Oo-kakachi-oO พิมพ์ว่า: |
เอาล่ะครับพี่น้อง เจออีกแล้วครับ เมื่อคืนนี้เลย(3พย.53)
. เรื่องของเรื่อง ผมมาทำงานที่สุพรรณ อ.เดิมบางนางบวช แล้วพ่อก็โทรมาเมื่อวานว่าลุงแหวงที่เป็นเพื่อนสนิทพ่อแกเสีย เลยมาชวนผมไปงาน เพราะผมเองก็สนิทกะลุงแกเหมือนญาตฺเลย (เพื่อนผม = เพื่อนพ่อ แล้วเพื่อนพ่อ = เพื่อนผม 555+) . ก็แว้บงานตอนบ่ายสามนิดนิด ขับ ES ลูกรักกลับบ้านที่ดำเนินสะดวกเพื่อจะไปงานลุงแหวง ก็ไปงานตามปรกติ ไม่มีไร ที่งานก็เฮฮากันเพราะลูกลุงก็เพื่อนผม พวกกันทั้งนั้น ก็พูดคุยกันไปตามประสา เสร็จงานก็จะกลับบ้านแล้ว . ที่นี้ พอกลับมาที่รถ สตารท์ เอ๊ะ แปลก ออกตัวหนืดๆยังไงชอบกล ใจก็นึกไปถึงข้อมูลที่ได้อ่านมา ก็คิดว่า TDC อาจจะได้เวลาลาโลกแล้วมั้ง ก็ไม่คิดไร ขับไปแบบหนืดๆ . โทรศัพทย์ดัง เพื่อนผมที่แซงไปมันโทรมาถามว่า มึงขนใครมาว้ะ เยอะชิบ หลังนั่งกันห้าเลยนะมึง เด๋วโช๊คพังหรอก . . . . เท่านั้นล่ะครับ พ่อก็ได้ยินเสียงในโทรศัพทย์ แล้วก็มองหน้ากัน ชิบเดะ มีกันสองคน แลวมะเขือที่ไหนมันอยู่เบาะหลังกุหว่า พ่อผมเลยพูดขึ้มมาดังๆ"ตอนมา มากันสองคน ก็ขอกลับสองคน ที่บ้านไม่มีที่ให้อยู่หรอก อยู่ที่เดิมเถอะ ต่างคนต่างอยู่" แล้วก็ให้ผมขับกลับไปที่วัด ไปถึงพ่อก็เปิดประตูหลัง วูบเลยครับ รู้สึกเย็นวูบเเบบเสียวสันหลังวาบเลย พอพ่อขึ้นรถ เอ๊ะ ปรกติเลย เท่านั้นแหละ ไม่กลับแล้วคืนนี้ รอเช้าค่อยกลับสุพรรณ . . . พอมาถึงก็เลยมาเปิดคอมเล่าให้ฟังกันก่อน เด๋วลืม . ปล.สงสัยผีจะชอบ ES เพราะเพื่อนผมที่ใช้รถเหมือนกันก็เจอ พี่สาวเพื่อนก็เจอ . ปล.สอง เด๋วว่างๆจะมาเล่าเรื่อง"ผีซ่อมท่อ"นะครับ สยองปนฮา อิอิ |
Oo-kakachi-oO พิมพ์ว่า: |
เอาล่ะครับพี่น้อง เจออีกแล้วครับ เมื่อคืนนี้เลย(3พย.53)
. เรื่องของเรื่อง ผมมาทำงานที่สุพรรณ อ.เดิมบางนางบวช แล้วพ่อก็โทรมาเมื่อวานว่าลุงแหวงที่เป็นเพื่อนสนิทพ่อแกเสีย เลยมาชวนผมไปงาน เพราะผมเองก็สนิทกะลุงแกเหมือนญาตฺเลย (เพื่อนผม = เพื่อนพ่อ แล้วเพื่อนพ่อ = เพื่อนผม 555+) . ก็แว้บงานตอนบ่ายสามนิดนิด ขับ ES ลูกรักกลับบ้านที่ดำเนินสะดวกเพื่อจะไปงานลุงแหวง ก็ไปงานตามปรกติ ไม่มีไร ที่งานก็เฮฮากันเพราะลูกลุงก็เพื่อนผม พวกกันทั้งนั้น ก็พูดคุยกันไปตามประสา เสร็จงานก็จะกลับบ้านแล้ว . ที่นี้ พอกลับมาที่รถ สตารท์ เอ๊ะ แปลก ออกตัวหนืดๆยังไงชอบกล ใจก็นึกไปถึงข้อมูลที่ได้อ่านมา ก็คิดว่า TDC อาจจะได้เวลาลาโลกแล้วมั้ง