Saka พิมพ์ว่า: |
ตั้งวาล์วไปครั้งสุดท้ายเมื่อไรครับ อาการเหมือนวาล์วยันเลย |
profibus พิมพ์ว่า: |
ปั๊มติ๊กหรือป่าวครับ ลองเช็คดู ระบบ จ่ายน้ำมัน |
speckzzii พิมพ์ว่า: | ||
ล่าสุดวันนี้ไปตั้งวาล์วล้างลิ้นปีกผีเสื้อมา อาการยังไม่หายครับ ยังมีสะดุดๆวอดๆแก๊สเป็นเห็นได้ชัดกว่าน้ำมัน แต่เวลาเป็นน้ำมันรถวิ่งอืดกว่า เวลาสับจากน้ำมันเป้นแก๊ส ก็เหมือนเครื่องจะดับแต่ไม่ดับ สับน้ำมันเป้นแก๊สบางทีดับบางทีไม่ดับครับ ตอนช่างเปิดฝาสูบมาบอกว่าตัววาล์วตัวบนไม่ยัน แต่วาล์วล่างอาจจะทรุดหมดแล้ว ค่าซ่อมหมื่นกว่าบาท ผมเลยยังไม่ได้ซ่อม แล้วปั้มติ๊กมีผลกับน้ำมันและแก๊สโดยตรงเลยมั้ยครับ |
Saka พิมพ์ว่า: | ||||
ค่าซ่อมหมื่นกว่านี่ยกเครื่องท่อนตรงวางได้เลยนะครับ ถ้าเปลี่ยนแต่ฝาสูบก็ 6-8 พัน แล้วแต่อู่ (ช่างคงไม่ได้เปิดฝาสูบมั้ง น่าจะเปิดแค่ฝาครอบวาล์ว เพื่อตั้งวาล์ว ถ้าเปิดฝาสูบต้องโดนค่าประเก็นฝาสูบอีกพันกลาง ๆ) รถมีอาการมานานหรือยัง ทำอะไรไปบ้าง เช่น ถ่ายน้ำมันเครื่องล่าสุดไปเมื่อไร กรองอากาสเปลี่ยนไปเมื่อไร หัวเทียนเปลี่ยนไปเมื่อไร ใช้หัวเทียนอะไรเบออะไร รถวิ่งมากี่ กม แล้ว สับน้ำมันเป็นแก๊สแล้วดับ ที่เคยเป็นกลับไปร้านแก๊สจูนใหม่หาย ถ้าสับจากแก๊สเป็นน้ำมันแล้วดับ และมีอาการสตาทน้ำมันติดยากด้วย ติ๊กกับเรกกูเรเตอร์ก็มีส่วน |
srithanon พิมพ์ว่า: |
นานๆจะเข้ามาตอบกระทู้ให้กับน้องๆสมาชิกที่นี้สักครั้งไม่บ่อยนัก เพราะไม่ค่อยมีเวลา กับการตอบปัญหาในกระทู้ที่ถามมาขอคำแนะนำ เนื่องจากการตอบกระทู้ของผมมันร่ายยาว กับปัญหาที่จะต้องแก้ไข นอกจากจะดูว่าเจ้าของกระทู้กำลังแก้ปัญหาไม่ตก และเสียค่าใช้จ่ายบานปลายไปกับช่าง ที่วิเคราะห์ปัญหาไม่ตรงประเด็น มักจะใช้คำว่า คิดว่า คาดว่า และน่าจะเป็น ที่ตรงนั้นตรงนี้ เปลี่ยนแล้วแก้ไขแล้วก็ยังคงมีอาการเหมือนเดิม ซ้ำร้ายบางครั้งของที่ดีก็ต้องกลับมาเสียหาย จากการถอดเข้าถอดออก หรือชำรุดไป เสียในส่วนที่ไม่จะควรเสีย ช่างไม่เดือดร้อน แต่เจ้าของต้องเสียเงินในส่วนที่ไม่ควรจะเสีย ให้กับช่างที่ลองผิดลองถูก
