INTEGRA (DC5) TYPE R MUGEN STYLE BY TOON MOTORSPORT



เริ่มต้นเดือนใหม่กันอีกครั้ง กับเดือนที่มีวันแห่งความรัก อาจเป็นเดือนที่สร้างความสุขสมหวังให้กับหลายคน แต่ก็ยังมีอีกไม่ใช่น้อยที่เป็นเดือนแสนจะธรรมดาไม่แตกต่างอะไรจากทั่วไป แต่ยังไงการดำเนินชีวิตก็ยังต้องมีต่อไปเรื่อย ๆ คุณคิดว่ายังไง?

ในเล่มนี้ทางทีมงานได้นำรถในรูปแบบสปอร์ตคาร์มาให้ผู้อ่านได้ยลโฉมกันบ้าง เพราะกลัวว่าจะเลี่ยนกับรถในแบบซีดานกันซะก่อน โดยรถที่ถูกเลือกมาอวดโฉมกันเป็นรถจากค่าย HONDA ในรุ่น INTEGRA (DC5) TYPE R แต่ถูกเสริมแต่งให้ดูไม่ธรรมดากับคอนเซ็ปต์ MUGEN POWER ทั้งคัน

EXTERIOR



เริ่มต้นจากภายนอกกับคอนเซ็ปต์ MUGEN POWER ซึ่งหลายคนก็น่าจะรู้จักกันดีว่าเป็นของแต่งที่คู่กับ HONDA โดยชุดแต่งดังกล่าวถูกออกแบบตามหลักแอโรไดนามิกส์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน สำหรับชิ้นส่วนแอโรพาร์ทที่นำมาปลี่ยนใหม่ ประกอบด้วยกันชนหน้า (FRONT BUMPER KIT) พร้อมกับติดตั้ง CANARD เพิ่มเติม, ฝากระโปรงหน้ามีช่องระบายความร้อน (AERO BONNET), ด้านข้างกับชุด SIDE SPOILER KIT และชุด REAR WING KIT ในด้านหลัง (ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์) อ๋อ!เกือบลืมบอกไปว่า ยังมีฝากระโปรงหน้า (AERO BONNET) ที่มีช่องระบายความร้อนจากสำนักเดียวกันด้วย



INTERIOR



ภายในห้องโดยสาร ทางเจ้าของรถต้องการปรับเปลี่ยนให้ใกล้เคียงกับรถแข่งมากที่สุด แต่ก็ยังเน้นว่าต้องใช้งานในชีวิตประจำวันได้ด้วย ซึ่งเจ้า DC5 คันนี้ เริ่มต้นด้วยการเอาพวงมาลัยเดิมที่มี AIR BAG ออกไป พร้อมจัดการนำชุดคอพวงมาลัย MUGEN ใส่เข้าไป ส่วนตัวพวงมาลัยที่นำมาประกบเป็นของ SPOON แต่เพื่อไม่ให้หลุดคอนเซ็ปต์ MUGEN ตอนนี้เลยจัดการนำพวงมาลัยตรงรุ่นมารอเปลี่ยนแล้ว



ในส่วนต่อไปคงจะเป็นเบาะนั่งแบบบั๊กเก็ตซีต ซึ่งของเดิมที่ติดรถมาก็เป็นเบาะจาก RECARO อยู่แล้ว แต่เพื่อเพิ่มความสปอร์ตในสไตล์รถแข่ง ทางเจ้าของรถเลยจัดการสั่งเบาะ RECARO รุ่น SPX มาใช้ ซึ่งเบาะรุ่นนี้มีรูปทรงคล้ายกับรุ่น SPG แต่มีจุดเด่นอยู่ที่พนักพิงด้านหลังสามารถปรับเอนได้ นอกจากนี้ยังมีชุดโรลบาร์จาก MUGEN แบบ 6 จุด ซึ่งช่วยให้รถดูโหดในแบบRACING



ส่วนพวกเกจ์วัดที่ติดตั้งเข้าไปตอนนี้ มีแค่เพียง DEFI LINK DISPLAY ซึ่งมีจุดเด่นตรงการแสดงผลแบบสะท้อนกับกระจกหน้า แต่ในอนาคตคงมีการติดตั้งเกจ์วัดแบบ 3 ช่องจาก MUGEN เพิ่มเติมเข้าไป


