วันที่ 30/11/52 เวลา 8.51 น. มีโทรศัพท์เข้ามา โชว์หมายเลข +88618899 เป็นเสียงระบบคอมพิวเตอร์บอกว่า
"คุณได้เปิดใช้บริการบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย และมียอดค้างชำระจำนวน สามพันกว่าบาท(จำเลขแน่นอนไม่ได้) กรุณากด 9 เพื่อติดต่อพนักงาน"
เราก็กด 9 มีพนักงานผู้หญิงรับสาย จ่อไปนี้จะเป็นบทสนทนาคร่าวๆเท่าที่จำได้นะ
จนท. "สวัสดีค่ะ มีอะไรให้รับใช้คะ"
เรา "อ๋อ พอดีเมื่อกี๊มีโทรศัพท์เป็นเสียงระบบคอมพิวเตอร์แจ้งว่า คุณได้เปิดใช้บริการบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย และมียอดค้างชำระจำนวน สามพันกว่าบาท(จำเลขแน่นอนไม่ได้) กรุณากด 9 เพื่อติดต่อพนักงานค่ะ"
จนท. "ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรคะ"เราก็บอกชื่อนามสกุลไป (สะกดให้ฟังไปเรียบร้อย โง่ซะไม่มี)
จนท. เลยถามว่า "แล้วคุณได้ทำบัตรเครดิตหรือปล่าคะ"
เรา "ไม่ได้ทำค่ะ ไม่เคยทำบัตรเครดิตธนาคารไหนเลย และไม่เคยมีบัญชี หรือติดต่อธุรกรรมใดๆกับทางธนาคารกสิกรไทยด้วยค่ะ"
จนท. "งั้น ขอตรวจสอบข้อมูลสักครู่นะคะ ไม่ทราบว่าเลขประจำตัวประชาชนคุณหมายเลขอะไรคะ" ไอเราก็บอกไป นึกว่าจำเป็นต้องใช้เพื่อตรวจสอบข้อมูล
จากนั้นก็บอกเราว่า "จากข้อมูล คุณได้สมัครทำบัตรเครดิตเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 52 ใช้จ่ายผ่านบัตรเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ไปสามพันกว่าบาท ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว และ เมื่อวันที่ 6 พ.ย.อีกเก้าพันกว่าบาท รวมยอดเงินเป็นหมื่นสองพันกว่าบาท" (เค้าบอกเลขมาชัดเจนอ่ะนะ แต่เราจำเลขไม่ได้)
เราก็ยืนยันเต็มที่ว่า " ไม่จริงค่ะ ไม่ได้เข้า กทม. เลย แล้วจะไปใช้บัตรที่นั่นได้ยังไง"
จนท. ก็ถามเราซ้ำๆเพื่อยืนยันว่าคุณแน่ใจนะว่าไม่ได้ทำบัตรเครดิต และไม่ได้ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เราก็ยืนยันไปว่าไม่เคย
จนท.เลยบอกว่า "ถ้าอย่างนั้น อาจเป็นไปได้ว่ามีคนขโมยข้อมูลของคุณแล้วปลอมแปลงเอกสารของคุณ นำมาทำบัตรเครดิต
ถ้าคุณยืนยันว่าไม่ใช่คุณจริงๆ เด๋วดิฉันจะอายัดบัตรเครดิตใบนี้ชั่วคราว และแจ้งเรื่องของคุณแก่ ปศท. หรือ กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ซึ่งรับผิดชอบโดยตรงต่อการดูแลผู้ที่ถูกโจรกรรมข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
เด๋วอีกสัก 2-3 นาทีจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อกลับไปเพื่อสอบปากคำคุณนะคะ"