ผมคงไม่กล้าบอกว่าช่างเหล่านั้นไม่รู้ไม่เข้าใจ แต่อยากจะบอกว่าเครื่องยนต์ในยุคปัจจุบันนี้ มันคนละยุคกับเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบคาร์บูเรเตอร์ แค่ใช้ตาดูหูฟัง ก็แก้ปัญหาได้ แต่ยุคนี้การทำงานของเครื่องยนต์ ได้พัฒนาด้านเทคโนโลยี่ใช้ระบบสมองกล ECU เข้าไปควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ ดังนั้นช่างที่ทำการตรวจซ่อมเครื่องยนต์ยุคนี้จำเป็นที่จะต้องมีความรู้ทางด้านอีเลคโทรนิคส์เป็นพื้นฐาน เพื่อสดวกที่จะวิเคราะห์การทำงานของระบบเครื่องยนต์ ที่มีระบบอีเลคโทรนิคส์เข้าไปเป็นตัวสั่งงานในรูปแบบต่างๆและจะต้องใช้อุปกรณ์เครื่องมือทางอีเลคโทรนิคส์เข้ามาวิเคราะห์การทำงานของมัน ที่เราไม่สามารถจะใช้ตาดูหูฟังแบบเก่าได้ และก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีแค่ เครื่อง scan tool OBD2 หรือตัวช่วยที่เป็นแบบวิเคราะห์ปัญหา ค่าดีฟอล์ทต่างๆที่ทำงานบกพร่อง ไว้ในไดโนสติค เพื่อบอกสถานะข้อบกพร่องของตัวอุปกรณ์ต่างๆ ที่ทำหน้าเป็นเซ็นเซอร์ส่งข้อมูลต่างๆไปให้ ECU แก้ไขและควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ จะช่วยวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดกับเครื่องยนต์ได้ทั้งหมดก็หาไม่ เพราะบางครั้ง OBD2 ก็ไม่สามารถวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ เพราะไม่ใช่การเข้าไปดูและตรวจสอบการทำงานของภาคส่วนต่างๆของเครื่องยน์ได้ บางครั้งเครื่อง OBD2 จะตรวจพบความผิดปกติของเซ็นเซอร์ต่างๆได้ แต่บางครั้งตัวเซ็นเซอร์นั้นก็ไม่เสียชำรุดแต่อย่างใด เพราะมีปัจจัยเหตุอื่นทำให้ตัวเซ็นเซอร์เหล่านั้นไม่ทำงาน เช่น O2 sensor เมื่อมีระบบควบคุมการทำงานของเครื่องยน์จาก ECU มันก็ต้องมีเครื่องมืออีเลคโทรนิคส์ ที่สามารถทำให้เราได้รู้ ได้ดูได้เห็น การทำงานของวงจรอีเลคโทรนิคส์ต่างๆได้ เท่าทันกับปัญหาที่เกิดขึ้น ว่ามีส่วนไหนของระบบทำงานบกพร่อง สามารถบอกได้ว่ามีส่วนของสัญญาณพัลส์ต่างๆที่ระบบ ECU generate ขึ้นมา เพื่อเอาไปคอนโทรลในภาคส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ ให้ทำงานส่งข้อมูลหรือจ่ายไปยังวงจรที่เกี่ยวข้องในแต่ละภาคส่วนให้ทำงาน และประการสำคัญที่สุดช่างจะต้องทราบขั้นตอนการทำงานของเครื่องยนต์ที่ควบคุมด้วย ECU ว่ามันมีขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงทำให้เครื่องยนต์ติดทำงานได้ ว่ามีขั้นตอนทำงานอย่างไร เหมือนกับการเดินขึ้นบันใดบ้าน ตั้งแต่ขั้นที่หนึ่ง ไปขั้นที่สอง มีตัวช่วยอะไรที่จะทำให้เกิดในสเต็ปขึ้นที่สอง มาจากส่วนไหนบ้างและอย่างไร เพื่อสดวกในการใช้เครื่องมือทางอีเลคโทรนิคส์เข้าไปตรวจสอบการทำงานของมันว่าทำงานถูกต้องหรือไม่ ที่จะส่งผลไปให้สเต็ปที่สามทำงาน เมื่อมีความเข้าใจขั้นตอนการทำงานของแต่ละภาคส่วนของเครื่องยนต์ได้ มันก็ง่ายที่จะมีการวิเคราะห์แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ง่ายและตรงประเด็น ไม่เสียเวลาในการตรวจซ่อม ก็เอามาเกริ่นให้พอเป็นที่สังเขปในการตรวจแก้ไขกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ ก็ขออภัยที่ร่ายยาวมาเพราะต้องการสื่อให้ทราบว่า การตรวจซ่อมเครื่องยนต์จะต้องมีอะไรเป็นองค์ประกอบในการแก้ไข ก็ขอวกกลับมากับปัญหาที่น้องเจ้าของกระทู้ถามมา ก็ขอให้เริ่มต้นในการตรวจสอบแก้ปัญหาใหม่ดังนี้ การที่จะวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ที่ถูกกวิธี จะต้องตรวจสอบองค์ประกอบการทำงานหลักใหญ่ๆของเครื่องยนต์ ให้สมบูรณ์เสียก่อน ก่อนที่จะวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้องซึ่งมีอยู่สามประการ คือกำลังอัดของกระบอกสูบ ระบบน้ำมัน/แกส ระบบไฟจุดระเบิด ประการแรกต้องตรวจสอบกำลังอัดภายในกระบอกสูบของเครื่องยนต์ก่อนว่า ยังคงมีกำลังอัดเหมือนเดิมตามสเป็นของเครื่องยนต์นั้นๆอยู่หรือเปล่าว่ามีกำลังอัดกี่ปอนด์ของแต่ละสูบ เพราะการตรวจสอบนี้จะทำให้ทราบว่า เครื่องยนต์อยู่ในสภาพอย่างไร เมื่อมีกำลังอัดต่ำกว่าสเป็คมากน้อนแค่ไหน หากมีมาก มาจากสาเหตุเหล่านี้หรือไม่ วาวล์ยัน วาวล์รั่ว แหวนลูกสูบสึก กระบอกสูบเริ่มหลวม ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้กำลังอัดของกระบอกสูบลดลง ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่ระบบกำลังอัดภายในกระบอกสูบลดลง ทำให้เป็นปัจจัยเหตุที่ส่งผลให้ระบบการเกิดแรงดูดของแว็คคั่มในท่อไอดี ทำงานผิดจากการโปรแกรมที่กำหนดค่าโวลเต็จ ที่ได้จากการทำงานของแว็คคั่มเซ็นเซอร์ ที่อาศัยแรงดูดของแว็คคั่มในสภาวะที่ภายในกระบอกสูบมีแรงอัดสมบูรณ์ตามสเป็คที่กำหนด เพื่อจะให้แว็คคั่มเซ็นเซอร์เปลี่ยนแรงดูดแว็คคั่มที่เกิดขึ้นให้เป็นโวลเต็จค่าหนึ่งและถูกกำหนดไว้ในหน่วยความจำของ ECU เพื่อกำหนดค่าระยะเวลาในการยกเข็มบ่าวาวล์ของหัวฉีด ให้มีน้ำมันในส่วนผสมที่พอเหมาะและสมบูรณ์ระหว่างอากาศกับน้ำมันในการจุดระเบิด ค่าโวลเต็จที่แว็คคั่มจ่ายออกมานี้จะเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า เมื่อใดที่กำลังอัดภายในกระบอกสูบสูบลดลงด้วยปัจจัยเหตุที่กล่าวไว้ข้างบน ก็จะทำให้แรงดูดแว็คคั่มลดลง