คำถามที่ 1 ระหว่างน้ำมันเครื่อง Mobil 1 0w/40, Castrol EDGE 0W/40, Castrol RS 0W/40 และ
Total Qyartz 9000 5W/40 เพื่อน ๆ ใช้ตัวไหนคับ และตัวไหนน่าจะเหมาะที่สุด (ตัวอื่นก็ได้นะคับ)
คำถามที่ 2 จำเป็นไหมคับที่ต้อง 0W เท่าที่ทราบเห็นว่าเหมาะสำหรับเมืองหนาว แต่บางคนก็บอกว่า 0W ใช้ได้และจะช่วยในการหล่อลื่นได้เร็วโดยเฉพาะตอนสตาร์ทเครื่อง
ถ้าเป็นไปได้รบกวนเพื่อน ๆ หน่อยนะคับ (ถ้าได้ราคาโดยประมาณจะดียิ่งขึ้น) ขอบพระุคุณอย่างสูงคับ

..... พอกันแหละคับ.....

.... แต่ผมเป็นสาวก Mobil 1 มานาน แล้วอะ....

.... จะ 0 จะ 5 จะ 10 ....ความคิดส่วนตัวว่าไม่มีผลขนาดนั้นหรอกคับ....นั่นมั่นต้องแบบหนาวมากๆๆ ....เราดูแค่ตัวท้ายพอ

.... จิงๆ ความห่างระหว่างเลขตัวท้าย กะ ตัวหน้า....ยิ่งห่าง ยิ่งดี...เพราะมันคือ index ที่บอกถึงความสามารถ ในการยึดหยุ่น (elastic) ของโมเลกุลน้ำมันเครื่องในอุณหภูมิที่ต่างกัน ในรอบเครื่องที่ขยับ ขึ้นๆ ลงๆ นะแหละ ถ้ามันยืดหยุ่นได้มาก แน่นอนว่าอายุการใช้งานมันก็จะนานกว่า คงคุณภาพได้นานกว่า เหมือนเราดึงหนังยางอะ ดึงปล่อย ดึงปล่อยกว่ามันจะเสียรูปก็นานใช่มะ....แต่ถ้าความยืดหยุ่นน้อยดึงไปดึงมาไม่กี่ทีก็ยานน หมด.......แต่ตรงนี้มันไม่ค่อยเป็นประเด็น เพราะเราใช้น้ำมันเครื่องกันแค่ 10,000 โลก็เปลี่ยนกันหมดแล้ว.............ยิ่งห่าง ความยืดหยุ่นของโมเลกุลมันจะยิ่งทำได้ดีนะเอง.........ก็ดู Full Syn กะ Semi Syn นั่นคือเหตุว่าทำไม Full Syn ใช้งานได้นานกว่า....ละเอียดก่านี้ไม่ได้อะ....เจ้านายมาแว้ว 55555

สรุป สบายใจ ใช้ตัวไหน....จัดไปเหอะคับ...แค่เลือก brand ที่มีมาตรฐาน + เปลี่ยนตามระยะก็พอ

ขอบคุณมาก ๆ คับ ได้ความรู้อีกเยอะเลย ตอนนี้มีคำตอบในใจแล้วละคับ พรุ่งนี้จะไปจัดการเปลี่ยนแล้วคับ เลยมาระยะหนึ่งละ ขอบคุณอีกครั้งนะคับ

ได้ทั้ง2ตัวแหละครับ

เลขด้านหน้าไม่ต้องซีเรียจมาก เอาด้านหลังเป็น40ก้อใช้ได้ครับ


Castrol EDGE จำได้ว่ามันพันกว่าๆไม่ถึง2พันนะครับ ลองเช๊คราคาดูอีกทีละกัน



หรือใครมีร้านขายน้ำมันเครื่องที่ราคาไม่แพงและคุณภาพเชื่อถือได้ก้อรบกวนแนะนำกันไว้หน่อยครับ


ผมเองก้อจะเปลี่ยนเหมือนกาน ^^

มาไม่ทันตอบ ไปซะล่ะ ไว้โอกาสหน้าจะมาให้ไวกว่านี้นะ

รบกวนคุณ biki อีกครั้งนะคับ ตัวหลังหมายถึงความหนืดใช่หรือไม่คับ และถ้ารถใช้มาหลายปี หรือใช้มาหลายแสนกิโล ตัวเลขด้านหลังจะต้องเพิ่มหรือลดลงหรือไม่คับ ขอบคุณคับ

มาต่อ......

เอาแบบง่ายๆ..ที่พอจะรู้บ้าง..ก็ตามนี้นะคับ.........

