ตอบ
LAMP


เข้าร่วม: 21 มีนา 2009
ตอบ: 29

น้องใหม่
น้องใหม่

ได้รับคำขอบคุณ: 11
ให้คำขอบคุณ: 8
อาทิตย์, 3 พฤษภาคม 2009 12:46 - เอามาฝาก ตัวหนังสือเยอะดีเผื่อมีคนอ่านจบ
ข้อความทั้งหมด : JIMMY พันทิบ รัชดา
รูปภาพประกอบ : EDS

NEW CARS IN THAILAND 2009-2012
สรุปรถใหม่เตรียมเปิดตัวในไทย 2009-2012

------------------------------------------

ALFA ROMEO
8C Competizione หนะลืมไปได้เลย
รอดู Mi.To กันเถอะ

ค่ายงูกินเด็กแห่งเมืองมักกะโรนี ภายใต้การดูแลของกลุ่มพระนครยนตรการ เคยเอ่ยปากชิงกระซิบบอกตั้งแต่ปี 2007 ว่า จะสั่งนำเข้า 8c Competizione รถสปอร์ตรุ่นจำกัดจำนวนผลิตเข้ามาในปีที่แล้ว แต่สุดท้าย ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ปีนี้
หากพระนครยนตรการ ยังไม่สั่งนำเข้า Mi.To คอมแพกต์แฮตช์แบ็กสุดไฮเทค ตัวตายตัวแทนของ 147 เข้ามาแล้ว เห็นทีจะโดนผู้นำเข้ารายย่อย อย่าง AutoStrada คาบเอาลูกค้าไปดูแลกันอย่างง่ายดาย เพราะค่ายนี้ เขามองไกล หวังจะ
เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์แบรนด์อิตาลีของบ้านเรา ในอนาคต แต่นั่นยังอีกไกลกว่าฝันจะเป็นจริง ระหว่างนั้น Mi.To จะถูกนำเข้ามาให้สัมผัสกันในช่วงต้นปี 2009 นี้ โดยผู้นำเข้ารายย่อยแห่งที่ว่า ทำตลาดร่วมกับ เฟียต 500

------------------------------------------

BENTLEY
ไม่มีของใหม่...?

ปีที่ผ่านมา เบนท์ลีย์ ไทยแลนด์ มีเพียงแค่รุ่น ฟลายอิง สเปอร์ สปีด อันเป็นรุ่นปรับโฉมเล็กน้อย มาทำตลาดด้วยราคา 25 ล้านบาท งานนี้ ไม่จัดงานเปิดตัวให้เป็นข่าว แต่ถ้าใครสนใจ ก็เดินเข้าโชว์รูม แล้ววางเงินจองกันไปเลย กระนั้น ก็น่าแปลกใจว่า
คูเป้ รุ่น บรู๊คแลนด์ หรือถ้าพูดให้ถูก ก็คือ อาร์นาจ ตัวถังคูเป้ เครื่องยนต์ขนาดมหึมา 6,761 ซีซี แรงสะใจถึง 537 แรงม้า (PS) พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะจาก ZF นั้นกลับไม่ปรากฎตัวในเมืองไทย อาจเป็นไปได้ว่า ยอดผลิตทั้ง 550 คันเท่านั้น
ถูกจับจองจนเกลี้ยงไปแล้วก็เป็นได้ ส่วน AZURE T รถเปิดประทุนรุ่นใหม่ ก็มีค่าตัวทีแพงเกินเหตุไป ฉะนั้น หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับว่า บริษัทแม่ในต่างประเทศจะมีรถรุ่นพิเศษรุ่นใดเปิดตัวออกมา ทางฝั่งเมืองไทย ก็จะมีการเปิดรับออร์เดอร์ให้กับ
ลูกค้าที่สนใจสั่งจองกันไป

------------------------------------------
&
BMW / MINI
NEW 7 SERIES & 3 SERIES MINORCHANGE
MINI CONVERTIBLE?

ปีที่ผ่านมา ค่ายใบพัดสีฟ้า ยังพอเอาตัวรอดจากสถานการณ์ได้ จากยอดขายของ 320d CKD และ X3 2.0d ซึ่งเปิดตัวในช่วงเดือนมีนาคม กลางงานมอเตอร์โชว์ ก็ทำได้ดีคามคาด ขณะเดียวกัน รุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ของ ซีรีส์ 5 ใหม่
ทั้งรุ่น 520d และ 525i M Package ก็พอจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ถึงกับดีนัก ส่วนเดือนพฤศจิกายน ก็เพิ่งจะเปิดตัว X5 รุ่น 3.0d กระตุ้นตลาด ด้วยราคาต่ำกว่ารุ่นเบนซินเอาเรื่อง แต่ภาพรวม ก็ยังออกอาการไม่สู้ดีนัก
ขณะที่ มินิ ยังพอเอาตัวรอดได้เรื่อยๆ ทั้งการเปิดตัวรุ่น คลับแมน ในงาน บางกอกมอเตอร์โชว์ ไปจนถึง รุ่น จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ 211 แรงม้า ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ปีนี้ บีเอ็มดับเบิลยู มีคิวจะปล่อยรถยนต์ 2 รุ่นสำคัญของตน สู่ตลาด ในช่วงต้นปี ภายในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ มีนาคม 2009 ทั้งซีรีส์ 3 ไมเนอร์เชนจ์ และ ซีรีส์ 7 ใหม่ รหัสรุ่น F01 นำเข้าสำเร็จรูปทั้งคัน ทั้งคู่ เพิ่งเปิดตัวในต่างประเทศ
เมื่อปีที่แล้ว ส่วนรุ่นประกอบในประเทศของซีรีส์ 7 ใหม่ คงต้องรอกันอีกพักหนึ่ง นอกจากนี้ ยังคงพยายามหารุ่นพิเศษ สั่งนำเข้ามาทำตลาดอยู่เรื่อยๆเนืองๆ ไม่ว่าจะเป็น 330d คูเป้ ที่มีพลัดหลงเข้ามาไม่กี่คัน แต่ก็แพงเกินไป หรือจะเป็น
รุ่นคูเป้ และเปิดประทุน ของซีรีส์ 3 ที่กำลังโปรโมทจนเริ่มมีรถใหม่ป้ายแดงออกแล่นบนถนนกันหนาตาเพิ่มขึ้น ส่วน ซีรีส์ 1 คูเป้ ที่เขียนถึงไว้เมื่อปีที่แล้ว คงจะไม่มีทำตลาดกันอีก เนื่องจากระดับราคา ของรถนำเข้าสำเร็จรูป พอกันกับ ซีรีส์ 3
ประกอบในประเทศ ส่วน มินิ ความเคลื่อนไหว ขึ้นอยู่กับว่า รุ่นเปิดประทุน จะปรากฎโฉมตามติดตลาดโลกได้เลยทันทีหรือไม่ หากไม่ใช่ช่วงต้นปี ก็คงจะเป็น กลางปีนี้

