ออกตัวก่อนนะครับว่าตอนนี้กำลังจะติดเล็งไว้เป็น Energy Reform OBDII แต่คิดไปคิดว่าถ้าติดหัวฉีดธรรมดาก็ดีเหมือนกันเนอะ เลยเกิดสภาวะลังเลอย่างหนัก ผมกำลังคิดว่าแต่ละญี่ห้อก็ดีกันทั้งนั้น งั้นเริ่มประเด็นกันก่อนเลยละกัน ว่า
1. หัวฉีดแต่ละเจ้าราคาก็น่าพอๆกัน แต่ผมกำลังมองว่า ถ้าพังละ? ซ่อมละ? เปลี่ยนละ? แต่ละเจ้าเป็นอย่างไง
2. การติดตั้งคงไปติดที่ ชัย หมากกระจาย (ถึงแม้ว่าจะว่าอยู่ลาดพร้าว) หม้อต้มของแต่ละเจ้าก็คงดีเหมือนๆกันและ แต่ใครมีอะไรทำให้ผมคิดต่างได้ไหมว่าอันไหนดีกว่า เหลือเลวร้ายกว่า
3. คุ้มไหมกับการติด OBD II ซึ่งต้องเพิ่มเงินอีกอีกพอสมควร ถ้าคุ้มแล้วเจ้าอื่นเค้ามีกันไหม AC ก็จะมีมั่ง แนะนำกันหน่อยนะครับ

ทั้งหมดนี้ผมอยากได้เป็นข้อมูลจริงๆ ไม่ขอแบบว่าผมใช้เจ้านี้มากี่หมื่นแล้วยังไม่มีปัญหาเลย เพราะหลายๆคนคงมียี่ห้อในใจกันทุกท่าน แต่หลายๆคนที่อยากติดเหมือนผมคงไม่ค่อยได้ศึกษาเยอะ ถึงขึ้นว่าการทำงานในส่วนของตัวจ่ายทำงานอย่างไง พี่ๆคนไหนมีความรู้รบกวนแบ่งปันน้องคนนี้ด้วยครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูงครับ

ปล. ถ้าใครมาบอกว่ารถผมใช้ยี่ห้อนี้มาสามเดือนหรือกี่กิโลก็เหอะ ผมขออนุญาติลบนะครับ ถึงจะโหดร้ายก็ตาม

sec ก็โอเคนะครับ ราคาสี่หัวรวมรางประมาณสามพัน
โปรแกรมจูนง่าย ละเอียดดีด้วยครรับ

ลองอ่านข้อความของ phenic

หากไม่ได้มีระบบ OBD ของระบบแก๊ส ก็ไม่ได้หมายความว่ารถจะจ่ายบางไปตลอดทั้งย่านนะครับ
เพราะการชดเชย STFT และ LTFT ของ ECU รถยังทำงานตามปกติ ซึ่งจะพยายามปรับการจ่ายเชื้อเพลิงให้
สมบูรณ์ที่สุดอยู่ตลอดเวลา

แต่ความสามารถในการปรับก็ไม่มากนัก หากระบบมีความผิดเพี้ยนไป หรือ ติดตั้งอุปกรณ์แก๊ส จูนมาไม่ถูกต้อง
มันก็ปรับให้ไม่ไหว แม้จะมีฟังก์ชั่น OBD ของระบบแก๊สแล้วก็ตาม

ซึ่งอันนี้จำเป็นที่ต้องมีการติดตั้งและจูนแก๊สในเบื้องต้นที่ดีก่อน และเมื่อรันอินอุปกรณ์แก๊สไปแล้ว
ประมาณ 1000 กม.ก็ควรกลับไปตรวจเช็คอุปกรณ์และจูนใหม่

เหตุผลก็คือระบบ OBD ปรับจูนช่วยได้แค่ทางซอฟต์แวร์ แต่การปรับจูนที่ดีนั้นมีเรื่องฮาร์ดแวร์มาเกี่ยวข้องด้วย
เสมอครับ เมื่อพ้นรันอินแล้วก็ใช้ยาวได้เลยครับ แทบไม่ต้องจูนใหม่เลย ถ้าฮาร์ดแวร์ทุกอย่างยังปกติสมบูรณ์