เป็นผลให้การเปลี่ยนแรงดูดของตัวแว็คคั่มผิดไป เมื่อเป็นดังนี้ ECU จะไม่สามารถแก้ไข ระยะคาบเวลาการยกหัวฉีดน้ำมันได้ อาจจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ถูกกำหนดไว้ในโปรแกรม อาการนี้จะแสดงออกให้เห็นเมื่อเครื่องยนต์อยู่ในจังหวะรอบเดินเบา เครื่องยนต์จะมีรอบเครื่องยนต์ตกลงต่ำ สวิงขึ้นลงตามโหลดของเครื่องยนต์ ทำให้ตัวเครื่องยน์สั่นและอาจจะดับ เพราะเมื่อใดก็ตามที่อัตราส่วนผสมระหว่างอากาศกับน้ำมัน มีน้ำมันมากกว่าอากาศ หรือน้อยกว่าอากาศ จะทำให้ระบบการจุดระเบิด มีการจุดระเบิดที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ไก้กำลังของเครื่องยนต์ตกลงไปด้วย โดยเฉพาะที่รอบเดินเบาของเครื่องยนต์ และก็เป็นหนึ่งในปัจจัยเหตุที่ทำให้รอบเดินเบาของเครื่องยน์มีปัญหา เราจะพบว่าการคอนโทรลรอบเดินเบาของเครื่องยน์ มีปัจจัยร่วมหลายภาคส่วน แล้วจะกล่าวต่อไปว่ามาจากอะไรบ้าง ดังนั้นเราจึงมีความจำเป็นต้องตรวจสอบเรื่องกำลังอัดของเครื่องยนต์ก่อนเป็นอันดับแรก จากที่กล่าวมาที่ว่าเมื่อใดที่รถใช้งานมานานปีแล้วเกิดปัญหาเรื่องรอบเดินเบาจึงต้องตรวจตามที่กล่าวมาก่อน จริงแล้วหากรู้หลัการทำงานของเครื่องยนต์ในการตรวจสอบกำลังอัดในกระบอกสูบนี้ เราสามารถวัดโวลเต็จที่ตัวแว็คคั่มเซ็นเซอร์โดยข้ามขั้นตอนที่กล่าวมาก็พอได้ แต่ต้องรู้และวัดเก็บไว้เมื่อสภาวะของกำลังในกระบอกสูบยังปกติ หรือเครื่องยนต์ทำงานตามปกติ ไม่มีปัญหา เราก็จะทราบได้ว่าที่โวลเต็จได้ค่าออกมาต่ำเพราะสาเหตุอะไรแล้วค่อยตรวจสอบกำลังอัดในกระบอกสูบต่อไป ประการที่สอง เรื่องระบบน้ำมันที่จ่ายให้กับเครื่องยนต์ เนื่องจากระบบน้ำมันมีส่วนเกี่ยวเนื่องหลายส่วน จึงจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบ แรงดันของน้ำมันที่ตัวปั้มติ๊กส่งผ่านระบบกรองน้ำมัน ว่ามีแรงดันกี่ปอนด์ ต่ำไปหรือเกิดตีบตันในระบบกรองน้ำมันที่อาจเป็นได้ทั้งที่ตัวปั้มติ๊ก และระบบกรองน้ำมัน ก่อนที่จะส่งน้ำมันผ่านไปยังตัวเร็คกูเลเตอร์ เพื่อสร้างแรงดันน้ำมันในท่อรางหัวฉีด ให้มีแรงดันเพรชเชอร์ตามที่กำหนดว่าได้กี่ปอนด์ตามสเป็คของเครื่องยนต์นั้นๆ ให้ตรวจสอบตามที่กล่าวว่าระบบที่กล่าวมานั้นมันปกติหรือไม่ บางครั้งพบว่าแรงดันน้ำมันในท่อรางหัวฉีดต่ำ อันมาจากสาเหตุตัวเร็คกูเลเตอร์ทำงานผิดพลาดทำให้แรงดันน้ำมันในท่อรางหัวฉีดต่ำ อันเป็นผลให้การเกิดละอองฝอยของน้ำมันที่ออกจากหัวฉีด