พบว่าบ่อยครั้งที่ช่างหลายๆแห่ง ไม่สามารถที่จะตรวจซ่อมวิเคราะห์ปัญหาเรื่องไฟจุดระเบิด ไม่มีจ่ายให้กับหัวเทียน ในระบบเครื่องยนต์ที่ควบคุม การทำงานเครื่องยนต์ด้วยระบบ ECU ในเครื่องยนต์ยุคปัจจุบันนี้ ทำให้การตรวจซ่อมวิเคราะห์หาจุดเสียของอุปกรณ์ในระบบวงจรจุดระเบิดไม่ตรงประเด็น เป็นผลให้เกิดการเปลี่ยนอะไหล่ไม่ตรงจุดเสีย ลองผิดลองถูกว่าอาการที่เสียนั้นมันเกิดที่ส่วนใด ช่างบางคนที่ไม่ทราบเรื่องการทำงานของวงจรจุดระเบิด ที่สร้างไฟโวลท์เต็จสูงให้กับหัวเทียน มันทำงานอย่างไร ก็จะใช้วิธีเดาว่ามันน่าจะเป็นที่ตัวนั้นตัวนี้ เปลี่ยนไปแล้วก็เหมือนเดิม แก้ไขไม่ได้ เปลี่ยนแล้วหากอุปกรณ์ที่เปลี่ยนแล้วยังไม่สามารถแก้ไขได้ หากไม่คิดเงินกับเจ้าของรถก็ไม่วากัน แต่นี้มันกลับตรงกันข้าม ท่านเจ้าของรถต้องเสียเงินกับค่าอะไหล่ที่เปลี่ยนแล้วยังแก้ปัญหาเดิมไม่ได้ ซึ่งไม่เป็นธรรมกับท่านเจ้าของรถ เพราะของเดิมมันไม่เสีย แต่ช่างใช้วิธีที่ คาดว่า คิดว่าและน่าจะเป็น ทำการแก้ไข ( ขออภัยช่างที่ทรงความรู้และมีประสบการณ์ ด้วยมิได้มีเจตนากล่าวถึงท่าน เพียงกล่าวถึงช่างบางคนที่เป็นแบบที่กล่าว)
นอกจากจะทำให้ท่านเจ้าของรถ เสียค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรจะเสียแล้ว ยังสร้าปัญหาอื่นๆตามมา เพราะบางครั้งช่างเหล่านั้น
เมื่อแก้ไขไม่ได้ ก็เล่นไปแปลงเข้ากับระบบที่ตัวเองเคยทำและซ่อมกับเครื่องยนต์แบบเก่าๆ ที่ไม่ได้ควบคุมการทำงานเครื่องยนต์ด้วยระบบอีเลคโทรนิคส์ ECU ทำให้ระบบเดิมที่เขาออกแบบไว้ ทำงานไม่ตรงกับระบบการควบคุมด้วยสมองกล ECU ทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังมากมาย ก็ขอกล่าวเป็นบทนำของเรื่องพอเป็นสังเขปก็แล้วกัน เดี๋ยวเนื้อหาจะยืดยาว จนเพื่อนๆสมาชิกขี้เกียจอ่าน ก็ขอเข้าประเด็นของเรื่องก็แล้วกัน
ก่อนอื่นต้องขอกล่าวถึงการทำงานของวงจรไฟจุดระเบิดในเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด ที่ควบคุมการทำงานด้วย สมองกล ECU ให้ทราบพอเคร่าๆดังนี้ ในการทำงานของวงจรจุดระเบิด จะเริ่มต้นเมื่อเครื่องยนต์ถูกสตาร์ท ให้เพลาข้อเหวี่ยงหมุน ซึ่งเมื่อเพลาข้อเหวี่ยงหมุน ก็จะทำให้ดันก้านสูบแต่ละสูบพาลูกสูบเคลื่อนที่ไปสู่จุดศูนย์ตายบน TDC แต่เนื่องด้วยการหมุนของเพลาข้อเหวี่ยง จะถูกกำหนดองศาการหมุนเอาไว้ว่า ที่หนึ่งรอบเพลาข้อเหวี่ยงจะมีค่าเท่ากับ 360 องศา
และหากเป็นเครื่องยนต์ที่มีสี่สูบ การทำงานของแต่ละสูบจะห่างกันเท่ากับ 90 องศา งั้นตั้งแต่สูบที่ 1-4 ก็จะเป็น 90
