ตอบ
john


เข้าร่วม: 29 มีนา 2010
ตอบ: 570

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 3392
ให้คำขอบคุณ: 2458

ที่อยู่: UB.
ปี: 2002
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
ศุกร์, 25 พฤศจิกา 2011 13:20 - มาตรการเงินคืนภาษี รถยนต์คันแรก ของรถแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น
การ ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 13 ก.ย. กระทรวงการคลังจะเสนอที่ประชุมเพื่อขออนุมัติเรื่อง "การคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรก" ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องเร่งดำเนินการให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555-31 ธ.ค.2555 โดยมีรายละเอียดของการดำเนินการต่างๆดังนี้





หลักเกณฑ์การคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรก

1.เป็นรถยนต์คันแรกของผู้ซื้อที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2554 จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2555

2.เป็นรถยนต์ราคาขายปลีกไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคัน

3.เป็นรถยนต์นั่ง ขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร/รถกระบะ (Pick up)/รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Double Cab)

4.เป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในประเทศ ไม่รวมถึงรถยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนนำเข้าใช้แล้วจากต่างประเทศ (รถยนต์จดประกอบ)

5.คืนเงินเท่ากับค่าภาษีตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคัน

6.ผู้ซื้อต้องมีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

7.ผู้ซื้อต้องครอบครองรถยนต์ไม่น้อยกว่า 5 ปี

8.การคืนเงินจะคืนเมื่อครอบครองรถยนต์ 1 ปี ไปแล้ว (เริ่มจ่ายคืนให้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 เป็นต้นไป)





แนวทางการดำเนินงาน

1.ผู้ ซื้อรถยนต์ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2554 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2555 ต้องยื่นคำขอคืนเงินกับกรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ พร้อมเอกสารหลักฐาน ดังนี้

-หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปี

-สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ

-สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ในกรณีเช่าซื้อ)





2.กรม สรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่มีหนังสือถึงกรมการขนส่งทางบกหรือ สำนักงานขนส่งจังหวัด เพื่อขอตรวจสอบการครอบครองรถยนต์คันแรก และแจ้งการสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปีของผู้ซื้อ

3.กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจสอบและบันทึก “ห้ามโอนภายใน 5 ปี” ลงในคอมพิวเตอร์และในสมุดคู่มือการจดทะเบียน

4.กรมการ ขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดส่งหนังสือรับรองการครอบครองรถยนต์คัน แรก และสำเนาคู่มือการจดทะเบียนที่บันทึก “ห้ามโอนภายใน 5 ปี” ให้กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่

5.กรมสรรพสามิตหรือ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 เป็นต้นไป





กระทรวง การคลังเสนอครม.อนุมัติและจัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณ 2555 จำนวน 100 ล้านบาทเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ และเสนออนุมัติจัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณ 2556 จำนวน 3 หมื่นล้านบาท เพื่อคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรกเท่ากับค่าภาษีตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินคันละ 1 แสนบาท

กระทรวงการคลังเสนอให้ครม.อนุมัติใน หลักการให้หัวหน้าส่วนราชการกรมสรรพสามิต (อธิบดีกรมสรรพสามิต) หรือผู้ที่อธิบดีมอบหมายมีอำนาจอนุมัติให้คืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรกให้กับ ผู้ซื้อ และเสนอครม.มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคมให้ความร่วมมือกับกรมสรรพสามิตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแสดง หลักฐานการครอบครองรถยนต์คันแรก การบันทึกข้อมูลห้ามจำหน่ายโอนรถยนต์ภายใน 5 ปี ตามมาตรการดังกล่าวของรัฐบาลต่อไป

กระทรวงการคลังรายงานว่า ตามนโยบายรัฐบาลนายกรัฐมนตรี (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ที่แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันอังคารที่ 23 ส.ค.2554 ซึ่งเป็นนโยบายยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน โดยเพิ่มกำลังซื้อในประเทศ สร้างสมดุลและความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพให้แก่ระบบเศรษฐกิจมหภาค

โดย มีมาตรการภาษีเพื่อลดภาระการลงทุนสำหรับสิ่งที่จำเป็นในชีวิตของประชาชนทั่ว ไป ได้แก่ บ้านหลังแรกและรถยนต์หลังแรก กรมสรรพสามิต ได้รับมอบหมายจากการะทรวงการคลัง ให้ดำเนินแนวทางการใช้มาตรการภาษีเพื่อลดภาระการลงทุนสำหรับสิ่งที่จำเป็นใน ชีวิตของประชาชนทั่วไปสำหรับรถยนต์คันแรก





ขณะที่การดำเนินตามมาตรการ ดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ ได้แก่

1.สนับสนุนให้ประชาชนมีโอกาสซื้อรถยนต์ สำหรับผู้ที่ไม่เคยมีรถยนต์มาก่อน สามารถซื้อรถยนต์ได้ไม่น้อยกว่า 5 แสนคน

2.มาตรการนี้จะสนับสนุน อุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมต่อเนื่องให้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์เป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ซึ่งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

3.มาตรการดังกล่าวส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล เช่น ภาษีนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีสรรพสามิตรถยนต์ เพิ่มขึ้นมาก

4.เมื่อ พิจารณาจากปริมาณการเสียภาษีรถยนต์นั่งที่มีราคาขายปลีกไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคัน ในปี 2553 เป็นฐานพบว่ามีปริมาณรถยนต์นั่งขนาดไม่เกิน 1,800 ลูกบาศก์เซนติเมตร รถกระบะ (Pick up)/และรถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Double Cab) มีจำนวนประมาณ 5.2 แสนคัน การคืนเงินเท่ากับภาษีตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคัน ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก





ฉะนั้น เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยที่ไม่เคยมีรถยนต์มาก่อน สามารถซื้อรถยนต์ได้จึงเห็นควรให้กำหนดเป้าหมายคืนเงินเท่ากับภาษีที่จ่าย จริงแต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคัน ให้แก่ผู้ซื้อรถยนต์ ขนาดไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร รถกระบะ (Pick up) และรถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Double Cab) ซึ่งมีจำนวนประมาณ 5 แสนคัน โดยใช้งบประมาณ 3 หมื่นล้านบาท


Attached File :
มาตรการเงินคืนภาษี รถยนต์คันแรก ของรถแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น
john


เข้าร่วม: 29 มีนา 2010
ตอบ: 570

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 3392
ให้คำขอบคุณ: 2458

ที่อยู่: UB.
ปี: 2002
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
ศุกร์, 25 พฤศจิกา 2011 13:29 - มาตรการเงินคืนภาษี รถยนต์คันแรก ของรถแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น
ตารางแสดงจำนวนภาษีคืน ของรถแต่ละรุ่นและแต่ละบริษัท
http://www.promotiontoyou.com/2011/09/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5/
http://www.oknation.net/blog/monchai83/2011/09/30/entry-1
ตอบ
หน้า 1 จาก 1
ไปที่: 
ติดต่อโฆษณา admin@civicesgroup.com
Copyright © 2008-2025 Civic ES Group. All rights reserved.