GPSfaith พิมพ์ว่า: |
ใช้toyotaครับ แต่ขออนุญาตเข้ามาจอยในนี้ด้วยคนครับ คึกคักดี และผมก็เป็นคนที่ชอบเรื่องพลังงานทางเลือกด้วย หาข้อมูลอยู่พักนึงแล้วครับเกี่ยวกับ E85 ก็กล้าๆกลัวๆ แต่กระทู้นี้เป็นอีกกระทู้นึงที่ทำให้กล้าลองมากขึ้นครับ ไม่ติดกล่อง ไม่ทำอะไรเพิ่ม ตอนนี้เติมE85 กับ E10 อยู่ประมาณ 40/60 ทุกอย่างปกติดี จะค่อยๆเติมจนเป็นE85 100%ครับ |
sanyaaa พิมพ์ว่า: | ||
รถตัวเองเต็มถังเท่าไรอ่ะ |
anglo พิมพ์ว่า: | ||
ผมก็เพิ่งเปลี่ยนปั๊มติ๊กมาสดๆ ร้อนๆ ครับ (แต่เป็นรุ่นเดิมติดรถ) รอดูอาการครับ จะมารายงานให้ทราบเ็ป็นระยะๆ |
aon3160 พิมพ์ว่า: |
เห็นด้วยกับ E85 ในเมืองเผาเร็วไปหน่อย แต่ก็เติมบ่อยได้โดยไม่ต้องกังวล เพราะราคามันถูกกว่าจน เร้าใจ
ว้าว! 20 โลลิตร ก็ประหยัดสุด ๆ แล้ว Hybrid + E85 ได้เท่าไหร่ รายงานด้วยคร๊าบ |
GPSfaith พิมพ์ว่า: | ||
20 โล/ลิตร ทำได้เฉพาะในเมืองที่รถไม่ติดหรือแค่ติดไฟแดงและใช้ความเร็วค่อนข้างต่ำครับ ถ้าวิ่งเหยียบๆหยุดๆติดนานๆ มันชาร์ตแบตไม่ทัน ก็ได้แค่ 8-9โล/ลิตร นอกเมืองประมาณ 16-17โล/ลิตร ใช้E10 91 ตกอยู่ปรมาณ 2.2บาท/โล จากการคาดเดาถ้าวิ่งE85เพียว อาจได้1.8บาท/โล อยากหาที่ขายน้ำมันเก่าอยู่เนี่ยครับ |
สมชาย พิมพ์ว่า: | ||||||
จัดการอารายสเต็ปแบบไหนหลอครับ ที่ว่าเนี้ย |
lkki5 พิมพ์ว่า: |
ของผมเต็มถังได้ 300 km เอง ขนาดใช้ล้อ 15 forged ด้วยนะเนี่ย |
pai_ana พิมพ์ว่า: | ||||
ปั๊มติ๊กรุ่นเดิมความดันมันน้อยกว่า ของเจคับบ แล้วแรงดันของเจมันมาเต็มเลย ของเดิมมันจะค่อยๆขึ้น |
GPSfaith พิมพ์ว่า: | ||
300km น้อยมากเลย วิ่งแต่ในเมืองรถติดเยอะ เหยียบหยุดๆ ใช่ไหมครับ |
anglo พิมพ์ว่า: | ||||||
ใส่กันได้เลย หรือว่าต้องดัดแปลงครับ แอบเซ็งเลย... |
yo555 พิมพ์ว่า: | ||||||||
ได้เลยครับ....แต่ที่ได้มาไม่ได้ใช้ทั้งหมดครับ...เดี๋ยวเอาไว้DIYคั้นหน้าจะให้ทีมงานเอารูปมาลงให้ดูอย่างละเอียดเพื่อเปนแนวทางครับ ***วันก่อนเพิ่งเปลี่ยนทำกันเร็วมาก..มัวแต่ห่วงคนดูดบุรีเลยลืมถ่ายรูปเลย55 |
