ตอบ
john


เข้าร่วม: 29 มีนา 2010
ตอบ: 570

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 3392
ให้คำขอบคุณ: 2458

ที่อยู่: UB.
ปี: 2002
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
พุธ, 19 มกรา 2011 14:52 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
1. รถของเรากับรถของเขาต่างขับขี่มาชนกัน

หรือที่เราเรียกกันตามภาษาชาวบ้านว่า ประสานงานหรือประสานงา แล้วแต่จะเรียก ซึ่งในลักษณะการชนแบบนี้ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีใครยอมรับว่าเป็นฝ่ายผิด ต่างก็อ้างว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ ดังนั้นจะต้องรอคอยให้ตำรวจมาดูสถานที่เกิดเหตุ และสอบสวนความจริงให้กระจ่างว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิดกันแน่ คำวินิจฉัยของตำรวจในกรณีเช่นนี้ ส่วนใหญ่ศาลจะเชื่อสำนวนคำให้การของเจ้าพนักงานตำรวจ เว้นแต่เราจะได้พิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าฝ่ายเราเป็นฝ่ายถูกหรือต่างฝ่ายต่างประมาททั้งคู่ ซึ่งก็มีเหมือนกันที่ศาลเห็นแย้งกับความเห็นของตำรวจ แต่ก็น้อยมาก ดังนั้น หากมีการเฉี่ยวชนกันในลักษณะนี้เกิดขึ้น เราต้องพยายามถ่ายรูปภาพสถานที่เกิดเหตุ ลักษณะการเฉี่ยวชนกันหรือทิศทางการหันหน้ารถหลังจากเกิดเหตุเป็นในลักษณะใด รอยเบรคเป็นอย่างไรยาวขนาดไหน เพื่อจะได้คำนวนความเร็วของรถก่อนจะชนได้ ถ่ายรูปให้มากที่สุดไม่ต้องกลัวฟิล์มเปลือง พร้อมทั้งพยายามที่จะวาดภาพแผนที่เกิดเหตุคร่าวๆไว้ด้วย เพื่อจะได้ทบทวนความจำในกรณีที่ต้องเบิกความในชั้นพิจารณาคดีของศาล หากตกลงกันไม่ได้ จะได้ไม่ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง และหากศาลเชื่อคำเบิกความของเราคดีของเราก็มีโอกาสชนะได้ เหตุที่ต้องถ่ายรูปภาพในลักษณะต่างๆก็เพราะว่า พยานหลักฐานบางอย่างอาจเปลี่ยนแปลงในภายหลังได้ แต่ภาพที่ปรากฏในรูปภาพขณะที่เกิดเหตุนั้น จะเป็นภาพสดๆที่เกิดขึ้น โดยจะไม่ใครสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงในภายหลังได้ หากมีผู้เห็นเหตุการณ์ก็ต้องจดชื่อที่อยู่พยานเก็บไว้ด้วย เพื่อเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายเรา หากต้องมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกันในภายหลัง เราจะได้มีพยานหลักฐานไว้สู้คดีกับอีกฝ่ายหนึ่งได้ ไงล่ะจ๊ะ
แต่ข้อสำคัญที่ต้องนึกคิดไว้เสมอว่า การชนกันดังกล่าวเกิดจากการชนกันในลักษณะอุบัติเหตุหรือไม่ เป็นการจงใจชนหรือไม่ และทุกครั้งที่เกิดการเฉี่ยวชนกัน ต้องระลึกเสมอว่า สิ่งแวดล้อมในบริเวณดังกล่าวเป็นสถานที่อย่างไร เปลี่ยวหรือไม่ และเกิดเหตุในเวลากลางวันหรือกลางคืน หากไม่แน่ใจให้รีบออกจากสถานที่เกิดเหตุโดยเร็ว และรีบไปแจ้งเหตุที่สถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด มีบางกรณีเช่นกันพอขับรถเฉี่ยวชนกันเสร็จแล้วตกใจ รีบหนีกลับไปตั้งหลักอยู่ที่บ้าน ซึ่งในกรณีเช่นนี้ ตามกฎหมายถือว่า ชนแล้วหนี และโดยกฎหมายให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ใดชนแล้วหนีถือว่าเป็นผู้ผิด แม้ว่าเราจะเป็นฝ่ายถูกก็ตาม แต่เมื่อกฎหมายสันนิษฐานว่าเป็นผู้ผิด โอกาสที่จะมาพิสูจน์ว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกก็ค่อนข้างยากมากๆ เพราะกฎหมายให้โอกาสแล้วแต่ไม่ปฏิบัติตาม เรียกได้ว่าตกใจจนเกินเหตุ ความซวยเลยมาเยือนโดยไม่ได้ตั้งใจ ฉะนี้แล…..
2.เรื่องของการเจรจาเรียกค่าเสียหาย
