ตอบ
toonying


ชื่อเล่น: ตูน

เข้าร่วม: 31 พฤษภาคม 2009
ตอบ: 66

สมาชิกสับสน
สมาชิกสับสน

ได้รับคำขอบคุณ: 55
ให้คำขอบคุณ: 12

ที่อยู่: นนทบุรี แถวสะพานพระราม5
ปี: 2002
สี: เทา ซิกเน็ต (เมทัลลิก) (RP-31M)
จันทร์, 1 มีนา 2010 16:17 - ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
เนื่องจากพาเพื่อนๆๆไปหัวหินมาครับแล้วล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ เมานิดๆๆมึนๆๆรถเยอะอ่ะครับ

เป็นรอยก็ไม่มากครับแต่มันตะหงิดใจครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ บ้านผมอยู่นนทครับแต่ที่ไหนใน กทม ก็ได้นะครับ

ขอบพระคุณมากครับ


ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
Hamster@Yamabuchi


ชื่อเล่น: เบิร์ด

เข้าร่วม: 27 มีนา 2009
ตอบ: 2005

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 5433
ให้คำขอบคุณ: 3267

ที่อยู่: เขตหวงห้ามเฉพาะ
ปี: 2005
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
จันทร์, 1 มีนา 2010 16:58 - ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
พี่เชน Kae_za Shop พระราม ๒ _ครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: Y u s Z a  RG.KiD  toonying  jetty0  battery3k 
Y u s Z a


เข้าร่วม: 09 ตุลา 2008
ตอบ: 536

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 355
ให้คำขอบคุณ: 198

ปี: 2005
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 1 มีนา 2010 17:35 - ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ตามนั้นครับ
RG.KiD


ชื่อเล่น: โอ๊ก

เข้าร่วม: 28 พฤศจิกา 2009
ตอบ: 2214

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 4800
ให้คำขอบคุณ: 4461

ที่อยู่: Nonthaburi ~ Sukha III ~ Suksawas
ปี: 2001
สี: เทา ซิกเน็ต (เมทัลลิก) (RP-31M)
จันทร์, 1 มีนา 2010 19:36 - ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
เอ๊า.... ไปทำไงมาล่ะตูน..... ไงก็หาร้านซ่อมไวๆ กลับมาหล่อไวๆ นะน้อง..... ล้อเพิ่งจัดมาไม่นานเองนี่นา...
แต่พี่ไม่รู้ร้านหรอกคับ.. 555+ ตามคำแนะนำของป๋าเบิร์ดเลยครับ... ป๋าแกรับรอง...
toonying


ชื่อเล่น: ตูน

เข้าร่วม: 31 พฤษภาคม 2009
ตอบ: 66

สมาชิกสับสน
สมาชิกสับสน

ได้รับคำขอบคุณ: 55
ให้คำขอบคุณ: 12

ที่อยู่: นนทบุรี แถวสะพานพระราม5
ปี: 2002
สี: เทา ซิกเน็ต (เมทัลลิก) (RP-31M)
จันทร์, 1 มีนา 2010 20:21 - ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
Hamster@Yamabuchi พิมพ์ว่า:
พี่เชน Kae_za Shop พระราม ๒ _ครับ


รบกวนขอเบอร์ด้วยนะครับ

แล้วขอบคุณพี่ๆๆทุกคนครับ
Hamster@Yamabuchi


ชื่อเล่น: เบิร์ด

เข้าร่วม: 27 มีนา 2009
ตอบ: 2005

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 5433
ให้คำขอบคุณ: 3267

ที่อยู่: เขตหวงห้ามเฉพาะ
ปี: 2005
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
จันทร์, 1 มีนา 2010 22:04 - ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
toonying พิมพ์ว่า:
Hamster@Yamabuchi พิมพ์ว่า:
พี่เชน Kae_za Shop พระราม ๒ _ครับ


รบกวนขอเบอร์ด้วยนะครับ

แล้วขอบคุณพี่ๆๆทุกคนครับ



เช็ค PM ได้เลยครับ จัดให้แล้ว
puyning1


เข้าร่วม: 14 ตุลา 2009
ตอบ: 177

มือใหม่หัดขับ
มือใหม่หัดขับ

ได้รับคำขอบคุณ: 339
ให้คำขอบคุณ: 99

ที่อยู่: อยุทยา
ปี: 2005
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
อังคาร, 2 มีนา 2010 12:30 - ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
แพงปะ
ราคาเท่าไหร่ คับ
ES21_fatboy


เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1563

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 11901
ให้คำขอบคุณ: 4229

ที่อยู่: วงแหวนอุตสาหกรรม
ปี: 2004
สี: น้ำเงิน วิวิด (มุก) (B-502P)
พฤหัส, 18 มีนา 2010 01:00 - REVIEW by Yakumo :: ECU and Electronics upgrades
กระทู้รวม REVIEW ของคุณวิณ Yakumo เกี่ยวกับ อุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ทั้งหลาย ฯลฯ

ปล.ขออนุญาต คุณวิณด้วยนะครับ กระทู้ดีดี ขอเอามารวมรวมไว้แบ่งปันเพื่อนในกระทู้นี้นะครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: PAE KUNG  PK_RY 
ES21_fatboy


เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1563

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 11901
ให้คำขอบคุณ: 4229

ที่อยู่: วงแหวนอุตสาหกรรม
ปี: 2004
สี: น้ำเงิน วิวิด (มุก) (B-502P)
พฤหัส, 18 มีนา 2010 01:02 - ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
Review : ระบบกุญแจ Immobilizer by คุณวิณ Yakumo


จากความอยากของผมเองเลยทำให้ต้องไปรู้เรื่อง Immobilizer Key เพิ่มเติม ว่ามันทำงานไง เป็นมาไง แต่ในส่วนของรายละเอียดนั้นผม จะขอเน้นไปที่ Immobilizer Key ของ Civic new dimension หรือที่เรียกกัน ตามรหัสตัวถัง ญี่ปุ่นว่า ES นะครับ แต่บอกก่อนนะครับ ข้อมูลที่ผมมี อาจจะเป็นเพียงความเข้าใจส่วนตัว นะครับ ซึ่งอาจจะถูกหรือผิดก็ได้ ดังนั้นผู้อ่านควรใช้พิจารณาก่อน นะครับ ซึ่งข้อมุลในส่วนแรกเป็นข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับหลักการทำงานของ ระบบ แต่ในส่วนที่ สองเราจะลองให้ข้อมูลเพิ่มว่าจะเอาไป Mod กันเองครับ (Mod = Modify) นะครับ