artoasis พิมพ์ว่า: |
เปลี่ยนหัวฉีด K20A มาใช้ใน D17 แค่นั้นก็ใช้ E85 ได้แบบสบายใจแล้วครับ ไม่ต้องจูนกล่องครับ เพราะกล่อง ECU ตรวจอัตราส่วนผสมแบบ Lambda =1 ใช้น้ำมันเบนซินอะไรก็ได้เดี๋ยว ECU ก็ปรับเข้าหาค่าเอง แต่อุปกรณ์ต้องถึงด้วยนะ เช่นการขยายหัวฉีดที่มี cc เยอะขึ้น
พอจ่ายมากเกินเดี๋ยว ECU จะปรับลดให้เอง (หัวฉีดต้องอยู่ใน rank ที่รับได้ด้วยนะ) ส่วนเรื่ององศาไฟ ECU ก็เพียงแค่ปรับชดเชยให้เท่านั้น ไม่ใช่องศาไฟที่ดีที่สุด แต่ใช้ได้เพราะเครื่อง D17 มี knock sensor ครับ ทุกวันนี้ที่ไฟ Engine โชว์ ก็เพราะ ECU สั่งยกหัวฉีดจนสุดแล้วครับ ก็ยังไม่สามารถทำให้ส่วนผสมไปหาค่า Lambda=1 ได้ มันจึงขึ้นไฟเตือนครับ ใช้ไปนาน หัวฉีดยกค้างก็พังอีกครับ หัวเทียนไม่ใช่ประเด็นครับ เพียงแต่เราสามารถสังเกตอัตราส่วนผสมว่าหนาหรือบางได้จากสีของหัวเทียนครับ เปลี่ยนใหม่ก็เป็นอีกครับ หัวเทียนมันไม่พังหรอกครับ 1. สตาร์ทยากเพราะน้ำมันลงไม่พอ และ E85 ก็ลามไฟช้าอยู่แล้ว 2. O2 เซนเซอร์ไม่ได้เสีย แต่ที่ไฟโชว์ก็เพราะอัตราส่วนผสมบางเกินครับ 3. เปลี่ยนปั๊มติ๊กให้แรงขึ้น ใช่ครับเพราะ Flowrate จะเพิ่มขึ้นแต่สุดท้ายก็โดนควบคุมโดยเรกูเลเตอร์ครับ เลยยังไม่ตรงประเด็น 4. ท่อยางใช่ครับตามที่ผมเคยพิมพ์ไว้ ถ้ามีเวลาก็เปลี่ยนครับ แต่ของเดิมก็ใช่ว่าจะพังง่ายครับ ทนพอตัว ผมเข้าใจนะครับว่ามันใช้ได้ แต่มันใช้ได้ไม่ดีครับ ถ้าทำแบบที่ผมบอก รถคุณจะแรงขึ้นเองโดยไม่ตั้งใจและประหยัดแบบสมเหตุสมผลไม่ต้องเสี่ยงปัญหาเครื่องพัง ผมรู้ว่าท่านอาจจะบอกว่าไม่ต้องการความแรง เพียงแค่ต้องการประหยัด เข้าใจครับเพียงแต่ผมอยากให้ท่านทั้งหลายใช้ให้ถูกตามหลักทฤษฎี และถูกเงินที่สุด สิ่งที่ได้มาท่านจะได้มาเองมันเป็นสิ่งที่ได้ฟรีมาจากน้ำมันครับ ด้วยความเคารพนะครับ คืออ่านมานานแล้วครับ เห็นหลายๆท่านเกิดปัญหาจึงอดไม่ได้ที่จะพิมพ์อีกครั้งครับ จะเชื่อหรือไม่ อันนี้ก็แล้วแต่ท่านสมาชิกครับผม |
artoasis พิมพ์ว่า: |
