รถเป็นตัวโฉมปี 2003 เครื่อง 2.0 ครับไม่ใช่ 1.7 อาการคือขับไปเฉย ๆ แล้วดับเอง ไม่มีไฟโชว์ ไม่มีอะไรเตือนล่วงหน้า รถจะดับไปเองครับ ต้องรีบนำรถเข้าข้างทางทั้งเครื่องดับ ๆ อันตรายมาก พอรถหยุดสนิท ก็สตารท์เครื่องขับต่อไปได้ เป็นอยู่ 10 ครั้งได้ ตั้งใจขับประคองไปจนถึงบ้าน จอดอยู่บ้านประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็ขับไปให้ช่างแถวบ้าน(พัทยา) เช็ค ช่างก็บอกไม่เป็นไร ผมขับออกไปก็ไม่ดับ ช่างเอาไปขับก็ไม่ดับ เช็คที่กรองเบนซินก็พึ่งเปลี่ยน ช่างบอกว่าอาจจะเป็นที่ปั๊มติ๊ก ราคาของใหม่ 9000 กว่าบาท ใครเคยเป็นอาการดังกล่าว หรือพวกพี่ที่มีความรู้ช่วยทีว่าต้องทำอย่างไร หรือแก้ไขตรงจุดไหนแล้วจะหายขาด มันอันตรายมากเลยครับใครรู้ช่วยตอบทีครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูง รถซื้อมาป้ายแดง รถเช็คระยะตามปรกติ ไม่ได้ติดแก๊ส วิ่งระยะทางถึงปัจจุบัน 1 แสนหนึ่งหมึ่นกิโลแล้วครับ[/b]

น่าจะ TDC ครับผม อาการยอดฮิต ติดชาร์จ

ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ

รอพี่เทพตอบเพื่อความชัว

อาการแบบนี้น่าจะเป็นที่ TDC แต่ถ้าจะให้ชัวเข้าเช็คที่ 0 ครับ

ลองเช็คกระทู้นี้ดูครับ ว่าอาการตรงกันไหม
http://www.civicesgroup.com/forum/topic13619?highlight

หรือลองค้นหาเพิ่มที่ช่้องค้นหา มุมขวาบนครับ
พิมพ์คำว่า "รถดับ" ครับ

ขอให้หายไวๆๆ ครับ

อาการแบบนี้น่าจะเป็นที่ TDC (ผมอ่านตามที่พวกพี่ ๆ วิเคราะห์กันมา) มันจะเป็นเฉพาะแค่ตัว 1.7 แต่ตัว 2.0 ไม่ทราบว่าเป็นด้วยหรือไม่ครับ อยากทราบครับ ช่างที่ผมเอาไปให้ดู พี่แกบอกกับผมว่า เครื่องตัว 2.0 จะไม่เป็นอาการนี้ จะเป็นเฉพาะตัว 1.7 เท่านั้น (หรือว่าพี่แกมั่วเอาไม่รู้จริง ๆ ก็ไม่ยอมบอกหรือเปล่า) เพราะแกให้เหตุผลว่า เครื่องมันไม่ใช่บล็อกเดียวกัน (K20A) คนละแบบกับ 1.7 ธรรมดา แกบอกว่าน่าจะเป็นที่ปั๊มติ๊กมากกว่า ราคาเปลี่ยมใหม่ 9000 กว่า เจอราคาเข้าไปมึนเลยครับ พี่ ๆ คนไหนเคยเจออาการดังกล่าวช่วยบอกหน่อยครับว่าต้องทำอย่างไร หรือให้ช่างที่ไหนแก้ไขหายขาด หรือมีแหล่งราคาปั้มติ๊กที่ถุกและมีคุณภาพดี จะหาได้จากที่ไหนครับ หรือจะไปปรึกษาช่างที่ไหนครับ ช่วยบอกที ตอนนี้เวลาไปไหนเสียวไปหมดครับกลัวมันดับกลางทางอีก ชีวิตมันไม่มีความสุขในการขับรถเหมือนเดิมเลยครับ ตั้งแต่รถเกิดอาการแบบนี้ กลัวไปหมด