หลักของการเจรจาเรียกค่าเสียหายได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่าไว้ดังนี้ การเจรจาต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ หากไม่สามารถที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเราได้ ก็ควรที่จะให้บุคคลภายนอกที่เราเชื่อถือได้เป็นคนเจรจาเรื่องค่าเสียหายแทนเราจะเป็นการดีที่สุด เพราะหากเราไม่สามารถที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้แล้ว โอกาสเรื่องจะยืดยาวบานปลายย่อมมีมากขึ้น เราต้องใช้หลักว่า เรื่องที่เกิดขึ้นได้เกิดขึ้นมาแล้ว ไม่มีทางที่จะกลับเป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดได้ เพราะฉะนั้นเราต้องได้รับการชดเชยความเสียหายให้เร็วที่สุด หากการเจรจาเรื่องค่าเสียหายเป็นที่ยุติแล้ว ก็ให้รีบตกลงทำบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจโดยทันที เพื่อป้องกันการบิดพลิ้วในภายหลัง
และในการเจรจาเรื่องค่าเสียหายทุกครั้งพยายามที่จะไม่เจรจาอย่างคนรู้มาก ประเภทคนหัวหมอ เจ้าถ้อยหมอความ จะทำให้ตำรวจเจ้าของสำนวนมองไปว่าเราเป็นพวกเรื่องมาก ตำรวจก็จะไม่ช่วยเราเจรจาให้ เราก็ต้องใช้ความสามารถล้วนๆ ซึ่งก็ยากที่จะพูดอย่างไรให้เขาควักเงินขึ้นมาจ่ายให้เราได้ง่ายๆ เพราะเขาเองก็ย่อมได้รับความเสียหายเช่นกัน ดังนั้นการเจรจาพาทีก็ต้องอยู่ในเรื่องเหตุเรื่องผล เจรจาตามหลักความเป็นจริง ไม่เห็นแก่ได้ ไม่เอาเปรียบคู่กรณี และเจรจาด้วยจิตใจที่เป็นปกติ ประกอบกับเห็นใจเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกด้วยกัน ซึ่งการเจรจาด้วยดีเช่นนี้บางครั้งคู่กรณีอาจไม่เอาค่าเสียหายจากเราเลยก็มีเหมือนกัน เรียกตามภาษานักเลงว่า “ ขอกันกินมากกว่านี้ “ มีและมีแยะเสียด้วย อาจารย์เองก็เคยได้รับความกรุณาแบบนี้มาเหมือนกัน ประเภทขับขี่รถชนเขาแต่ไม่ต้องเสียตัง…..แฮ่ๆ สบายตัว
และหากการเจรจาในชั้นตำรวจไม่ประสบความสำเร็จ ก็ใช่ว่าจะหมดหนทางเสียทีเดียว เมื่อคดีความขึ้นสู่ศาลสถิตยุติธรรม ศาลก็จะไกล่เกลี่ยอีกชั้นหนึ่ง โดยศาลจะช่วยไกล่เกลี่ยก่อนการนำพยานเข้าสืบ และหากประสบความสำเร็จในขั้นตอนนี้ คู่ความทั้งสองฝ่ายก็ต้องทำสัญญาต่อหน้าศาล ซึ่งตามกฎหมายเรียกว่า การทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาล คดีก็จะเสร็จสิ้นได้เช่นกัน และในการดำเนินคดีในชั้นศาล ศาลจะส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งพร้อมทั้งได้แนบหนังสือขอไกล่เกลี่ยไปให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งด้วยสำหรับในคดีที่สามารถตกลงกันได้ หลายคดีก็เช่นกันที่ต่างคนต่างแรง พอเรื่องถึงศาล ศาลไกล่เกลี่ยแป๊บเดียว จบลงด้วยดีทั้งสองฝ่ายเลยก็มี เรียกได้ว่า “ แฮ๊ปปี้แอนดิ้ง ทูยู้ ทูยู ยู้ฮูๆ “
ทีนี้ หากกรณีที่ไม่สามารถที่จะตกลงกันได้แน่ๆ เพราะต่างฝ่ายต่างแรง ไม่ยอมลดราวาศอก เพราะถือดีว่ามีเงินที่จะเสียค่าทนาย ก็ขอเชิญเรียกใช้บริการได้ทุกตรอกซอกซอย เพราะว่ามีสำนักงานทนายความยุบยับเต็มไปหมดทุกหนทุกแห่ง แต่ละแห่งแต่ละที่ก็มีลีลาสีสันแตกต่างกันไปแล้วแต่บุคคลิกทนายแต่ละคน แต่ทนายความทุกคนต้องการเงินค่าทนายความทั้งนั้น ก็ขอเชิญท่านที่เคารพเตรียมตัวเตรียมใจเสียเงินตามความประสงค์ของท่านได้ตามใจปราถนา เพราะว่าของฟรีไม่มีในโลกว่าอย่างนั้นเถอะ เมื่อต้องมีการฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล ปัญหาต่อไปก็คือว่า จะเรียกค่าเสียหายอะไรกับฝ่ายที่ขับรถชนคนของเราหรือรถของเราได้บ้าง ตามกฎหมายก็ให้โอกาสเราที่จะเรียกค่าเสียหายได้ ดังต่อไปนี้ ถ้าต้องการ
1. ค่าชดใช้ทรัพย์สินโดยการคืนทรัพย์สินให้แก่เขา ในกรณีที่ทำทรัพย์สินของเขาเสียหาย ก็ต้องหาทรัพย์สินนั้นๆมาคืนให้แก่เขา ไปหามาคืนให้กับเขา….ซ๊ะ…ดีๆ
2. ใช้ราคาทรัพย์สิน ในกรณีที่ไม่สามารถคืนทรัพย์สินให้เขาได้ ก็ต้องชดใช้ราคาทรัพย์สินให้แก่เขา แต่ไม่ใช่อยากได้ก็เอาเงินไปไม่อยากหาคืนให้ เพราะขี้เกียจหา อย่างนี้กฎหมายบอกว่า นอกจากจะใช้ราคาให้แก่เขาแล้ว ก็ต้องใช้ราคาพร้อมทั้งดอกเบี้ยในราคานั้นๆด้วยนะจ๊ะ เรียกว่าอยู่ดีไม่ว่าดี เป็นหนี้โดยไม่ตั้งใจ อย่างนี้ต้องมีดอกเบี้ยพวงท้ายเป็นของแถมด้วย ซึ่งกว่าจะใช้หนี้หมด ก็หน้ามืดแล้วมืดอีกว่างั้นเถอะ