เปลี่ยนหัวฉีด K20A มาใช้ใน D17 แค่นั้นก็ใช้ E85 ได้แบบสบายใจแล้วครับ ไม่ต้องจูนกล่องครับ เพราะกล่อง ECU ตรวจอัตราส่วนผสมแบบ Lambda =1 ใช้น้ำมันเบนซินอะไรก็ได้เดี๋ยว ECU ก็ปรับเข้าหาค่าเอง แต่อุปกรณ์ต้องถึงด้วยนะ เช่นการขยายหัวฉีดที่มี cc เยอะขึ้น
พอจ่ายมากเกินเดี๋ยว ECU จะปรับลดให้เอง (หัวฉีดต้องอยู่ใน rank ที่รับได้ด้วยนะ) ส่วนเรื่ององศาไฟ ECU ก็เพียงแค่ปรับชดเชยให้เท่านั้น ไม่ใช่องศาไฟที่ดีที่สุด แต่ใช้ได้เพราะเครื่อง D17 มี knock sensor ครับ ทุกวันนี้ที่ไฟ Engine โชว์ ก็เพราะ ECU สั่งยกหัวฉีดจนสุดแล้วครับ ก็ยังไม่สามารถทำให้ส่วนผสมไปหาค่า Lambda=1 ได้ มันจึงขึ้นไฟเตือนครับ ใช้ไปนาน หัวฉีดยกค้างก็พังอีกครับ หัวเทียนไม่ใช่ประเด็นครับ เพียงแต่เราสามารถสังเกตอัตราส่วนผสมว่าหนาหรือบางได้จากสีของหัวเทียนครับ เปลี่ยนใหม่ก็เป็นอีกครับ หัวเทียนมันไม่พังหรอกครับ 1. สตาร์ทยากเพราะน้ำมันลงไม่พอ และ E85 ก็ลามไฟช้าอยู่แล้ว 2. O2 เซนเซอร์ไม่ได้เสีย แต่ที่ไฟโชว์ก็เพราะอัตราส่วนผสมบางเกินครับ 3. เปลี่ยนปั๊มติ๊กให้แรงขึ้น ใช่ครับเพราะ Flowrate จะเพิ่มขึ้นแต่สุดท้ายก็โดนควบคุมโดยเรกูเลเตอร์ครับ เลยยังไม่ตรงประเด็น 4. ท่อยางใช่ครับตามที่ผมเคยพิมพ์ไว้ ถ้ามีเวลาก็เปลี่ยนครับ แต่ของเดิมก็ใช่ว่าจะพังง่ายครับ ทนพอตัว ผมเข้าใจนะครับว่ามันใช้ได้ แต่มันใช้ได้ไม่ดีครับ ถ้าทำแบบที่ผมบอก รถคุณจะแรงขึ้นเองโดยไม่ตั้งใจและประหยัดแบบสมเหตุสมผลไม่ต้องเสี่ยงปัญหาเครื่องพัง ผมรู้ว่าท่านอาจจะบอกว่าไม่ต้องการความแรง เพียงแค่ต้องการประหยัด เข้าใจครับเพียงแต่ผมอยากให้ท่านทั้งหลายใช้ให้ถูกตามหลักทฤษฎี และถูกเงินที่สุด สิ่งที่ได้มาท่านจะได้มาเองมันเป็นสิ่งที่ได้ฟรีมาจากน้ำมันครับ ด้วยความเคารพนะครับ คืออ่านมานานแล้วครับ เห็นหลายๆท่านเกิดปัญหาจึงอดไม่ได้ที่จะพิมพ์อีกครั้งครับ จะเชื่อหรือไม่ อันนี้ก็แล้วแต่ท่านสมาชิกครับผม |
rakyat พิมพ์ว่า: |
wow wow wow ขอบคุณมากครับ ข้อมูลดีๆ เพราะผมใช้ E85 อยู่ครับ |
yo555 พิมพ์ว่า: |
ตัวผมเองก็เห็นมาทุกสเตปก่อนแล้วครับ.โชคดีมาก...