พึ่งโดนมาสดๆร้อนๆเลยครับ 175,000 โล ได้เวลาเสียแล้ว 555

เก็บข้อมูลครับ

สรุปมันเสียที่ TDC หรือ ปั๊มติ๊กกันแน่ครับ แล้วของพี่เอกที่วิ่งมา 175000 กม.เป็นเครื่องตัวไหนครับ 1.7 หรือ 2.0 ครับ แล้วที่ว่าเปลี่ยน เปลี่ยนอะไรมาบ้าง ราคาเท่าไหร่ ช่วยกันแชร์ความรู้เล่าให้ฟังหน่อยครับ จักขอบคุณอย่างสูงครับ

ตามความรู้อันเล็กน้อยคับ ผมว่า1.7หรือ2.0ก็น่าจะมี TDC คับเพราะเครื่องรุ่นใหม่ไม่มีจานจ่าย
ที่คอยจ่ายไฟไปที่หัวเทียน ตอนที่ลูกสูบขึ้นสูงสุดที่ศูนย์ตายบน ( top dead center or TDC )
จากการหมุนของเพลาลูกเบี้ยวที่ฝาสูบ แต่ใช้TDCเซนเซอร์จับสัญญานแทนเพื่อจ่ายไฟไปที่หัวเทียน
ทำให้เกิดการจุดระเบิดตอนที่ไอดีถูกอัดพอดี ถ้าเสียไม่จุดระเบิดรถก็ดับ

ส่วนการตรวจเช็ค ถ้าให้แน่นอนต้องใช้ที่เช็คcodeที่ศูนย์เสียบดุ( ผมทำอู่รุ่นพี่แกมีเครื่อง )ว่าเซนเซอร์ตัวใดเสียถ้าเดาคงไม่ตรง
เพราะมีหลายตัว ส่วนปั้มติ้กช่างบอกว่าลองขับเร็วๆดูถ้าเสียมันจะสอึกเพราะน้ำมันไม่พอ
ซื้อมือ2เชียงกงประมาณ1000เดียวมาทั้งชุด

ผิดผลาดอย่างไรต้องขอโทษด้วย หวังว่าคงช่วยได้ไม่มากก็น้อยคับ

TDC แหง๋ม ๆ เลย

เก็บข้อมูลคับ ขอบคุณคับ

เคยเป็นเช่นกันคับ TDC เสียคับต้องเปลื่ยนอะ

เป็นแล้วครับวันนี้ เข้าศูนย์เรียบร้อย ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

รถผมก็เป็นอ่ะ แต่รถผมติดแก๊ส ก็ตอนเช้าขับรถมาทำงานจอดรถดับเครื่อง  สายๆหน่อยจะขับรถไป สตาร์ตั้งนานกว่าจะติด แล้วขับไปได้หน่อยเดียวรถดับเฉยเลย ลองสตาร์รถอีกทีติดนะวิ่งไปปกติ ตอนนี้ก็ไม่มีปัญาหาอะไร แต่ก็กลัวเวลาขับแซงรถคันอื่นแล้วมันดับกลางอากาศนี่สิอันตรายมากแซงไม่พ้น  
มีใครพอจะรู้มั้ยครับอาการแบบนี้มันเป็นอะไรครับ เศร้าใจ

ขอตอบท่านเจ้าของกระทู้และคุณ nuntawat  รวมกันตามนี้นะครับ

อาการที่เครืองยนต์ดับกลางอากาศหรือในระหว่างขับรถนั้น   สาเหตุหลักที่พบเจอก็จะมีสองสามสามอย่าง   ประการแรกที่พบบ่อยมาก ในรถที่ใช้เครื่องยนต์ แบบใช้ TDC sensor  และเครื่องยนต์ที่ใช้ crankshaft  sensor   เจ้าตัว  sensor ทั้งสองที่กล่าวนี้ มันทำหน้าที่จับมุมองศาการเคลื่อนที่ของเพลาข้อเหวี่ยง  หรือการเคลื่อนที่ของลูกสูบ   แล้วสร้างสัญญาณพัลส์ ส่งไปให้กล่อง ECU  เมื่อ ECU ได้รับสัญญาณจากตัว sensor ทั้งสองแบบ   มันก็จะสร้างสัญญาณ IGT  ซึ่งเป็นสัญญาณการจุดระเบิด  ส่งไปให้วงจรหรือโมดูลช่วยจุดระเบิด สร้างไฟโวลเต็จสูงให้กับหัวเทียน