ENGINE

มาถึงในส่วนของเครื่องยนต์กันบ้างครับ สำหรับเครื่องยนต์ที่ติดตั้งอยู่ใน INTEGRA (DC5) เป็นเครื่อง ในรหัส K20A ซึ่งมีพละกำลังที่ร้อนแรงพอสมควร โดยเครื่องยนต์ที่ว่านี้มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบตามรุ่นรถ แต่รุ่นที่เขานิยมเล่นกันคงหนีไม่พ้นเครื่องที่อยู่ในรุ่น TYPE R เราลองมาดูสเป็กเปรียบเทียบกันดีกว่าไหม ว่ามันมีตรงไหนที่ต่างกันบ้าง





เป็นยังไงครับ กับตารางสเป็กที่แยกให้เห็นถึงข้อแตกต่างได้อย่างชัดเจน (ลองสังเกตในส่วนที่เป็นตัวหนาได้นะครับ) สิ่งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนก็คือ อัตราส่วนกำลังอัดของเครื่องยนต์ในรุ่น TYPE R ที่สูงกว่า ตรงนี้เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้แรงม้าและแรงบิดสูงกว่ากันอย่างเห็นได้ชัด อีกอย่างก็คือ ในเรื่องของระบบส่งกำลังในรุ่น TYPE R ที่ถูกออกแบบมาให้มีอัตราทดที่ต่อเนื่องจากเกียร์ 6 สปีด

หลังจากรู้ถึงข้อแตกต่างกันแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าเขาโมดิฟายอะไรไปบ้าง ซึ่งขั้นตอนการโมดิฟายเครื่องยนต์ที่ไม่มีระบบอัดอากาศแบบนี้ก็มีอยู่ 2 วิธีหลัก ๆ ที่เขานิยมทำกัน (จริง ๆ แล้วมีหลายวิธีมาก) วิธีแรกคือการเพิ่มกำลังอัดของเครื่องยนต์ให้สูงขึ้น ส่วนวิธีที่สองคือ การทำอย่างไรก็ได้ให้อากาศเข้าเครื่องยนต์มากที่สุด แต่สำหรับ INTEGRA (DC5) คันนี้ เขาใช้ทั้งสองวิธีที่นิยมกัน

เริ่มกันที่ชิ้นส่วนภายในตัวเครื่องเลยดีกว่าครับ โดยขั้นตอนการโมดิฟายเครื่องยนต์เขาทำกันที่ท่อนบนคือชุดฝาสูบ ซึ่งเป็นส่วนที่สามารถเรียกแรงม้าออกมาใช้งานได้มากกว่าเดิม ขั้นแรกเป็นการยกฝาสูบออกมาเพื่อทำการเปลี่ยนปะเก็นฝาสูบหนา 0.5 มิลลิเมตร ของ MUGEN เพื่อเพิ่มกำลังอัดให้สูงขึ้น จากนั้นก็ทำการเปลี่ยนไปใช้แคมชาฟท์ทั้งไอดีและไอเสียจาก TODA พร้อมกันนั้นยังได้เปลี่ยนรีเทนเนอร์วาล์วเป็นแบบไทเทเนียมซึ่งมีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของน้ำหนักเบาแต่ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแรง ส่วนตัวสปริงวาล์วถูกเปลี่ยนไปใช้ของ MUGEN ที่มีความแข็งมากกว่าเดิม






แต่ยังมีชิ้นส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่คันนี้ได้ทำการเปลี่ยนเช่นกัน นั่นคือแคร็งค์น้ำมันเครื่อง (OIL PAN) จุดประสงค์ของการเปลี่ยนเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้เข้าไปเพื่อกันน้ำมันเครื่องกระฉอกเวลาเข้าโค้งแรง ๆ แล้วทำไมต้องกันน้ำมันเครื่องกระฉอกด้วยล่ะ นั่นเป็นเพราะเมื่อเข้าโค้งแรง ๆ การกระฉอกของน้ำมันจะทำให้ฝักบัวดูดน้ำมันได้ไม่เต็มที่ ปํญหานี้มักเกิดขึ้นกับรถแข่งที่ต้องเข้าโค้งอยู่เกือบตลอดเวลา และเมื่อเกิดปัญหาฝักบัวดูดน้ำมันเครื่องได้ไม่เต็มที่ก็จะมีปัญหาชาฟท์ละลายตามมา แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นแคร็งค์ของ MUGEN ภายในตรงจุดที่ฝักบัวหย่อนลงไป จะมีการกั้นห้องอะลูมิเนียมไว้เพื่อกันกระฉอก ดังนั้น จุดประสงค์ของการเปลี่ยนเข้าไปเพื่อแก้ปัญหาของจุดอ่อนดังกล่าว

