ถ้า ซ้ำหรือเคยอ่านแล้วขออภัยนะครับ
มีเศรษฐีคนหนึ่งรวยมาก แต่ก็ยังไม่มีภรรยาเป็นตัวเป็นตน เนื่องจากเขาได้ตั้งข้อกำหนดเอาไว้ว่า หญิงใดที่จะมาเป็นภรรยาของเขา จะต้องมีเส้นผมและขนทุกเส้นในร่างกายเป็นสีทอง
หลังค้นหามานานจนแก่ก็ยังไม่พบหญิงสาวที่ว่า จึงตัดสินป่าวประกาศหาหญิงสาวที่มีลักษณะดังกล่าว ทันใดนั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งฉุกคิดขึ้นมาได้ จึงลงทุนไปย้อมผมและเส้นขนทุกเส้นให้เป็นสีทองทั้งตัว ก่อนมาสมัคร เมื่อเศรษฐีเห็นเข้าก็หลงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง จึงตกลงแต่งงานด้วย แต่จากนั้นไม่นานผมและขนที่เป็นสีทองก็เริ่มกลายเป็นสีดำดังเดิม เศรษฐีก็เลยรู้ตัวว่าตัวเองโดนหลอก จึงตัดสินใจไปฟ้องร้องกับท่านเปาบุ้นจิ้นให้ช่วยตัดสินให้หน่อย
เมื่อท่านเปาทราบเรื่องจึงได้นัดทั้งคู่ให้มาพบกันที่ศาล แต่เมื่อท่านเปาขึ้นบัลลังก์ หญิงสาวก็เอาไข่ไก่ที่แอบซ่อนเอาไว้ปาเข้าไปเต็มเบ้าตาท่านเปา ท่านเปาเห็นแล้วรู้สึกเสียหน้าอย่างมากจึงสั่งให้หวังเฉาและหม่าฮั่นปิดศาล แล้วนัดทั้งคู่มาใหม่ในวันรุ่งขึ้น
รุ่งขึ้น ท่านเปาก็ขึ้นบัลลังก์พร้อมตาที่เขียวช้ำ ก่อนจะเริ่มสอบสวนหญิงสาว
ท่านเปา : จริงหรือเปล่าที่เจ้าไปหลอกเศรษฐีสามีของเจ้า
สาว : ไม่จริงเจ้าค่ะ ข้าน้อยไม่ได้หลอกเค้าเลยเจ้าค่ะ
ท่านเปา : บังอาจ ก็เส้นขนของเจ้ามันเป็นสีดำ ทั้งๆ ที่ก่อนแต่งเป็นสีทอง อย่างนี้จะไม่เรียกว่าหลอกลวงอีกเหรอ
สาว : ข้าน้อยไม่ได้หลอกนะเจ้าคะ
ท่านเปา : เจ้ามีหลักฐานอะไรที่บอกว่าไม่ได้หลอก
สาว : ก็ท่านยังไงล่ะคะ
ท่านเปา : ข้าไปเกี่ยวอะไรด้วย
สาว : ก็ท่านลองคิดดูสิ ขนาดท่านถูกไข่แค่ใบเดียวปาเบ้าตา ยังเขียวช้ำขนาดนั้น แล้วข้าน้อยล่ะ โดนกระแทกทุกวัน แถมยังโดนครั้งละ 2 ใบ เส้นผมกับขนของข้าน้อยมันก็ต้องเปลี่ยนเป็นช้ำและกลายเป็นสีดำ เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอเจ้าคะ!!
..................................................................................
ชายหนุ่มคนหนึ่งขับเฟอร์รารี่ คันโปรด ออกไปกินก๋วยเตี๋ยว ระหว่างก็ทาง เห็นแปะคนหนึ่งที่รู้จักกันกำลังเข็นซาเล้งอยู่ เลยจอดรถลงไปทัก
หนุ่ม : อ้าว แปะะะะ….. มาเข็น ซาเล้งอยู่ทำไมน่ะ ทำไมไม่ถีบล่ะ ไม่เหนื่อยแย่เหรอ?
แปะ : จะถีบล่ายงายล่ะไอ้หนุ่ม ก็โซ่มังขาก หล่งท่อลาบายน้ำไปเลี้ยว ถีบม่ายล่ายเลยต้องเข็น ว่ะ
หนุ่ม : โหย แล้วอย่างนี้เมื่อไรจะถึงล่ะ เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวผมช่วยลากให้ก็แล้วกัน
แปะ : บ๊ะ จายลีจริงๆ เลยพ่อหนุ่ม
พูดจบแกก็เลยเอาเชือกผูกซาเล้งเข้ากับท้ายรถเฟอร์รารี่ เมื่อผูกเสร็จชายหนุ่มก็บอกว่า
หนุ่ม : เดี๋ยวผมจะลากไปช้าๆ ละกันนะครับลุง ถ้าเร็วไป ลุงก็บีบแตรยางของลุงเลยนะครับ หรือไม่ก็ตะโกนบอลผมก็ได้
แปะ : โอเชเลยพ่อหนุ่ม
ว่าแล้วพี่แกก็ขับ เฟอร์รารี่ ลาก ซาเล้ง ไปตามถนน แต่ขณะที่จอดรถรอไฟแดงที่แยกหนึ่ง ก็มีรถแลมโบกินี่คันหรูมาจอดเทียบ แถมยังเผายางโชว์ แล้วเบิ้ลเครื่อง บรื้นๆในเชิงท้าทาย ก่อนจะหันมายักคิ้วใส่ เจออย่างนี้เข้า คนแรงอย่างเขาจึงไม่ยอมง่ายๆ
พอไฟเขียวปั๊บทั้งคู่ก็ตบเกียร์เร่งรอบพุ่งทะยานไปด้วยความเร็วแล้วเลี้ยวขึ้นโทลเวย์ไป ขณะเดียวกัน ตำรวจที่ส่องเรด้าจับความเร็ว เห็นทั้งคู่วิ่งผ่านไปก็เลยวอบอกด่านข้างหน้าให้สกัดจับ
ตำรวจ : "ด่าน 17 วอ.2 เปลี่ยน…ตอนนี้มี เฟอร์รารี่ สีแดง อยู่เลนขวาสุด กับแลมโบกินี่สีเหลืองอยู่เลนกลาง ขับแข่งคู่กันไป วัดความเร็วได้ไม่ต่ำกว่า 180 เลยนะ รีบดักจับด่วน!! แต่เอ๊ะ รู้สึกว่าจะมีตาแปะแก่ๆ คนนึงบรรทุกของเต็มกระบะหน้า กำลังปั่นจี้ตูดเฟอร์รารี่มาด้วย แถมบีบแตรเสียงดังและร้องโวยวายด้วย สงสัยมีจะปั่นแซงเฟอร์รารี่หว่ะ "