3. นอกจากข้อ 1. และข้อ 2. แล้ว กฎหมายยังบอกอีกว่า ผู้เสียหายสามารถเรียกค่าความเสียหายอย่างใดๆ ได้อีกตั้งหลายๆอย่าง เช่น รถถูกชนแล้วไม่มีรถใช้ ต้องเช่ารถคนอื่นมาใช้ อย่างนี้ เรียกค่าเสียหายได้ หรือในกรณีที่มีนักธุรกิจใหญ่ จะรีบไปประมูลงาน ปรากฏว่าถูกชนจนไม่สามารถไปประมูลงานทัน ต้องรับประทานแห้ว ทั้งๆที่ในซองประมูลได้งานแน่ๆเพราะประมูลต่ำกว่าผู้อื่นทั้งหมดอย่างนี้ ก็สามารถเรียกค่าเสียหายได้ เรียกว่าใครชนเข้าถึงกับสลบเหมือด ให้หนี้ 5 ชาติก็ยังไม่หมด หรืออีกหลายๆกรณีที่เกิดขึ้นจากการชนแล้วเกิดผลกระทบจนทำให้เกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากการชนกันครั้งนี้ เรียกค่าเสียหายได้หมด เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากยากจนด้วยความรวดเร็วล่ะก็ อย่าริอ่านซิ่งโดยไม่จำเป็นนะสหาย
4. กรณีทำให้เขาถึงตาย อย่างนี้เรียกว่า อภิมหาความซวย มาเยือนโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่เคยคิดแม้แต่น้อยนิดที่จะให้เกิดเรื่องขึ้นจริงๆเลย ใจเร็วไปนิดหน่อยแค่ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น คนถูกชนก็ช่างกระไรแค่ชนเบาๆนิดหน่อยเท่านั้น ถึงกับลิ้นแลบเชียวหรือ….. สำออยจริงๆ… หลายท่านคิดอย่างนี้ แต่ฝ่ายผู้เสียหายเขาไม่ได้คิดอย่างที่ท่านคิดเลย แม้แต่น้อย เขาคิดเยอะกว่าท่านมาก เขาคิดถึง ค่ารักษาพยาบาลก่อนตายเอย ค่าปลงศพเอย ค่าใช้จ่ายอื่นๆอันจำเป็นเอย ไหนจะค่าต้องขาดประโยชน์ทำมาหาได้เอย และถ้าเกิดคนตายมีภาระต้องเลี้ยงดู พ่อแม่ที่แก่ชรา ( แก่ทันทีที่ถูกชน ) ลูกอีก 3 เมียอีก 4 ซึ่งตามกฎหมายเรียกว่า ค่าขาดไร้อุปการะ โอ๊ย….จะบ้าตาย ไม่รู้ว่าจะเรียกร้องอะไรกันนักกันหนาก็ไม่รู้ เวลาเราชนเขาเราก็บ่นอย่างนี้แหละครับ แต่ถ้าเขาชนเราเมื่อไหร่ล่ะก็ นอกจากเรียกแบบนี้แล้ว ยังเรียกเพิ่มเข้าไปอีกเป็นกระตั๊กๆ ( ไม่รู้ว่าคิดได้อย่างไร ทนายบอกว่า…..คุณพี่กฎหมายไม่มีให้เรียกได้หรอกค่าเสียหายแบบนี้น่ะ……ก็ยังเถียงทนายคอเป็นเอ็นว่า ..มี….มีกฎหมายว่าไว้……..กฎหมายให้เรียกได้…เฮ้อ….เหนื่อย…..ทนายก็เลยไม่อยากเถียง…..รอรับเงินค่าทนายดีกว่า….สบายกว่ากันเยอะเลย… ) ที่ว่ามานี่ยังมีค่าเสียหายตามกฎหมายที่ยังสามารถให้ผู้เสียหายเรียกร้องได้อีก ยังไม่หมดนะครับ ยังเรียกได้อีกเยอะเลย เช่น ทำให้เขาเสียหายแก่ร่างกาย แขนหลุด ขาขาด ฟันกระเด็นไม่อยู่ในช่องปาก ลูกตาหลุดกระเด็นกระดอนเป็นลูกปิงปอง ไม่อยู่ในที่ที่ควรจะอยู่ หรืออวัยวะส่วนสำคัญที่สุดของความเป็นชายขาดหายไป หาไม่ได้อีกแล้ว ตัดโปะอย่างไรก็ไม่มีทางดีดังเดิมได้ ดังที่ยกตัวอย่างมานี้ ตามภาษากฎหมายเขาเรียกว่า ทำให้เขาเสียหายแก่ร่างกาย และยังมีความเสียหายที่ทำให้เขาเสียหายแก่ อนามัย หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว ไปไหนมาไหนก็อับอายขายหน้า เป็นไอ้หน้าบากไปตลอดทั้งชาติ อย่างนี้ เรียกได้หมด รวมทั้งค่าเสียความสามารถประกอบการงานสิ้นเชิง หรือเป็นบางส่วน ประเภทชั่วครั้งชั่วคราวในระหว่างพักรักษาตัว ขาดรายได้ไปเท่าไหร่ ก็เรียกค่าเสียหายได้กฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ หรือถ้าผู้ที่ถูกชนเป็นบุคคลสำคัญในครัวเรือนหรือในโรงงานอุตสาหกรรม ที่ต้องมีบุคคลคนๆนี้เท่านั้น ที่งานที่ครัวเรือนหรือที่โรงงานจะสามารถดำเนินงานหรือทำการต่อไปได้ แต่ถูกชนเสียลิ้นแล๊บ จนไม่สามารถทำการงานได้ ก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายในส่วนนี้ให้แก่บุคคลภายนอก ที่เขาต้องขาดแรงงานนั้นไปด้วย หรือทำให้เขาต้องเสียเสรีภาพ เช่น เลิกเรียนหรือเลิกทำงานแล้ว เขาก็อยากกลับบ้านพักผ่อน แต่เราไม่ให้เขากลับไปกักไปขังเขา ไปทำมิดีมิร้ายเขา โดยเขามิได้มีความพร้อมใจที่จะมีสัมพันธ์ด้วย หรือไม่เต็มใจไปด้วย อย่างนี้กฎหมายบอกว่าเรียกค่าเสียหายแก่ร่างกายได้ เพราะทำให้เขาต้องเสื่อมเสียเสรีภาพได้เช่นกัน หรือพอได้เขาแล้วก็เที่ยวไปป่าวประกาศให้หญิงต้องอับอายขายหน้าว่า “ คนนี้เหรอฉับๆ….