( รับทราบเพื่อเป็นข้อมูลครับ ในเชิงกฎหมายผู้เขียนยังไม่บอกรายละเอียดมาก ถ้าผู้รู้มีความรู้มากกว่านี้ช่วยแนะนำครับ )

ความรู้กฎหมาย
ถ้าหากเราเกิดรถหาย/หรือถูกทุบในห้างสรรพสินค้า
เมื่อทำอย่างที่แนะนำนี้ จะไม่สูญเปล่า

ข้อมูล/ข้อแนะนำนี้ถูกต้อง มีฏีกาออกมาแล้ว แม้ว่า
ห้างหรือโรงแรมจะเขียนข้อฏิเสธ ไม่รับผิดชอบไว้ก็ตาม
ห้างและโรงแรม ก็ต้องรับผิดชดใช้ตามหลักกฏหมายรับฝากทรัพย์
ตามประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ ท่านสังเกตดู ซักประมาณสองปีที่ผ่านมา
ห้างโลตัสแถวบ้าน (บางกะปิ) ไม่ยอมให้บัตรอะไรเลย *

บอกต่อกันเยอะๆครับ เผื่อกรณีเป็นคนรู้จักกัน..
สำหรับที่โดนทางห้างไม่รับผิดชอบ
ประกันบอกมีคดีแบบนี้เป็นพันๆคดีครับ
จอดรถโดนทุบโดนชนในห้างไม่รับผิดชอบ
อย่าลืมเก็บใบเสร็จไว้ฟ้องร้องผ่าน สคบ ครับ

ฟิวเจอร์รังสิตมีบ่อยมากครับ แล้วชอบบอกไม่รับผิดชอบ *

เรื่องการฟ้องร้องของผู้บริโภคว่าเป็นยังไงบ้าง.... *

ถ้าหากเราเกิดรถหาย/ถูกทุบในห้างสรรพสินค้า *.....
ต้องเข้าไปซื้อของในห้างและเก็บใบเสร็จไว้เป็นหลักฐานว่าเราเป็นลูกค้ามาใช้
บริการของห้างฯ
ถ้ารถหายก่อน ก็วิ่งเข้าไปซื้อของ แล้วก็เก็บใบเสร็จไว้
แนะนำว่าควรเป็นการซื้อในห้างโดยตรง
ไม่ใช่ร้านค้าที่มาเช่าพื้นที่เพื่อความชัดเจน แน่นอนของหลักฐาน *

ถ้าหากเราเกิดรถหาย/ถูกทุบในโรงแรม *.... เราต้องเช็คอินเข้าพักในโรงแรม
ถึงจะถือได้ว่าเป็นลูกค้าของโรงแรมอย่างชัดเจน....แล้วก็เก็บหลักฐานใบเสร็จ
รับเงินการเข้าพักโรงแรมเอาไว้ *

แล้วก็ฟ้องร้องผ่านสคบ. ไม่ว่าห้าง/โรงแรม จะให้บัตรจอดรถหรือไม่
หรือเขียนไว้ว่าไม่รับผิดชอบ

ทุกคดีที่มีหลักฐานชัดเจนอย่างข้างบนจะชนะหมด *



พี่ๆที่ทำงานส่งเมลล์มาให้ครับ เห็นว่าดี เลยนำมาฝากเพื่อนๆทุกคน

กรณี ที่มีบัตรจอดรถ แล้วรถหาย ผมว่ายังโอเคนะ ไปซื้อของในห้าง แล้วเอาใบเสร็จกับบัตรจอดรถ ว่า เป็นลูกค้าจริง ยังพอได้อยู่

แต่ถ้า ไม่มีบัตรจอดรถ ไปยืนยันหรือเอาบัตรจอดทิ้งไว้ในรถ แล้วรถหาย นี่สิผมว่ายากนะครับ เอาใบเสร็จจากห้างไปยืนยันอย่างเดียว ผมว่า ไม่พอนะ

อาจมีคนหัวหมอ รถหายที่อื่น แล้ว ไปซื้อของในห้าง แล้วบอกว่าเป็นลูกค้าห้าง ฟังไม่ขึ้นนะ

ได้ความรู้ที่ดีคับ แต่สงสัยคดีจะยาวนาน

ถ้าที่จอดรถที่ไหนเก็บเงินนะครับ จะเป็นกรณีฝากทรัพย์แบบมีบำเหน็จค่าฝาก
ผู้รับฝากจำต้องใช้ความระมัดระวังและใช้ฝีมือเพื่อสงวนทรัพย์สินนั้นเช่นวิญญูชนพึงปฏิบัติ
รวมไปถึงต้องใช้ฝีมือหรือในที่นี้หมายถึงการดูแลรักษาทรัพย์ที่ฝากตามสมควรด้วยครับ

จะต่างกันกับกรณีรับฝากไม่เก็บเงิน (แบบไม่มีบำเหน็จ) ผู้รับฝากพึงระวังสงวนทรัพย์สินที่รับฝากไว้
เพียงเสมือนเช่นที่ตนปฏิบัติในกิจการของตน(ใช้ความระมัดระวังน้อยกว่ากรณีเก็บเงิน)