... ยี่ห้อ.......เลือกน้ำมันเครื่องที่ยี่ห้อน่าชื่อถือ เช่น mobil 1, castrol, shell, PTT 9ล9...ได้หมดคับ

... เกรดน้ำมันเครื่อง........น้ำมันเครื่องมีการพัฒนา .มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มขึ้นตลอดซึ่งจะต้องผ่านการรับรอง...ฉะนั้นเลือกน้ำมันเครื่องเกรดหล้าสุด..จะดีที่สุด อันนี้สิคับสำคัญ......ไม่แน่ใจตอนนี้ SM ป่าวหว่า...ใครจำได้ก็เพิ่มเติมมาที

... ความหนืด........อย่างที่บอกคับ เราเมืองร้อน ให้ดูแค่ตัวหลังก็พอ ....ตัวแรกมันของเมืองหนาวเค้า.....ที่มีเลข สองตัวเพราะน้ำมันเครื่องปัจจุบันเป็นแบบผสมคับ.....คือใช้ได้ทั้งเมืองหนาวและเมืองร้อน..ก็เกี่ยวกับการตลาด และเรื่องของต้นทุนอะแหละ

...ความหนืดแบบไหนดี......30 - 40 ใช้ได้ดีกับรถใหม่ที่เครื่องยังแน่นๆอยู่ ระยะห่างของชิ้นส่วนต่างๆยังฟิตปั๋ง ..ค่าความหนืดยิ่งน้อย ชั้นฟิล์มก็ยิ่งบาง ... หล่อลื่นได้ง่าย ....เรื่องสมรรถนะการขับขี่ เร่งรอบ....ขับ racing ....ใช้แบบนี้ดี..........รถไม่เกินแสนโลใช้แบบนี้ก็ดีนะ

... งั้น ความหนืด ซัก 50 ก็ไม่ดีอะดิ... :?: :?: ........ไม่เกี่ยวคับ...แน่นอนเร่งไม่ทันใจเท่าเบอร์ต่ำๆ...ไม่ลื่นปรื้ดๆๆ.....แต่รถบ้าน ขับชิวๆ...หรือรถมีอายุแล้วที่เครื่องเริ่มหย่อนยาน .....ใช้แบบนี้ให้เรื่องการปกป้องดีกว่าคับ....หนืด ไม่ลื่น เพราะชั้นฟิล์มหนา...แต่ปกป้องดีก่า...โดยเฉพาะในรอบสูง....ขนาด mobil 1 ตัวสังเคราะห์แท้ที่ขายอยู่ตาม B-QUIK ยังเป็นเบอร์ 50 เลย (ปกติ fully sys ตามตลาดทั่วๆไป ความหนืดจะอยู่แค่ 30-40)... รถที่มีอายุ...หรือเครื่องเริ่มไม่เต่งตึงเหมือนใหม่ (ระยะห่างของชิ้นส่วนต่างๆมากขึ้น).....ใช้ค่าความหนืดต่ำไป....ควันขาวได้นะคับ.................ส่วนตัวผมว่า 40 เนี่ยกะลังดี..ใช้ได้หมดอะ

.... หจำเป็นต้อง Full Syn หรือไม่....รถใหม่ๆก็ดีคับ...เพราะอย่างเบอร์ 30 ...มันเป็น Full Syn ซะหมดนี่นา....แต่ถ้ากลางเก่ากลางใหม่ Full Syn เปลี่ยนทุก หมื่นโล...กะ Semi Syn เปลี่ยนทุก ห้าพันโล (จิงๆ ได้เป็นหมื่นโล...สบายๆก็เจ็ดพัน)....ต่างกันไหม......บอกได้เลยไม่ต่างคับ Full หรือ Semi...มันเป็นเรื่องของอายุการใช้งานได้นานกว่ากันแค่นั้น....แต่ Full ก็ใช้แค่หมื่นโล ทั้งๆที่จิงๆใช้ๆด้มากกว่านั้นเยอะ...เพราะเรื่องอายุ..การเสื่อมคุณภาพของกรองน้ำมันเครื่องตะหาก

......ฉะนี้และฉะนั้น....ถ้ายี่ห้อชื่อถือได้....ความหนืดตัวหลังเบอร์เดียวกัน.....เกรดน้ำมันเครื่องเป็นตัวหล้าสุดเหมือนกัน............แทบไม่ต่างกันคับ.....ต่างแค่พวกสารหล่อลื่น และสูตรของแต่ละค่ายว่าเบอร์เนี้ยเค้าจะเน้นทำการตลาดตรงจุดไหนมากกว่า....นั่นแหละที่ทำให้เรารู้สึกว่าค่ายนี้บางทีลื่นกว่าค่ายนั้น ทั้งๆที่เป็นความหนืดเบอร์เดียวกัน.....ทำไมเบอร์เดียวกัน castrol ลื่นจัง...ทำไมเบอร์เดียวกัน mobil 1 ถึงมีคนบอกปกป้องเครื่องยนต์ได้ดี..และทำไมไอ้เบอร์เดียวกันนะแหละ shell หรือกระทั่ง duckham เวลาถ่ายน้ำมันเครื่องออกมาหลังใช้ไปแล้วรอบนึงถึงได้ดำจัง (ทำความสะอาดได้ดี) """"อันนี้ก็ต้องลองดุเอาเองคับว่าชอบของค่ายไหน ก็นานาจิตตัง.......................

อ้อ.......... มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ความรู้เพิ่มขึ้นอีก 1 level ขอบคุณคุณ Rangsit 33 และคุณ biki อีกครั้งคับ สมเป็น GURU จริง ๆนะเนี่ย

แล้วของ 0 นี่มันเกรดไหนอ่ะครับถึงเปลี่ยนได้ทุก 10000โลเลย