มาแล้ว “ หญิงรู้เข้าก็อับอายขายหน้า ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ( ก็เอาไว้อยู่บนคอนั่นแหละ) อุตส่าห์ไม่เอาเรื่องแล้ว ยังปากเสียอีก อย่างนี้หญิงก็ฟ้องเรียกค่าเสียหายที่ ทำให้เขาเสียหายแก่ชื่อเสียง ได้ กฎหมายเขาก็มีไว้ให้ลงโทษบุคคลประเภทปากไม่สร้างสรรค์ไว้เหมือนกัน ครับ โดยเปิดช่องไว้เพื่อให้ผู้เสียหายสามารถเรียกค่าเสียหายแก่ชื่อเสียงได้ เห็นหรือยังครับว่า การเรียกร้องค่าเสียหายในผลแห่งการกระทำนั้น ทำได้ ตั้งหล้ายหลายอย่าง….จนจำไม่หวาดไม่ไหว (….เฮ้อ…บรรยายเรื่องรถชนกันดีๆ แท้ๆ กลับไปเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายไปได้ ……ขออภัยนะครับ...อาจารย์เผลอไปหน่อย….เพราะพูดเรื่องนี้ทีไร……ลมมันขึ้นทุกที…..ก็ถือว่าเป็นของแถมประดับความรู้ไปนะครับ ) เอาทีนี้มาว่ากันต่อไปนะครับ ทั้งหมดทั้งปวงที่อาจารย์สาธยายมานี้ก็คือ ค่าเสียหายที่เราสามารถเรียกร้องที่เราสามารถเรียกร้องได้ตามกฎหมาย ซึ่งเมื่อเราฟ้องศาลแล้ว ศาลท่านก็จะให้ความกรุณาเป็นพิเศษ แต่จะพิพากษาให้ตามควรแก่พฤติการณ์ และความร้ายแรงของความเสียหายเป็นรายกรณีๆไป ไม่ได้พิพากษาให้เราเต็มตามจำนวนทุนทรัพย์หรือความเสียหายที่เราเรียกมาในคำฟ้องหรอกครับ แต่ก็มีบางคดีเหมือนกันในคดีที่อาจารย์เคยฟ้องไปแล้วศาลพิพากษาให้เต็มตามที่ฟ้องเลยก็มี จนคู่กรณีต้องแอบมาติดต่อขอเจรจาหนี้นอกรอบไม่ยอมให้ทนายรู้ เพื่อขอลดยอดหนี้ชดใช้ค่าเสียหายให้กับฝ่ายผู้เสียหาย พอตกลงกันได้พร้อมทั้งจ่ายเงินจ่ายทองให้แก่กันและกันเรียบร้อย ไม่ยักกะนึกถึงทนาย พากันหายซับหายสอย ไม่มาขอบอกขอบใจทนายที่ช่วยให้คดีชนะ แถมไปไม่ไปเปล่านะครับ ยังอุตส่าห์เอาค่าทนายส่วนที่เหลือไปด้วย…ทนายก็รอแล้วรอเล่า…รอให้มาขอบอกขอบใจ...จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่มาขอบใจ…..เฮ้อ….คนไม่มีน้ำใจ…….คนใจดำ……
ทีนี้เมื่อเราต้องเลือกที่จะต้องดำเนินคดีในการเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหาย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ขอให้จดจำ อายุความ ในการดำเนินคดีด้วยนะครับว่า สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายนั้น ขาดอายุความเมื่อพ้น ปีหนึ่ง นับแต่วันที่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะต้องใช้ค่าเสียหาย กฎหมายว่าไว้อย่างนั้น เพราะฉะนั้น ถ้าจะฟ้องร้องดำเนินคดีก็ต้องฟ้องร้องเสียก่อนพ้นปีหนึ่ง นับแต่วันเกิดเหตุ แต่บางครั้ง เมื่อความผิดเกิดแล้ว ก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ เพราะพอเกิดเรื่อง มันก็หายตัวไปเลย….เผ่นแนบ……ไม่เห็นหน้าค่าตาว่าเป็นผู้ใด….หล่อเหลาเอาการขนาดไหน คงจะคิดในใจว่า หลังจากหนึ่งปีไปแล้วค่อยย้อนกลับมาปรากฏกาย เพราะว่าคดีขาดอายุความแล้ว ไม่สามารถฟ้องร้องมันได้ ตอนนี้ขอหนีไปตั้งหลักก่อนอย่างนี้ ก็ต้องบอกกับมันว่า เสียใจด้วยนะไอ้หนู กฎหมายบอกว่า 1 ปีนั้นหมายความว่า นับแต่วันเกิดเหตุและรู้ตัวผู้ต้องชดใช้เท่านั้น แต่ในกรณีที่ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ กฎหมายบอกไว้ในตอนท้ายว่า 10 ปี นะจ๊ะอย่าลืม ประเภทฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับไปกระเดียด พอจับได้ก็เถียงคอเป็นเอ็นว่า ….. ฟ้องได้ไง…ฟ้องได้ไงคดีขาดอายุความแล้ว….. อย่างนี้ต้องฟ้องให้เข็ด เพราะอายุความ 10 ปี ไม่ใช่ 1 ปี นะจ๊ะ เพราะฉะนั้นจ่ายค่าเสียหายมาซะดีๆ ไม่มีทางรอด ว่าอย่างนั้นเถอะ…..สมน้ำหน้า หัวหมอเจอ….หัวบัณฑิตราชภัฎบ้าง……. ใครจะแน่กว่ากัน……ขอบอก… เรื่องการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ถ้าจะบรรยายจริงๆแล้ว สามวันสี่คืนก็ไม่หมด ในชั้นนี้เอาแค่นี้ก่อนนะจ๊ะ เอาเรื่องที่น่าจะรู้เรื่องต่อไปบ้าง เป็นเรื่องที่ฝ่ายได้ที่รับความเสียหาย ได้รับโชค แต่ไม่ได้รับรางวัล เพราะว่าบุญมีที่เรามาพบกัน แต่กรรมมาบังเพราะฐานันดร์ศักดิ์มันต่างกัน