ไม่เป็นละอองฝอย ซึ่ง เป็นอุปสรรค์ ในการผสมคลุกเคล้ารวมตัวกับอนูของอ๊อกซิเจนได้ไม่ทั่วถึง เมื่อการฉีดน้ำมันไม่เป็นฝอย ยังมีส่วนของน้ำมันคงรูปละอองน้ำมันหนา ทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ หลงเหลือละอองน้ำมันตกค้างในท่อไอเสีย ซึ่งก็มีเจ้าตัวอ๊อกซิเจนเซ็นเซอร์ คอยตรวจจับปริมาณอ็อกซิเจนที่หลงเหลือจากการจุดระเบิดในท่อไอเสีย มันก็จะเปลี่ยนสถานะให้เป็นโวลเต็จ ส่งไปให้ ECU ทำการแก้ไขคาบเวลาในการยกของเข็มหัวฉีด ให้มีอัตราส่วนผสมA/F ให้สมบูรณ์ ในการจุดระเบิด แต่ในสถาวะนี้ ECU ไม่สามารถแก้ไขได้ ไฟรูปเครื่องยนต์จะติดตลอดเวลา มีกลิ่นน้ำมัน เพราะระบบแรงดันน้ำมันในท่อรางหัวฉีดต่ำ น้ำมันไม่เป็นฝอยตามที่กล่าว เป็นอุปสรรค์อย่างมาก กับการสตาร์ทเครื่องยนต์ เพราะสตาร์ทติดยาก แต่ในระบบน้ำมันที่กล่าวมานี้จำเป็นที่จะต้องตรวจสอบไปถึงการทำงานของหัวฉีดน้ำมันด้วยว่าปกติหรอไม่ อาจจะรั่วหรือตีบตันเกิดขึ้นกับหัวฉีด หากรั่วก็จะทำให้การสตาร์ทเครื่องยนต์ติดยาก เมื่อมีการดับเครื่องยนต์พักสักครู่เพื่อลงไปธุระ ไม่เกินห้านาที กลัมาจะสตาร์ทเครื่องยนต์ติดยาก เพราะหัวฉีดมีน้ำมันหยดรั่วลงในกระบอกสูบตลอดเวลา ทำให้ห้องไอดีมีไอน้ำมันที่หยดและยังระเหยออกไปไม่หมด ทำให้มีน้ำมากในอัตราส่วนผสม ในระบบการทำงานของ ECU เมื่อใดก็ตามที่มีการสตาร์ทเครื่องยนต์ ECU จะสั่งให้หัวฉีด ฉีดน้ำมากมากกว่าปกติ ยิ่งทำให้เพิ่มปริมาณน้ำมันในห้องเผาไหม้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้การสตาร์ทเครื่องยน์ติดยาก ต้องรอสักพักใหญ่ๆ เกือบครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมงถึงจะสตาร์ทติด แต่ก็ไม่สามารถสตาร์จึ้งเดียวติด เพราะว่า เมื่อหัวฉีดน้ำมันรั่ว ทำให้แรงดันน้ำมันที่ค้างอยู่ในท่อรางหัวฉีดลดลงต่ำ จึงทำให้เสียเวลาที่ปั้มติ๊กทำงานส่งแรงดันน้ำมันส่งมาในท่อรางหัวฉีด การสตาร์ทจะช้ากว่าปกติ และเป็นปัญหาตอนเช้าๆสตาร์ทติดยาก เพราะหัวฉีดรั่ว ทำให้น้ำมันในท่อรางหัวฉีดลดลง ดังนั้นเราจึงต้องตรวจสอบการทำงานของระบบน้ำมันให้อยู่ในสภาวะปกติเสียก่อน ในลำดับที่สอง ในประการที่สาม ต้องตรวจสอบการทำงานของระบบไฟจุดระเบิดว่าทำงานถูกต้องหรือไม่ เริ่มแรกให้ทำการตรวจสอบมุมองศาการจุดระเบิดตรงพูลเล่ย์เพลาข้อเหวี่ยง ช่างทั่วไปจะทราบเป็นอย่างดี