ระบบ Immobilizer นั้น จะมีองค์ประกอบการทำงานหลังๆ ดังนี้ครับ


6 ส่วนด้วยกันครับ เริ่มกันเลย
- อันแรกเลยเอาที่เห็นๆ กันง่ายๆ ก็คือไฟที่แสดงว่ามีกุญแจ Immobilizer ซึ่งจะเป็นไฟสัญญาณที่แสดงอยู่บนหน้าปัด นั้นเอง
- ต่อมาก็คือ กล่อง ECU ที่เรารู้จักกันดีว่ามันเป็นสมองของรถ เอาไว้ประมวล ผลค่าต่างๆ ที่ส่งมาจาก Senser และควบคุมการทำงานของระบบเครื่องยนต์ แล้วกุญแจมันเกี่ยวอะไรกับ ECU แฮะๆ ECU เนี้ยแหละเก็บ Code เพื่อเอาไว้เทียบกับกุญแจล่ะครับ
- Multiplex Control Unit Input Test ไอ้เจ้าตัวนี้แหละครับส่วนใหญ่เรียกกันว่ากล่องฟิวล์ใหญ่อ่ะครับตัวมันทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมแล้วรับส่งสัญญาณที่ได้รับ จาก input เข้ามาก่อนที่จะเอาไป ถาม ECU
- ต่อมาอีกชิ้นก็คงเป็นตัวอะไรไปไม่ได้นอกจากตัว ส่งข้อมูล หรือที่เรียกกันว่า Transponder ไอ้เจ้าตัวที่ว่าเนี้ย ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ ครับ เพราะว่ามันจะไป อาศัยอยู่กับลูกกุญแจครับ ตัวมันทำหน้าที่ส่ง Code ครับ แต่ถ้าอยากเห็นเนี้ย ถ้าเป็นกุญแจ ของ ES เห็นทีต้องเอามีดผ่าเอาครับ แต่ถ้าเป็นของพวก Accord เนี้ยเอาไขควงไขฝาครอบกุญแจ ออกก็เห็นแล้วล่ะครับ
- ต่อมาอีกชิ้น ก็คือตัว ดอกกุญแจ ครับ มันทำหน้าที่เป็นตัวนำ เพื่อส่งข้อมูลของ Code เข้าไป ในรถ ให้เราแหละ
- อีกส่วนที่เกือบลืมคือ Immobilizer Control Unit-Receiver ไอ้เข้าตัวนี้แหละครับมันอยู่รวมกับรูกุญแจเวลาเราเสียบดอกกุญแจเข้าไปมันจะรับค่า Code แล้วก็ส่งกลับต่อไปที่ Multiplex Control Unit Input Test

จากที่เล่าให้ฟัง เล่นๆ ไปแล้วว่ามันประกอบด้วยอะไรบ้างนั้น ต่อมาก็มาดูกันอีกสักนิดแล้วกันครับว่า มันเชื่อมต่อ กันทำงานอย่างไง ครับ

ลองดูจากรูปด้านล่างนะครับ จะเห็นว่าหลักการทำงานของ Immo คือถ้า Code ไม่ถูกเนี้ย มันไม่ไปสั่งให้ปั้มติ๊กทำงานครับ พูดง่ายๆ คือไม่จ่ายน้ำมันให้เครื่องยนต์ start เท่าไหร่ก็ไม่ติดครับ หลักๆ ก็เท่านี้แหละ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

ในส่วนของระบบ Immobilizer นั้น จะมีการตรวจสอบตัว Code ของกุญแจ ดังต่อไปนี้

ถ้าเป็นกุญแจที่ถูกต้องโดยที่มี Code ที่ถูกต้อง ไฟรูปกุญแจ ที่แสดงบนหน้าปัด ตรง Dashboard จะแสดง Show ขึ้นมา ประมาณ 2 วินาที แล้วก็จะหายไปครับ ซึ่งก็หมายความว่า ถ้าเราเสียกุญแจรถเข้าไป แล้ว เมื่อปิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง (II) ก็จะแสดงแบบที่เล่าให้ฟัง แบบนี้ก็จะสามารถ Start เครื่องรถได้ครับ

ถ้าหากว่า เป็นกุญแจที่ Code ไม่ถูกต้อง หรือว่า กล่อง ไม่สามารถอ่านค่าได้ เมื่อเราบิดกุญแจไปที่ ตำแหน่ง (II) ไฟก็จะติด ขึ้นมา 2 วินาที เหมือนกัน และหลังจากนั้นก็จะกระพริบๆ ไปจนกว่าจะบิดกับไปที่ OFF นะครับ แบบนี้แสดงว่า กุญแจ อาจจะยังไม่ได้ยิ่ง Immo หรือว่า ยิง Immo ไม่เข้านะครับ

ถ้าหากว่าอยากตรวจสอบว่า กุญแจ ที่เราใช้งานอยู่นั้น หลังจาก ยิ่ง Immo แล้วมันใช้งานได้สมบูรณ์ หรือป่าวเนี้ย ให้สังเกตุง่ายๆ คือ เมื่อเราบิดกุญแจไปที่ ตำแหน่ง OFF แล้วรูปกุญแจ บนหน้าปัด กระพริบๆ สัก 5 วินาที แล้วก็ดับไปเลย นั้นแสดงว่า ปกติครับ

ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ


เผื่อว่ายังไม่เข้าใจ ว่ามันไปคุม การสั่งจ่ายน้ำมันไง ก็ดูจาก Diagram ด้านล่างเลยครับ ที่ผมทำ สี่เหลียมๆ วงๆ ไว้นะครับ ลองสังเกตุดูว่ามันไปสั่งไง

ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

จบในส่วนแรกไปแล้ว คราวนี้มาเข้าประเด็นกันต่อดีกว่า จริงๆ แล้วผมอยากใช้กุญแจ Accord 03 มาใช้กับ Civic ES 03 แต่ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เลยไปซื้อกุญแจ มาแล้ว กัดดอกไปแล้ว แต่ใช้งานไม่ได้ เสียเงินไปประมาณ หลายพันอยู่ เรียกว่าเสียค่าโง่ อ่ะครับ ก็เลย ไม่อยากให้ใครเสียเงิน แบบผมอีกเลย เอามา share ให้ดูกันดีกว่า แต่ว่า ตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้ไปซื้อกุญแต ดอกใหม่มาทำนะครับ เพราะว่าตังค์หมดแล้วล่ะ ไว้ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่ครับ แต่ว่าเพื่อว่าใครอาจจะไปจัด ก็จัดกันไปแล้วเอามา Share กันด้วยนะครับ

ในส่วนของ Immobilizer Key ผมพอมีข้อมูลอยู่บ้างเพื่อว่าจะมีประโยชน์นะครับ ในกรณีที่เราต้องการสั่งกุญแจ นั้นจำเป็นต้องดู Code ที่ตัวดอกกุญแจเดิมของเราก่อนเป็นหลักเลยครับ ว่าจะเป็นแบบไหน

วิธี คือ ให้หยิกดอกกุญแจของคุณนั้นแหละขึ้นมา แล้วลองสังเกตที่ตรงดอกกุญแจ แล้วดูว่ามันมีตัวอักษร อะไรเขียนไว้ และตอนไปสั่งต้องนำไปเทียบกับเลข frame ด้วยว่าถูกต้องและตรงหรือไม่ แต่ถ้าหากว่าจะใช้แบบเดิมๆ ไม่เปลี่ยนก็ไม่ยากเท่าไหร่ครับ หากว่าต้องการใช้กุญแจ Accord ที่มี Remote แล้วต้องการนำมาใช้กับ ES อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้เลข Frame แต่ว่าต้อง ดู Code ที่กุญแจของเราก่อนว่า เป็น Code อะไรแล้วตอนไปสั่งกุญแจของ Accord ก็ต้องบอกให้เค้าเทียบให้ว่า Code เดี่ยวกับกุญแจเราใน Accord นั้นใช้ Part อะไรครับ

ตัวอย่างเช่น บนกุญแจ ผมมีตัวอักษร ตัว F ดังนั้นผมต้องไปสั่งกุญแจ Accord ที่ บนกุญแจ เป็นตัว F ครับ สั่งมาผิดเสียเงินแบบผมแล้วไขได้แต่ ประตู แต่ Start รถไม่ได้เนี้ยเซ็งเลยนะครับ

ข้อมูลเรื่อง Code อยู่นิดหน่อยก็ลองดูตามข้อมูลด้านล่าง เป็น Code ที่อยู่บนดอกกุญแจ ทั้งหมด ของรถ ดังต่อไปนี้
- Accord, Civic, และ CRV ของรถ 2003-2008
- CITY 2009
- JAZZ 2009


PART No. CODE
35111SDAZ61 PH
35113S0XY01 R
35113S9AA01 F
35111SLJN01 H
35113S9AG01 PR
35111SNB305 PV
35111S0XA01 PF
35111S0XY01 PR
35111SWC305 PL
35111S9AG01 PR
35111SWAA01 PL
35111SWA305 PL
35111SWCT01 PL
35111SDAZ11 PR
35111SLJ307 PH
35111SND307 PV
35118SDAZ11 PR
35111S9A406 PR
35111S9A406 F
35118TC0U70 PL
35118SDAA01 V
35111TCOU61 PL
35118SNBA00 PL
35118TCOU60 PL
35111TC0U71 PL
35111SNBA01 PL
35111TE0U01 PL
35118TE0U00 PL
35111SWWE01 PL
35111SWW305 PL
35111S9AA01 PF

เบอร์ code ที่กุญแจ ถ้าตัวอักษรที่ขึ้นด้วย P ตามด้วย อักษร ตัวอื่นๆ เช่น PL ก็สามารถใช้ร่วมกัน L ได้ ครับ
แฮะๆ หวังว่าคงพอมีประโยชน์ แต่ว่า ก็ลองเอาไปปรับแล้วตรวจสอบดูก่อนอีกทีตอนที่จะซื้อกุญแจมากัดดอกนะครับ

เอาล่ะครับ หมดแล้วในหัวตอนนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ แต่ ผมไม่ได้รับประกันอะไรนะครับ บอกไว้ก่อนว่าจะใช้ได้หรือไม่ได้ ก็ต้องเสี่ยงกันดูหน่อยแหละครับ แต่ผมหวังว่าจะพอมีประโยชน์
ได้รับคำขอบคุณจาก: PAE KUNG  Tui2989 
ES21_fatboy


เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1563

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 11901
ให้คำขอบคุณ: 4229

ที่อยู่: วงแหวนอุตสาหกรรม
ปี: 2004
สี: น้ำเงิน วิวิด (มุก) (B-502P)
พฤหัส, 18 มีนา 2010 01:03 - ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
Review : Modify กุญแจ Immobilizer แบบ Hardcore by คุณวิณ Yakumo



ด้วยความที่ไม่ยอม ประกอบกับความ พยายาม ในที่สุด ก็ทำให้กุญแจ Accord 03 ที่ซื้อมาเพื่อใช้กับ CIVIC NEW DIMENSION ซึ่งเป็นกุญแจรุ่นใหม่ แบบ Key Blade สามารถใช้งานได้สมบูรณ์สักที หลังจากที่เสียเงินไปหลายตังค์แล้วแต่ใช้ได้แต่เปิดประตู แต่ใช้ Start รถเพื่อขับไม่ได้ เนื่องจากที่ว่า ไม่สามารถ ยิ่ง Code Immobilisers ได้

เหตุผลคือ ซื้อกุญแจมา ผิด Code ครับ ปัญหาคือตัว Transponder หรือ ตัวส่งสัญญาณ ออกมาจากตัวลูกกุญแจ ชุดของ Code มันไม่อยู่ใน Range เดี่ยวกันกับที่ใช้อยู่กับตัวรถ เอาง่ายๆ คือมันไม่ match กันอ่ะครับ