แต่สิ่งที่จะต้องรอดูกันต่อไปคือ สถานการณ์ภายในองค์กร ซึ่งได้รับผลกระทบจากยอดขายที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่คู่แข่งอย่างวอลโวพยายามตีตื้นคืนมาเป็นอย่างมาก และจากกระแสข่าววงในระบุว่า ทางบริษัทแม่ในเยอรมัน
บินมาเก็บข้อมูลต่างๆ ไปเป็นจำนวนมาก รวมทั้งสถานการณ์ในโรงงานนั้น ค่อนข้างอาการหนัก เพราะไม่สามารถใช้ศักยภาพของโรงงานเพื่อการส่งออกได้เลย เนื่องจากหลายปัจจัย ทำให้เกิดคำถามไม่แน่ชัดว่า สำนักงานใหญ่ในมิวนิค
จะเอาอย่างไรต่อไปกับอนาคตของ BMW Thailand

------------------------------------------

CHEVROLET
พ.ย. 2009 : CRUZE (PROJECT J300)
มิ.ย. 2010 : NEW AVEO (PROJECT T300)
พ.ย. 2010 : NEW COLORADO (PROJECT GMI700)
2011 : CAPTIVA (PROJECT C140)
ECO CAR : JOINT WITH SUZUKI ??
ทุกโปรเจ๊กต์ สั่ง DELAY หมด!!!!!

การฉลองครบรอบ 100 ปีของจีเอ็ม ในปีนี้ กลับต้องตามมาด้วยฝันร้ายที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ยักษ์อันดับหนึ่งของโลก ต้องประสบกับภาวะขาดทุนมหาศาลและเหลือเงินสดหมุนเวียน ไว้ทำธุรกิจได้ยาวนานสุด ไม่เกินกลางปีหน้า นี่คือวิกฤติการณ์
ที่เลวร้ายที่สุด เท่าที่จีเอ็มเคยประสบมา และนั่นส่งผลกระทบถึงคนไทยอย่างหลีกเลี่ยงไมได้ แต่เอาเข้าจริง ก็ไม่ได้มากมายอย่างที่คิด ข้อเท็จจริงก็คือ โรงงาน จีเอ็มที่ระยอง ประกาศ พักสายการผลิต นานถึง 2 เดือน สำหรับเพื่อระบายสต็อกที่เหลืออยู่
ให้หมด มีลูกจ้างชั่วคราวในไลน์ผลิตที่ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ ต้องออกจากงาน ตามโปรแกรมการจ้างออก ราวๆ 258 คน แต่ลูกจ้างประจำ ยังคงรับเงินเดือน 75% ไปนอนผึ่งพุงตากพัดลมอยู่บ้านสบายๆ 2 เดือน โดยสวัสดิการที่จำเป็นยังไม่ถูกตัดลง
แต่อย่างใด เป็นความจริงที่ไม่เลวร้ายเท่ากับที่ข่าวเศรษฐกิจทางทีวี เอาไปพูดออกอากาศ

ปีที่ผ่านมา จีเอ็ม มีเพียงการกระตุ้นตลาดด้วย โคโลราโด ไมเนอร์เชนจ์ ช่วง มอเตอร์เอ็กซ์โป 2007 ตามติดต่อเนื่องในช่วงมอเตอร์โชว์ เดือนมีนาคม ด้วย โคโรลราโด CNG จากนั้นในช่วงส่งท้ายปี มีทั้ง แค็พติวา รุ่นปี 2009 เพิ่มสีขาว
และปรับโทนสีภายใน เพิ่มสีเบจให้เลือก และ เอวิโอ ที่ปรับปรุงให้ใช้น้ำมันแก็สโซฮอลล์ อี 20 ได้ แต่ ด้วยสถานการณ์อันยากลำบาก ทำให้ จีเอ็ม ตัดสินใจ เลื่อนโครงการรถยนต์รุ่นใหม่ต่างๆ ออกไปจนกว่า หนทางข้างหน้าจะชัดเจนขึ้น
การอัพเดทความเคลื่อนไหวล่าสุด จึงเกิดขึ้น และต่อไปนี้คือ โครงการที่ จีเอ็ม เตรียมไว้เปิดตัวในเมืองไทย

เริ่มจาก เชฟโรเลต ครูซ ใหม่ รหัสโครงการ J300 ซึ่งเป็นรุ่นเปลี่ยนโฉม โมเดลเชนจ์ ของรถยนต์คอมแพกต์ซีดานคันใหม่ ที่จะทำตลาดแทน ออพตร้า มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวขึ้น มุ่งเน้นเอาใจลูกค้าวัยรุ่นมากขึ้น แต่ยังต้องรักษากลุ่มลูกค้าหนุ่มสาว
วัยทำงาน และครอบครัว ที่มองหารถยนต์นั่งที่เน้นความนุ่มสบายไว้ใช้งาน รูปลักษณ์ภายนอก คล้ายคลึงกับรถยนต์หลายๆรุ่นของหลายค่ายที่ทำตลาดอยู่ตอนนี้ ส่วนห้องโดยสาร อย่าคาดหวังว่าจะล้ำยุคอะไรมากนัก เพราะจะยังคงกลิ่นอาย
ของรถยนต์แดวู และเชฟโรเลตในยุคปัจจุบันไว้อยู่ไม่น้อย ทางเลือกเครื่องยนต์ในตลาดโลกยืนพื้นอยู่กับบล็อก 4 สูบ 1,600 ซีซี และ 1,800 ซีซี แน่นอน ส่วนเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี ทั้งเบนซิน และดีเซล จะมีในเวอร์ชันไทยหรือไม่นั้น ยังไม่ชัดเจน
หลังการเปิดตัวในเกาหลีใต้ไปแล้ว ด้วยชื่อ แดวู ลาเซ็ตติ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุด ต่อให้สถานการณ์ด้านการเงินของจีเอ็มดีขึ้น แต่กำหนดการเปิดตัวในเมืองไทย ที่เคยพยายามจะเลื่อนขึ้นมาให้เร็วขึ้นเป็นเดือน พฤศจิกายน 2009
ก็ยากจะเป็นไปได้ และอาจจะยังคงต้องเปิดตัวในช่วงต้นปี 2010 เหมือนเดิม แต่ตอนนี้ แน่นอนแล้วว่าจะขึ้นสายการผลิตที่โรงงานระยอง ไม่ใช่มาเลเซียอย่างที่เคย ร่ำลือกันมาก่อนหน้านี้