ว่ามีมุมองศาตรงกับจังหวะการปิดเปิดของวาวล์และการเคลื่อนที่ของลูกสูบ ก่อนที่จะมีช่วงจังหวะการจุดระเบิด ให้ตรงและถูกต้องเสียก่อน จากนั้นให้ทำการตวจวัดไฟโวลเต็จสูงที่สายหัวเทียน ( สมัยนี้มีเครื่องมือตรวจวัดแบบการอินดิ้วของเส้นแรงแม่เหล็กที่เกิดขึ้นรอบๆสายหัวเทียน ลักษณะเป็นแบบเสาอากาศเล็กๆนไปจ่อไว้ใกล้ๆสายหัวเทียน ก็จะรู้ว่า มีไฟโวลเต็จสูงกี่หมื่นโวล มีการรั่วลีคลงกราวด์ของกระแสไฟหรือไม่) และที่ประการสำคัญอย่าลืมตรวจสอบการทำงานของหัวเทียนว่าใช้ได้ปกติหรือไม่ มีเครื่องมือตรวจวัดทั่วไปตามอู่ใหญ่ๆ การตรวจสอบการทำงานของหัวเทียน็มีความสำคัญเช่นกัน บางครั้งพบว่าหัวเทียนเกิดมีค่าความต้านทานเกิดขึ้นในตัวมัน ทำให้ไฟสูงส่วนหนึ่งถูกดร็อปลงไปมาก เฉกเช่นเดียวกับสายของหัวเทียน ที่เกิดค่าความต้านทานขึ้นในสาย ทำให้ไฟโวลเต็จสูงลดลง เป็นผลทำให้การเกิดประกายไฟในการจุดระเบิดต่ำ การจุดระเบิดก็ไม่สมบูรณ์ เครื่องยนต์มีกำลังตก เห็นชัดเจนในรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ รอบเครื่องตกเครื่องสั่น เป็นอาการของรอบเดินเบาอีกหนึ่งปัจจัยร่วม เครื่องมือชุดตรวจสอบไฟโวลเต็จสูง สามารถวัดได้หลายรูปแบบ ราคาประมาณสองหมื่นกว่าบาท เหมาะสำหรับช่างยนต์อย่างมาก ในการวิเราะห์การทำงานของระบบไฟสูงที่จ่ายให้กับกัวเทียน จะเห็นว่าเรื่องของรอบเดินเบามาจากหลายส่วนที่ทำงานร่วมกัน รวมทั้งการทำงานของตัวควบคุมอากาศในจังหวะรอบเดินเบา เช่นพวกสเต็ปมอเตอร์ และตัวช่วยอื่นๆ ดังนั้นการตรวจสอบหลักใหญ่ๆที่ผมกล่าวมาจะช่วยให้การตรวจแก้ไขปัญหาของเครื่องยนต์ได้ง่าย โดยเฉพาะเกี่ยวกับระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่ส่งข้อมูลไปให้ ECU ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ ก็อยากให้น้องเจ้าของกระทู้ไปทำการตรวจสอบหลักสำคัญๆสามอย่างที่กล่าวมาก่อน แล้วบางครั้งจะพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอาจหายเป็นปกติ ที่กล่าวว่าอาจหายเป็นปกติก็เพราะว่า ยังมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับอาการที่กล่าวมาอีกหลายส่วน แต่จากการที่เคยตรวจวิเคราะห์ปัญหากับอาการดังกล่าว พบว่าส่วนหนึ่งมาจากการทำงานหลักที่ผมกล่าวเป็นส่วนใหญ่ ปกติแล้วการที่จะวิเคราะห์ปัญหาอันมาจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในเรื่องปัญหานี้มีให้ตรวจสอบอีก แต่ดังที่กล่าวไว้ในตอนต้นว่า