แก้ไขล่าสุดโดย เมื่อ เสาร์, 22 มกรา 2011 06:04, ทั้งหมด 1 ครั้ง (ดูทั้งหมด)
maxch


เข้าร่วม: 13 สิงหา 2009
ตอบ: 2190

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1513
ให้คำขอบคุณ: 2530

ที่อยู่: อยุธยา-สระบุรี
ปี: 2003
พุธ, 19 มกรา 2011 17:03 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
ความรู้ดีๆทั้งนั้น
botanidtar


ชื่อเล่น: โบตั๋น

เข้าร่วม: 04 มกรา 2011
ตอบ: 182

มือใหม่หัดขับ
มือใหม่หัดขับ

ได้รับคำขอบคุณ: 303
ให้คำขอบคุณ: 276

ที่อยู่: สวนหลวง
ปี: 2004
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
พุธ, 19 มกรา 2011 17:46 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
โอวววว ตาลายยยยย


ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลดี ๆ
tigerchamp


ชื่อเล่น: แชมป์

เข้าร่วม: 04 กันยา 2010
ตอบ: 334

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 250
ให้คำขอบคุณ: 1558

ปี: 2001
สี: เทา ซิกเน็ต (เมทัลลิก) (RP-31M)
พุธ, 19 มกรา 2011 17:48 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
ดีดีทั้งน้านนนนน
inspire


เข้าร่วม: 30 พฤศจิกา 2009
ตอบ: 258

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 189
ให้คำขอบคุณ: 98

ที่อยู่: บางนา
ปี: 2005
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
พุธ, 19 มกรา 2011 20:51 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
ขอบคุณครับ ยาวไปหน่อยแต่อ่านสนุกดี
Gremlin


ชื่อเล่น: ออมสิน

เข้าร่วม: 18 ตุลา 2010
ตอบ: 235

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 416
ให้คำขอบคุณ: 1624

ที่อยู่: เขตบางแค กทม.
ปี: 2005
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
พฤหัส, 20 มกรา 2011 00:05 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ คิดว่าอาจจะต้องใช้ขึ้นศาลเร็ว ๆนี้...

