Grid Start & Rolling Start
การปล่อยรถแข่งออกจากจุดสตาร์ท มี ด้วยกัน 2 แบบ คือ การสตาร์ทแบบ Grid Start กับสตาร์ทแบบ Rolling Start ซึ่งแบบที่เราเห็นกันบ่อยที่สุด และถือว่าเป็นมาตรฐานของการปล่อยสตาร์ท คือ แบบ Grid Start คือ รถแข่งเข้าจอดในตำแหน่ง และอันดับที่ ควอลิฟายด์ เข้ามา
สำหรับการสตาร์ทแบบ Rolling Start ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในกรณีพิเศษ เช่น การแข่งขันนั้นได้เกิดขึ้นแล้ว หมายความว่าได้มีการปล่อยตัวรถแข่งออกจากจุดสตาร์ทไปแล้ว และเกิดอุบัติเหตุ มีรถแข่งกรีดขวางเส้นทางการแข่งขัน
สถานการณ์แบบนี้จะมีธงแดงเกิดขึ้นรอบสนาม และเมื่อมีธงแดง นายสนามจะสั่งให้รถเซฟตี้คาร์ส (SC) ออกวิ่งนำรถแข่ง รถแข่งทุกคันต้องรักษาตำแหน่งของตัวเอง ห้ามแซงเด็ดขาด และหลังจากที่มีการเคลียร์เส้นทางเรียบร้อย นายสนามก็จะปล่อยให้ทำการแข่งขันกันต่อ โดยการสตาร์ทแบบ Rolling Start
ซึ่งก็คือการปล่อยสตาร์ทแบบที่รถแข่งกำลังวิ่งอยู่ แต่มีการแซงกันเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ รถแข่งนั้นผ่านเส้นสตาร์ทไปแล้ว นี่คือในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นในการแข่งขันรอบแรกๆ จะต้องทำการ Rolling Start เพื่อแข่งขันกันต่อ
แต่ถ้าการแข่งขันนั้นได้แข่งไปแล้วมากกว่า 75% และมีธงแดงเกิดขึ้น นายสนามนั้นอาจจะประกาศให้การแข่งขันจบเลยก็ได้ และจัดอันดับ 1, 2, 3 ตามตำแหน่ง ที่วิ่งแข่งกันอยู่ คือ ประกาศผู้ชนะตามตำแหน่งที่วิ่งแข่งเลย แต่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับ นายสนาม เพียงคนเดียวเท่านั้น
และในการแข่งขัน Honda Racing Fest สนาม 2-3 ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายในสนาม แต่ที่จะหยิบยกเอามาเป็นตัวอย่าง คือ การแข่งขันในรุ่น Pro Cup
ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่ม มีฝนตกลงมาทำให้พื้นผิวแทร็คนั้นลื้น และมีน้ำขังเป็นบางส่วน นายสนามจะได้ประกาศเป็นการสตาร์ทแบบ Rolling Start ซึ่งนี่คือ การตัดสินใจของนายสนาม ก่อนที่จะปล่อยสตาร์ท และป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นในการแข่งขัน
แต่โดยปกติของการแข่งขันแล้วจะไม่มีการลดรอบของการแข่งขันลง แต่ในวันนั้น นายสนามได้ประกาศเป็นการสตาร์ทแบบ Rolling Strat และให้ เซฟตี้ คาร์ส (SC) ออกวิ่งนำ 3 รอบ เท่ากับเหลือการแข่งขันจริงเพียง 12 รอบสนาม โดยที่นักแข่งทุกคันนั้นห้ามแซงกันโดยเด็ดขาด เหตุผลก็คือ ให้นักแข่งได้รู้ว่าตรงจุดไหนของสนามนั้นลื่นและมีน้ำขัง ทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยนักแข่ง