จากนั้น จะตามติดด้วย เอวิโอ ใหม่ รหัสโครงการ T300 ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนโฉมโมเดลเชนจ์ ครั้งใหญ่ รายละเอียดด้านวิศวกรรม จะยังคงสร้างขึ้นบนพื้นตัวถัง GAMMA สำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก ของทั้งกลุ่มจีเอ็มและเฟียต และคราวนี้คาดว่า
จะต้องยกระดับเครื่องยนต์ จาก 1,400 ซีซี ในตลาดยุโรป มาเป็น 1,500 ซีซี รุ่นใหม่ ที่มีพละกำลังดีกว่าเก่า รวมทั้งการออกแบบห้องโดยสาร ที่จะเอาใจกลุ่มลูกค้า ผู้ซื้อรถคันแรกในชีวิตมากยิ่งกว่ารุ่นปัจจุบัน กำหนดเปิดตัว จากเดิม ในช่วงเดือน
มิถุนายน 2010 อาจจะต้องเลื่อนออกไป อีก 9 เดือน

ปิดท้ายกันด้วย ความคืบหน้าของโครงการ GMI 700 หรือรุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคัน ของรถกระบะ เชฟโรเลต โคโลราโด โดยประเทศที่จะเป็นฐานหลักในการพัฒนารถกระบะรุ่นใหม่นี้ จะย้ายไปอยู่ที่ ประเทศบราซิล โดยมีญี่ปุ่น กับ ไทย ยังเป็น
ประเทศพี่เลี้ยง อยู่ รายละเอียดของคันจริง ตอนนี้คืบหน้าไปในระดับหนึ่ง ว่าจะใช้โครงสร้างตัวถังหลักร่วมกับ อีซูซุ ดีแมกซ์ เจเนอเรชันต่อไป (รหัส RT-50) อยู่ แต่ชิ้นส่วนเปลือกตัวถังภายนอก จะปรับปรุงให้แตกต่างจากอีซูซุมากขึ้น ส่วนเครื่องยนต์
จะสร้างขึ้น ณ ส่วนต่อขยายของโรงงาน จีเอ็มระยอง เป็นการร่วมทุนกันระหว่างจีเอ็ม และ VM.MOTORI แห่งอิตาลี ซึ่งจีเอ็มเข้าไปซื้อหุ้นใหญ่มาเมื่อปี 2007 ยืนยันแล้วว่าจะเป็นเครื่องยนต์ ดีเซล ขนาด 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว คอมมอนเรล ซูเปอร์ชาร์จ
2,500 ซีซี และ 2,800 ซีซี โดยไม่จำเป็นต้องขยับไปถึง 3,000 ซีซี แต่อย่างใด การใช้เครื่องยนต์ใหม่นี้ จะทำให้รถกระบะใหม่ของเชฟวี แตกต่างจาก ฝาแฝดร่วมโครงการอย่างอีซูซุ ซึ่งจะยืนหยัดกับเครื่องยนต์ 2,500 ซีซี และ 3,000 ซีซี ตามเดิม

แต่ที่แน่ๆ แม้จะใช้โครงสร้างตัวถังร่วมกัน แต่ตัวรถของฝ่ายเชฟโรเลต จะมีความแตกต่างจากเวอร์ชันอีซูซุ มากกว่าปัจจุบัน ที่ดีแมกซ์ และโคโลราโด เป็นอยู่ เพราะการถอนหุ้นของจีเอ็มในส่วนที่ถือครองอยู่ในอีซูซุออกไปจนเกือบจะหมด
ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่อนาคต ทั้งคู่อาจต้องแยกกันพัฒนารถกระบะของตนตามลำพัง ถึงกระนั้น จีเอ็มก็รู้ดีว่า การปล่อยให้อีซูซุ ช่วยพัฒนาเครื่องยนต์และงานวิศวกรรมอื่นๆนั้น จะช่วยให้จีเอ็มลดต้นทุนในการพัฒนาลงไปได้มาก
ซึ่งในรุ่นปัจจุบันนั้น มีชิ้นส่วนที่แตกต่างกันเพียง 300 ชิ้นเท่านั้น

แต่ด้วยปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ทำให้การก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องยนต์ ร่วมทุนกับ V.M. MOTORI จากอิตาลี ที่เพิ่งวางศิลาฤกษ์กันไปเมื่อเดือนกันยายน 2008 ต้องเลื่อนออกไปอีก 1 ปี นั่นทำให้โครงการ GMI 700 จะถูกเลื่อนออกไปอีก 1 ปี
เพื่อไปเริ่มต้นขึ้นสายการผลิตจริง เดือนกรกฎาคม 2011 เป็นอย่างเร็วที่สุด และนอกจากนี้ จะมีเวอร์ชัน เอสยูวี ตามออกมาอีกด้วย โดยมีกำหนด ขึ้นสายการผลิต เดือนกุมภาพันธ์ 2012

ด้านเอสยูวี รุ่น แค็พติวา นั้น ก็เป็นอีกโครงการที่ได้รับผลกระทบ เพราะมีแผนจะปรับโฉมใหม่ บิ๊กไมเนอร์เชนจ์ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ภายใต้รหัสโครงการ C140 แต่เดิม มีกำหนดเปิดตัวราวๆ ปี 2010 ทว่าตอนนี้ เจอโรคเลื่อนไปเรียบร้อยแล้ว
แต่ยังไม่แน่ชัดว่า จะย้ายไปเปิดตัวเมื่อใด ส่วนโครงการ อีโคคาร์ ของ จีเอ็มนั้น ยังคลุมเครือ และเงียบกริบจนน่าประหลาด ทำให้ยังต้องจับตาดูโครงการความร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์ขนาดเล็กจากแดนปลาดิบอย่างซูซูกิ กันต่อไป ว่าความคืบหน้า
ไปถึงไหนแล้ว

ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่คนไทยจะได้สัมผัส ถ้า จีเอ็ม ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากสภาครองเกรส จนมีเงินสดหมุนเวียนมากพอที่จะเดินหน้าโครงการต่างๆไปได้

------------------------------------------

CITROEN
New C5 กับ New C4 Picasso เลื่อนจากปีที่แล้ว เป็นปีนี้ (ซะที)

การปรับโครงสร้างองค์กร ภายในกลุ่มยนตรกิจ เมื่อช่วงต้นปี 2008 ทำให้เริ่มมองเห็นทิศทางและอนาคตของกลุ่มนี้ แม้ว่าปีที่ผ่านมา แบรนด์ซีตรองออกจะยิ่งเงียบเหงาหนักกว่าเดิม การนำเอา C6 3.0 HDi เข้ามาทำตลาดด้วยราคา
5.7-6.2 ล้านกว่าบาท และล่าสุดในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป ซีตรอง จับเอา รถตู้ LCV รุ่น JUMPER นำเข้ามาทำตลาด ทั้งรุ่นพื้นฐาน 1.59 ล้านบาท และรุ่นตกแต่งเป็นพิเศษสุดหรู ราคาแค่ 2.4 ล้านบาท หวังท้าประกบกับ โฟล์กสวาเกน คาราเวลล์
และฮุนได H-1 อวดโฉมในมอเตอร์เอ็กซ์โป คือสิ่งเดียวที่ยังยืนยันอยู่ว่า ซีตรอง ยังคงมีขายในประเทศไทยของเรา

แต่ในปี 2009 นั้น ซีตรอง ตั้งเป้าว่าจะนำ มินิแวนสุดสวย หลังคากระจก C4 Picasso และรุ่นเปลี่ยนโฉมโมเดลเชนจ์ทั้งคัน ของซีดานระดับนักบริหาร C5 ใหม่ เข้ามาเปิดตัวในบ้านเราได้ซักที หลังจากเจอโรคเลื่อนไปตลอดทั้งปีที่ผ่านมา
ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเวอร์ชันไทยจะใช้เครื่องยนต์ขนาดไหน แรงเท่าใด อุปกรณ์มีอะไรบ้าง ต้องติดตามกันต่อไปอีกครั้ง คาดเพียงแต่ว่า จะพยายามเอาเข้ามาทำตลาดให้ได้ภายในก่อนช่วงสิ้นปีนี้
------------------------------------------
&
FERRARI / MASERATI
Gran Turismo มาแล้ว
ส่วน CALIFORNIA จะมาไหมหนอ?

