aunja พิมพ์ว่า: | ||
hana semiconductor อยุธยาครับ |
kwan พิมพ์ว่า: |
ชีวิตลูกจ้าง กับดักที่มองไม่เห็น
ลูกจ้าง....ก็คือ ผู้ที่ทำงานให้นายจ้าง ..... บางทีเราควรมีทางเลือกอื่นที่มากกว่านี้หรือไม่ ตัวอย่าง..... นางสาวมะลิ จบการศึกษาบัญชีจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง นางสาวมะลิเป็นคนที่เก่งมาก เธอเรียนจบมาโดยได้เกียรตินิยมอันดับ 1 และมีบริษัทแห่งหนึ่งมาจองตัว เธอดีใจมาก และได้ตอบตกลงอย่างทันทีทันใด นับเป็นสิ่งที่น่ายินดี ที่เธอมีบริษัทมาจองตัวเธอ แต่ทว่า.... มองอีกแง่นึง ชีวิตของเธอ ความฝันของเธอ ก็ได้จบลงแล้ว.... จบอย่างไรล่ะ...??? บริษัทมาจองตัวก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ? จริงอยู่ที่บริษัทจะสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเธอจนอายุ 60 เธอเข้ามาทำงานอายุ 22 อย่างเต็มความสามารถ เธอเป็นคนเก่งมาก ผู้จัดการจึงเลื่อนตำแหน่งให้อย่างรวดเร็ว และเธอก็ได้เป็นผู้จัดการในที่สุด ตอนที่เธออายุ 40 ปี และเธอก็ทำงานต่ออีก 20 ปีอย่างตั้งใจ จนเธอปลดเกษียณอายุ และออกจากงาน... มองดูผิวเผินเหมือนว่าเธอจะมีชีวิตที่ดีทางด้านการงาน แต่เรามาดู....บริษัทที่เธอเติบโตคู่กับมันมา แน่นอนว่าบริษัทเติบโตขึ้นมากนับจากวันแรกที่เธอเข้ามา และวันเกษียณอายุของเธอ ก็คือวันที่เธอหมดค่ากับบริษัท.... แต่ทว่า บริษัทก็ยังเติบโตต่อไปโดยไม่มีเธอ... ความจริงที่ลูกจ้างควรรู้คือ.... "คุณกำลังขายเวลาและคุณค่าในตัวคุณให้กับผู้อื่นจนหมด" "คุณกำลังทำฝันคนอื่นให้เติบโตแล้วฝันของคุณล่ะ...? วางมันไว้ ณ ที่แห่งใด" ขอเป็นกำลังใจให้ อย่าลืมชีวิตยังมีทางเลือกอืกเยอะ |
kwan พิมพ์ว่า: |
ชีวิตลูกจ้าง กับดักที่มองไม่เห็น
ลูกจ้าง....ก็คือ ผู้ที่ทำงานให้นายจ้าง ..... บางทีเราควรมีทางเลือกอื่นที่มากกว่านี้หรือไม่ ตัวอย่าง..... นางสาวมะลิ จบการศึกษาบัญชีจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง นางสาวมะลิเป็นคนที่เก่งมาก เธอเรียนจบมาโดยได้เกียรตินิยมอันดับ 1 และมีบริษัทแห่งหนึ่งมาจองตัว เธอดีใจมาก และได้ตอบตกลงอย่างทันทีทันใด นับเป็นสิ่งที่น่ายินดี ที่เธอมีบริษัทมาจองตัวเธอ แต่ทว่า.... มองอีกแง่นึง ชีวิตของเธอ ความฝันของเธอ ก็ได้จบลงแล้ว.... จบอย่างไรล่ะ...??? บริษัทมาจองตัวก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ? จริงอยู่ที่บริษัทจะสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเธอจนอายุ 60 เธอเข้ามาทำงานอายุ 22 อย่างเต็มความสามารถ เธอเป็นคนเก่งมาก ผู้จัดการจึงเลื่อนตำแหน่งให้อย่างรวดเร็ว และเธอก็ได้เป็นผู้จัดการในที่สุด ตอนที่เธออายุ 40 ปี และเธอก็ทำงานต่ออีก 20 ปีอย่างตั้งใจ จนเธอปลดเกษียณอายุ และออกจากงาน... มองดูผิวเผินเหมือนว่าเธอจะมีชีวิตที่ดีทางด้านการงาน แต่เรามาดู....บริษัทที่เธอเติบโตคู่กับมันมา แน่นอนว่าบริษัทเติบโตขึ้นมากนับจากวันแรกที่เธอเข้ามา และวันเกษียณอายุของเธอ ก็คือวันที่เธอหมดค่ากับบริษัท.... แต่ทว่า บริษัทก็ยังเติบโตต่อไปโดยไม่มีเธอ... ความจริงที่ลูกจ้างควรรู้คือ.... "คุณกำลังขายเวลาและคุณค่าในตัวคุณให้กับผู้อื่นจนหมด" "คุณกำลังทำฝันคนอื่นให้เติบโตแล้วฝันของคุณล่ะ...? วางมันไว้ ณ ที่แห่งใด" ขอเป็นกำลังใจให้ อย่าลืมชีวิตยังมีทางเลือกอืกเยอะ |
es04 พิมพ์ว่า: |
Performance มันสำคัญกว่า Experience ครับ
ไม่วิจารณ์ในตัวคุณนะครับ เพราะข้อมูลที่ให้มาในลักษณะน้อยเนื้อต่ำใจ แต่ลองไปถาม คน ที่ hight performance ดูก่อนนะครับ ![]() ว่า Performance คุณถึงหรือยัง ถ้าถึงแล้วมันแป๊กโดยเด็กเส้น ก็หางานใหม่ดีกว่าครับ |
es04 พิมพ์ว่า: |
เต็ม performace แล้วไหงมาเจอสถานะเเบบนี้ละครับ
แสดงว่ายังไม่สามารถ เคลียร์งานเบื้องต้นได้เลยหรือ |
Ton- พิมพ์ว่า: |
ทำงานบริษัทอย่าทำตัวเป็นปลาตายที่ลอยไปตามน้ำแล้วแต่น้ำมันจะไหลไปทางไหน
บางคนเริ่มต้นกับบริษัทนึงด้วยความชอบ พอผ่านไป 10 ปี ทำงานได้แค่เท่าเดิม เงินเดือนตัน วันๆ ได้แต่ตั้งแง่กับบริษัทว่าไม่ดีเหมือนก่อนอย่างโน้น อย่างนี้ ใช้ชีวิตที่เหลือกับบริษัท เกาะแน่นไปไหนก็ไม่ได้เพราะไม่เคยคิดจะพัฒนาตัวเอง ผมแนะนำเลย ทำงานที่ไหน งานตัวเองทำให้ดี พยายามเรียนรู้งานคนอื่น เพื่อเพิ่มความสามารถตัวเอง มีโอกาสรีบเสนอตัว อย่าหวังให้คนอื่นมาเห็นเอง ถ้าคิดว่าบริษัทไม่สนับสนุนแน่ ก็รีบหาอะไรเพิ่มให้ตัวเอง หางานใหม่ บางคนแค่ออกไปขายของก็ได้เงินมากกว่าที่เดิม 2เท่า ยังกลับมาบอกผมเลยว่ารู้งี้ออกไปนานแล้ว |
aunja พิมพ์ว่า: | ||
ลืมบอกว่าหน้าที่อีกย่างก็คือตัดสินใจและแก้ปัญหาแทนหัวหน้าตอนที่เค้าไม่อยู่ ![]() และอีกอย่างผมสู้เด็กเส้นไม่ไหวคนนั้นเค้าเป็นน้องชายของหัวหน้าแผนกอื่นซึ่ง เป็นเพื่อนกันกับหัวหน้าแผนกผมครับ ![]() |
ไปที่: |