กำลังรอพยานอีกปากนึงไปให้การกับตำรวจ....

เพราะรถบรรทุกปาดหน้าเรา แต่มันใส่ร้ายว่าเราขับกินเลนไปชนมัน (เลวมาก ๆ)

สงสัยคงอีกนานกว่าจะหมดเรื่อง ป่านนี้รถก็ยังไม่เสร็จเลย อู่บอกว่าจะได้รถประมาณปลายกุมภา..
nicksainak


เข้าร่วม: 18 สิงหา 2010
ตอบ: 516

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 544
ให้คำขอบคุณ: 371

ที่อยู่: หนองแขม - ม.เกษตร
ปี: 2004
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
พฤหัส, 20 มกรา 2011 00:39 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
จำ จำ จำ จำ
pandaman


ชื่อเล่น: เต้

เข้าร่วม: 12 สิงหา 2010
ตอบ: 279

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 311
ให้คำขอบคุณ: 822

ที่อยู่: ดอนเมือง
ปี: 2005
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
พฤหัส, 20 มกรา 2011 00:54 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
กว่าจะอ่านจบนี่มึนเลย แต่ก็ได้ความรู้มาเยอะเหมือนกัน
john


เข้าร่วม: 29 มีนา 2010
ตอบ: 570

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 3392
ให้คำขอบคุณ: 2458

ที่อยู่: UB.
ปี: 2002
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
พฤหัส, 20 มกรา 2011 06:09 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
Gremlin พิมพ์ว่า:
ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ คิดว่าอาจจะต้องใช้ขึ้นศาลเร็ว ๆนี้...

กำลังรอพยานอีกปากนึงไปให้การกับตำรวจ....

เพราะรถบรรทุกปาดหน้าเรา แต่มันใส่ร้ายว่าเราขับกินเลนไปชนมัน (เลวมาก ๆ)

สงสัยคงอีกนานกว่าจะหมดเรื่อง ป่านนี้รถก็ยังไม่เสร็จเลย อู่บอกว่าจะได้รถประมาณปลายกุมภา..
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ อย่างน้อยเราปลอดภัยดีที่สุดแล้ว และมีอีกอย่างครับ ถ้าเรามีกรณีฟ้องร้องค่าเสียหายอะไรต่างๆที่ค่าเสียไม่เกิน 100000 บาท นั้น เขาเรียกว่า คดีมะโนสาเร่ ก็คือคดีปัญหาโลกแตก ไม่จำเป็นต้องไปจ้างทนายครับ น้องชายผมบอก(ตำแหน่งสูงสุดทางกฎหมาย) เราเป็นทนายตัวเองเลย ให้เดินไปที่ศาลแล้วบอกว่าเราจะมาแจ้งความดำเนินคดี จะมีจนท.แนะนำการเขียนฟ้องเอง น้องผมบอกว่าเขียนง่ายเหมือนเราเขียนจดหมายลาครูเอง ให้ได้ใจความก็พอ ทนายความเขาก็มีหน้าที่ไปคัดสำเนาทะเบียนบ้านและให้คำปรึกษาเล็กน้อย หรือทำเอกสารเล็กน้อย ค่าทนายก็เริ่มประมาณ 3xxx,ถึง 1xxxx ฉะนั้นไม่ต้องกลัวครับขึ้นศาลถ้าเราบริสุทธิ์ถูกต้อง น้องผมยกตัวอย่าง เคยมีคนไปฟ้องเรียกค่าเสียหายจากร้านคาร์แคร์ ที่ล้างรถให้ แล้วทำให้สีรถด่างไปทั้งคัน เขาก็เดินมาศาลฟ้องเองเลย เขียนสำนวนเอง สรุปร้านนั้นจ่ายค่าเสียหายไป 15000 บาท คือ ถ้าเราตกลงอะไรกันไม่ได้แล้วเราก็ต้องขอพึ่งอำนาจศาลครับ สุดท้ายศาลก็จะเป็นผู้มาไกล่เกลี่ยให้ ซึ่งอะไรต่างๆจะขึ้นกับดุลยพินิจของศาลล้วนๆครับ.....ดุลยพินิจ ก็คือ ความเห็น ความเหมาะสมถูกต้อง และประสบการณ์ ของศาลครับผม ขอบคุณครับ


แก้ไขล่าสุดโดย เมื่อ พฤหัส, 20 มกรา 2011 07:59, ทั้งหมด 1 ครั้ง (ดูทั้งหมด)
ได้รับคำขอบคุณจาก: Gremlin  SYS  okuma  bangkean_tum 
Gremlin


ชื่อเล่น: ออมสิน

เข้าร่วม: 18 ตุลา 2010
ตอบ: 235

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 416
ให้คำขอบคุณ: 1624

ที่อยู่: เขตบางแค กทม.
ปี: 2005
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
พฤหัส, 20 มกรา 2011 06:36 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
john พิมพ์ว่า:
Gremlin พิมพ์ว่า:
ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ คิดว่าอาจจะต้องใช้ขึ้นศาลเร็ว ๆนี้...

กำลังรอพยานอีกปากนึงไปให้การกับตำรวจ....