ก็ไม่คิดไร ขับไปแบบหนืดๆ . โทรศัพทย์ดัง เพื่อนผมที่แซงไปมันโทรมาถามว่า มึงขนใครมาว้ะ เยอะชิบ หลังนั่งกันห้าเลยนะมึง เด๋วโช๊คพังหรอก . . . . เท่านั้นล่ะครับ พ่อก็ได้ยินเสียงในโทรศัพทย์ แล้วก็มองหน้ากัน ชิบเดะ มีกันสองคน แลวมะเขือที่ไหนมันอยู่เบาะหลังกุหว่า พ่อผมเลยพูดขึ้มมาดังๆ"ตอนมา มากันสองคน ก็ขอกลับสองคน ที่บ้านไม่มีที่ให้อยู่หรอก อยู่ที่เดิมเถอะ ต่างคนต่างอยู่" แล้วก็ให้ผมขับกลับไปที่วัด ไปถึงพ่อก็เปิดประตูหลัง วูบเลยครับ รู้สึกเย็นวูบเเบบเสียวสันหลังวาบเลย พอพ่อขึ้นรถ เอ๊ะ ปรกติเลย เท่านั้นแหละ ไม่กลับแล้วคืนนี้ รอเช้าค่อยกลับสุพรรณ . . . พอมาถึงก็เลยมาเปิดคอมเล่าให้ฟังกันก่อน เด๋วลืม . ปล.สงสัยผีจะชอบ ES เพราะเพื่อนผมที่ใช้รถเหมือนกันก็เจอ พี่สาวเพื่อนก็เจอ . ปล.สอง เด๋วว่างๆจะมาเล่าเรื่อง"ผีซ่อมท่อ"นะครับ สยองปนฮา อิอิ |
jonatan พิมพ์ว่า: | ||
ไม่มีรัยมา เหลา ให้ฟังอีกเหรอ นีท ![]() |
tooklittle พิมพ์ว่า: |
ผมก็พอมีขอเล่าบ้างนะครับ
กลางดึกคืนหนึ่งหลังจากผมกับเพื่อนอีก 2 คนร่ำสุราแบบหนักหน่วงมาตลอด 4 ชั่วโมง ก็ตัดสินใจว่าจะไปนอนรวมเป็นกลุ่มก้อนแบบสมานฉันท์กันที่ห้องเพื่อนหนึ่งในนั้น ซึ่งสภาพเก่าขนาดสามารถเป็นพิพิธภัณฑ์ได้เลยโดยไม่ต้องแปลงอะไร ยืนมองจากด้านนอกเป็นอพาร์ทเมนท์ 5 ชั้นไม่ได้ใช้สีโฟร์ซีซั่นเพราะเต็มไปด้วยรอยแตกร้าวรู้สึกเหมือนพร้อมถล่ม ก่อนหน้านี้ผมเคยไปเอาโน้ตบุ๊คที่นี่แบบฉายดี่ยวมาแล้วตอนตี 1 มันไม่มาด้วย ยื่นกุญแจห้องให้แล้วบอกว่า “ระวังผีนะว้อย กูเจอประจำ” ฟังแล้วอยากถอยกระโดดถีบปาก ว่าแล้วก็เดินทางไป ถึงทางเข้าเจอน้ายามหลับพักผ่อนอยู่ ที่นี่ยามเขาแข็งแรงมากครับรู้สึกปลอดภัยทีเดียว เพราะกะกลางวันมีการนอนเอาแรง กะกลางคืนก็เข้านอนแต่หัวค่ำพักผ่อนอย่างเพียงพอตอกบัตรปุ๊บมันหลับเลย เดินผ่านไปรู้สึกว่าที่นี่เงียบผิดปกติ ห้องเพื่อนอยู่ชั้น 4 (ถ่อขึ้นไปอยู่ซะเมื่อยกล้ามเนื้อต้นขา) เงียบเชียบมากมีแต่เสียงฝีเท้าสะท้อนผนังตึกดัง แต็ก แต็ก กลัวจะมีใครตามมาหลอนลองเดิน แต็ก แต็ก แต็ก แล้วหยุด ก็มีเสียงสะท้อน แต็ก แต็ก แต็ก ......โอเคอนุญาตให้สะท้อนได้ตามหลักฟิสิกส์ แต่จำนวนอย่าเกิน ไฟก็ติดบ้างดับบ้างให้พอนึกเกลียดเจ้าของตึก นาทีนี้ผมไม่ได้คิดหรอกว่าสภาจะยุบมั้ย? อริสมันต์อยู่ที่ไหน?