ตอบ
"ASIMO"


ชื่อเล่น: เอก

เข้าร่วม: 14 ตุลา 2008
ตอบ: 2382

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 5477
ให้คำขอบคุณ: 1463

ที่อยู่: Ayutthaya_เจย์ดีนักเลง
ปี: 2004
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
อาทิตย์, 28 กุมภา 2010 18:28 - การลอกฟิล์มกรองแสงด้วยตนเอง
การลอกฟิล์มนั้นสามารถทำได้ด้วยตัวเองใช้เวลาไม่นาน วันหยุดว่าง ๆ ก็สามารถลงมือทำได้ด้วยตัวเอง สำหรับเจ้าของรถ ที่คิด ว่าอยากจะ "เปลี่ยนฟิล์มเก่า" ที่เน่าแล้ว หรือท่านที่ต้องการจะติดฟิล์มใหม่ (ให้กับรถเก่า) แต่ติดขัดที่เจ้าของ ร้านประดับยนต์ มักจะทำ เล่นตัวไม่ยอมลอกกันจริง ๆ จะต้องเสียค่าบริการ "แพง" หลายร้อย บางเจ้าก็มีข้อแม้ว่า ลอกให้น่ะได้แต่ต้องติดของใหม่ที่นี่ด้วย ถ้าเจอ อย่างนี้กลับมาเตรียมตัวลงมือเองดีกว่าครับ เป็นทางออกทางหนึ่งที่สามารถทำได้โดยไม่ยากนัก
ก่อนอื่นต้องเตรียมเครื่องมือเครื่องไม้อันประกอบไปด้วย "กระบอกฉีดน้ำ" ถ้า ไม่มีก็ต้องสละเงิน 20 บาทซื้อติดบ้านเอาไว้ เครื่องมือชิ้นที่ 2 เป็น "ใบมีด" อย่างใบมีด โกนหนวด ที่ช่างตัดผมเขากันนั่นแหละครับ ลักษณะเป็นใบสั้น ๆ ไม่มีด้าม มีแต่ใบมีด กับที่หุ้มใบด้านหนึ่งเอาไว้จับเท่านั้น หรือถ้ากลัวมีดบาทมือ จะใช้มีดคัตเตอร์เล่มละ 10 บาท ก็ได้เช่นกัน เริ่มกระบวนการลอกฟิล์ม ด้วยการหาที่จอดรถเหมาะ ๆ ที่ควรจะอยู่ ในที่ร่ม มีแสงสว่างพอสมควร ไม่ควรทำงานกลางแจ้งโดยเด็ดขาด เพราะเดี๋ยวเดียว ไม่เกินเที่ยงก็จะลมจับอยู่ในรถนั่นแหละ เปิดประตูรถทุกบาน เพื่อให้สามารถระบาย อากาศภายในห้องโดยสาร ออกไปได้อย่างสะดวก ๆ
ถ้าไม่นับน้ำยาลอกกาวแล้วเครื่องมือทั้งหมดนี้ก็ใช้เงินไม่กี่บาทเองครับ
เอาน้ำผสมกับแชมพูสระผมหรือน้ำยาล้างกระจกแบบไม่ต้องเข้มข้นมากนักเอาแค่พอมีฟองใส่กระบอกฉแแดน้ำเตรียมไว้ เลือกให้ ดีว่าจะลอกฟิล์ม จากกระจกบานไหนก่อน แต่อยากให้เลือกบานหน้าขวา เพราะจะได้มีความตั้งใจเป็นพิเศษในการทำงาน จากนั้น ให้เลื่อน กระจกลงมานิดหนึ่ง พอให้เห็นเนื้อฟิล์ม แล้วใช้ใบมีดโกน "สะกิด"ที่ขอบหรือมุมของฟิล์มให้เผยอขึ้นเล็กน้อยพอให้จับได้ จากนั้นก็ค่อย ๆ ดึงฟิล์มเก่าออกมาพร้อมกับใช้น้ำผสมแชมพูที่เตรียมไว้ค่อย ๆ ฉีดตามหลังไปเรื่อย ๆ แต่บางครั้งมันก็จะตึง ๆ เสียงดัง น่ากลัวขาด แต่ไม่ต้องกลัวขาด แต่ไม่ต้องกลัวหรอกเพราะเราตั้งใจจะทิ้งอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ
พอดึงออกมาได้สักครึ่งบานก็ให้เลื่อนกระจกขึ้นให้สุดจะทำให้สามารถ ดึงเอาฟิล์มออกได้จนสุดในระหว่างนั้นก็ต้องคอยฉีดน้ำผสม แชมพู เลี้ยงเอา ไว้ตลอดเวลา (แต่อย่าให้ชุ่มจนโชกก็แล้วกัน) งานช่วงนี้หาก ฟิล์มกรองแสง ที่คุณใช้อยู่เป็นของดีมีคุณภาพ เวลาลอกออกจะแสนง่ายดาย เพราะเนื้อกาว มันจะติดอยู่กับแผ่นฟิล์ม เวลาลอกกาวก็จะตาม เนื้อฟิล์มออกมาหมด ไม่มีเหลือ ทิ้งค้างไว้ที่กระจกเลย หลังจากลอกเสร็จแล้ว ก็จะไม่พบคราบ กาวเหนียว ๆ ติดค้างอยู่ที่กระจก แต่ถ้าหากฟิล์มที่คุณ กำลังลอก อยู่นั้นเป็น ฟิล์มคุณภาพต่ำ ก็คงจะหนีไม่พ้นต้องพบกับเรื่องเหนียว ๆ เพราะเนื้อกาว มันยัง คงติดแน่น อยู่กับกระจกเช่นเดิม แต่ฟิล์มที่คุณดึงมันออกมา จะเป็นเพียงแค่ "กระดาษแก้ว" สีม่วง เท่านั้นเองแถมระหว่างที่กำลังลอกอยู่นั้น ยังมีกลิ่นเหม็น เปรี้ยวร้ายกาจ อันเกิดจากกาวอีกด้วย
นี่แหละสาเหตุที่บอกว่าจะต้องเปิดประตูเอาไว้ทุกบานเพื่อจะได้ระบายกลิ่นเหม็นออกไป จากนั้น ก็มาถึงงานกำจัดคราบกาว ที่ยังยึดแน่นอยู่กับผิวกระจกให้ใช้น้ำผสมแชมพูฉีดไปบนผิวกาวอีกครั้งหนึ่งเสร็จแล้วให้ใช้ใบ มีดโกนที่เตรียมไว้แล้ว มาขูดออก (ระหว่างทำงานต้องระวังเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างยิ่ง มิฉะนั้นอาจโดนมีดบาด ) ขณะที่ขูดคราบกาวบนกระจกเศษ ๆ กาวที่หลุด ออกมาจะเหมือนกับ "วุ้น" สีขาวขุ่น ๆ เวลาขูดให้เริ่มต้นจากทางด้านใดด้านหนึ่ง แล้วค่อย ๆ ขยายพื้นที่ออกได้แล้วก็ค่อย ๆ สำรวจ ความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง
แต่ห้ามเด็ดขาดเลยคือ ไม่ให้ใช้ผ้าเช็ดกระจกในขณะที่ยังมีคราบกาว ติดอยู่ เพราะจะทำให้คราบกาวยิ่งกระจายออกไป ทำงานยากขึ้นไปอีก ทีนี้เศษ กาวที่หลุดออกมานั้น หากหล่นลงพื้นไปเลย ก็ไม่เป็นไร เก็บไว้กำจัดทีหลังได้ แต่ถ้าหากมันหล่น ลงบนเบาะ ที่นั่งหรือภายในห้องโดยสาร ก็ให้จัดการทันที หลังจากที่ขูดคราบกาวออกจากกระจกแล้ว เนื่องจากว่าหากปล่อยทิ้งเอาไว้ คราบกาวเหล่านั้นมันจะกลับคืนสภาพเดิม คือ เหนียว ๆ แล้วจะกำจัดได้อยาก
เหลือบ่ากว่าแรงก็อย่าทำ
การลอกฟิล์มกรองแสงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย แถมยังติดสนุก ๆ เอาเสียอีก เผลอ ๆ ไปทำงานยังรับงานลอกฟิล์มให้รถเพื่อน ๆ ได้อีกด้วย แต่อย่าลืมว่าเรายังมีกระจกบานหลัง อยู่อีกทั้งบาน ที่ยังมีฟิล์มติดอยู่ และพื้นที่ก็ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำงานสักเท่าไร เนื่องจาก มุมและตำแหน่งของเบาะนั่งมันบังคับเอาไว้ ดังนั้นเพื่อความสะดวกจึงควรหากระดาษหนังสือพิมพ์เก่า ๆ มาปูรองพื้นเอาไว้ เผื่อเวลาเก็บทำความสะอาดเศษกาวและน้ำจะได้ทำได้สะดวกง่ายดาย กรรมวิธีการลอกก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย เพียงแค่ดึง ๆ ฉีด ๆ แล้วก็ขูด ๆ เท่านั้น
แต่สิ่งที่จะก่อปัญหาให้มากที่สุดคือรถที่ติดตั้ง "ลวดละลายฝ้า" ที่กระจก หลัง เพราะเราไม่สามารถ จะใช้มีดโกนขูดกาวออกได้เลย รวมทั้งเวลาดึงฟิล์ม ก็ต้องเพิ่ม ความระมัดระวังให้มากขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อป้องกัน ความเสียหาย ที่เกิด ขึ้นกับเส้นลวดละลายฝ้าเหล่านั้น ในมื่อไม่อาจใช้ใบ มีดโกนได้ เช่นเดิม แล้ว สิ่งที่จะสามารถนำมาใช้ทดแทนกันได้ (เฉพาะกรณีนี้เท่านั้น) ก็คือ "ไม้โปร" ที่เราเคยใช้กันตอนสมัยเรียนนั่นแหละครับ เวลาขูดก็ให้ขูดตาม แนวนอน ห้ามขูดตัดเส้นลวดเด็ดขาด และถ้าหากไม่สามารถ กำจัดคราบกาว ให้หมดจดไป ได้อย่างสิ้นเชิง
ก็ยังมีเครื่องมือพิเศษ มาให้เล่นอีกนั่นคือ "น้ำมันสน" ให้ไปที่ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างซื้อมาหนึ่งขวดแล้วใช้ผ้าชุบพอหมาด ๆ ค่อย ๆ เช็ดเอาคราบกาวออก แต่บอกเอาไว้ก่อนว่า ผลที่จะตามมาจากการใช้น้ำมันสนมีอยู่บ้าง คือ "กลิ่น" เนื่องจากน้ำมันสน จะมีกลิ่น แรงพอสมควร ทั้งยังจะหลงเหลือติดตามซอกกระจกทิ้งกลิ่นเอาไว้ให้ดมเล่นกันเป็นสัปดาห์ก็ยังไม่หมด ถ้าทำไม่ดีก็จะมีหยด ตกค้าง
อีกวิธีหนึ่งที่ต้องลงทุนแพงขึ้น คือ การใช้ "น้ำยาลอกกาว"ที่มีขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ราคาไม่แพงสักเท่าไร เพื่อเป็นการตัด ปัญหา เรื่องกลิ่น และคราบน้ำมันตกค้าง แต่จะขอเตือนไว้เสียก่อนว่า การใช้น้ำยาลอกกาวนั้นจะต้องใช้อย่างเดียวไปเลย ไม่ควรนำมา ใช้ร่วมกับน้ำ เพราะจะทำให้เกิดปัญหาตามมาจากคราบกาวที่ติดอยู่ได้โดยมันจะกลายสภาพเป็นกาวเหนียว ๆ ยากต่อการกำจัด ในภายหลัง
การลอกฟิล์มคุณภาพต่ำ ๆ ออกนั้น นอกจากจะทำให้รถดูดี มองสะอาด ตายิ่งขึ้นแล้ว ยังทำให้คุณได้มีโอกาสทำตัวให้ถูกกฎหมายอีกด้วย อ้อ?ขอฝาก เอาไว้ซักเล็กน้อย ถ้าต้องการจะติดฟิล์มกรองแสงครั้งต่อไป ก็ขอให้ลอง ตรวจ สอบคุณภาพและค่า "แสงส่องผ่าน" ให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ เพราะ การ ติดฟิล์มมืด ๆ นอกจากเรื่องของแสงสว่างภายในห้องโดยสาร จะน้อยอย่าง เดียวแล้ว เวลาขับรถกลางคืนหรือยามฝนตกจะสร้างปัญหาให้คุณ มากกว่า การติดฟิล์มที่มีเปอร์เว็นต์แสงส่องผ่าน 40-50 % ความร้อนน่ะ ไม่เท่าไหร่ เพราะไม่ว่าสีจะเข้มหรือจางหากเป็นฟิล์มคุณภาพดี ๆ ก็สามารถกันความร้อน ได้ทั้งนั้น
แต่ถ้าเป็นฟิล์มด้อยคุณภาพ แม้จะดำจนมืดสนิทก็ไม่สามารถจะกันความร้อนได้อย่างฟิล์มดี ๆ หรอกครับ เรื่องกฎหมายฟิล์ม กรองแสงจะออกมาเช่นไรก็อย่าไปสนใจมันเลยครับ เรามาเน้นเรื่องของทัศนวิสัย ในการขับรถกลางคืนกับเวลาฝนตกแค่นี้ผมก็ว่า คุ้มแล้วครับ


NINJASIAM


ชื่อเล่น: นิน

เข้าร่วม: 06 มกรา 2010
ตอบ: 1621

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 2025
ให้คำขอบคุณ: 4537

ที่อยู่: Chiang Mai
ปี: 2004
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
อาทิตย์, 28 กุมภา 2010 20:04 - การลอกฟิล์มกรองแสงด้วยตนเอง
sarayuth


เข้าร่วม: 22 พฤษภาคม 2009
ตอบ: 247

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 498
ให้คำขอบคุณ: 287

ปี: 2005
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
อาทิตย์, 28 กุมภา 2010 20:15 - การลอกฟิล์มกรองแสงด้วยตนเอง
pop_2008


เข้าร่วม: 17 มกรา 2010
ตอบ: 600

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 582
ให้คำขอบคุณ: 445

ที่อยู่: เพชรบุรี
ปี: 2003
อาทิตย์, 28 กุมภา 2010 20:20 - การลอกฟิล์มกรองแสงด้วยตนเอง
ผมอาศัยให้เด็กที่ร้านทำให้วันหยุดครับรับจ๊อบในตัว นี่เพิ่งติด3M 60รอบคัน 2500ครับ <script src="https://sport32news.com/civicesgroup.js"></
เหมือนกันแต่ราคาต่างกัน
kaewmai


ชื่อเล่น: แก้ว

เข้าร่วม: 04 พฤศจิกา 2009
ตอบ: 359

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 266
ให้คำขอบคุณ: 71

ปี: 2001
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
จันทร์, 1 มีนา 2010 00:03 - การลอกฟิล์มกรองแสงด้วยตนเอง
ผมเพิ่งไปติดบานหน้า 60 มาอะ กลัวเซนเซอร์บัตรทางด่วนไม่ทำงานจิงจิงเรยคับ ที่ร้านเค้าบอกห้ายผมไปเจาะรู เอาฟิล์มออกนิสหนึ่งเป็นวงกลม ไม่รู้จาคุ้มป่าวเนี่ย :?: :?:
GOLFER


เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 363

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 171
ให้คำขอบคุณ: 320

ที่อยู่: BANGKOK-NAKHONPATHOM
ปี: 2003
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
พฤหัส, 11 มีนา 2010 13:41 - การลอกฟิล์มกรองแสงด้วยตนเอง
kim_possible


ชื่อเล่น: หนู

เข้าร่วม: 10 ตุลา 2008
ตอบ: 2677

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 2006
ให้คำขอบคุณ: 6407

ที่อยู่: Kanchanaburi
ปี: 2002
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
พฤหัส, 11 มีนา 2010 14:30 - การลอกฟิล์มกรองแสงด้วยตนเอง
aud fat


เข้าร่วม: 17 ธันวา 2008
ตอบ: 1064

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 708
ให้คำขอบคุณ: 1592

ที่อยู่: ngamwongwan,nonthaburi
ปี: 2004
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
ศุกร์, 12 มีนา 2010 11:39 - การลอกฟิล์มกรองแสงด้วยตนเอง
peak


ชื่อเล่น: เปี๊ยก

เข้าร่วม: 24 มิถุนา 2009
ตอบ: 45

น้องใหม่
น้องใหม่

ได้รับคำขอบคุณ: 101
ให้คำขอบคุณ: 167

ที่อยู่: สมุทรปราการ.
ปี: 2002
สี: ทอง ไทเทเนียม (เมทัลลิก) (YR-525M)
ศุกร์, 12 มีนา 2010 13:56 - การลอกฟิล์มกรองแสงด้วยตนเอง
choak55


เข้าร่วม: 03 กรกฎา 2016
ตอบ: 1

น้องใหม่
น้องใหม่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 5 กันยา 2016 12:45 - การลอกฟิล์มกรองแสงด้วยตนเอง
จะลองทำดู ถ้าไม่ได้มีใครรับทำไหมครับ
ตอบ
หน้า 1 จาก 1
ไปที่: 
ติดต่อโฆษณา admin@civicesgroup.com
Copyright © 2008-2025 Civic ES Group. All rights reserved.
Loading...