ทางออกสำหรับการแก้ไข ปัญหา นี้คือ ถ้าสามารถ หา Transponder ที่ถูกต้องมาให้ได้ ก็จะสามารถ ใช้ในการ Start รถได้ จากทางออกนี้ วิธีที่ประหยัดที่สุด ก็คือ แกะเอา Transponder จากกุญแจสำรองมาเปลี่ยนสลับกับ Transponder ในกุญแจที่ทำมาใหม่

ซึ่งถ้าทำด้วยวิธีนี้ ก็ไม่ต้องไป ยิง immo ที่ 0 ใหม่ ก็ประหยัดเงินไป 400 บาท แต่ต้องทำลายกุญแจสำรองไป 1 ดอก เพื่อผ่าเอา transponder ออกมา (แต่ตัวดอกกุญแจก็ยังใช้งานได้ปกตินะครับ เอาไปใช้ไขประตูได้อยู่) ซึ่งถ้าไปเบิกกุญแจ แบบเดิมใหม่ ราคา ก็อยู่ที่ 900 และต้องไป กัดดอก อีก 1000 และ ต้องไปยิ่ง immo ใหม่หมดอีก 400 รวมเป็นเงิน 900+1000+400= 2300 แต่ก็ได้แค่ดอกกุญแจ แบบเดิมๆ มาอีกดอก

จากที่ลองคำนวณ ดูแล้ว ผ่าทำดีกว่า ไหนๆ ก็ไปทำกุญแจมาใหม่แล้ว ก็จะได้กุญแจที่มี Remote ในตัว ขึ้นมาอีก 1 ดอก สุดท้ายแล้ว ก็คิดว่า เอาว่ะ คงคุ้มค่ากว่าล่ะน่า

จากเหตุผลและข้อสรุป ก็มาเริ่ม ผ่าตัด เปลี่ยนสมอง กันเลย ( ฮา ฮา ฮา ฟังดู โหดชะมัด จะได้เข้า Concept Hardcore หน่อย)

ก็เอากุญแจ ของ เดิมที่เป็น ดอก Spare ออกมาเตรียมก่อนเลย และทำใจ อีกสักนิดว่าต้องผ่าล่ะนะ โดยที่เครื่องมือที่ใช้ก็คิดว่าที่หาง่ายๆ ก็คือ มีดคัตเตอร์นี้แหละครับ ค่อยๆ เหลาๆ ไป

ขั้นตอนการเอา Transponder จากกุญแจสำรอง ออกมาก็มีดังนี้ครับ

- เอาดอกกุญแจเดิมมา แล้วก็ใช้ คัดเตอร์พยายามเหลาเอา เนื้อพลาสติกที่หุ้มดอกกุญแจออก ผมแนะนำให้ค่อยๆ ทำนะครับ และก็ เหลาเอาขอบออกให้หมดก่อน
- หลังจากที่เหลาเอาขอบออกหมดแล้วคราวนี้ ก็พยายาม เอาใบมีดคัตเตอร์สอดไประหว่างพลาสติกที่ปิดหน้าและหลังกุญแจ แล้วบิดเพื่อให้มันแยกออกจากกัน
- หลังจากที่แยกพลาสติก ออกได้แล้วนั้น ก็จะเห็น ยางสีขาวๆ ตรงกลางกุญแจเลย ไอ้นั้นแหละครับ Transponder คราวนี้ค่อยๆ ใช้มือดันๆ มันออกจากตัวลูกกุญแจ
- จากที่ได้ออกมาแล้ว ก็ค่อยๆ เลื่อนตัว capsule ของ Transponder ออกมาจากยางสีขาวๆ

เท่านี้ก็ได้ ตัว Transponder ที่ต้องใช้ล่ะ คราวนี้พักไว้ก่อน อย่าทำตกทำหายนะ

ขั้นตอนต่อมาก็คือ การเอา Transponder ที่อยู่ในกุญแจของ Accord ที่กัดดอกไว้แล้วออกมา สำหรับอันนี้ง่ายมาก
- เอาไขควงสี่แฉก เล็กๆ ไขน๊อต ออก 1 ตัวที่กุญแจ
- จากนั้นจะสังเกตุเห็นว่ามี ช่องสีขาวๆ ตรงนั้นแหละที่เก็บ Transponder ให้ค่อยๆ หาอะไรบางๆ แข็งๆ หน่อย เอาตัวล๊อคสีขาวๆ นี้ออก
- หลังจากที่เตัวล๊อคออกได้แล้วก็จะเห็น Transponder นอนรออยู่เอียงๆ ซึ่งมันจะยิงกาวไว้ด้วย ต้องค่อยๆ เอามัดคัตเตอร์เซาะๆ ขอบและดึงออกมา
- หลังจากที่เอาออกมาได้แล้วก็ เรียบร้อย รอประกอบกลับ

จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนการประกอบร่างใหม่กับสมองเก่าเข้ามาให้เรียบร้อย
- ก็เอาตัว Transponder ที่แกะออกจากดอกกุญแจ สำรอง มาใส่ลงใน ช่องเก็บ Transponder ของกุญแจใหม่
- จากนั้น ก็เอาตัวล๊อกมาล๊อคกลับที่เดิม
- ปิดฝา และ ขันน๊อตกลับเข้าไปให้เรียบร้อย

เสร็จแล้วล่ะ สำหรับการประกอบกุญแจ อันใหม่ คราวนี้ของที่เหลือ ก็อย่าไปทิ้ง ก็เอามารวมร่างไว้ก่อน และกุญแจดอกเก่าที่ถอด transponder ออกมาแล้วก็ยังสามารถใช้งานได้เพื่อเอาไว้เปิดประตู แต่ start รถไม่ได้นะครับ