เราก็ตอบตกลงไป หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีโทรศัพท์เข้ามา โชว์เบอร์ 022371199 แนะนำตัวบอกชื่อนายตำรวจ....(จำไม่ได้อ่ะ)...
แล้วก็ถามซ้ำๆเหมือนที่พนักงานถามนั่นแหละ เราก็ยืนยันไปตามเดิม เค้าเลยบอกว่าขออนุญาติบันทึกเสียงการให้ปากคำของเรานะ เราก็ตกลง
แล้วเค้าก็เริ่มถามว่าเราเป็นใคร ตอนนี้อยู่ที่ไหน ไปทำอะไรที่นั้น เราก็บอกไปและบอกว่าเรามีหลักฐานยืนยันได้นะว่าเราอยู่ที่ไหนตลอดเวลา เพราะเราฝึกงานอยู่ และไม่ได้ไป กทม. ในช่วงเวลานั้นด้วย ไปใช้บัตรเครดิตที่เซ็นทรัล ลาดพร้าวไม่ได้แน่ๆ (ตอนนั้นยังโง่เชื่อมันอยู่เลยให้ข้อมูลไปเรื่อยๆ)
แล้วมันก็ถามว่า "ในรอบสองปีที่ผ่านมาเคยทำบัตรประชาชนหรือสำเนาเอกสารหายไปบ้างไหม หรือให้เอกสารกับใครไปทำอะไรแทนบ้างหรือป่าว" เราก็บอกว่าไม่เคยนะ
ถามว่าเคยกดเงินตู้เอทีเอ็มไหนแล้วรู้สึกว่ามันฝืดๆบ้างไหม เราไม่แน่ใจแต่ก็พอจะรู้ว่าหมายถึงตู้ที่มีพวกมิจฉาชีพแอบเอาข้อมูลได้ (เคยอ่านเจอมา) เลยบอกไปว่า เคยมั้ง
เค้าก็ถามใหญ่ว่าเมื่อไหร่ ที่ไหน เราก็บอกว่าไม่รู้ จำไม่ได้แล้ว แต่ตู้ที่กดช่วงนี้ก็เป็นตู้แถวนี้ซึ่งมีคนกดเป็นประจำทั้งนั้น
ตำรวจคนนั้นเลยบอกว่า "ถ้างั้นคุณคงโดนขโมยข้อมูลไปปลอมแปลงเอกสารแล้วจริงๆ ซึ่งพวกมิจฉาชีพอาจเข้าข้อมูลของคุณมาได้สองทาง
1. จากคนใกล้ตัวของคุณเอง เช่น เพื่อน ญาติ ฯลฯ
2.พนักงานธนาคารที่คุณมีบัญชีอยู่ด้วย
เพราะฉะนั้นตอนนี้ทรัพย์สินของคุณตอนนี้กำลังตกอยู่ในอันตรายแล้วนะ"
แล้วก็ถามว่าเรามีบัญชีอีกกี่ธนาคาร มีบัตรเอทีเอ็มไหม เราก็บอกว่ามี
เค้าเลยบอกว่า "ตอนนี้ทรัพย์สินของคุณทั้งหมดกำลังตกอยู่ในอันตรายแล้วนะ"
เราเลยถามไปว่างั้นเราต้องทำยังไงดี เค้าก็บอกว่า "เด๋วทางเราจะแจ้งเรื่องไปที่แบงค์ชาติ เพื่อขอให้เขาใส่รหัสป้องกันทรัพท์สินที่มีอยู่ของคุณให้ แล้วคุณจึงค่อยไปเปลี่ยนรหัส G32"
เราเลยถามกลับไปว่า รหัส G32 คืออะไร เค้าก็อธิบายมาว่า
"รหัส G32 คือรหัสที่ใช้ดูข้อมูลซึ่งอยู่ในแถบสีดำหลังบัตรเอทีเอ็มของคุณ ซึ่งภายในนั้นจะมีข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับคุณ ดังนั้นคุณต้องรีบเปลี่ยนรหัสใหม่เพื่อป้องกันทรัพย์สินของคุณ"
เราเลยถามว่าต้องไปติดต่อที่ธนาคารให้เค้าทำให้ใช่ไหม เค้ารีบบอกว่า "ไม่ได้ ตอนนี้คุณไว้ใจใครไม่ได้นะ เพราะบางทีพนักงานธนาคารนั่นแหละที่เป็นคนขายข้อมูลของคุณให้กับพวกมิจฉาชีพ"
เรากังวลว่าจะใช่อายัดบัตรไหม (ยังไม่ได้คิดว่าถูกหลอกอ่ะนะ)เลยถามว่าหลังทำแล้วจะมีผลยังไงบ้าง เราจะยังใช้เบิกถอนเงินในบัญชีนั้นได้หรือป่าว เค้าก็บอกว่าได้ตามปกติ