.ทั้งE85เพียวๆ...E85+แก็ส E85ที่เปลี่ยนแค่ปั๊มกะหัวเทียน+ท่อย่าง....E85+หัวฉีดใหม่ไมีมีกล่อง และแบบบวกกล่องครับ.........แต่ตัวผมขับรถไม่เกิน180ครับเครื่องD17a....เลือกใช้แบบเปลี่ยนปั๊มติกเจท่อแช่...และหัวเทียนอิเรเดียม.... ก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้ว....ก่อหน้านี้ก้อลองแบบเดิมมาประมาณ2ถังเดินทางใกลอัดแน่นๆเหยียบหนักๆ...เก็บข้อมูลตลอดเหมือนกันครับ.... ก้อสรุปได้ว่าสเตปนี้โอเคจึงนำเสนอเพื่อนๆเป็นแนวทางครับ......ประเด็นปั๊มเดิมกะเจนี่เห็นผลจริงคับในกรณีเหยียบเกิน140หรือตอนออกตัว ปั๊มเดิมอืดมาก......เนื่องจากเท่าที่มีผู้รู้บอกมาคือเครื่องD17aเดิมๆมันไม่มีเรกกูดรเตอร์เพราะเครื่องเดิมมันกินน้ำมันน้อยพอเราเปลี่ยนมาเติมE85ที่ส่วนผสมบางนั้นจึงทำให้แรงดันที่ปั๊มเดิมส่งมาไม่เพียงพอ......แต่ขออย่างนึงครับก่อนที่ท่านจะหันมาเติมE85กรณาเช็ครถของท่านบ้างครับ หัวเทียน..บางคนเป็นปีไม่เคยเปลี่ยน...วาล์ว..ไม่เคยตั้ง....รอบเดินเบามีปัญหาลิ้นปีกผีเสื้อไม่เคยล้างเป็นต้น...02ไม่ปรกติ ..เป็นต้น......เช็ตหน่อยครับจะได้รู้ว่าเวลาเสียมันเกิดจากอะไร....ยกตัวอย่างมีเพื่อนคนนึงไฟโชว์ก้อตกใจ..ปรากฎว่าเซนเซอร์ตรงแคตเสีย...ซะงั้น.....ตอนี้ผมใช้มา5เดือนสตาตท์ตอนเช้าลากยาวนิดหน่อย...อ่นเครื่องซักพักวิ่งดีมากครับเครื่องเดินเรียบและแรงปัญหาอื่นๆไม่พบเพื่อนที่ใช้กันประมาณ10กว่าคันก้อไม่มีปัญหาอะไร..จากที่แลกเปลี่ยนข้อมูลกันตลอดครับ ...ดีกว่าเติมโซฮอล91..E20แน่นอน....(ก่อนจะลองก็เห็นหลายท่านที่ใช้กและปรึกษากะช่างฮอนด้าที่ใช้กันมาก่อนครับ)....+-แล้วความประหยัดกะความเสี่ยงที่จะเสียในอนาคตถือว่าคุ้มคับ(อันนี้ส่วนตัวนะคับเพราะผมวิ่งใช้งานทางใกลทุกวัน)คิดในใจถ้าประหนัดประมาณนี้ใช้สักปี-2ปีแล้วต้องยกเครื่องประมาณนี้อะครับชั่งใจก่อน.....ตอนนี้เพื่อนที่ติดแกสอยู่ก้อจะถอดถังกันแล้วอะคับ........ ***สุดท้ายพี่ๆน้อง..ใครจะเลือกแบบไหนก้อตามกำลังของท่านเลยครับ...ถ้าใช้รถไม่เยอะก้อเดิมๆเติม95ปรกติ.... แต่ถ้าอยากประหยัดจะแก๊สหรือE85ก็ตามสดวก....ส่วนท่านใดมีอะไรสอบถามหรือสงสัย..ผมเชื่อว่าพี่ๆน้องๆเราในบอร์ดทุกคนยินดีช่วยกันเต็มที่ครับ |
artoasis พิมพ์ว่า: |
เปลี่ยนหัวฉีด K20A มาใช้ใน D17 แค่นั้นก็ใช้ E85 ได้แบบสบายใจแล้วครับ ไม่ต้องจูนกล่องครับ เพราะกล่อง ECU ตรวจอัตราส่วนผสมแบบ Lambda =1 ใช้น้ำมันเบนซินอะไรก็ได้เดี๋ยว ECU ก็ปรับเข้าหาค่าเอง แต่อุปกรณ์ต้องถึงด้วยนะ เช่นการขยายหัวฉีดที่มี cc เยอะขึ้น