กลายเป็นว่า ใครอยากได้ เฟอร์รารี คงต้องพึ่งพาผู้นำเข้ารายย่อยกันเอาเองตามสะดวก ไปเสียแล้ว สำหรับรถสปอร์ต ชื่อดัง จากเมืองมาราเนลโล ในอิตาลี ในเมื่อ บริษัทแม่ ไม่ต่อสัญญากับ เฟอร์มา ผู้จำหน่ายรายเดิม ต่อไปแล้ว และดูเหมือนว่า
ยากที่จะมีใครหาญ เข้าไปเจรจาขอสิทธิ์การเป็นผู้จำหน่ายรถยี่ห้อนี้แต่เพียงผู้เดียวในบ้านเราได้อีก เพราะต้องเจอกฎเหล็กอันไม่เข้าท่า เช่นว่า จะสั่งเฟอร์รารี 1 คัน ต้องสั่ง มาเซราติ พ่วงเข้ามาด้วยอีก 2 คัน ทั้งที่มาเซราติเอง ก็เป็นรถที่ขายออก
ยากอยู่แล้ว อีกทั้งผู้จำหน่ายรายเดิม เหมือนจะมีปัญหากับทางพารากอน ในช่วงต้นปี ถึงขั้นประท้วงเล็กๆ กันหน้าโชว์รูม บนชั้น 2 เลยทีเดียว แต่กระนั้น มาเซราติ แกรน ทัวริสโม เวอร์ชันคูเป้ ของ ควอตโตรปอร์เต ก็มีโผล่เข้ามาในบ้านเราจนได้
ช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่ถ้าจะถามว่าปีนี้ มีอะไรใหม่ คำตอบก็คือ คงต้องรอลุ้น แคลิฟอร์เนีย รถสปอร์ตเปิดประทุน หลังคาแข็งพับได้ด้วยไฟฟ้าตามเทรนด์ รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของเฟอร์รารี ว่าจะมีหลุดเข้ามาถึงเมืองไทยบ้างหรือไม่

------------------------------------------

FORD
2009 RANGER MINOR CHANGE & The All New FIESTA B299 PROJECT
2010 MODEL CHANGE กระบะใหม่ T6 PROJECT?
2011 MODEL CHANGE EVEREST รอบใหม่?
2012 ESCAPE FADE-OUT?

ตลอดปี 2008 ชาวฟอร์ด ที่ตึกเลครัชดา ถึงขั้นเหนื่อยหนักและหายใจไม่ทั่วท้อง บางรายถึงขั้นล้มป่วยกันเลยทีเดียว ทั้งจากการไม่มีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เปิดตัว อีกทั้งสถานการณ์ยอดขาย ยังย่ำแย่ รถกระบะเรนเจอร์ ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน
ดีเซลในช่วงกลางปีไปเต็มๆ จนยอดขายตกต่ำ ความมั่นใจของลูกค้าเริ่มหดหาย อีกทั้งสถานการณ์ของบริษัทแม่เอง ก็ยังต้องดิ้นรนเอาตัวรอดจากวิกฤติการแฮมเบอร์เกอร์ ในสหรัฐฯ ถึงขั้นต้องขายหุ้นในมาสด้าเกือบทั้งหมด ออกไป เหลือไว้เพียง
17% เท่านั้น เพื่อเอาเงินสดมาหมุนเวียนในธุรกิจทั่วโลก แต่การเดินหน้าปรับปรุงความเชื่อมั่นในบริการหลังการขาย ไปจนถึงเรื่องของการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ รวมทั้งกระตุ้นยอดขาย ด้วยแคมเปญพิเศษต่างๆ ทั้ง 3 แนวทางนี้ ยังคงต้อง
ทำต่อไป ส่วนรถใหม่ในปีที่ผ่านมา ก็มีทั้ง เอสเคป ไมเนอร์เชนจ์ รอบใหม่ หน้าตาเหมือนเวอร์ชันญี่ปุ่น เปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน ตามติดด้วย โฟกัส ไมเนอร์เชนจ์ TDCi 136 แรงม้า ที่คราวนี้ มีเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ทวินคลัชต์ มาให้เลือกกันเสียที
อีกทั้งยังส่งรถต้นแบบ เรนเจอร์ แม็กซ์ อวดโฉมในมอเตอร์เอ็กซ์โป อีกด้วย

และเรนเจอร์ แม็กซ์ นี่เอง คือต้นแบบที่ฟอร์ดต้องการจะเผยให้เห็นรูปโฉม ของรถกระบะ เรนเจอร์ ไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งแต่เดิม เคยมีแผนจะต้องเปิดตัวพร้อมกับ BT-50 ไมเนอร์เชนจ์ เมื่อเดือนมีนาคม 2008 แต่ด้วยสถานการณ์ที่ไม่ดีเลยของฟอร์ด
ทำให้ ผู้บริหารตัดสินใจยอมเลื่อนมาเป็นช่วงปลายปี ทว่า เมื่อสต็อกยังค้างอยู่ จึงเลือกจะลากยาวออกไป เพื่อเตรียมเปิดตัวราวๆ ต้นปี 2009 และคาดกันว่าจะทำตลาดต่อไปอีก เพียง 1 ปี ก่อนที่ รุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคัน โมเดลเชนจ์ รหัสโครงการ
T6 จะพร้อมออกสู่ตลาด งานพัฒนาของ T6 จะเป็นหน้าที่ของ ศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ครบวงจรของ ฟอร์ด ที่ ออสเตรเลีย เนื่องจากเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของรถกระบะของทั้ง 2 ค่ายในปัจจุบัน โดยตัวรถจะมีโครงสร้างตัวถังใหญ่โตขึ้น
ในระดับเดียวกันกับ โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ อีกทั้งยังมีบานแค็บเปิดได้ อันกลายเป็นเอกลักษณ์จากสองค่ายนี้ มาให้ได้ใช้กันแน่นอน รวมทั้งยังใช้เครื่องยนต์จากรุ่นเดิม แต่พัฒนาให้แรงยิ่งขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้น แต่ปล่อยมลพิษน้อยลง ตามมาตรฐาน
EURO-IV กว่าจะพร้อมเปิดตัว ต้องรอถึงปี 2010 และถึงตอนนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่า จะไม่ใช้ชื่อรุ่นว่าเรนเจอร์อีกต่อไป