180 270 360 องศา แต่เครื่องยนต์แต่ละยี่ห้อและบริษัท จะกำหนดการออกแบบของเพลาข้อเหวี่ยง ให้จัดลำดับการจุดระเบิด ที่ลูกสูบไหนก่อนหลัง เช่น 1 3 4 2 นั้นหมายความว่า ลูกสูบที่ 1 ทำงานที่ 90 ลูกสูบที่ 3 ทำงานที่ 180 ลูกสูบที่ 4 ทำงานที่ 270 และลูกสูบที่ 2 ทำงานที่ 360 องศา แต่ละสูบก่อนที่ลูกสูบมันจะเคลื่อนที่ไปถึงองศาตามที่กล่าว เขาจะกำหนดมุมองศาในการจุดระเบิดเอาไว้ เช่นลูกสูบที่ 1 ก่อนที่มันจะเคลื่อนที่ถึงจุด 90 องศา เขาจะกำหนดไว้ว่า เมื่อลูกสูบเคลื่อนไปถุงมุมองศา ที่ 80-85 จะกำหนดให้มีการจุดระเบิดด้วยประกายไฟจากหัวเทียน หากเคลื่อนไปถึงมุม 80 องศา มุมองศาการจุดระเบิดเท่ากับ 10 องศา และเมื่อเคลื่อนไปที่ 85 องศา มุมองศาจุดระเบิดก็จะตั้งไว้ที่ 5 องศา
แต่มุมองศาที่จุดระเบิดนี้ เขาจะเอาเรื่องปริมาตรกำลังอัดภายในกระบอกสูบเป็นตัวกำหนด เช่นเครื่องยนต์ที่มีกำลังอักในกระบอกสูบ เป็น 9/1 หรือ 10/1 หมายความว่าในกระบอกสูบนั้นเมื่อลูกสูบดูดเอาอากาศเข้าในกระบอกสูบจนเต็มได้เท่ากับ 10 ส่วน งั้นเมื่อลูกสูบเคลื่อนที่อัดอากาศไปจนได้ 9 ส่วน ก็กำหนดมุมองศาการจุดระเบิดไว้ที่ตำแหน่งนี้ การที่ลูกสูบเคลื่อนที่ได้ 9 ส่วนนี้ เขาจะทราบว่ามันเป็นมุมองศาที่เท่าใด ก็โดยการเอาตัว sensor มาเป็นตัวทำหน้าตรวจจับการเคลื่อนที่ของลูกสูบหรือเพลาข้อเหวี่ยง
เครื่องยนต์บางแบบเช่น HONDA จะใช้จับมุมองศาการเคลื่อนที่ของลูกสูบ เรียก TDC sensor ในเครื่องยนต์บางแบบ
เช่น MAZDA จะใช้จับมุมการเคลื่อนที่ของเพลาข้อเหวี่ยง เรียก crankshaft sensor
เมื่อทราบหลักการกำหนดมุมองศาการจุดระเบิดแล้ว ต่อไปก็จะกล่าวถึการทำงานของระบบวงจรจุดระเบิดกันว่ามันทำงานอย่างไร เมื่อเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ แล้วทำให้เพลาข้อเหวี่ยงหมุน เจ้าตัว TDC หรือ crankshaft sensor มันก็จะเริ่มจับมุมองศาการเคลื่อนที่ของเพลาข้อเหวี่ยงหรือ ลูกสูบ แล้วสร้างสัญญาณพัลส์โวลเต็จไปให้ ECU หลังจากที่ ECU ได้รับสัญญาณนี้แล้วมันก็จะสร้างสัญญาณ IGT ซึ่งเป็นสัญาณการจุดระเบิด ส่งไปให้วงจรหรือโมดูดช่วยจุดระเบิดทำงานสร้างไฟโวลเต็จสูงให้กับหัวเทียน
ในวงจรช่วยจุระเบิดนี้จะประกอบไปด้วย switching power Transistor IC logic Ignition coil หากเครื่องยนต์ที่ยังใช้จานจ่าย ก็จะมี Transistor Ignition coil หากเป้นเครื่องยนต์ที่ใช้ direct ciol ทั้งสี่สูบก็จะมี IC Log มาทำหน้าที่จัดลำดับการจุดระเบิด แต่ละสูบ กับสร้างสัญญาณพัลส์สำหรับวัดรอบเครื่องยนต์ สำหรับโมดูลวงจรช่วยจุดระเบิดนี้ หลังจากที่มันได้รับสัญญาณ IGT จากกล่อง ECU แล้ว ที่ตัวทรานซิสเตอร์ก็จะทำหน้าที่เหมือนการทำงานของหน้าทองขาว ในจานจ่ายของเครื่องยนต์ในระบบคาร์บูเรเตอร์รุ่นเก่าๆ คือทำหน้าที่ตัดต่อกระแสไฟให้กับขดลวดไพรมารี่ของตัว Ignition coil ลงกราวด์ เพื่อให้เกิดการเหนี่ยวนำของเส้นแรงแม่เหล็ก ไปตัดกับขวดลวด ทางด้าน secondaryของตัว Ignitio coil สร้างกระแสไฟโวลเต็จสูงให้กับหัวเทียน กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นการทำงานของวงจรไฟจุดระเบิดให้กับหัวเทียนของเครื่องยนต์