ได้กุญแจเรียบร้อยแล้ว ต้องทำไงต่อล่ะ งานนี้ ก็ต้องไปลองกันหน่อยครับว่าใช้งานได้จริงๆ ไหม ผมก็เลยรีบเอากุญแจไปลอง Start รถเลย ตอนแรก ผมก็ดูก่อน Start ว่าเวลาเสียบกุญแจไปแล้ว บิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง II แล้ว Indicator ที่ เรือนไมล์มัน แสดงออกมาเป็นไง ผลก็คือ ระบบได้ Code immo ที่ถูกต้อง ไฟรูปกุญแจ ที่แสดงบนหน้าปัดเรือนไมล์จะแสดงขึ้นมา ประมาณ 2 วินาที แล้วก็จะหายไปครับ ซึ่งก็หมายความว่า ถ้าเราเสียกุญแจรถเข้าไป แล้ว เมื่อปิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง (II) ก็จะสามารถ Start เครื่องรถได้ครับ ไชโย ทำสำเร็จ แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่า แน่นอนหรือป่าว เลยลอง Start เครื่องดู ผลคือ Start เครื่องได้ตามปกติเลย สำเร็จจริงๆ ล่ะ ต่อมาก็หมดปัญหาเรื่องนี้ไปแล้ว ก็ต้องมาจูน Remote ให้เข้ากับรถ ก่อน โดยทีผมลองไป Download คู่มือจาก เวปในต่างประเทศของ Honda มาก็มีวิธีทำ ให้เห็นชัดเจนเลย เดี่ยวดูจากด้านล่างละกัน แต่ Stepทั้งหมดจะมี 13 Step ซึ่ง Step ที่ 2 - 12 ต้องทำแต่ละ Step ภายใน 5 วินาทีต่อ Step แต่ Step ที่ 13 นั้น 10 วินาที จะมีดังข้อมูลด้านล่างแบบนี้นะครับ ซึ่งหลังจากที่ผมทำตามไปแล้วก็ใช้งานได้ปกติ สรุปก็ ทำงานได้ตาม Function ที่ต้องการสมบูรณ์ล่ะ ครับ จบโปรเจคกุญแจ Remote ล่ะ

1. Turn the ignition switch to ON (II).
2. Press the "LOCK" or "UNLOCK" button on one of the transmitters. (An unpprogrammed transmitter can be used for this step)
3. Turn the ignition switch to LOCK (0).

4. Turn the ignition switch to ON (II).
5. Press the "LOCK" or "UNLOCK" button on one of the transmitters. (An unpprogrammed transmitter can be used for this step)
6. Turn the ignition switch to LOCK (0).

7. Turn the ignition switch to ON (II).
8. Press the "LOCK" or "UNLOCK" button on one of the transmitters. (An unpprogrammed transmitter can be used for this step)
9. Turn the ignition switch to LOCK (0).

10. Turn the ignition switch to ON (II).
11. Press the "LOCK" or "UNLOCK" button on the same transmitter. Make sure the power door locks cycle to confirm that the system is in programming mode.
12. Press the "LOCK" or "UNLOCK" button on each transmitter to be programmed. (The system will accept up to three transmitters.) Make sure the power door locks cycle after your push each transmitter button to confirm that the system accepted the transmitter's code.

13. Turn the ignition switch to LOCK (0) to exit the programming mode.

เอาเป็นว่าเป็นภาษาไทย เพื่อว่าเข้าใจมากขึ้นดีกว่านะครับ
1. บิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง II หน้าเรือนไมล์จะติด
2. กดปุ่มที่ Remote จะเป็นล๊อค หรือ ไม่ล๊อค ก็ได้ 1 ครั้ง
3. บิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง off หน้าเรือนไมล์จะดับ
4. ทำตาม Step 1-3 ไปอีก 2 รอบ
5. บิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง II หน้าเรือนไมล์จะติด
6. กดปุ่มที่ Remote จะเป็นล๊อค หรือ ไม่ล๊อค ก็ได้ 1 ครั้ง
7. ถ้าต้องการเพิ่ม Remote ใหม่แค่อันเดี่ยวก็ให้กดปุ่ม จะเป็นล๊อค หรือ ไม่ล๊อค ก็ได้ 1 ครั้ง แต่ถ้ามี Remote ตัวอื่นที่ต้องการ Program เข้าไปด้วยก็กด ล๊อค หรือ ไม่ล๊อค ก็ได้ 1 ครั้ง (จะรับได้สูงสุด 3 ตัวเท่านั้นนะครับ)
7. บิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง off หน้าเรือนไมล์จะดับ เพื่อออกจากการ Program Remote

ถึงต้องนี้ก็ Program Remote ใหม่เรียบร้อยครับ ใช้งานได้ ก็ลองกดล๊อค กดไม่ล๊อคดูครับ ทำงานได้สมบูรณ์

จากที่อธิบายมาทั้งหมดนะครับ มาดูรูปเพื่อประกอบความเข้าใจกันดีกว่าครับ

มาเริ่มดูกันที่ดอกกุญแจทั้งหมดดีกว่าครับ ซ้ายสุดก็ดอก Accord 03 ที่กัดดอกเรียบร้อย ดอกขวาสุดก็เป็นดอก Spare ที่นำมาตัดพลาสติกหุ้มออกไปแล้ว
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

ในส่วนของการเหลาพลาสติกออกเพื่อที่จะแกะเอาตัว Transponder ออกมานั้นก็ต้องเอาขอบออกให้หมดนะครับแล้ว ก็จะได้ แบบในรูปแหละครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

ไอ้เจ้า Capsule เล็กๆ นั้นแหละพระเอกที่เราต้องการใช้ เป็นตัว Transponder ล่ะครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

ได้ตัว Transponder มาแล้ว ก็เอาดอกกุญแจ Accord 03 มาถอดและใส่ Transponder ใหม่เข้าไป เครื่องมือที่ใช้ก็แค่ไขควงและฝีมือ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

ไอ้ตัวนี้แหละครับตัว Remote
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

ตรงที่เห็นขาวๆ ในรูปนั้นแหละครับตำแหน่งที่ใส่ตัว Transponder เข้าไปครับจะเห็นว่าจะมีล๊อกอยู่ 2 ข้างก็ค่อยๆ เอาออกนะครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ


แฮะๆ หวังว่าคงมีประโยชน์และสนุกกับความตื่นเต้นในตอนที่ลงมือทำเองกันนะครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: PAE KUNG  Tui2989 
ES21_fatboy


เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1563

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 11901
ให้คำขอบคุณ: 4229

ที่อยู่: วงแหวนอุตสาหกรรม
ปี: 2004
สี: น้ำเงิน วิวิด (มุก) (B-502P)
พฤหัส, 18 มีนา 2010 01:16 - ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
Review :: BLITZ :: R-VIT i-Color by คุณวิณ Yakumo