และหลังจากนั้น รุ่นเปลี่ยนโฉมของ เอเวอร์เรสต์ใหม่ ก็จะเสริมทัพตามมาอีกระลอก และคราวนี้ ภาระกิจสำคัญของฟอร์ดก็คือ ทำอย่างไร ให้ เอเวอร์เรสต์ สามารถปรับภาพลักษณ์ขึ้นมา ท้าชนกับทั้ง ฟอร์จูเนอร์ และปาเจโร สปอร์ต อย่างสมศักดิ์ศรี
กว่าที่เป็นอยู่ โดยใช้โครงสร้างวิศวกรรมพื้นฐานต่างๆ ร่วมกับ เรนเจอร์ T6 นั่นเอง กำหนดเปิดตัวเดิม ยังอยู่ในปี 2011

ขณะที่ เอสเคปใหม่ ยังคงจะทำตลาดด้วยโฉมนี้ต่อไปเรื่อยๆอีก 2 ปี ก่อนจะปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์อีกครั้งสุดท้าย ราวๆ ปี 2011 ก่อนจะลดบทบาทออกไปจากตลาดในปี 2012 โดยยังไม่แน่ชัดว่า จะมีตัวตายตัวแทนมาทำตลาดต่อหรือไม่

แต่เหนือสิ่งอื่นใด ในช่วงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2009 เราจะได้พบกับ ผลผลิตจากการลงทุนร่วมกันระหว่าง ฟอร์ด และมาสด้า ในโรงงาน AAT ระยอง นั่นคือ การขึ้นไลน์ผลิตรถยนต์นั่งระดับ ซับ-คอมแพกต์รุ่นใหม่ โดยใช้ที่ดินในส่วนต่อขยาย
จากโรงงานเดิม จะเริ่มเปิดดำเนินการได้ในช่วงปลายปี ถูกแล้ว! เรากำลังพูดถึง รุ่นเปลี่ยนโฉมของ ซับ-คอมแพกต์ รุ่น ฟิเอสตา รหัสโครงการ B299 ฝาแฝดร่วมแพล็ตฟอร์มของ มาสด้า 2 (เดมิโอ ในญี่ปุ่น) ซึ่งจะเปิดตัวด้วยรุ่น แฮตช์แบ็ก 5 ประตูก่อน
ในช่วงมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009 เป็นอย่างช้า จากนั้น รุ่นซีดาน 4 ประตู (แบบมีกระจกโอเปราด้านหลัง คล้ายกับ เชฟโรเลต ออพตร้า) จะตามออกมาในเดือนมีนาคม 2010 ช่วง บางกอกมอเตอร์โชว์ รายละเอียดทางวิศวกรรมนั้น ค่อนข้างแน่นอนว่า
จะใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 1,400 และ 1,600 ซีซี แม้ว่าตัวรถจะมีพิกัดขนาดอยู่ในกลุ่ม B-SEGMENT แต่ด้วยการวางเครื่องยนต์ ทั้ง 2 ขนาดนี้ จะช่วยให้ ตำแหน่งการตลาดของ ฟิเอสตา ใหม่ จะต้องเจาะรวดเดียวทั้งกลุ่มตลาด รถยนต์ ECO CAR
และกลุ่ม B-SEGMENT ไปด้วยในตัว

สำหรับอีโคคาร์นั้น นโยบายยังเหมือนเดิม ทางฟอร์ดและมาสด้า มองแล้วว่า เป็นโครงการที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ตั้งเป้ายอดผลิตปีละ 1 แสนคัน จะขายให้ใครที่ไหนกัน? ไม่เหมือนกับ กลุ่มซับ-คอมแพกต์ ที่นอกจากจะโดนใจลูกค้าชาวไทย
มากกว่าแล้ว ยังสามารถส่งขายในตลาดต่างประเทศได้ง่ายกว่า นั่นคือเหตุผลที่ ฟอร์ดและมาสด้า ไม่เล่นด้วยกับโครงการอีโคคาร์แล้วแน่นอน อย่างน้อยก็ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้านี้

------------------------------------------

HONDA
2009 : FREED มาแน่ๆ ช่วงกลางปี
2010 : ECO Car ยืนยัน เจอกัน เร็วสุด ช่วงต้นปี + JAZZ & CITY MINOR CHANGE
2011 : ALL NEW CIVIC (PROJECT 2HC)

การเปิดตัว แจ้สใหม่ ในเดือนมีนาคม และ ซิตี้ใหม่ เมื่อ 10 กันยายน รวมทั้ง ซีวิค ไมเนอร์เชนจ์ มาพร้อมระบบนำร่อง GPS ทั้งรุ่น 1,800 และ 2,000 ซีซี ถือเป็นการถล่มระเบิดลูกโตๆ 3 ลูกรวด เข้าใส่ตลาดรถยนต์นั่ง ต่อเนื่องจากซีอาร์-วี
ในปี 2006 และ แอคคอร์ดใหม่ ปลายปี 2007 ผลลัพธ์ก็คือ ความนิยมในตลาดรถยนต์นั่งของฮอนด้า บางรุ่น ก็เริ่มทำยอดขายแซงหน้าคู่แข่งตลอดกาลอย่างโตโยต้าได้เป็นผลสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แจ้สกับซิตี้ ที่เล่นเอา โตโยต้าถึงกับปาดเหงื่อ
กุมขมับกับยอดขายของ วีออส และ ยาริส กันเลยทีเดียว แม้ว่า สถานการณ์ราคาน้ำมัน ปัญหาเศรษฐกิจโลกและการเมืองไทย จะรุมเร้ามากแค่ไหนก็ตาม แต่ ฮอนด้า ยังคงเป็นผู้ผลิตรายเดียว ที่ยื่นขอเพิ่มกำลังการผลิต แถมยังเปิดโรงงาน 2
ในพื้นที่ส่วนต่อขยาย ของโรงงาน โรจนะ สวนกระแสอย่างน่าทึ่ง เพราะปั้มไม่ทันขาย ทั้งที่ชาวบ้านชาวช่อง เขาปรับลดการผลิตลงเป็นทิวแถว ถึงจะคาดการณ์ไว้แล้วว่า ปี 2009 จะเหนื่อยหน่อยก็ตาม