แต่เราก็ยังไม่มั่นใจไงว่าจะทำดีไหม (เริ่มลังเลๆแระ ว่าจะจริงไหมวะ สอปากคำเฉยๆก็ไม่คิดไรไง แต่ถ้าจะให้ทำอะไรทำนองนี้ด้วยเนี่ยะ เริ่มไม่ไว้ใจแระ) เลยบอกไปว่าขอเวลาคิดดูก่อน เพราะยังไงตอนนี้ก็ไม่ได้เอาบัตรเอทีเอ็มอีกใบมาด้วย
เค้าก็บอกว่าให้ทำใบที่เอามาไปก่อน ซึ่งเด๋วจะต้องให้เราคุยกะสารวัตรของเค้า เพราะเค้าออกให้เราไม่ได้ รหัสพวกนี้ต้องทำผ่านทางเจ้าหน้าที่ระดับสูงเท่านั้น (โอ้...ฟังดูดีเนอะ) แล้วก็ถามว่า "คุณจะใช้เวลาไปถึงตู้เอทีเอ็มภายในกี่นาที"
เราเลยบอกไปว่าขอเวลาชั่วโมงนึง เค้าก็บอกว่านานไป ทำไมออกไปทำเลยไม่ได้ ทรัพย์สินของคุณนะ คุณไม่เป็นห่วงหรอ เราก็บอกว่าไม่ได้จริงๆ อย่างน้อยก็ต้องครึ่งชั่วโมง เพราะจะไปเอาบัตรอีกใบมาทำด้วย (แต่ในใจคิดว่า เด๋วโทรไปปรึกษาแม่ก่อนดีกว่า)
เค้าก็บอกว่าตอนนี้คุณต้องรีบทำบัตรที่คุณมีอยู่ก่อน อีกใบค่อยว่ากัน เพราะสารวัตรเค้าเพิ่งเข้ามาพอดี และท่านก็ไม่ได้มีเวลามากมาย (ไอเราก็เริ่มนึกในใจว่า ตกลงเต็มใจจะช่วยกันไหมเนี่ยะ) เราก็บอกว่าไม่ได้เราต้องคิดก่อน เค้าก็ถามว่าทำไมต้องคิด เราก็เลยตอบว่า ตอนนี้เราโดนเรื่องแบบนี้ จะให้เราเชื่อใครได้ง่ายๆได้ไง เราก็ต้องขอเวลาคิดนิดนึงสิ แถมเราติดงานอยู่ ต้องดูแลคนไข้ ถ้าจะไปก็ต้องเคลียร์งานก่อน (อ้างไปงั้นๆแหละ จริงๆจะไปเลยก็ได้)
เค้าก็บอกว่าไม่ได้คุณต้องไปเลย ถามว่า 2-3 นาทีไม่ทันหรอ หน้า ร.พ. ไม่มีตู้เอทีเอ็มหรือไง เราก็บอกว่ามี เค้าเลยบอกว่างั้นเด่วเค้าจะโอนสายให้เราคุยสารวัตรของเค้า แล้วให้เราไปทำเลย (บีบบังคับกันเห็นๆ)
เราเลยบอกต้องวางสายไปก่อน เค้าก็ถามว่าทำไม เราเลยอ้างว่าพอดีเด๋วต้องลงลิฟท์ แถมบางจุดใน ร.พ. มันจะไม่มีสัญญาณนะ เด๋วโทรศัพท์ก็ต้องตัดไปอยู่ดี
(ในใจกะว่าขอเวลาฉันปรึกษาคนอื่นๆก่อนละกัน ยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เริ่มรู้สึกพิรุธๆไงชอบกล) เค้าพยายามต่อรองเวลาจนได้ที่อีกสิบนาทีเด๋วเค้าจะให้สารวัตรโทรมาหา เราก็เออออไปก่อนตามนั้น แต่ยังไม่ยอมลงไป
ก่อนวางมันก็บอกว่าห้ามแพร่งพรายเรื่องนี้ให้บุคคลที่สามรู้นะ ไม่งั้นเด๋วจะมีผลต่อการสืบคดี เราเลยเถียงกลับไปว่า "อ้าว! พ่อแม่เราก็ยังบอกไม่ได้หรอ" มันบอกว่าไงรู้ไหม
มันบอกว่า "ตอนนี้เราไว้ใจใครไม่ทั้งนั้นนะ บางทีคนร้ายอาจจะขโมยข้อมูลของคุณมาจากฐานข้อมูลของพ่อแม่คุณก็ได้ เอาเป้นว่าคุณห้ามบอกใครก่อนละกัน ทำเสร็จแล้วค่อยไปบอก"
ทำให้เรายิ่งสงสัยอ่ะ จะบ้าหรอ พ่อแม่ฉันนะ ทำไมฉันจะปรึกษาก่อนไม่ได้