เมื่อเราทราบหลักการทำงานของมันแล้ว มันก็ง่ายกับการแก้ปัญหาในการหาจุดเสียที่เกิดขึ้นในวงจรไฟจุดระเบิด ไม่ว่าจะเป็นรถต่างค่ายต่างยี่ห้อก็มีหลักการเดียวกัน ดังจะยกตัวอย่างการตรวจซ้อมแก้ไขเรื่องวงจรไฟจุดระเบิด ให้กับท่านเจ้าของรถยนต์ MAZDALANTIS V6 ซึ่งมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ เมื่อขับรถไปแล้ว เครื่องยนต์ดับ กลางอากาศ จะสตาร์ทอย่างไรก็ติด ท่านจ้าของรถบอกว่าหลังจากที่ไปตามช่างจากอู่กลับมา สตาร์ทเครื่องมันก็ติดปกติ แต่พอขับกลับมาได้ไม่ถึงชั่วโมง เครื่องยนต์ก็ดับอีกจึงนำรถไปให้ที่อู่ซ่อม ช่างลงความเห็นว่า จานจ่ายเสียไม่มีไฟสูงจ่ายให้กับหัวเทียน
หลังจากช่างได้เปลี่ยนจานจ่ายแล้ว ก็สตาร์ทติดได้เหมือนเดิม หลังจากที่ท่านเจ้าของรถขับรถออกจากอู่กลับบ้าน ยังไม่ถึงครี่งทางเครื่องยนต์ก็ดับกลางอากาศอีก ก็เรียกช่างอู่เดิมมาลากกลับไปแก้ไขต่อ ช่างเปลี่ยนสายหัวเทียน หัวเทียน สตาร์ทเครื่องยนต์ได้ปกติ ท่านเจ้าของรถก็ขับรถกลับถึงบ้าน พอรุ่งเช้าขับรถไปทำงานได้ครึ่งทางเครื่องยนต์ก็ดับเหมือนเดิม ท่านเจ้าของรถตัดสินใจไม่เข้าไปที่อู่เดิม หาอู่ที่ใหม่ หลังจากลากรถถึงอู่ ช่างก็มาตรวจเช็ค ลงความเห็นอีกว่า จานจ่ายเสียเหมือนคราวแรก ท่านเจ้าของรถก็บอกว่าเพิ่งเปลี่ยนมาเมื่อสองวันนีเอง ช่างบอกว่ามันชอร์ทอีก ตงลงท่านเจ้าของรถก็ไปซื้อจานจ่ายมาเปลี่ยนอีก หลังจากเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว ก็สตาร์ทเครื่องยนต์ติด
ท่านเจ้าของรถก็ขับกลับบ้าน ออกจากอู่ขับไปซื้อของที่ห้างเซ้นทรัล ยังไม่ทันถึงห้างเครื่องยนต์ก็ดับอีก ท่านเจ้าของรถบอกว่า ไปสองอู่ก็จานจ่ายเสีย ผมหมดเงินค่าซื้อของซื้อจานจ่ายสองลูก รวมค่าซ่อมหมดไปหมื่นกว่าบาทแล้ว รถยังแก้ปัญหาไม่ได้ บังเอิญเขารู้จักเพื่อนที่อยู่แถวบ้านผม แนะนำให้ลากรถเอามาจอดให้ผมซ่อมที่บ้าน นี้เป็นเรื่องราวที่ผมได้มีโอกาสตรวจซ่อมแก้ไข โดยใช้เครื่องมือทางอีเลคโททรนิคส์เข้า Digital oscilloscope มาวิเคราะห์ในการแก้ไขตรวจซ่อม
หลังจากที่ผมได้รับทราบข้อมูลตามที่เล่าให้ฟัง ก็ลงมือทำการตรวจเช็คหาสาเหตุ ด้วย Digital oscilloscope ก็เรื่มต้นเช็คตรวจวัดสัญญาณ ของตัว crankshaft sensor ตรวจจับวัดสัญญาณพัลส์ได้ waveform ดังรูปต่อไปนี้