แต่ใช่ว่า อาวุธจะหมดคลังแสง เพราะฮอนด้ายังซุ่มเงียบ และกำลังสำรวจตลาดเพื่อ เตรียมแผนนำเข้า FREED มินิแวน 7 ที่นั่ง ประตูบานเลื่อน บนโครงสร้างวิศวกรรม และเครื่องยนต์ 1,500 ซีซี จาก แจ้ส และ ซิตี้ โดยคราวนี้ ฮอนด้าตั้งใจจะ
สั่งนำเข้า จากโรงงานในอินโดนีเซีย ซึ่งจะถูกปรับปรุงงานด้านคุณภาพ ตามนโยบาย GLOBAL STANDARD หรือ มาตรฐานเดียวทั่วโลก เพื่อหวังพิฆาต โตโยต้า อแวนซ่า ให้ราบคาบ คาดว่าราคาน่าจะอยู่ในช่วง 6 - 8 แสนบาท ตามแต่ละรุ่นย่อย
ซึ่งได้แต่หวังว่า ฮอนด้าจะศึกษาบทเรียนด้านการควบคุมคุณภาพ จากกรณีของ มินิแวน รุ่นสตรีม รองรับไว้แล้ว)

จากนั้น ในช่วงปลายปีนี้ ซีอาร์-วี จะถึงเวลาปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ กันเสียที ถามว่าจะปรับโฉมกันอย่างไร ให้ดูแนวทางจาก ซีอาร์-วี เพรสทีจ ที่เพิ่งเปิดตัวไปในมอเตอร์เอ็กซ์โปครั้งล่าสุดนี้เป็นเกณฑ์ ระบบนำร่อง พร้อมจอมอนิเตอร์แบบสหกรณ์
ของฮอนด้า แอคเซส ที่มีหน้าตาเหมือนเครื่องเล่น DVD จากคลองถม จะตามมาประจำการในรุ่น 2,400 ซีซี และ 2,000 ซีซี ขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นหลัก

ด้านอภิมหาโครงการรถเล็ก ECO CAR ที่จะสร้างขึ้นจากพื้นตัวถังรถขนาดเล็กร่วมกับ เค-คาร์คันจิ๋วรุ่น ไลฟ์ อันเป็นจิ๊กซอร์ชิ้นสำคัญ ที่จะต่อยอดเป็นภาพ โครงการพัฒนารถยนต์ขนาดเล็ก Sub-B-segment ระดับโลกยุคใหม่ ที่มีขนาดเล็กกว่า
แจ้ส ล่าสุด มีการยืนยันว่า รูปแบบของตัวรถจะเป็นแบบแฮตช์แบ็ก 5 ประตู วางเครื่องยนต์ บล็อก 3 สูบ 1,200 - 1,300 ซีซี น้ำหนักเบา มีกำลังประมาณไม่เกิน 90 แรงม้า (PS) ขับเคลื่อนล้อหน้า เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะเป็นพื้นฐาน ส่วนเกียร์อัตโนมัติ
เป็นแบบ 4 จังหวะ พร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยจะไปโผล่ในรุ่นท็อป ซึ่งอย่างน้อยๆ ต้องมีถุงลมนิรภัยมาให้ 1 ลูก ฝั่งคนขับมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และมีกำหนดจะส่งขึ้นโชว์รูมได้ภายใน ช่วงต้นปี 2010 แม้จะไม่ฉับไวเท่านิสสัน ที่ชิงเล่นมุขจับ
เอามาร์ชใหม่ มาตีตั๋วเด็ก (อ่านรายละเอียดต่อ ในบทความนี้ ส่วนของนิสสัน) แต่ก็ถือว่าเร็วทันใจกว่าผู้ผลิตรายอื่นๆ โดยเฉพาะคู่รักคู่แค้นอย่างโตโยต้า ซึ่งต้องรอกันจนถึง 2012

ส่วนใครที่ถามไถ่ว่า เมื่อไหร่ ซีวิค จะเปลี่ยนโฉมโมเดลเชนจ์ คำตอบก็คือ ไม่ต้องรอ ยังซื้อรุ่นปัจจุบันมาใช้ได้เลย เพราะตอนนี้ ซีวิครุ่นใหม่ เพิ่งจะมีรหัสโครงการหลุดรอดออกมาว่า 2HC และทุกอย่าง ยังคงไม่เสร็จสมบูรณ์ และกว่าที่จะมีความ
เคลื่อนไหวอีกครั้ง คงต้องรอกันจนถึง ปลายปี 2010 ถึงจะเริ่มเห็นเค้าโครงหน้าตาของรถคันจริง เพราะกว่าจะเปิดตัวในตลาดญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และไทย เหลื่อมล้ำกันนั้น จะอยู่ในช่วงตั้งแต่ กันยายน - พฤศจิกายน 2011 หนทางยังอีกยาวไกล
อย่าเพิ่งรีบไต่ถามกันในตอนนี้

------------------------------------------

HYUNDAI
SONATA MINOR CHANGE
แม่สายบัวแต่งตัวเก้อ?

ตลอด ขวบปีแรกที่เริ่มกลับมาทำตลาดอีกครั้ง ภายใต้การดูแลของ ฮุนได มอเตอร์ ประเทศไทย ในเครือของ SOJITSU เทรดดิง คัมพานี รายใหญ่จากญี่ปุ่น ที่มักเป็นพาร์ตเนอร์คู่หูรายสำคัญของฮุนไดทั่วโลก ถือว่าทำยอดขายไปได้ในระดับน่าพอใจ
ด้วยยอดขายรวมทุกรุ่นเกินกว่า 800 คัน อย่างไรก็ตาม ในเมื่อรถตู้ H-1 กลายเป็นอัศวินม้าขาว ที่ช่วยกอบกู้ยอดขายของฮุนได ด้วยตัวเลขมากถึง 500 กว่าคัน ที่เหลือ มีทั้งโซนาต้า 2,.000 ซีซี ทั้งแบบมาตรฐาน และแบบ CNG (เปิดตัวช่วงเดือน
สิงหาคม) และรุ่น 2,400 ซีซี รวมทั้งคูเป้ อสยูวี ซานตา เฟ และรถบรรทุกเล็ก H-100 (3 รุ่นหลัง เป็นรถยนต์นำเข้าจากเกาหลี) พอประคับประคองให้ฮุนได ผ่านพ้นปีแรกไปได้อย่างน่าพอใจ

แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับฮุนไดในปีหน้าคือ ความกังวลของผู้บริหารชาวญี่ปุ่น และบริษัทแม่ในเกาหลี ต่อสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาอันเป็นตลาดหลักของฮุนได ที่ฟุบไปเรียบร้อยแล้ว จนต้องเล่นแคมเปญแจกส่วนลด
3,000 เหรียญสหรัฐ รวมทั้งในเมืองไทย ที่น่าจะได้รับผลกระทบอยู่ไม่น้อย ดังนั้น ในปีหน้า นอกจากจะต้องเดินหน้าขยายผู้จำหน่าย และศูนย์บริการอย่างต่อเนื่อง แล้ว ดูเหมือนว่า ฮุนได จะมีแค่การนำ H-1 มาตกแต่งเป็น รุ่นพิเศษ จำพวก
SPACIAL EDITION อันเป็นมุขกระตุ้นตลาดในช่วงบางกอกมอเตอร์โชว์ ปลายมีนาคมนี้