ก็เป็นอะไรที่อยากได้มาเป็นของสะสมมานานมากๆ แล้ว สุดท้ายก็ได้มา แล้วก็ได้มาครบๆ 2 รุ่นเลย สำหรับ R-VIT i-Color นั้นสำหรับรุ่นก่อนที่จะเป็น R-VIT i-Color Flash ซึ่งเป็นรุ่นใหม่กว่า (ใหม่กว่าก็รองรับรถได้มากกว่า ตัวอย่างเช่น รับกับ FD รุ่นใหม่ล่าสุดอะไรทำนองเนี้ย)

สำหรับ Review ชุดนี้ อย่าได้คิดว่าผมเอาของสะสมมาโชว์ หรือ อวดใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ เพราะว่าวัตถุประสงค์ ผมต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงครับ คือผมต้องการนำเสนอ เพื่อเป็นข้อมูล ให้เป็นกรณีศึกษา สำหรับประกอบการตัดสินใจของท่านที่สนใจ ตัวผมเองพบว่าจะหาข้อมูลของแต่งอะไรสักชิ้น มีแต่บทความที่เป็นภาษาอังกฤษบ้าง ภาษาญี่ปุ่นบ้าง ก็ทำให้หลายๆ ครั้งเนี้ยค่อยรู้เรื่องสักเท่าไหร่ ทำให้ไม่สามารถตัดสินใจได้ถ้าต้องการจะนำมาใช้งาน ก็เลยเห็นเหตุให้ผมพยายามนำสิ่งที่ตัวเองได้พบได้เห็นจากประสบการณ์ มานำเสนอเพื่อ Share ให้ได้อ่านๆ กัน นั้นก็เหตุผลหลัก ส่วนเหตุผลรองคือการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์สำหรับผมเอง สมองจะได้ focus ที่จะทำอะไรสักอย่างแทนที่จะปล่อยให้มันว่างๆ ไปเฉยๆๆ เอาเวลาว่างระหว่างพักมาทำให้เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆ ก็น่าจะดีกว่านั่ง ไร้สาระไปเรื่อยๆ แฮะๆ วันนี้ไม่รู้เป็นไร เลิกงานแล้ว ก็คิดอยากจะเขียน Review ออกมาให้ดูกัน ซึ่งของชุดนี้ผมได้มาสักพักแล้ว เริ่มจากการที่รถแฟนผม ไม่มีมิเตอร์บอกอุณหภฺมิน้ำแล้ว ผมเองก็ใช้งานรถคันนั้นบ่อยด้วย ก็เลยต้องหาอะไรมาเพิ่มเติมลงไปสักหน่อย ก็เลยมานั่งคิดดูว่า อะไรที่จะเอามาอ่านค่านี้ได้บ้าง ก็เลยนึกไปถึงของอยากได้ในอดีต ก็คือ R-Vit i-color ซึ่งจริงๆ แล้วในรถของผมเอง ก็มี R-Vit อยู่แล้วและเป็นรุ่น Type I ซึ่งตอนนี้บ้าขนาดที่ว่าเมื่อ Blitz Thailand นำเข้ามาผมวิ่งไปเอามาลงในรถก่อนเลย ซึ่งเมื่อตอนนั้นราคา ประมาณ 17000 ได้ แฟนรู้จะว่าไหมเนี้ย แต่ว่ามันนานมากๆๆๆๆ แล้ว ระยะคดีหมดแล้วล่ะ อิอิ ตอนนั้นเป็น Multi Function Display ตัวแรกในตลาดเลยที่อ่านค่าจาก OBD-II Port ของรถ ขึ้นมาแสดงได้ (ก็แบบเดี่ยวกับที่ ศุนย์เอาเครื่องคอมพิวเตอร์มาต่อที่รถเราแล้วบอกได้ว่าอะไรเป็นอะไร เช่น อุณหภฺมิน้ำเท่าไหร่ ตอนนี้ กดคันเร่งอยู่กี่เปอร์เซนต์ หรือว่า ตอนนี้องศาการจุดระเบิดอยู่ที่เท่าไหร่ และอีกมากมายที่อ่านค่าได้จาก Diagnostic port (OBD-II) ซึ่งจริงๆ แล้วตอนนั้นที่ R-VIT type I ออกแบบมานั้นจะสามารถส่งสัญญาณอินฟราเรส เพื่อสือสารกับ R-Vit เพื่อปรับค่าน้ำมันได้ เหมือนกับพวก AFC ของ Apexi ล่ะครับ แต่ว่าต้องใช้สองตัวข้อดีของมันตอนนั้นคือว่ามันจะสามารถอ่านค่าจาก Senser ได้แบบเดี่ยวกับที่กล่อง ECU ได้รับตรงกัน 100% แล้วนำค่าที่อ่านได้ไปประมวลผลที่ R-FIT แล้วสั่งปรับน้ำมันครับ แต่ผมเข้าใจว่าไม่ได้รับความนิยมสักเท่าไหร่ เพราะว่าราคาและชื่อเสียง Blitz ในบ้านเรานั้นดังไม่เท่ากับพวก Greddy หรืออื่นๆ และอีกอย่างพวกของเล่น electronic แบบนี้สำหรับรถ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้รับความนิยมสักเท่าไหร่ เพราะว่ามันดูว่าลงทุนสูงแต่ได้มาอันนิดเดียว สู้เอาไปลงทุนซื้ออย่างคือได้อะไรมากกว่า อะไรทำนองเนี้ยแหละครับ อนาคตของมันเลยไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ แถมไม่ค่อยมีการทำตลาดด้วยแหละ

