie 
คุณมีอาการเหมือนผมเป๊ะ    จอดนานๆ สตารท์ติด แต่ จอดแปปๆ กลับมาที่รถ ไม่ติด เครียดดดด   เปลี่ยน คอยด์ใหม่แล้ว ไม่หาย ตอนแรกคิดว่าแบต แต่จริงๆแล้วไม่เกี่ยว ดีนะที่ไม่รีบเปลี่ยน 

ผมซ่อมจบแล้วครับ สรุป  เป็นที่   เซ็นเซอร์วัดความร้อนเสียครับ   และเปลี่ยนหัวเทียน 4 หัว และล้างลิ้นปีกผีเสื้อ  ค่าซ่อม ประมาณ  2170 บาท รวมหมด     จบแล้วครับ 


ให้เครดิตช่างวัฒน์ นะครับ ราชพฤกษ์ วิเคราะห์อาการเก่งจริงๆ    
ขอให้หายไวๆครับ

ได้รับมรดกรถเป็น dimension 2003 2.0 

อาการเดียวกับเจ้าของกระทู้เลยคะ ซ่อมมาเยอะ หมดตัวแล้วค่า ช่วยแนะนำร้านด้วยนะคะ