นอกนั้น โซนาตา ไมเนอร์เชนจ์ ที่จะเปลี่ยนรูปลักษณ์ด้านหน้า ไปจนถึง การปรับปรุงห้องโดยสารใหม่ ให้ดูดีขึ้น แต่ยังคงสมรรถนะที่น่าลองขับเอาไว้เหมือนเดิม ยังคงอยู่ในสภาพลูกผีลูกคน ว่าสมควรจะสั่งนำเข้ามาประกอบในประเทศอีกหรือไม่
ขณะเดียวกัน แผนประกอบ เอสยูวีรุ่น ซานตา เฟ พร้อมขุมพลังดีเซล เทอร์โบ คอมมอนเรล นั้น บัดนี้ แผนดังกล่าว ถูกพับเก็บเข้าลิ้นชักไปเรียบร้อยแล้ว ไม่นับรวมรุ่นคูเป้ ที่จำหน่ายออกไปจนเหลือรถในสต็อกไม่กี่คันเท่านั้น ทั้งหมดนี้คือสถานการณ์
ของฮุนได ในเวลานี้ ต่อเนื่องจนถึงปีหน้า

-----------------------------------------

ISUZU
2009 : GOLD, PLATINUM & THEN...WHAT??
2010 : THE NEXT D-MAX "RT50 PROJECT" ?
2011 : ALL NEW RT50 SUV ( MU-7 REPLACEMENT)?

แม้จะเสียแชมป์ตลาดรถกระบะให้กับโตโยต้าไปแล้ว แต่ปีนี้ ด้วยเหตุที่ผู้บริโภคพากันผิดหวังว่า โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ ไมเนอร์เชนจ์ ปรับเปลี่ยนไม่เยอะ เลยหันกลับมาหา ดีแมกซ์รุ่น แพล็ตตินัม (เพิ่มอุปกรณ์พิเศษเล็กน้อย) ทำให้ยอดขายของ
รถกระบะอีซูซุ พุ่งขึ้นมาในช่วง 4 เดือนหลังของปีนี้ หลังจากที่ซบเซาอย่างหนักในช่วงที่ราคาน้ำมันดีเซล แพงเกินจริง อีกทั้งการกระตุ้นยอดขายด้วย รุ่น GOLD-SERIES ในช่วงต้นปี ตามด้วยรุ่น PLATINUM-SERIES ในช่วงเดือนกันยายน
ก็ช่วยให้โชว์รูมของอีซูซุยังพอมีลูกค้าเดินแวะเวียนเข้าไปใช้บริการกันบ้าง แม้ว่าลูกค้าจะหายในช่วง ราคาน้ำมันดีเซลแพงกระหน่ำ ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ไปหลายเดือนก็ตาม

แต่ปี 2009 คาดว่า อีซูซุ อาจจะต้องประคองตลาดของตน ด้วยรุ่นกระตุ้นตลาด อีกสักครั้งหนึ่ง ก่อนการมาถึงของ รุ่นเปลี่ยนโฉมโมเดลเชนจ์ สำหรับ ดีแมกซ์ รหัสโครงการ RT50 เพราะมิเช่นนั้น การลากทำตลาดดีแมกซ์รุ่นปัจจุบัน
โดยไม่มีการปรับโฉมอะไรเลย ในปีนี้ อาจจะถึงขั้นทรุดจนเข่าอ่อนได้ง่ายๆ แต่จะใช้ชื่ออะไรนั้น คงต้องดูกันต่อไป แต่คาดว่า ไม่พ้น ชื่อบัตรเครดิตอะไรสักอย่างอีกเป็นแน่...

ด้านโครงการ RT-50 ยังคงปิดเป็นความลับ และดูจะไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติมใดๆมากไปกว่าการที่อีซูซุ จะยังพัฒนารถกระบะรุ่นใหม่นี้ต่อไป โดยอาศัยความร่วมมือจากจีเอ็มเช่นเคย แต่คงจะลดการพึ่งพากันให้น้อยลง หลังจากที่ จีเอ็ม ถอนหุ้น
ออกจากอีซซุไปมากแล้ว ดังนั้น ฐานการพัฒนาหลัก จึงยังคงอยู่ในประเทศญี่ปุ่น และไทย เบื้องต้นนั้น RT50 จะใช้โครงสร้างวิศวกรรมร่วมกับ รถกระบะรุ่นใหม่ของเชฟโรเลต จากโครงการ GMI700 แต่ปรับปรุงจุดด้อยต่างๆ ให้มากที่สุด
เท่าที่จะทำได้ อีกทั้งยังต้องเพิ่ม บานแค็บเปิดได้ ตามเสียงเรียกร้องของลูกค้า ขณะที่เครื่องยนต์ จะถูกปรับปรุงใหม่ บนพื้นฐานของเครื่องยนต์เดิมที่ออกขายกันอยู่แล้ว ทั้ง 2,500 และ 3,000 ซีซี

กำหนดคลอดอย่างเป็นทางการนั้น เดิมที จะเริ่มขึ้นสายการผลิตจริง SOP (START ON PRODUCTION) ในเดือนมกราคม 2010 แต่ด้วยเหตุที่กระแสข่าวว่ามีซัพพลายเออร์บางราย รับแจ้งการเลื่อนคำสั่งซื้อ อย่างไม่มีกำหนด ทำให้เราต้อง
จับตาดูว่า โครงการนี้จะถูกเลื่อนออกไปอีกนานแค่ไหน หรือว่าจะยังเดินหน้ากันต่อไปตามแผนเดิม ซึ่งความเป็นไปได้ น่าจะเป็นประการหลังมากกว่า แต่ที่แน่ๆ อีซูซุ จะเปิดตัวก่อนหน้าเวอร์ชันของ เชฟโรเลต โคโลราโด GMI 700 แน่นอน

ส่วนเวอร์ชันเอสยูวี หรือรุ่นเปลี่ยนโฉมของ มิว-7 นั้น จะถูกสร้างขึ้นบนโครงสร้างพื้นฐานของ ดีแมกซ์ใหม่ RT-50 ตามกำหนดการเดิม ถูกวางไว้ให้ขึ้นสายการผลิตจริง ในเดือนมกราคม 2011