ดังนั้นเมื่อเจ้าตัว TDC sensor  หรือ crankshaft  sensor  เสียหรือชำรุด  ที่กล่อง ECU ก็ไม่สร้างสัญญาณการจุดระเบิด ให้วงจรจุดระเบิดทำงาน    แต่เนื่องจากอาการที่ตัว  sensor ทั้งสองแบบเสียหรือชำรุด  ไม่เสียแบบถาวรในช่วงที่เริ่มมีอาการทำงานผิดปกติ   มันจะเริ่มเสียจากนานๆครั้ง  และก็เริ่มเป็นถี่ขึ้น  จนในที่สุดก็เป็นแบบถาวร

และแต่ละครั้งในการไม่ทำงานของมัน  ในครั้งแรกๆเมื่อเครื่องยนต์ดับ   เราจะสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด  จะต้องรอให้เครื่องเย็นหรือที่ตัว sensor มันเย็นลง   ก็สามารถจะสตาร์ทเครื่องยนต์ได้   และเมื่อใช้งานไป มันก็จะเสียเครื่องยนต์ดับอีก  ในระหว่างที่เครื่องยนต์ดับ  หากเรามีมิเตอร์  วัดค่าความต้านทาน  เราจะวัดค่าความต้านทานหรือค่าโอมห์  ที่ตัว sensor ไม่ขึ้น   และเมื่อมันเย็นลง  จะวัดค่าความต้านทานได้ประมาณ 650-700 Ohm   ก็เป็นการเช็คอาการเสียของมันได้

ถามว่าอาการนี้ หากเอาไปที่ศูนย์ ใช้เครื่อง scan tool OBD2 ตรวจเช็คโค๊ด  จะไม่สามารถตรวจพบอาการเสียของ sensor ได้  ต้องตรวจในขณะที่มันเสียเครื่องยนต์ดับ  ถึงจะตรวจพบ

ในอาการเสียที่แบบที่สอง   ในเครื่องยนต์ที่ยังใช้คอยไฟสูงอยู่ในตัวจานจ่าย   บางครั้งพบว่าที่ตัว Ignition coil ที่สร้างไฟโวลเต็จสูง  จะเกิดการชอร์ทเทินของขดลวดในตัว Ignition coil   เมื่อเกิดความร้อนสะสมในการใช้งาน  หรือในระหว่างการขับรถ  เมื่อเครื่องยนต์ร้อน  มันก็จะเกิดอาการนี้  คือเครื่องยนต์ดับกลางอากาศเช่นกัน   และเมื่อเครื่องยนต์ดับ  ก็จะต้องรอให้เครื่องเย็น  มันก็จะสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ติดได้   อาการคล้ายกับ TDC  sensor  หรือ  crankshaft  sensor เช่นเดียวกัน

และในกรณีที่สาม  อาการของเครื่องยนต์ดับกลางอากาศ   นานๆครั้งจะพบว่า ที่ตัวกล่อง ECU  มันไม่สร้างสัญญาณการจุดระเบิดส่งไปให้วงจรช่วยจุดระเบิดสร้างไฟสูง  หลังจากที่มันได้รับสัญญาณ จาก TDC และ crankshaft  sensor  อาการของมันที่เสียก็คือเครื่องยนต์ดับกลางอากาศเช่นกัน  แต่จะสตาร์ทไม่ค่อยติด  ทั้งเครื่องเย็นและร้อน  หรือบางครั้งทิ้งไว้สักพัก  ก็สตาร์ทติด  อาการเสียในกล่อง ECU ในกล่อง ECU  นี้  จากการที่เคยตรวจซ่อม  มาจากสาเหตุที่เจ้าตัว capacitor ในวงจรฟิลเตอร์ ของวงจรสร้างสัญญาณพัลส์ IGT  มันชอร์ท เกิดค่าความต้านทานในตัวมัน   ทำให้กระแสไฟที่ไปเลี้ยงวงจร  มีกระแสไฟไหลผ่านค่าความต้านทานที่เกิดขึ้นในตัวมันลงกราวด์  ทำให้ไม่มีไฟเลี้ยงวงจร  มันก็ไม่สามารถจะสร้างสัญญาณจุดระเบิดได้    