เพราะรถบรรทุกปาดหน้าเรา แต่มันใส่ร้ายว่าเราขับกินเลนไปชนมัน (เลวมาก ๆ)

สงสัยคงอีกนานกว่าจะหมดเรื่อง ป่านนี้รถก็ยังไม่เสร็จเลย อู่บอกว่าจะได้รถประมาณปลายกุมภา..
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ อย่างน้อยเราปลอดภัยดีที่สุดแล้ว และมีอีกอย่างครับ ถ้าเรามีกรณีฟ้องร้องค่าเสียหายอะไรต่างๆที่ค่าเสียไม่เกิน 100000 บาท นั้น เขาเรียกว่า คดีมะโนสาเร่ ก็คือคดีปัญหาโลกแตก ไม่จำเป็นต้องไปจ้างทนายครับ น้องชายผมบอก(ตำแหน่งสูงสุดทางกฎหมาย) เราเป็นทนายตัวเองเลย ให้เดินไปที่ศาลแล้วบอกว่าเราจะมาแจ้งความดำเนินคดี จะมีจนท.แนะนำการเขียนฟ้องเอง น้องผมบอกว่าเขียนง่ายเหมือนเราเขียนจดหมายลาครูเอง ให้ได้ใจความก็พอ ทนายความเขาก็มีหน้าที่ไปคัดสำเนาทะเบียนบ้านและให้คำปรึกษาเล็กน้อย หรือทำเอกสารเล็กน้อย ค่าทนายก็เริ่มประมาณ 3xxx,ถึง 1xxxx ฉะนั้นไม่ต้องกลัวครับขึ้นศาลถ้าเราบริสุทธิ์ถูกต้อง น้องผมยกตัวอย่าง เคยมีคนไปฟ้องเรียกค่าเสียหายจากร้านคาร์แคร์ ที่ล้างรถให้ แล้วทำให้สีรถด่างไปทั้งคัน เขาก็เดินมาศาลฟ้องเองเลย เขียนสำนวนเอง สรุปร้านนั้นจ่ายค่าเสียหายไป 15000 บาท คือ ถ้าเราตกลงอะไรกันไม่ได้แล้วเราก็ต้องขอพึ่งอำนาจศาลครับ สุดท้ายศาลก็จะเป็นผู้มาไกล่เกลี่ยให้ ซึ่งอะไรต่างๆจะขึ้นกับดุลยพินิจของศาลล้วนๆครับ.....ดุลยพินิจ ก็คือ ความเห็น ความเหมาะสมถูกต้อง และประสบการณ์ ครับผม ขอบคุณครับ



ความรู้ใหม่อีกแล้ว.... ขอบคุณมากค่ะ
ที่จริงเอาเรื่องแนวนี้มาลงบ้างก็ดีนะคะ เพื่อน ๆในคลับบางคนที่ยังไม่ค่อยทราบเรื่องแบบนี้จะได้มีความรู้ติดตัวไว้บ้าง
ขอบคุณจริง ๆค่ะ
BackHock


เข้าร่วม: 14 ตุลา 2008
ตอบ: 75

สมาชิกสับสน
สมาชิกสับสน

ได้รับคำขอบคุณ: 43
ให้คำขอบคุณ: 14

ที่อยู่: Praram 7 - Rattanatibet
ปี: 2005
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
พฤหัส, 20 มกรา 2011 08:00 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
ข้อมูลดีมาก ขอบคุณครับ
curran


ชื่อเล่น: บี

เข้าร่วม: 07 กันยา 2009
ตอบ: 4300

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 2057
ให้คำขอบคุณ: 5484

ที่อยู่: Samutprakarn
ปี: 2001
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
พฤหัส, 20 มกรา 2011 11:37 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
ขอบคุณครับ
john


เข้าร่วม: 29 มีนา 2010
ตอบ: 570

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 3392
ให้คำขอบคุณ: 2458

ที่อยู่: UB.
ปี: 2002
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
ศุกร์, 21 มกรา 2011 11:55 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
การให้ การแบ่งปัน เป็นสิ่งที่ดีครับ ผมก็ได้ความรู้เยอะเลยจากพี่น้อง ES.ขอบคุณหลายๆๆๆๆๆทีด้วยครับ
SYS


ชื่อเล่น: หยม

เข้าร่วม: 15 สิงหา 2009
ตอบ: 733

Guru ES
Guru ES

ได้รับคำขอบคุณ: 732
ให้คำขอบคุณ: 1304

ที่อยู่: ระยอง Rayong City to _Phayao
ปี: 2003
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
เสาร์, 22 มกรา 2011 10:09 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
john