แต่ยังไงก็อย่าลืมตรวจสภาพ และ การทำงานของอุปกรณ์ตามระยะที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอด้วยนะครับ

Energy Reform Advance obd
1. ECU + Solenoid Valve เมื่อดับเครื่องยนต์วาวล์ระบบก๊าซทุกจุดจะปิดโดยอัตโนมัติทันที ที่ดับเครื่องยนต์เพื่อป้องกันก๊าซรั่วไหล
2. ECU + Gas Pressure Sensor ในกรณีที่ท่อรางหัวฉีด เกิดฉีกขาดหรือหลุด ECU จะสั่งการตัดการทำงานของระบบก๊าซทันที วาวล์ก๊าซทั้งหมดจะปิดโดยอัตโนมัติ และจะสลับไปใช้น้ำมันโดยอัตโนมัติทันที เพื่อป้องกันเครื่องยนต์ ดับขณะขับขี่ ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และป้องกันก๊าซรั่วไหล พร้อมทั้ง Auto Switch จะแสดงไฟ LED และเสียงเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบว่า ระบบก๊าซมีปัญหาให้รีบ นำรถมาตรวจเช็ค เพื่อความปลอดภัย
3. ECU ในขณะที่ระบบก๊าซ กำลังทำงาน เมื่อสายไฟเชื่อมต่อที่วาวล์ (Solenoid Valve) ของหม้อต้มก๊าซ และ/หรือ มัลติวาวล์ (Multivalve) ฉีกขาดหรือหลุด ระบบก๊าซ จะตัดการทำงานโดยอัตโนมัติทันที (วาวล์ก๊าซปิดอัตโนมัติ) และ จะสลับไปใช้น้ำมันโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ดับในขณะขับขี่ พร้อมทั้ง Auto Switch จะแสดงไฟ LED และ เสียงเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบทันที
4. ECU + Map Sensor ในขณะที่ระบบก๊าซกำลังทำงาน เมื่อท่อก๊าซ (จากถังมายังหม้อ ต้มก๊าซหน้ารถ) ฉีกขาดหรือหลุด ระบบก๊าซจะตัดการทำงานโดย อัตโนมัติทันที (วาวล์ปิด) และจะสลับไปใช้น้ำมันโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ ดับ และ ป้องกันก๊าซรั่ว พร้อมทั้ง Auto Switch จะแสดงไฟ LED และเสียงเตือน
5. ECU + Water temperature Sensor ในขณะที่ระบบก๊าซกำลังทำงาน ปลั๊กสายไฟของอุณหภูมิน้ำ และอุณหภูมิก๊าซที่ใช้ในระบบหัวฉีดเกิดหลุดหรือลัดวงจร ระบบจะตัดการทำงานของก๊าซทั้งหมดทันที และสลับไปใช้น้ำมันโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันรถดับขณะใช้งาน พร้อมทั้ง Auto switchจะแสดงไฟ LED และส่งเสียงเตือน
6. ECU + Map Sensor ในขณะขับขี่ปลั๊กไฟของ Map Sensor และ/หรือท่อแรงดันหัวฉีดเกิดขาดหรือหลุด ระบบจะตัดการทำงานของก๊าซทั้งหมดทันที และสลับไปใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงให้โดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ดับขณะขับขี่ พร้อมทั้ง Auto switch จะแสดงไฟ LED และส่งเสียงเตือน
7. 85% Stop Valve เป็นวาวล์ป้องกันการเติมก๊าซเข้าถังเกิน 85% ของปริมาตรความจุของถังก๊าซ เพื่อให้มีพื้นที่ในถังเหลือประมาณ 15% รองรับการขยายตัวของก๊าซที่มากขึ้น เมื่ออุณหภูมิที่ถังก๊าซสูงขึ้นช่วยป้องกัน Overpressure