พอจ่ายมากเกินเดี๋ยว ECU จะปรับลดให้เอง (หัวฉีดต้องอยู่ใน rank ที่รับได้ด้วยนะ) ส่วนเรื่ององศาไฟ ECU ก็เพียงแค่ปรับชดเชยให้เท่านั้น ไม่ใช่องศาไฟที่ดีที่สุด แต่ใช้ได้เพราะเครื่อง D17 มี knock sensor ครับ ทุกวันนี้ที่ไฟ Engine โชว์ ก็เพราะ ECU สั่งยกหัวฉีดจนสุดแล้วครับ ก็ยังไม่สามารถทำให้ส่วนผสมไปหาค่า Lambda=1 ได้ มันจึงขึ้นไฟเตือนครับ ใช้ไปนาน หัวฉีดยกค้างก็พังอีกครับ หัวเทียนไม่ใช่ประเด็นครับ เพียงแต่เราสามารถสังเกตอัตราส่วนผสมว่าหนาหรือบางได้จากสีของหัวเทียนครับ เปลี่ยนใหม่ก็เป็นอีกครับ หัวเทียนมันไม่พังหรอกครับ 1. สตาร์ทยากเพราะน้ำมันลงไม่พอ และ E85 ก็ลามไฟช้าอยู่แล้ว 2. O2 เซนเซอร์ไม่ได้เสีย แต่ที่ไฟโชว์ก็เพราะอัตราส่วนผสมบางเกินครับ 3. เปลี่ยนปั๊มติ๊กให้แรงขึ้น ใช่ครับเพราะ Flowrate จะเพิ่มขึ้นแต่สุดท้ายก็โดนควบคุมโดยเรกูเลเตอร์ครับ เลยยังไม่ตรงประเด็น 4. ท่อยางใช่ครับตามที่ผมเคยพิมพ์ไว้ ถ้ามีเวลาก็เปลี่ยนครับ แต่ของเดิมก็ใช่ว่าจะพังง่ายครับ ทนพอตัว ผมเข้าใจนะครับว่ามันใช้ได้ แต่มันใช้ได้ไม่ดีครับ ถ้าทำแบบที่ผมบอก รถคุณจะแรงขึ้นเองโดยไม่ตั้งใจและประหยัดแบบสมเหตุสมผลไม่ต้องเสี่ยงปัญหาเครื่องพัง ผมรู้ว่าท่านอาจจะบอกว่าไม่ต้องการความแรง เพียงแค่ต้องการประหยัด เข้าใจครับเพียงแต่ผมอยากให้ท่านทั้งหลายใช้ให้ถูกตามหลักทฤษฎี และถูกเงินที่สุด สิ่งที่ได้มาท่านจะได้มาเองมันเป็นสิ่งที่ได้ฟรีมาจากน้ำมันครับ ด้วยความเคารพนะครับ คืออ่านมานานแล้วครับ เห็นหลายๆท่านเกิดปัญหาจึงอดไม่ได้ที่จะพิมพ์อีกครั้งครับ จะเชื่อหรือไม่ อันนี้ก็แล้วแต่ท่านสมาชิกครับผม |
lkki5 พิมพ์ว่า: |
ช่วยตอบเสริมคุณอาร์ท
เมื่อก่อนไม่เปลี่ยนหัวฉีดตอนเครื่องเย็นสตารทยาก เวลาติดเครื่องจอดเติมน้ำมันไฟเช็คเครื่องโชว์ตลอด)แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนหัวฉีด 400 cc+ f con pickyback ตอนเตรื่องเย็นติดง่ายกว่าตอนเครื่องร้อนอีกนะ(ถ้าใช้กล่อง standalone จะดีกว่านี้อีก) แล้วเวลาจอดเติมน้ำมันไม่ต้องดับเครื่องและไฟเช็ครูปเครื่องไม่ขึ้นอีกเลยทุกกรณีทุกการใช้งาน ปั้มติ้กเรกในถังขอบอกว่าของเดิมแรงดันเหลือๆเฟือครับ(ตอนวิ่งจูนกล่องที่ความเร็ว 230+ ค่า a/f ยังไม่ถอยเลยแสดงว่าปั้มติ้กเอาอยู่) การเลือกหัวฉีดลองปรึกษาพี่อาร์ทดูก่อนได้ ในความคิดผมเมื่อมีหัวฉีดแล้วมันก็ต้องมีอุปกรณ์ที่จะมาควบคุมหัวฉีดอีกแหละและทีนี้ก็ปรับการฉีดให้มันได้ตามอัตราส่วนที่เหมาะสม ถ้ามีหัวฉีดแต่ไม่สามารถคุมมันได้มันก็ดูแปลกๆ |
anglo พิมพ์ว่า: | ||
เครื่องเดิมๆ ก็น่าจะมีเรกกูเรเตอร์น่ะครับ รถผมก็เพิ่งเปลี่ยนไปพร้อมๆ กับปั๊มติ๊ก |
ไปที่: |