อาการเสียที่ตัวกล่อง ECU  นี้  หากช่างทั่วไปไม่มีความรู้เรื่องระบบอีเลคโทรนิคส์  และใช้เครื่องมือ Digital oscilloscope  รวจสอบสัญญาณที่ขาดหาย  ก็จะไม่สามรถวิเคราะห์อาการเสียนี้ได้   ลองผิดลองถูก เปลี่ยนนี้เปลี่ยนนั้น  จนเจ้าของรถเสียเงินในสิ่งที่ไม่ควรเสีย  ผลสุดท้ายต้องเอากล่อง ECU  ไปให้ร้านที่รับซ่อมแก้ไข    

สำหรับอาการรถของคุณ  nuntawat  อาจจะไม่ใช่อาการเสียตามที่กล่าวมาข้างต้น  อาจจะเป็นไปได้ว่า  ในระหว่างที่มีการใช้ระบบแก็ส  อาจจะเกิดแก็สมีปริมาณไม่พอในบางช่วงหรือบางเวลา  อันมาจากความผิดปกติของระบบแก็ส  เช่นในระบบหม้อต้มแก็สเกิดสภาวะน้ำแก็สไม่ไหลผ่านกรองแกส  เพราะเกิดอุณหภูมิความร้อนภายนอกที่มีผลทำให้น้ำแก็สในท่อที่ไหลไปยังหม้อต้มแก็ส หรือหม้อลดแรงดัน  กลายเป็นไอแก็สขึ้นในระบบท่อ ส่งน้ำแก้ส  ทำให้ไอแก็สที่เกิดขึ้นนี้ ผ่านกรองแกสได้ยากหรือน้อย  ทำให้มีปริมาณไอแก็สป้อนให้กับระบบหัวฉีดแก็สน้อย  ไม่พอกับอัตราส่วนผสมในการจุดระเบิดเครื่องยนต์ก็ดับ    เมื่อไอแก็สที่เกิดขึ้นในท่อส่งน้ำแก็ส ถูกขับออกไปด้วยน้ำแก็สที่มีแรงดันจากถังออกไป   มันก็จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ปกติ

อาการที่กล่าวมานี้  นานๆจะเป็นครั้งไม่ต้องกังวล   ไม่เกี่ยวกับกับระบบ sensor ที่กล่าวมาในตอนแรกแต่อย่างใด   แต่อย่างไรก็ตามในระบบการคอนโทรลเครื่องยนต์ด้วยระบบอีเลคโทรนิคส์ ECU มันไม่แน่เสมอไป  ที่อาการที่เคยตรวจพบในอุปกรณ์ที่เสียนั้นๆ  ในคราวแรก   และในคราวต่อไป  อาจจะไม่ใช่อุปกรณ์นั้นจะเสียอีก  อะไรก็กิดขึ้นได้  .......srithanon
 

2.0 ผมเคยดับกลางอากาศ เพราะสายกราวด์ ไม่แน่ อาการก็อย่างที่เจ้าของกระทู้ว่ามาเลย 

ถ้าเป็นปั๊มติ๊ก ราคาไม่แพงหรอกครับ ในห้องซื้อขายมีเพียบ
ของผมเปลี่ยนมา400 เองครับ ถอดของไปเทียบดูที่เซียงกงแถวบ้านนะครับ

ผมเจอมาสดๆคับ ขับไปดีๆ รถก็ดับ ก่อนดับมีรูปเครื่องโชว์ตรงหน้าปัด ผมต้องถอดขั่วแบตออกถึงขับได้ ขับไปเรื่อยๆก็ดับอีก ใครมีความรู้้เรื่องนี้ช่วยบอกที ผมขับcivic dimension ปี2003

วิ่งเป็นร้อยครับ อยู่ๆ ไฟเอ็นจิ้นติด แล้วเครื่องดับเฉยเลย เป็นคร้้ังที่สอง ณ จุดเดิม กำลังลงจากภูเขาซะด้วย เสียวสุดๆ นี่กำลังรอช่างศูนย์แจ้งผลการตรวจสอบอยู่ จะหมดเท่าไหร่ล่ะหนอคราวนี้

ช่างแจ้งว่าให้เปลี่ยน tdc ครับ 1800 บาท รับประกันปัญหาจบแน่ ว่างั้นครับ

เสียวๆเหมือนกัน 18x,xxx กว่าๆแล้ว ช่วงนี้เดินทางบ่อยด้วย 

เก็บข้อมูลต่อไป 2.0 เหมือนกัน จะสองแสนโลแล้วด้วย

ผมก็เพิ่งโดนไป TDC นี่แหละ