หลังจากนั้นเราก็มาคุยกะรุ่นพี่ที่อยู่ด้วย เล่าให้เค้าฟังเค้าก็บอกว่ามิจฉาชีพชัวร์ๆ ไม่ต้องไปสนใจ บอกมันไปเลยว่าจะแจ้งความ แต่เรายังลังเลๆไง พี่เค้าเลยบอกว่าให้ถามชื่อและสังกัดของตำรวจคนที่โทรมา แล้วเอาไป search หาว่ามีจริงไหมไอกองปราบปรามที่ว่านี่อ่ะ
พอโทรศัพท์เข้ามา ก็มีการแนะนำตัวตามระเบียบ เค้าก็ถามว่าเมื่อกี๊ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ของเค้าแล้วใช่ไหม คุณพร้อมหรือยังที่จะทำการเข้ารหัส
เราก็บอกว่ายังไม่พร้อม เค้าก็ถามว่าทำไม เราเลยบอกไปตามตรงว่า เรายังไม่มั่นใจว่าคุณเป็นตำรวจจริงๆนะ เพราะมีแต่เสียงทางโทรศัพท์
เค้าเลยถามว่าถ้างั้นคุณสงสัยอะไรอีกก็ให้ถามมา เราเลยถามชื่อ นามสกุลและสังกัด "ผมสารวัตรวีรยุทธ สิริวัฒนกุล เป็นสารวัตรปศท. หรือ กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี" (อันนี้ได้จากการให้เค้าสะกดชื่อให้ฟังอ่ะนะ)
เราก็เลยบอกว่าเราไม่รู้ว่าจะเชื่อได้จริงหรือเปล่า เราขอไปแจ้งความที่โรงพักละกัน
เค้าก็เลยบอกว่า "คุณก็รู้นี่ว่าตำรวจในโรงพัก วันๆก็ทำแค่จับพวกเล่นไฮโลกะป๊อกเด้ง (ดูมันพูดๆ)แล้วเค้าจะช่วยอะไรคุณได้ คดีของคุณมันคดีเร่งด่วนนะ"
เราก็เลยเถียงกลับไปว่า "อ้าว ก็เวลาคนเค้ามีปัญหาอะไร โดนโกง โดนขโมย เค้าก็ต้องไปแจ้งความที่ดรงพักกันทั้งนั้นแหละ"
เค้าเลยอ้างว่า "ผมรุ้ว่าตำรวจก็มีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชน แต่ถ้าคุณแจ้งความที่โรงพัก กว่าเค้าจะทำสำนวน กว่าจะผ่านแต่ละขั้นตอนจนเรื่องมาถึงทางเรา ป่านนั้นมิจฉาชีพมันไม่เอาทรัพทย์สินของคุณไปจนคุณมีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้วหรอ คุณเข้าใจไหมว่าคดีของคุณมันเร่งด่วน แต่ถ้าคุณอยากจะแจ้งความก็ตามใจคุณนะ แต่ถ้าแจ้งความไปแล้วผมก็คงช่วยอะไรคุณไม่ได้ ก็ต้องรอไปตามขั้นตอน"
เราก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าขอเวลาคิดก่อน ยังไม่ยอมทำอ่ะนะ
เค้าเลยอธิบายยกตัวอย่างเปรียบเทียบกะคนไข้ว่า สมมุติถ้าคุณเจ็บป่วยนะ อันดับแรกที่ใกล้ที่สุดคือสถานีอนามัยที่จะช่วยดูแลคุณได้ แต่ถ้าคุณเจ็บหนักต้องการการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน คุณมัวแต่ไปสถานีอนามัย แล้วกว่าเค้าจะส่งตัวคุณไปถึง ร.พ.ใหญ่ๆ คุณไม่ตายก่อนพอดีหรอ"
เราก็ยังปฎิเสธไม่ยอมทำ อ้างเหตุผลเดิมต่อไปว่าได้ยินแต่เสียงจะเชื่อได้ไง เค้าเลยอ้างว่า "ทำไม โลกยุคนี้มันสมัยไหนแล้ว ทีทักษิณยังโฟนอินได้เลย แล้วทำไมทางเค้าจะสอบปากคำทางโทรศัพท์บ้างไม่ได้" (ว่าไปนู่น)
เรายังปฎิเสธไม่ยอมทำ บอกว่าขอคิดดูก่อน เค้าก็ด่าเราว่า "คุณจบการศึกษาระดับไหนเนี่ยะ ประถม มัธยม หรือป.ตรี ผมอธิบายคุณมาตั้งหลายรอบแล้วว่าคดีของคุณมันเร่งด่วน แล้วคุณยังไม่ยอมเข้าใจอะไรอีก" (น้ำเสียงเริ่มแสดงความไม่พอใจออกมาเรื่อยตลอดเวลาที่คุยกันอ่ะนะ)
เราชักอารมณ์ขึ้นเลยประชดกลับไปว่า " อ๋อ ยังไม่จบค่ะ"
เค้าเลยถามว่า "ตกลงคุณจะให้ผมช่วยคุณหรือเปล่า ถ้าคุณไม่ให้ความร่วมมือแบบนี้ ผมคงช่วยอะไรคุณไม่ได้นะ"
เราเลยบอกว่า "ขอคิดดูก่อนละกัน"
เค้าก็บอกอีกว่า "เอ๊ะ! คุณนี่ ตกลงคุณจะให้ผมช่วยคุณหรือป่าว ผมอุตส่าห์หวังดีกะคุณนะ งั้นคุณพูดมาเลยดีกว่าว่าตกลงคุณจะให้ผมช่วยหรือป่าว"
เราเลยเถียงกลับไปว่า "ก็บอกแล้วไงว่าขอคิดดูก่อน ทำไมจะต้องมาบังคับกันด้วยหล่ะ"
เค้าก็บอกว่า "ไม่ได้บังคับ แต่ผมต้องสรุปสำนวนภายในวันนี้ ถ้าพ้นวันนี้ไป ผมก็คงช่วยอะไรคุณไม่ได้แล้ว เพราะผมต้องปิดสำนวนไป ยังมีคนที่เจอแบบคุณอีกหลายคน"
เราตอกกลับว่า "ก็จะเอาภายในวันนี้ไม่ใช่หรอ ถ้างั้นก็ยังมีเวลาอีกตั้งหลาย ชม. กว่าจะหมดวัน แล้วทำไมต้องมาบังคับให้ทำตอนนี้ด้วยหล่ะ ทำไมให้เวลาเราคิดก่อนไม่ได้" (ชักโมโหเหมือนกันนะ)
เค้าบอกว่า " ผมไม่ได้บังคับคุณ คุณจะขอเวลาคิดคุณก็บอกมาสิ ว่าขอเวลาคุณคิดก่อนแล้วเด๋วจะติดต่อกลับมา"
เรา "ก็บอกไปตั้งหลายรอบแล้วไงว่าขอคิดก่อน ถ้าต้องการให้ช่วยเด๋วจะติดต่อกลับไปเอง"
เค้าเลยบอกว่า "เอางั้นก็ได้ ให้เวลาคุณคิดแล้วเด๋วติดต่อกลับมานะ ติดต่อกลับที่เบอร์ 02 นะ"
เรา "ค่ะ เด๋วถ้าจะให้ช่วยเหลือจะติดต่อกลับไปตามเบอร์ที่โทรมานี้นะ"
เค้า "ไม่ใช่เบอร์ที่โทรมา เด๋วผมจะให้เบอร์ที่ต่อตรงถึงผมเลย 022622149"
เรา "ค่ะ เด๋วขอเวลาคิดดูก่อน ถ้าต้องการให้ช่วยจะติดต่อกลับไปตามเบอร์ที่ให้มา"
เค้า "ครับ ผมหวังว่าคุณคงจะฉลาดนะครับ"
เรา "ค่ะ สวัสดีค่ะ"(นึกในใจว่า แม่งงง แอบด่ากรูอีกแล้ว

หลังจากนั้นเราไปเล่าให้รุ่นพี่อีกคนฟัง พอดีพี่เค้ารู้จกคนที่ทำงานธนาคารกสิกรไทย เลยโทรศัพท์ติดต่อ ให้เราคุยด้วย เล่าให้เค้าฟังคร่าวๆ
แล้วให้เค้า check ให้ว่าเราไปเปิดใช้บัตรเครดิตจิงหรือป่าว ผลปรากฎว่า......ไม่มีค่ะ ไม่มีชื่อเราเปิดบัญชีใดๆกะทางธนาคารเลยค่ะ
ไอเรานี่ก็โล่งอกไปเลยยยยยย โชคดีนะที่ยังไม่ได้ยอมไปทำบ้าอะไรที่ตู้เอทีเอ็ม
แต่โง่ไปหน่อยที่ดันไปบอกชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประชาชนเราให้มันไป แถมยังเสียเวลาคุยกับมันตั้งนาน เซ็งงงงง
พี่เจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทยคนนั้นบอกเราว่า ฝากประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ด้วย และทีหลังอย่าไปเชื่ออีก เพราะ
- พนักงานธนาคารจะไม่โทรหาลูกค้าโดยตรง หรือถ้าเค้าโทรหาเรา เค้าก็ต้องรู้ว่าเราเป้นใคร ชื่อ นามสกุลอะไร เค้าต้องมีข้อมูลทุกอย่างของเรา ไม่ใช่มาถามให้เราตอบแบบนี้แน่ๆ กับแม่เราเสริมมาอีกอย่างว่า ปกติถ้าเราใช้บัตรเครดิต ทุกเดือนมันก็จะมีใบแจ้งยอดมาที่บ้าน ซึ่งของเราก็ไม่ได้มีสักหน่อย เราก็ เออ! ลืมนึกไปอ่ะ ตอนนั้นมัวแต่ตกใจและงงอยู่
-ถ้าเราผิดจริงแล้วเค้าต้องการถามข้อมูลแบบนี้ พนักงานคงยกทีมตำรวจมาลงพื้นที่หาเราแล้วหล่ะ ไม่ใช่ถามทางโทรศัพท์แน่นอน ซึ่งไม่มีการโทรมาถามทางโทรศัพท์อย่างแน่นอน หรือถ้าดทรก็ต้องไม่ใช่เบอร์ 02 แบบนี้ (ธนาคารกสิกรไทยเบอร์ 028888888)
- ถ้ามันโทรมาอีกรอบนึง ด่ามันไปเลย ขู่มันด้วยว่าจะเอาเรื่องนี้ไปแจ้งความ
สำหรับคนที่โง่ไปบอกชื่อ นามสกุลและเลขบัตรประจำตัวประชาชนให้มันไปแล้ว (อย่างเราเป็นต้น) พี่เค้าแนะนำว่าให้รีบไปเปลี่ยนรหัสบัตรเอทีเอ็มทุกใบที่มีอยู่ให้หมด

เล่ายาวมากมาย เพราะอยากให้เพื่อนๆได้รับรู้เรื่องราวอย่างละเอียด ว่ามันทั้งขู่ทั้งปลอบให้เราเชื่อแค่ไหน แม้จะคิดว่ามีพิรุธแต่ถ้าใครมัวลังเลแบบเราก้อคงเสียเวลาและวุ่นวายไปกับเรื่องนี้นานมาก
ดังนั้น อยากแนะนำให้เพื่อนๆใจแข็ง ตัดบท แล้วด่ามันไปเลย ในเมื่อเราบริสุทธิ์แน่ๆ ก็ไม่ต้องกลัวอะไร ถ้ามันเป้นเรื่องจริง ตำรวจจะมาจับก็ช่าง เรายืนยันได้ว่าเราไม่ได้ทำจริงๆนี่นา
ขอให้ทุกคนจำเรื่องของเราไว้เป็นบทเรียนเลยนะ (เราก็ต้องจำเช่นกัน)

ป.ล.พ่อและรุ่นพี่เราคนนึงก็เพิ่งโดนโทรมาบอกว่าจะคืนเงินภาษี (อันนี้เป็นเรื่องที่ได้ยินข่าวอยู่บ่อยๆ) แต่ไม่ได้หลงกลเชื่อมันเหมือนกัน เพราะ
- ตอนมันโทรมาหาพ่อ แม่เรารับสายเลยไม่ให้ข้อมูลอะไร เพราะไม่ใช่เจ้าตัว บอกว่าเด๋วเจ้าตัวมาแล้วค่อยให้ติดต่อกลับไป แต่ถามยอดเงินมันก็ไม่ยอมบอก พอพ่อมา พ่อไม่เชื่อเลยไม่ได้ติดต่อกลับไป
- ส่วนรุ่นพี่อีกคนนึงบอกว่า เพิ่งเริ่มทำงาน ปีล่าสุดไม่ได้จ่ายภาษี เพราะรายได้ไม่ถึง แล้วจะมีเงินคืนภาษีได้ไง (ไอบ้านั่น หน้าแตกกันไปทีเดียวเชียว อิอิ)


ขอบคุณที่อุตส่าห์อ่านกันมามากมาย และขอให้เพื่อนๆทุกคนโชคดีนะจ๊ะ ^_^



จาก FW Mail นะครับ น่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนเลยหามาให้อ่านกัน

เคยโดนโทรมาเหมือนกัน หมายเลขขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายบวก +XXXXX เลยสงสัย เบอร์อะไรของมันวะเนี่ย

มาถึงก็เป็นระบบอัตโนมัติ บอกว่าจากโน่นนี่ และก็ ติดต่อเจ้าหน้าที่กด 9

พอรับ ปุ้บ โอ้วว เสียง หยั่งกะยายแก่ เสี่ยวๆ มาถึงก็ขอตรวจสอบข้อมูล เลย ชื่อ นามสกุล เลข บปปช

แต่เราไม่เชื่อ เลยไม่บอกอะไรเลย 5555555555

เพราะเสียงมันเหมือนมีอายุ และพูด ติดสำเนียง อีสาน พูด ไม่ชัดเท่าไหร่ และอีกอย่างคือเสียงรอบ ข้าง ไม่เหมือนเสียง คอลเซ็นเตอร์ทั่วไป ปติมันต้องมี เสียง พิมๆๆๆ คีบอร์ด แกกๆๆๆ อิอิอิ นี่แม่งเป็นเสียง ทีวี เฉย สาดดดดดดดดด สงสัยดูละครอยู่แน่ๆ
คอลเซ็นเตอร์ ทุกที่แหละไม่ว่า จะ เรื่องของโทรศัพ บัตรเครดิต อย่างแรกเลย เสียง ต้อง เป็นมืออาชีพ เวลาพูดจะลาก เสียง ค่า............. 5555 เข้าใจ สังเกต จริง ๆ เอิ๊กๆๆ

เลยตัดสายทิ้งไป อย่าได้แคร์ อิอิ

เพื่อนๆ ระวังกันด้วยนะคร้าบบบ

ปกติแล้ว
พวกนี้เขาจะต้องมีข้อมูล ชื่อที่อยู่ เลขต่างๆ พร้อมอยู่แล้ว

ถ้าโทรมาถามนู่นนี่ แสดงว่า โดนหลอกแล้วล่ะ

เดี๋ยวนี้มันมารูปแบบใหม่ๆตลอด ขอบคุณนะคับ

ขอบคุณคุณหนุ่ยคับ

ระวังตัวกันดีๆนะคับ
เป็นห่วงทุกคน

เล่นกานงี้

ไอ้พวกเลว

แหม!!ช่างสรรหาวิธีกันมาหลอกจิงๆ

ขอบคุณมากๆ หากินกันทุกรูปแบบเจงๆไอ้พวกนี้

เข้าใจหากินนะ...ไอ้พวกนี้

ผมเคยได้ยินเรื่องคืนเงินภาษีแล้วไปเล่าให้พี่ที่ทำงานฟัง
ถัดมาอีกวันนึงพี่เค้าโดนเลยครับ

มันโทรมาตอนพี่แกอยู่ในรถกำลังจะไปรับเช็คช่วยชาติ 2000 บาท
ตอนนั้นรถติดมากๆ
แฟนแกเป็นคนขับรถ
พี่แกรับสายกำลังคุยกับมันเลยครับบังเอิญรถคันข้างหน้าจะถอยมาชนรถพี่แก
พี่แกก็ฮาร์ดคอร์ครับกระโดดไปบีบแตรแล้วก็ร้องดังๆว่า

"ไอ้สาาดดดดดดดดด"

ปรากฎว่ามันวางสายหนีไปเลยครับ 5555+

หยังงี้เค้าเรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เอิ้กๆๆ



ปล.ขออนุญาตแอดมินด้วยนะครับที่ต้องใช้คำไม่สุภาพอยากเล่าให้เห็นภาพ ถ้าไม่สมควรลบได้เลยนะครับ ^^

เคยเจอทีนึงบอกใช้บัตรเคทีซีไปสามพันกว่าบาท ให้กดเก้า เสียงสำเนียงเห่ยๆอ่ะ ใครจะเชื่อ

โห มิจฉาชีพ น่ากลัว แต่ยังอ่านผ่านๆอยู่ เดี๋ยวกลับมาอ่านต่อ ขอบคุณครับๆ

เคยมีน้องที่ร้านโดนแบบนี้เหมือนกันครับเค้าก้อ งง ว่าเป็นหนี้ได้ไง 3000 กว่าบาทเนี่ยแหละ ที่ ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว กทม.ทีเดียวกันเลย อีกต่างหากทั้งๆที่ไม่เคยไปเลย ผมก้อเลยบอกน้องว่าโดนมิจฉาชีพ แน่นอน ยังไงก้อขอบคุณที่มาเล่าสู่กันฟังครับจะได้ระวังตัว

ขอบคุณมากครับ
***ปัจจุบันนี้ต้องระวังตัวกันมากขึ้นนะครับ เพราะมิจฉาชีพมากันหลายรูปแบบเหลือเกิน...

ขอบคุณมากครับ สังคมไทยนี่เป็นยังงัยกกันไปแล้ว

ผมก้อโดนคับ ครั้งแรกมันโทรมา เป็นระบบอัตโนมัติคับ เป็นเสียงผู้หญิง บอกว่าคุนได้รับเงินรางวัลอ่ะไรซักอย่างผมก้อฟังไม่ทัน
แล้วมันก้อให้กดเลขติดต่อเจ้าหน้าที่ผมก้อกดไป มันก้อถามว่าทามงานอ่ะไร อายุเท่าไหร่ แต่เสี่ยงมันดังฟังไม่ค่อยรู้เรื่องคับ แล้วมันก้อวางไป ก้อไม่มีอ่ะไร
โดนอีกครั้งก้อภาษีน่ะคับ บอกว่าได้เงินคืนภาษี ผมตัดสายทิ้งเลย เพราะรู้ว่าจาได้คืนได้ไงอ่ะ ทามงานรายได้ไม่ถึง ไม่เคยจ่ายซะหน่อย มันจามาคืนทำไม

ระวังกันด้วยครับ

มาขออนุญาติเก็บข้อมูลด้วยคนครับ

หากินกันแปลกๆ

ผมก็เคยครับ แต่ผมรู้ตัวอยู่แล้วว่าต้องเป็นพวกนี้เลยอำมันบ้าง ผมบอกชื่อจริงผมแล้วนามสกุลเวชชาชีวะ มันบอกนามสกุลเหมือนนายกเลย ผมบอกว่าก็ผมเป็นน้องเขา แม่มวางสายทิ้งทันที 5555