แต่ไงก็ชั่ง ผมว่ามีประโยชน์ที่จะรู้และได้ข้อมูลไว้ ก็เลย เอามาเขียนให้อ่านกันเล่น เล่าประวัติ คราวๆ ไปแล้ว ก็บอกก่อนนะนั้นเป็นความเข้าใจและมุมมองของผมอาจจะไม่ถูกต้อง 100% ก็ขออภัยไว้ ณ ตรงนี้ก่อนเลย กลับมาเข้าเรื่องกันในส่วนของ Blitz R-Vit i-Color นั้น จะเป็นรุ่นต่อมาจาก R-Vit Type I และ Type II (ซึ่ง Type II นั้นจะออกแบบมาให้ใช้สำหรับรถ Nissan โดยเฉพาะ) ส่วน R-Vit i-Color นั้นจะเป็นแบบที่สามารใช้กับรถอะไรก็ได้ และรองรับ CAN-Bus protocol ซึ่งรถรุ่นใหม่ๆ ใช้แบบนี้กันนะครับ แต่ตอนนั้นที่รุ่นนี้ออกมา CAN-Bus พึ่งเริ่มใช่ จึงมี limit อยู่ในส่วนของ รถที่อุปกรณ์ตัวนี้สามารถอ่านค่าออกมาได้ อยู่บ้าง และสำหรับรุ่นล่าสุด ก็คือ R-Vit i-Color Flash นั้น ก็จะเป็นรุ่นที่พัฒนาขึ้นมาต่อจาก i-color รุ่นแรก ซึ่งก็ต่างกันตรงที่ว่ารองรับ รถได้มากขึ้นและอาจจะสามารถ upgrade ได้ นั้นคือจุดต่างนะครับ

และอีกอย่างที่ i-color ดีกว่ารุ่น Type I หรือ Type II นั้นคือ สามารถรับสัญญาณจาก A/F Senser ได้ แต่เป็น Option ที่ต้องซื้อเพิ่ม เพื่อจะสามารถเก็บค่าของ A/F มาดูได้ และมีข้อดีอีกหลายอย่างที่รุ่น Type I หรือ Type II ทำไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ดีไปทั้งหมดเพราะว่าในส่วนของ ที่ Type I และ Type II ทำได้นั้น บางฟังค์ชั่น i-Color ก็ทำไม่ได้ ซึ่งจริงๆ ก็เลือกตามความต้องการจะดีที่สุดนะครับ พูดไปพูดมารักพี่เสียดายน้อง ซะงั้น สุดท้าย เอาไว้ทั้งคู้เลย เป็นพญาเทครัวกันไป อิอิ ล้อเล่นครับกลับเข้าเรื่องดีกว่านะครับ ในส่วนของ i-color นั้นจะสามารถแสดงผลได้ทั้งหมด 65000 สีครับ ด้วยตกแสดงผลขนาด 1.5 * 1.5 นิ้ว และสามารถหมุนได้ด้วย และตัว CPU ในตัวอุปกรณ์เป็นแบบ Dual ด้วยเทห์เลย และระบบ Operation System หรือว่า OS ก็เป็นการออกแบบในแบบ 32ิbit แหมเหมือกนับ Windows ที่เราใช้กันใน PC เลยที่เป็น 32ิbit เหมือนกันแต่ตอนนี้ Windows เค้ามี 64bit แล้วนะ นอกเรื่องอีกจนได้ กลับเข้ามาคุยกันต่อ ตัวนี้ตัวเดี่ยวใช้ได้หมดไม่ว่าจะเป็น CAN ของ Toyota หรือว่า ระบบของรถ Nissan ก็ดีครับจะได้ไม่ยุ่งยากอะไร

จริงๆ แล้วเดี่ยวตอนผมติดตั้งลงในรถอีกคันเสร็จแล้วจะมี REVIEW ภาคสองมาอีกที แต่ตอนนี้เอาอันนี้ให้อ่านกันไปก่อนนะครับ เอาแบบให้รู้จักกันก่อนแล้วค่อย จัดการให้สำเร็จกันไป อีกรอบ

มาดูของกันดีกว่าครับ เล่ามาเยอะแล้ว เดี่ยวคนอ่านจะเบื่อกันไปซะก่อนนะครับ

เริ่มจากล่องเลย ผมมีทั้ง สอง รุ่นเลย ครับ สีเงินจะเป็นรุ่นแรกที่ Release ออกมาและสีดำจะรุ่นต่อมา จริงๆ เค้าจะเรียก สีเงินเป็น version 2 และสีดำเป็น version 3 นะครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

มาดูกันหน่อยว่ามันมี Highlight ตรงไหนบ้าง
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

แกะกล่องให้ดูกันไปเลยครับว่ามีอุปกรณ์อะไรกันบ้าง
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

ส่วนนี้เป็น Display unit และ Controller ด้วยนะครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

เห็นกันครบๆ ว่ามีอะไรบ้าง
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

ปลั๊กตัวนี้ต้องไปต่อกับปลั๊กอีกตัวก่อนเชื่อมเข้า OBD II
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

ตัวนี้แหละปลั๊ก OBD II
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

ก่อนจบให้ดูสีเงินชัดๆ อีกที
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

สรุป ก็ เป็นแค่นำเสนอให้รู้จักกันก่อนนะครับ และให้ข้อมูลคราวๆ ของอุปกรณ์ ในส่วนของการติดตั้งแล้วก็การใช้งานเดี่ยวจะเอามา Review ให้ดูอีกทีแล้วกันนะครับ รอให้ว่างก่อน ช่วงนี้ แฟนห้ามผมกินเหล้าด้วย ก็คงจะมีเวลาว่างทำอะไรอีกเยอะอ่ะครับ แค่แอบเซ็งนิดหน่อย หมดแรงแล้วครับสำหรับวันนี้ บ๊ายบาย
ได้รับคำขอบคุณจาก: PAE KUNG  Tui2989 
ES21_fatboy


เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1563

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 11901
ให้คำขอบคุณ: 4229

ที่อยู่: วงแหวนอุตสาหกรรม
ปี: 2004
สี: น้ำเงิน วิวิด (มุก) (B-502P)
พฤหัส, 18 มีนา 2010 01:17 - ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
Review :: GReddy Intelligent Information Touch by คุณวิณ Yakumo

สวัสดีครับ วันนี้จะมาแนะนำให้รู้จักของเล่นอีกตัวครับ เป็นของ GReddy ครับ สำหรับชุดนี้ คงเพียงให้รู้จักกันก่อน แบบของที่เมื่อวานได้ลงของ R-Vit i-Color ไปนะครับ สำหรับของวันนี้จะเป็น GReddy Intelligent Information รุ่นใหม่ล่าสุด Firmware 1.04 และเป็นรุ่นที่ส่วนแสดงผลเป็น จอ Touch Screen การทำงานไม่ต่างอะไรกับของ R-Vit ที่เคยนำเสนอไปแล้ว ต่อเชื่อมกับ OBD II เช่นเดี่ยวกันครับ ดังนั้นการติดตั้งไม่ได้ยุ่งอยากอะไรเลย ง่ายๆ มากๆๆ