-----------------------------------------

JAGUAR
รอดู XF-R

การถูกซื้อกิจการจากอ้อมอกของฟอร์ด ผู้ร้อนเงิน ไปอยู่ในเครือของ ทาทา มอเตอร์ ร่วมกับแลนด์โรเวอร์ คือข่าวใหญ่ของแจกัวร์ ในต่างแดน ช่วงเดือนมีนาคมที่แล้ว แต่การเปิดตัว XF ซีดานใหม่ กลางสยามพารากอน คือไฮไลต์ สำคัญของ แจกัวร์
ในเมืองไทย จัดงานได้อลังการไม่เบาเลยทีเดียว แถมค่าตัวก็อลังการไม่แพ้กัน คือว่ากันที่ 6.2 ล้านบาทขึ้นไป แต่ใช้วัสดุในห้องโดยสาร เกรดเดียวกับ วอลโว S80 อดีตเพื่อนพ้องร่วมสำนัก แต่ในปีนี้ AAS ในฐานะผู้นำเข้ายนตรกรรมระดับพรีเมียม
วางแผนจะนำเข้า XF-R เวอร์ชันสุดฮ็อต ของ XF มาให้ได้สัมผัสกันในราคาที่คาดว่าไกลเกินเอื้อมอีกแน่นอน

------------------------------------------

KIA / NAZA
เมื่อมี FORZA แล้ว ECO CAR ก็หมดความหมาย

การเปิดตัว นาซา ฟอร์ซา ซึ่งยนตรกิจอ้างว่า เป็นรถยนต์มาเลเซีย ทั้งที่แท้จริง เป็นรถยนต์จากจีน ยี่ห้อ ฮาเฟ่ย โลโบ้ ราคึาเริ่มต้น 389,000 บาท ดูจะเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญรายการเดียวในปีที่ผ่านมา เพราะนอกนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูจะเงียบ
สำหรับ เกีย ในเครือของยนตรกิจ นอกนั้น อย่าคาดหวังว่าจะเห็นรถยนต์รุ่นใหม่จากเกียกันได้ง่ายดายเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป มีเพียง K2700 รถกระบะส่งของ ที่ยังคงพอจะมียอดขายเข้ามาบ้าง ไม่มากนัก ที่เหลือ ทั้งโซเร็นโต แกรนด์ คาร์นีวัล
ก็ยังคงทำตลาดต่อไปเรื่อยๆ ไม่หวือหวา

------------------------------------------

LAMBORGHINI & LOTUS (BY NICHE CAR)
LP560-4 SPYDER และ EVOLA น่าจะมา

ค่ายกระทิงดุ ภายใต้การทำตลาดของ NICHE CAR รวมทั้งผู้นำเข้ารายย่อยอีกมากมาย กลับมาได้รับความนิยมในหมู่นักเลงรถไฮโซชาวไทยอีกครั้งหลังจากที่ รถสปอร์ตรุ่นใหม่ๆ เริ่มทะยอยเข้ามา พร้อมกับสมรรถนะที่จัดจ้าน และคุณภาพ
การประกอบที่ดีขึ้นผิดหูผิดตาจากเดิม ทั้งมรูธิเอร์ลาโก และกัลญาร์โด และจะว่าไปแล้ว เกือบจะทุกรุ่น ก็ถูกนำเข้ามาทำตลาดในบ้านเราเกือบหมด (ยกเว้น REVENTON เพราะทำออกมาแค่ 20 คัน
ได้รับคำขอบคุณจาก: Lee_ES_turbo  Khao_Kee  PongpanG  Start17  monkey-es  tokykung  kaisuh 
coromant


เข้าร่วม: 09 ตุลา 2008
ตอบ: 5132

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 6854
ให้คำขอบคุณ: 719
อาทิตย์, 3 พฤษภาคม 2009 13:00 - เอามาฝาก ตัวหนังสือเยอะดีเผื่อมีคนอ่านจบ
ข้อมูลเยอะดีครับ
Lee_ES_turbo


เข้าร่วม: 02 ตุลา 2008
ตอบ: 4446

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 8088
ให้คำขอบคุณ: 5249

ปี: 2004
อาทิตย์, 3 พฤษภาคม 2009 13:14 - เอามาฝาก ตัวหนังสือเยอะดีเผื่อมีคนอ่านจบ
ใช้เวลานานมาก แต่มีความรู้นะ
Kaka '


ชื่อเล่น: กล้า

เข้าร่วม: 11 ตุลา 2008
ตอบ: 1138

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 871
ให้คำขอบคุณ: 551

ที่อยู่: ยุดยา - สะพานควาย - พระราม4
ปี: 2004
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
อาทิตย์, 3 พฤษภาคม 2009 13:23 - เอามาฝาก ตัวหนังสือเยอะดีเผื่อมีคนอ่านจบ
ตาลาย -
Start17


ชื่อเล่น: สตาร์ท

เข้าร่วม: 26 มีนา 2009
ตอบ: 273

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 279
ให้คำขอบคุณ: 360

ที่อยู่: วัดพระศรี บางเขน
ปี: 2002
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 4 พฤษภาคม 2009 06:20 - เอามาฝาก ตัวหนังสือเยอะดีเผื่อมีคนอ่านจบ
ยาวโครตคับ

เลยอ่านแต่ของ HONDA

:P
black_boy


ชื่อเล่น: โบ๊ต

เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 2031

นายทะเบียน
นายทะเบียน

ได้รับคำขอบคุณ: 1969
ให้คำขอบคุณ: 706

ที่อยู่: ES อยู่ไหน ก็ที่นั่นแหล่ะ ที่อยู่ผม
ปี: 2005
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 4 พฤษภาคม 2009 10:52 - เอามาฝาก ตัวหนังสือเยอะดีเผื่อมีคนอ่านจบ
อ่านไม่จบ
สงสัยกว่าจะจบเป็นเดือนแน่เลย

ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ
แน่น+เยอะของจริง
Hellbz


ชื่อเล่น: รุจ

เข้าร่วม: 10 กุมภา 2009
ตอบ: 860

Guru ES
Guru ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1016
ให้คำขอบคุณ: 94

ที่อยู่: บางนา
ปี: 2003
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 4 พฤษภาคม 2009 11:43 - เอามาฝาก ตัวหนังสือเยอะดีเผื่อมีคนอ่านจบ
เข้ามาแล้วหาฮอนด้าก่อนเลย

อิอิ
pawancompany


ชื่อเล่น: ต้น

เข้าร่วม: 06 ตุลา 2008
ตอบ: 376

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 31
ให้คำขอบคุณ: 27

ที่อยู่: จรัญสนิทวงศ์ 27
ปี: 2001
จันทร์, 4 พฤษภาคม 2009 16:57 - เอามาฝาก ตัวหนังสือเยอะดีเผื่อมีคนอ่านจบ
รอ civic model ต่อไป ...
kaisuh


ชื่อเล่น: ปอปลา

เข้าร่วม: 17 ตุลา 2008
ตอบ: 2822

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1703
ให้คำขอบคุณ: 8904

ที่อยู่: ตูริน
ปี: 2003
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
จันทร์, 4 พฤษภาคม 2009 17:08 - เอามาฝาก ตัวหนังสือเยอะดีเผื่อมีคนอ่านจบ
เยอะจิงอ่ะ
ขอบคุณครับ
ตอบ
หน้า 1 จาก 1
ไปที่: 
ติดต่อโฆษณา admin@civicesgroup.com
Copyright © 2008-2025 Civic ES Group. All rights reserved.