ซึ่งคุณเีบียร์ได้บอกว่า ทุกข้อที่กล่าวมา เป็นมาตรฐานที่ AC ใช้มากว่า 4 ปีแล้วครับ ส่วนยี่ห้ออื่นๆยังมีน้อยมากที่ทำได้ทุกข้อที่กล่าวมาและ ER ก็พึ่งจะมาใช้มาตรฐานนี้เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เอง ก็ถือเป็นการพัฒนาที่ดีครับ

ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ถามเพิ่มเติมนะครับ
ทางร้านที่ผมจะไปติด เขาบอกรุ่นfast tech ไม่มีตัวตัดปั๊มติ๊กต้องเพิ่ม 1 พันบาท จริงหรือเปล่าครับ
และหากผมไม่ติดจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่ากับเครื่องยนต์ครับ
ขอบคุณล่วงหน้า สำหรับทุกข้อเสนอแนะครับ

ขอบคุณคุณเบียร์มากๆเลยครับ ความรู้เพรียบจริงๆ คนนี้

http://www.unique-racingcars.com/

นี่ร้านคุณเบียร์ครับ

ตั้งใจจะไปติดที่ร้าน URC เหมือนกันคับ แต่ทางร้านบอกว่าตอนนี้ถังโดนัทขาดตลาด แล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีของเมื่อไร
ตอนแรกก็ว่าจะรอ แต่ทนกับค่าน้ำมันไม่ไหวก็เลยต้องเก็บข้อมูลของร้านอื่นๆดู

1. หัวฉีดแต่ละเจ้าราคาก็น่าพอๆกัน แต่ผมกำลังมองว่า ถ้าพังละ? ซ่อมละ? เปลี่ยนละ? แต่ละเจ้าเป็นอย่างไง
- ที่ขายกันในตลาด ราคาก็ไม่เเรง พอรับได้ทั้งนั้น
ให้แยกประเด็น หัวฉีด กับ กล่องควบคุม
ของ ER น่าจะเป็นหัวฉีด AEB
หัวฉีด+กล่อง ต้องสัมพันธ์กัน
จะใช้ 1โอห์ม 2โอห์ม 3 โอห์มก็หาซื้อได้ในตลาดครับ

2. การติดตั้งคงไปติดที่ ชัย หมากกระจาย (ถึงแม้ว่าจะว่าอยู่ลาดพร้าว) หม้อต้มของแต่ละเจ้าก็คงดีเหมือนๆกันและ แต่ใครมีอะไรทำให้ผมคิดต่างได้ไหมว่าอันไหนดีกว่า เหลือเลวร้ายกว่า
- หม้อต้มยอดนิยมก็อะไหล่หาซื้อง่าย
ขอตัวซุปเปอร์ไปเลยก็ดีไม่ต้องมากังวลว่าหม้อจ่ายไม่พอ
ถามตัวเองว่าเท้าหนักแค่ไหนก็ถามอู่ไปว่าควรใช้ตัวไหน
แต่ที่หม้อแปลกๆออกไปก็หาซื้ออะไหล่ยากหน่อย

3. คุ้มไหมกับการติด OBD II ซึ่งต้องเพิ่มเงินอีกอีกพอสมควร ถ้าคุ้มแล้วเจ้าอื่นเค้ามีกันไหม AC ก็จะมีมั่ง แนะนำกันหน่อยนะครับ
- ไม่คุ้มครับ
ถ้าติดที่หมากกระจุย ผมแนะนำ SEC mini หรือ AGIS mini ไม่ต้องมีOBD

ถ้าติดแล้วมารู้ทีหลังว่า Honda ไม่ซับพอร์ทกล่องแก๊สพวก OBD แล้วจะเจ็บใจนะครับ เพราะมันไม่มีค่า LTFT

ความรู้ทั้งน้าน ขอบคุณครับผม

เห็นกระทู้ใครไม่รู้...เเว๊บๆ
ติดตั้ง 19,000
ตอนนี้ วิ่งเที่ยวปร๋อไปละ