สำหรับ GReddy แล้วในส่วนของ Multi function display ออกแบบมาเชื่อมต่อกับ OBD II จะมีออกมา 2 รุ่นนะครับ รุ่นแรก ก็เป็นจอ สี ธรรมดา ไม่ได้ต่างอะไรกับ R-Vit Type I มาเพียงแต่ว่าจอสีเท่านั้นครับ แต่สำหรับ รุ่นล่าสุดอย่าง Touch เนี้ยผมว่าเป็นก้าวกระโดดเลย เพราะว่าระบบและ OS ที่เอามาติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์นั้นทันสมัยมากๆ ซึ่งสำหรับผม ตอนนี้คิดว่าตัวนี้คือสุดยอดของเล่นแบบนี้แล้ว ถ้าจะซื้อคิดว่าตัวนี้คุ้มค่าสุดครับ ด้วยราคาขายปลีกในบ้านเราอยู่กันที่ 13000 บาทครับ ซึ่งในชุดจะมีมาให้ครบๆ ไม่ต้องไปหาอะไรเพิ่มเติมอีก ขาตั้งก็มีมาให้แล้วด้วย แถมหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ตั้ง 3.5 นิ้ว และเป็นจอแบบ TFT Touch Screen ด้วยครับ ตัวอุปกรณ์นั้นรองรับ OBD II Protocol ทั้งหมดครับ คือ ISO,14230, CAN, Non OBD การแสดงผลสามารถหมุนได้ 3 ทิศทางเลยครับ การแสดงค่านั้นทำได้มากสุด 6 monitor และรูปแบบการแสดงผลทำได้ มากถึง 5 รูปแบบ ที่สำคัญที่สุดเลยคือว่า สามารถที่จะ Read & Resetting DTC (Diagnostic Trouble Code) ได้ด้วย ก็ไอ้ที่รูปไฟรูปเครื่อง Show ไอ้เจ้าตัวนี้มันลบไฟได้ด้วยไง สามารถแสดงผลอัตราการสิ้นเปลี่ยงพลังงานด้วย แต่ว่าอันนี้ผมก็ยังไม่ได้ลองเดี่ยวลองแล้วจะเอามา Review ให้ที สามารถตั้ง Alarm ได้ทั้งแบบแสดงบนหน้าจอและแสดงออกเป็นเสียง นอกจากนั้นยังสามารถรับสัญญาณจากภายนอกได้อีก ไม่ว่าจะเป็น Boost Sensor, Pressure Sensor (oil/fuel), และ Temp (oil/coolant)

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม รบกวนเข้าไปดูได้จากที่นี้เลย
http://www.greddy.com/home/?id=282

ถ้ามีคำถามว่าแล้วรถเราจะอ่านค่าอะไรได้บ้างผมลองเอาข้อมูลมาเรียงๆ ดู แต่เฉพาะของ Honda นะครับ ก็ได้มาประมาณเนี้ยแหละ เพื่อว่าใครสนใจ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

ดูกันมาสักพักแล้ว คราวนี้ ก็มาดูของกันดีกว่าครับ เจอกล่องก็ดูดีแล้ว
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

เปิดกล่องมาเจอ กันหน่อย ของมาครบๆๆๆๆๆ กันไปเลยครับ ทังคู่มือ ที่มีทั้ง Japan และ English ไม่ต้องห่วงครับ อ่านได้ไม่ยากครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

สำหรับขาตั้งเนี้ยผมว่าเค้าออกแบบมาดีมากๆ เลยสามารถ lock ได้ด้วย
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

ไอ้ตัวนี้ก็ต้องใส่ด้วยนะครับ จะได้ป้องกันสัญญาณรบกวนครับ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

ส่วนเจ้าตัวเนี้ยก็เป็นหัวปลั๊กสำหรับ เสียบกับ OBD II ที่ตัวรถ
ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ

สรุปสุดท้ายเนี้ย ก่อนอื่นต้องขอบคุณพี่เอิ๊กที่ขายให้ในราคาไม่แพงนะครับ และก็อย่างที่บอกครับว่าตัวนี้คือสุดยอดแล้วสำหรับตอนนี้ ดังนั้นเดี่ยวตอนติดตั้งลงในรถจะเอามาให้ดูกันอีกทีนะครับ และถ้าใครอยากได้มาใช้งานบ้างเนี้ย มีขายกันเยอะครับ ก็ลองหามาใช้กันดูครับ แต่ถ้าติดตั้งไม่เป็นถามผมมาแล้วกันนะครับจะแนะนำให้
ได้รับคำขอบคุณจาก: PAE KUNG  Jeab22  Tui2989 
ES21_fatboy


เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1563

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 11901
ให้คำขอบคุณ: 4229

ที่อยู่: วงแหวนอุตสาหกรรม
ปี: 2004
สี: น้ำเงิน วิวิด (มุก) (B-502P)
พฤหัส, 18 มีนา 2010 01:26 - ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
Review อื่นๆ กดดูได้ตามหัวข้อเลยครับ



REVIEW :: R-Vit i-Color (Installation)

REVIEW :: E-Manage Hardware

REVIEW :: Blitz :: R-Fit & R-Vit Type I

REVIEW: UNICHIP Piggyback Foundation
ได้รับคำขอบคุณจาก: PAE KUNG  Jeab22 
ES21_fatboy


เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1563

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 11901
ให้คำขอบคุณ: 4229

ที่อยู่: วงแหวนอุตสาหกรรม
ปี: 2004
สี: น้ำเงิน วิวิด (มุก) (B-502P)
พฤหัส, 18 มีนา 2010 20:54 - ล้อแม็กซ์ไปขูดฟุตบาตมาครับ แนะนำร้านซ่อมทีครับ
...
ตอบ
หน้า 1 จาก 1
ไปที่: 
ติดต่อโฆษณา admin@civicesgroup.com
Copyright © 2008-2025 Civic ES Group. All rights reserved.