คราวนี้เรามาดูกันที่ภายนอกรอบ ๆ เครื่องยนต์กันบ้าง แล้วจะเริ่มกันตรงไหนก่อนดีละครับ เอาตรงนี้ก่อนเลยดีกว่า...ระบบระบายความร้อนถูกเซ็ตใหม่ทั้งระบบ โดยหม้อน้ำถูกเปลี่ยนไปใช้แบบอะลูมิเนียม พร้อมฝาแรงดันสูงจาก MUGEN นอกจากนี้ตัว THERMOSTAT และสวิตช์ก็ถูกเปลี่ยนไปใช้ของ MUGEN เช่นกัน ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงจัดการเปลี่ยนไปใช้ REGULATOR แรงดันสูงของ MUGEN

สำหรับระบบระบายไอเสีย จัดการเปลี่ยนไปใช้ชุดท่อไอเสีย MUGEN แบบ RACING โดยท่อ RACING แบบที่ว่านี้จะเป็นท่อที่โล่งทั้งเส้น ไม่มีแคตาไลติกและหม้อพักกลาง มีแต่หม้อพักใบหลังเท่านั้น พูดง่าย ๆ ว่าพยายามให้โล่งมากที่สุด อ๋อ! เกือบลืมบอกไปครับ ว่ากล่องควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ (ECU) ก็ถูกเปลี่ยนไปใช้ของ MUGEN เช่นกัน

ในเรื่องของระบบส่งกำลัง อย่างที่บอกไปแล้วว่าจุดเด่นอยู่ตรงที่เป็นเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด ที่มีข้อดีตรงอัตราทดที่ค่อนข้างชิด แต่เมื่อเครื่องยนต์ถูกโมดิฟายเพิ่มความแรงกันแล้ว คงต้องมีการปรับระบบส่งกำลังให้ทำงานสัมพันธ์กันด้วย เริ่มตั้งแต่ชุดคลัตช์ของ MUGEN ตามมาด้วยชุด L.S.D. จากค่ายเดียวกัน เพียงแค่สองอย่างนี้ก็สามารถถ่ายทอดแรงม้าออกให้ออกมาแผลงฤทธิ์กันอย่างสบาย




SUSPENSION
ชุดโช้คอัพและสปริง MUGEN อีกแล้ว



หลังจากเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังสมบูรณ์และพร้อมที่จะแสดงสมรรถนะออกมาแล้ว คราวนี้เราคงต้องมาดูกันต่อที่ระบบช่วงล่างว่าเขามีการเซ็ตเพื่อรองรับแรงม้าเพิ่มเติมยังไงบ้าง

เริ่มต้นตั้งแต่ชุดโช้คอัพและสปริงที่เปลี่ยนใหม่ไปใช้แบบสปอร์ตของ MUGEN จากนั้นพวกบู๊ชยางในจุดต่าง ๆ ก็ถูกเปลี่ยนไปใช้ของ MUGEN เช่นกัน แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ แม้กระทั่งเหล็กกันโคลงหน้า-หลังก็ยังเปลี่ยนเป็นของ MUGEN ด้วยเช่นกัน

อ้างถึง นิตยสารจูนบาย
ฉบับที่ 32
ประจำเดือน กุมภาพันธ์ 2549

เป็นรถที่อยากได้มากๆ ถ้าไม่ซื้อบ้านนะ โดนไปแล้ว ตอนนี้ก็เลยต้องขับ ES จนกว่าจะผ่อนบ้านหมด ก็คงตลอดชีพล่ะมั้ง อิอิ

ใจนึงก็อยากDC5 ใจนึงก็fortuner

แหล่ม มาก ๆ

คันนี้งามสุดๆ

หล่อมาก ครับ ^^

สักวันต้องเป็นของเรา.......

งามสาดดดด

สวยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆสวยๆๆๆๆๆๆๆ