เมื่อสามวันก่อน(วันพุธ) ขณะที่ฝนตก ผมก็ขับรถแล้วพลาดไปลงแอ่งน้ำที่ขังตามถนนเนื่องจากระบายไม่ทัน น้ำกระจายขึ้นหลังคารถข้างๆ (ไม่ได้ตั้งใจนะครับ)
แล้วก็ได้ยินเสียงสายพานดังวี้ดๆ ซักพักใหญ่ๆ ก็ขับมาถึงบ้านพอดี คิดว่าพรุ่งนี้เช้าน้ำแห้งก็คงไม่ดังแล้ว
ที่ไหนได้ พอตอนเช้าสตาร์ทรถ ก็มีเสียงดังเหมือนลูกปืนแตก คิดว่าคงเป็นที่แอร์ แต่ต้องทนขับไปทำงาน 1 วัน
พอวันที่ 2 (วันศุกร์) ก็แวะไปร้านสุรเดชโชคชัยแอร์ (เพราะว่าเคยไปซ่อมกับพี่เค้าเมื่อประมาณเดือนกันยา ปีที่แล้ว) พี่เค้าก็มาดูให้แล้วบอกว่าน่าจะเป็นลูกปืนมู่เล่ย์หรือไดชาร์จ แต่พอดีผมต้องกลับเข้าออฟฟิศเลยนัดซ่อมเป็นวันรุ่งขึ้น (วันนี้)
พอวันนี้ไปถึงประมาณบ่ายสอง มี ES จอดซ่อมระบบปั๊มเพาเวอร์อยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่ารถสมาชิกในนี้รึเปล่าครับ
รู้สึกว่าน้ำมันเพาเวอร์จะรั่วหรืออะไรเนี่ยแหละ พี่เค้าซ่อมเสร็จพอดีก็เลยมาดูรถผม
มาถึงพี่เค้าก็ถอดปั๊มเพาเวอร์แล้วลองสตาร์ทเครื่อง ปรากฏว่าเงียบเป็นปกติเลยครับ แต่ก็คงยังสงสัยเลยใส่กลับเข้าไปอีกรอบ เสียงก็ดังเหมือนลูกปืนแตกเหมือนเดิม พี่เค้าบอกว่าลูกปืนปั๊มเพาเวอร์แตก แล้วก็จัดการถอดออกมาซ่อม
ระหว่างนั้นแฟนพี่เค้าก็เอาน้ำมะพร้าวมาให้กิน ^_^
พี่เค้าถอดปั๊มเพาเวอร์ออกมา แกะไปแกะมาเป็นชิ้นๆ แล้วก็มาบอกว่าปั๊มเพาเวอร์แตก
พี่เค้าก็บอกว่าต้องเปลี่ยนปั๊มเพาเวอร์ แล้วก็ขอตัวออกไปหาของให้ แล้วก็ก็ขี่มอไซค์ออกไป
กลับมาอีกทีเกือบห้าโมงครึ่ง พี่เค้าบอกว่าหาของไม่ได้เลย ถ้าเบิกศูนย์จะแพงมาก รอหาของแล้วค่อยเข้ามาเปลี่ยน
แล้วแกก็จัดแจงประกอบกลับเข้าที่เดิม พอประกอบเสร็จปรากฏว่ามันไม่ทำงานล่ะสิ
ไม่ยอมปั๊มน้ำมันเข้าระบบ เลยงานเข้าครั้งที่สอง

ทีนี้ขับไม่ได้เลย ตอนเช้า(ตีห้า)มีงานซะด้วย
ไหนจะต้องแบกทั้งกระเป๋ากล้อง กระเป๋าพร็อพใบโต กระเป๋าโน๊ตบุ๊ค บ้านก็เข้าซอยลึก (ซอยคู้บอน 27 สุดซอย)
ก็เลยอิดออดไม่อยากทิ้งรถไว้
พี่แกก็ใจดีมากๆ บอกว่าเอารถแกไปใช้ได้เลยนะ

ซาบซึ้งน้ำใจมาก แต่รถงามขนาดนั้น (ซิตี้สีขาว แต่งหล่อเลย)
ไม่กล้าอ่ะ กลัวเอาของเค้าไปแล้วเป็นรอยกลับมา รถใครๆก็รัก ก็ตัดสินใจไม่เอาดีกว่า ไปหาวิธีเดินทางเอาเอง (แต่วันจันทร์ขอให้รถเสร็จนะคร้าบ..ไม่งั้นผมงานเข้าโดนลูกค้าเช็คบิลแน่)
เดี๋ยวพรุ่งนี้ได้เรื่องยังไง หาปั๊มเพาเวอร์ได้หรือไม่จะมาเล่าต่อครับ ช่างดีๆมีน้ำใจช่วยกันสนับสนุนนะครับ