ข้างต้นนี้มาจากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๙
ซึ่งฎีกาของเจ้าของกระทูข้างต้น ถือเป็นฏีกาบรรทัดฐาน ที่ว่า กรณีที่จอดรถของห้างสรรพสินค้าใดที่เก็บเงินค่าที่จอดรถ
ถือเป็นการรับฝากทรัพย์แบบมีบำเหน็จค่าฝาก ผู้รับฝาก(ห้าง)มีหน้าที่ต้องดูแลรักษาทรัพย์(ในที่นี้คือรถและทรัพย์สินในรถ)
ด้วยความระมัดระวังเสมือนท่านปฏิบัติกับรถของท่านเอง เมื่อมีการลักทรัพย์เกิดขึ้น ถือว่าผู้รับฝาก(ห้าง)ไม่ทำหน้าที่ตามสัญญารับฝากทรัพย์ นอกจากเป็นกรณีผิดสัญญาแล้ว ยังถือเป็นละเมิด ที่เจ้าของทรัพย์สามารถเรียกร้องผู้รับฝากให้ชำระค่าเสียหายตามที่ตนเสียหายจริงได้ (คุ้นๆว่าเคยมีฎีการถหายในห้างที่เก็บตังค์ ห้างต้องใช้เงินตามราคาตลาดของรถให้แก่เจ้าของรถเลย)

ดังนั้น เดี๋ยวนี้พวกห้างที่ต้องใช้พื้นที่จอดรถมาก ๆ (ส่วนใหญจะไม่มีอาคารจอดรถ)เช่น ห้างโลตัสหรือบิ๊กซี จึงไม่เก็บเงินด้วยเหตุผลดังกล่าวครับ
ผิดพลาดอย่างไรรอผู้รูเก้ไขอีกทีนะครับ

เพิ่มเติมอีกนิดครับ

กรณีจะถือเป็นรับฝากทรัพย์แบบมีบำเหน็จนั้น ส่วนใหญ่แล้วฎีกาจะกล่าวถึงกรณีที่เราฝากกุญแจไว้กับผู้รับฝากนะครับ
แต่กรณีรับบัตรจอดรถเข้าห้างแล้วค่อยจ่ายเงินตนคืนบัตรนั้น
มีฎีกาเป็นกรณีฟ้องละเมิด ด้วยการฟ้องรปภ. บริษัทรปภ. และห้างในฐานะนายจ้าง
ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วเห็นว่า ที่ห้างเลิกเก็บค่าที่จอดรถ รวมถึงเลิกจ่ายบัตรเพราะเหตุตามฎีกานี้ครับ
ขออนุญาตลงแบบย่อนะครับ มันยาวมาก
ฎีกาที่๕๓๙๘/๒๕๓๘
"จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ยืนเก็บเงิน ออกบัตร จดทะเบียนรถลงในบัตรและตรวจบัตรขณะที่รถยนต์ออกจากลานจอดรถ
อยู่ที่คอกกั้นตรงทางเข้าออกลานจอดรถ หน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 จึงเกี่ยวกับการป้องกัน
ไม่ให้ผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของรถนำรถออกไปจากลานจอดรถหรือป้องกันการโจรกรรมรถยนต์โดยตรง
เมื่อทางเข้าออกลานจอดรถมีอยู่ทางเดียว หากจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ซึ่งอยู่ที่คอกกั้นตรวจบัตรอย่างเคร่งครัด
ก็ยากที่รถยนต์ของโจทก์จะถูกลักไปได้
การที่รถยนต์ของโจทก์สูญหายไปจึงเนื่องจากจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ไม่ระมัดระวังตรวจบัตรจอดรถโดยเคร่งครัด
อันเป็นการงดเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อป้องกันการ โจรกรรมรถยนต์ เป็นผลโดยตรงทำให้รถยนต์ของโจทก์ถูกลักไป
และเป็นการประมาทเลินเล่อ จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420
จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4ต้องรับผิดต่อโจทก์
เมื่อจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 5 กระทำละเมิดในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 5
จำเลยที่ 5 ย่อมต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4ต่อโจทก์ด้วยตามมาตรา 425"

เข้าใจว่าจำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๔ เป็ยรปภ.และบริษัทรปภ.ครับ ส่วนจำเลยที่ ๕ เป็นศูนย์การค้า

เพื่อนผมรถโดนงัดโน๊ตบุ๊คหาย ได้แต่ไปแจ้งความไว้ที่สน.ครับ ขอดูกล้องวงจรปิดมันบอกดูไม่ได้ กล้องเสีย ห้างแถวหลักสี่

เก็บใบเสร็จไว้ด้วยนะครับ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ทิ้งได้เนอะ อย่าเก็บไว้เดี๋ยวเป็นหลักฐานล่ะ เดี๋ยวที่บ้านจะรู้