การที่จะวิเคราะห์ปัญหาใดๆ ที่เกี่ยวพันกับระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ จะต้องทำให้เครื่องยนต์มีความสมบูรณ์ในหลักใหญ่ๆสามอย่าง คือระบบกำลังอัดของเครื่องยนต์ ระบบน้ำมัน ระบบไฟ ให้สมบูรณ์เสียก่อน หลังจากนั้นก็จะเป็นการวิเคราะห์แก้ปัญหาได้ง่าย เพราะมีเครื่องมืออีเลคโทรนิคส์ พวก DigitalOscilloscope , Function Arbitrary waveform generator ที่สามารถมองเห็นรูปร่างของสัญญาณพัลส์ต่างๆ ที่ ECU generate ออกมาควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ และมีตัว Arbitrary waveform generator เป็นตัวสร้างสัญญาณเลียนแบบการทำงานของสัญญาณพัลส์ที่ ECU สร้างขึ้นมา แล้วเอาไปหลอกให้ ECUทำงาน เพื่อวิเคราะห์การทำงานของระบบเครื่องยนต์ จึงทำให้สามารถวิเคราะห์แก้ปัญหาเครื่องยนต์ที่ควบคุมด้วย ECU ได้ง่ายขึ้น…….srithanon |
srithanon พิมพ์ว่า: |
หากซ่อมที่ไหนแล้วยังแก้ปัญหาไม่ตก ลองโทรมาหา หากมีเวลาจะช่วยแก้ไขให้ เพราะอาการที่ว่านี้ต้องใช้เครื่องมือทางอีเลคโทรนิคส์ตรวจสอบการทำงานของระบบถึงจะแก้ปัญหาได้ตรงกับอาการที่เสีย เพราะอาการนี้อาจจะมีระบบการคอนโทรลรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ไม่ทำงาน และเซ็นเซอร์อื่นๆอีก แต่ก่อนที่จะนำรถมาให้ผมแก้ไข ให้นำรถไปทำการตรวจเช็คกำลังอัด ตั้งวาวล์ ตั้งองศาไฟจุดระเบิดให้ถูกต้องเสียก่อน โทรมาก่อนเพราะว่าผมต้องหาช่วงเวลาที่ว่างมาตรวจซ่อมให้ ก็มีน้องๆ ใน Mazda club, Civic club ที่ซ่อมจากอู่อื่นๆมาแล้ว ยังแก้ปัญหาไม่ตก ก็เอามาให้ผมช่วยแก้ไขให้หลายท่าน ก็ลองติดต่มแจ้งมาครับ |
speckzzii พิมพ์ว่า: | ||
ล่าสุดวันนี้ไปตั้งวาล์วล้างลิ้นปีกผีเสื้อมา อาการยังไม่หายครับ ยังมีสะดุดๆวอดๆแก๊สเป็นเห็นได้ชัดกว่าน้ำมัน แต่เวลาเป็นน้ำมันรถวิ่งอืดกว่า เวลาสับจากน้ำมันเป้นแก๊ส ก็เหมือนเครื่องจะดับแต่ไม่ดับ สับน้ำมันเป้นแก๊สบางทีดับบางทีไม่ดับครับ ตอนช่างเปิดฝาสูบมาบอกว่าตัววาล์วตัวบนไม่ยัน แต่วาล์วล่างอาจจะทรุดหมดแล้ว ค่าซ่อมหมื่นกว่าบาท ผมเลยยังไม่ได้ซ่อม แล้วปั้มติ๊กมีผลกับน้ำมันและแก๊สโดยตรงเลยมั้ยครับ |
Saka พิมพ์ว่า: | ||||
ที่ไปล้างลิ้นปีกผีเสื้อมา ช่างล้างอย่างไง เพราะปกติล้างลิ้นปีกผีเสื้อต้องถอดมอเตอร์รอบเดิมเบามาล้างด้วยนะ |
somchai10 พิมพ์ว่า: |
ถ้ามอเตอร์เดินเบาเสียพี่ของนะครับ 081~8333968 |
ไปที่: |