แอนนี่ท้องกับใคร? ภาพในหัวนี่ผีล้วนๆทั้งไทยสากลมาหมด กลัวมากกลัวว่าขณะที่กำลังจะก้าวขึ้นชั้น 3 เงยหน้ามองขึ้นไปทางนั้นมาละ สัญชาติญี่ปุ่นคลานครืดๆผมยาวปิดหน้าขี้อายตัวซีด หัวหันง็อกแง็กๆมาเลย แม่ง..ไม่น่าดูมาเลยเรื่องนี้ ใครจะคิดว่าจะมาเจอฉากเดียวกันเป๊ะ เดินขึ้นก้มหน้าอย่างเดียว ถ้ามาจริงคงแกล้งไม่เห็นบอกไปเลย “อาริงาโตะโกซัยมัส” ยินดีที่ได้รู้จัก แล้วสปริ๊นสุดกำลัง พอมาถึงหน้าห้องก็เปิดประตูด้วยมืออันสั่นเทาซิลเวอสโตน เย็นต้นคอ วาบ วาบ เข้าไปในห้องได้มองหาเป้าหมายทันที ...โน่น......อยู่ลึกสุดหน้าห้องน้ำโน่น....โอยยย ทำไมมึงต้องวางไกลเหมือนแกล้งขนาดนั้นด้วย มึงคิดมั่งมั้ยว่าตอนกูเดินเข้าไปหยิบกูอาจต้องเจออะไร แล้วในห้องเนี่ย กระจกเพียบ!! อีบ้า!!...มึงรสนิยมไหนเนี่ย? วางมันทั่วห้องเลยนะ กะจะจับภาพติดตามเกมให้ทันทุกมุมกันเลยสิ ถ้ามาตัวเดียวคงเห็นทีเป็นสิบ บรึ๋ยส์ กลั้นใจเดินเข้าไปอย่างน้อยอีจูออนคงตามมาไม่ทันเพราะมัวแต่คลานขึ้นบันไดอยู่ ไร้ซึ่งสุ้มเสียงใดๆ....อากาศเย็นแต่เหงื่อท่วมหน้า เวลาเหมือนหยุดนิ่ง ในที่สุดก็ถึงที่หมายโน้ตบุ๊คอยู่ตรงหน้ารีบคว้าแล้ววิ่งกลับมาที่ประตูอย่างโล่งอก แต่ขณะที่ผมมองกลับไป(กฎการเห็นผีข้อที่ 7 ผีมักจะรอโผล่ตอนเราหันกลับไปมอง)ที่ห้องน้ำผมก็เห็นชายไม่ทราบชื่อสวมกางเกงขาสั้นไม่ใส่เสื้อ คาดว่าน่าจะเคยเสียชีวิตมาแล้วยืนชี้นิ้วไปที่ข้างห้องน้ำ ตาถมึงทึงเหมือนโกรธโลตัสที่ให้ซื้อน้ำมันพืชได้ทีละขวด ขาผมหนักอึ้งตาค้างเหงื่อไหล มองตามมือไปเห็นสายพ่วงโน้ตบุ๊ควางอยู่ อืมมมม......คิดว่าเขาคงจะบอกด้วยน้ำเสียงเย็นเยือกว่า”มึงเอาไปด้วยเครื่องกูเสียบไม่ได้ มันคนละหัว!!” แต่พี่แกเล่นยืนชี้อยู่แบบนั้นไม่ไปไหนเลย ใครจะกล้าเข้าไปเอาล่ะครับ ต้องมีเพลงหมัดแหวกไส้ระยะประชิดแน่ กลัวก็กลัวไม่ไปเอาก็ใช้เครื่องไม่ได้จะซื้อใหม่พันธุ์ทิพย์ก็ปิดแล้ว หันขวาไปเจอคนกำลังออกมาจากห้องดูรีบร้อนวิ่งลงบันไดเรียกไม่ทัน สงสัยคงได้โน้ตบุ๊คพร้อมสายพ่วงไปแล้วสินะ เอายังไงดียังยืนอยู่ แหม..พี่..เมื่อยบ้างไรบ้าง จะกลับก็หวั่นว่าแกจะเอามาคืนที่บ้าน ตัดสินใจด้วยความกล้าโทรหาเพื่อนให้มารับจะรอข้างล่าง ปิดห้องวิ่งผ่านอีจูออนลงมา ลงไปเจอน้ายามนอนกรนให้แค้นใจ น้ารู้มั้ยว่าผมเจออะไรมาบ้างเนี่ย นอนหลับสบายเลยนะ เดี๋ยวจะบอกให้พี่เขาเอามาคืนที่ตู้ยามเลยดีมั้ย? หลังจากนั้นมาก็ไม่ไปเหยียบที่นั่นหลังอาทิตย์ตกอีกเลย จนกระทั่งคืนนี้...................พอก่อน ผมว่ามันยาวไปแล้ว 5555+ |
ไปที่: |