เข้าร่วม: 29 มีนา 2010
ตอบ: 570

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 3392
ให้คำขอบคุณ: 2458

ที่อยู่: UB.
ปี: 2002
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
เสาร์, 22 มกรา 2011 21:28 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
เพิ่มเติมอีกนิดครับ ในกรณีตีราคาค่าซ่อม ให้ศูนย์ใหญ่ตีเลยถ้าเราไม่มีป.1 เพราะจะน่าเชื่อถือกว่า ตามราคาอะไหล่ อู่จะไม่น่าเชื่อถือ คดีก็มี 2 คดี
1.อาญา คือ ขับรถโดยประมาท
2.แพ่ง คือ ทำให้เสียทรัพย์
ขั้นตอนคือ ตำรวจจะสรุปสำนวนว่าใครประมาท และเสียค่าปรับ 500 บาท และให้ทั้งคู่ตกลงค่เสียหายเอง แล้วลงบันทึกประจำวันไว้ แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ ตำรวจก็จะส่งฟ้องศาล ตรงนี้เราไปฟ้องเองเลย และมาขอสำเนาสำนวนคดีและขอคัดสำนวนเอกสารของคู่กรณี ก็รอหมายศาลครับ
tonesan


เข้าร่วม: 24 มกรา 2011
ตอบ: 1

น้องใหม่
น้องใหม่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
จันทร์, 24 มกรา 2011 13:50 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
ตัวอย่าง
นาย วินัย จงรักภักดี ได้ขับรถไปตามท้องถนน เพื่อที่จะไปทำธุระที่ต่างจังหวัด ในขณะที่กำลังขับรถอยู่ อยู่ดีดีก็มีรถคันหนึ่ง ซึ่ง นาย อำนาจ ใจใหญ่ เป็นคนขับเขาขับรถมาด้วยความเร็ว มาทางด้านหลัง ซึ่ง นาย วินัย ได้มองกระจกหลังเห็น จึงตบไฟเลี้ยวซ้ายให้เพื่อให้นาย อำนาจ ที่กำลังขับรถมาด้วยความเร็วแซงไป แต่ทว่านาย อำนาจไม่ได้แซงทางด้านขวากับหักพวงมาลัยรถมาทางด้านซ้าย ซึ่ง ไม่รู้ว่านาย อำนาจทำไมถึงมองไม่เห็นไฟเลี้ยวที่นาย วินัย เปิดจึงทำให้รถของนาย อำนาจ ไปเสียดสีกับรถของนาย วินัย ทำให้รถทั้ง 2 คันเกิดการเสียหลักลงข้างทาง แต่ยังดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ทั้งคู่จึงลงออกมาจากรถว่าจะตกลงกันยังไงกับความเสียหายที่เกิดขึ้น
นาย อำนาจ ใจใหญ่ ได้มาอธิบายเหตุผลให้กับนาย วินัย ฟังว่าตนไม่ได้มีเจตนาที่ชน เพราะตอนที่ขับรถมาเขากำลังจะเลี้ยวซ้ายพอดี เพราะว่าทางข้างหน้าที่จะถึงมันเป็นทางแยก โดยตนรีบร้อนเกินไปที่ไม่รู้ว่านาย วินัย มีเจตนาดีที่จะให้ตนแซง จึงไม่ได้สังเกต แต่ว่านาย วินัย ไม่รับฟังเหตุผล จึงมีปากเสียงทะเลาะกัน สักพักนาย วินัย ได้โทรศัพท์ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าตำรวจ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้ามาเคลียร์ปัญหาให้ทั้งคู่หยุดทะเลาะกัน แต่ว่านาย อำนาจ ไม่ยอมเลยเดินมาต่อว่า นาย วินัย ว่าเฉี่ยวนิดเดียวแค่นี้ไม่เห็นต้องเรื่องมากเลย ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ให้วุ่นวายด้วย
นายวินัย จงรักภักดี จึงบอกว่า นี้มันเป็นสิทธิของตนต้องได้ การที่เราไม่ยอมตกลงกับนาย อำนาจ นั้นเพราะนาย วินัย เห็นว่านาย อำนาจเป็นคนขับรถประมาทจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้น การที่จะให้ตนยอมทั้งที่ตนเองต้องเสียเวลา และเสียเงินค่าซ่อมรถนั้นไม่เป็นการยุติธรรม ตนจึงไม่สมควรที่จะต้องยอม

(คือผมอยากรู้เกี่ยวกับกฎหมายบัญญัติ เขาว่าด้วยมาตราที่เท่าไร ว่าด้วยอะไร พอดีจะเอาไปทำรายงานช่วยหน่อยน่ะครับ ขอบคุณครับ)
john


เข้าร่วม: 29 มีนา 2010
ตอบ: 570

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 3392
ให้คำขอบคุณ: 2458

ที่อยู่: UB.
ปี: 2002
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 24 มกรา 2011 17:11 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
คือผมก็ไม่ได้เรียนทางกฏหมายนะครับ แต่ลองSEARCH ข้อมูลดูพอได้ไอเดียนะครับขับรถประมาททำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ(ไม่สาหัส) และมีทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งเป็นความผิดตาม
1.พรบ.จราจร มาตรา 43(4) โทษปรับ 400-1000 บาท
2.ป.อาญา ม.390 โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1000 บาท
3.ป.แพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420
การปรับจะปรับบทหนักบทเดียวคือ ป.อาญา ดูฎีกาที่ 5942/2548 จะปรับตาม พ.ร.บ.จราจรฯ หรือปรับสองอันไม่ได้
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 420 ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น

ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 358 ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5942/2548

จำเลยกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (4), 157 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สี่ร้อยบาทถึงหนึ่งพันบาท และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 พนักงานสอบสวนจึงไม่มีอำนาจเปรียบเทียบปรับจำเลยในความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (4), 157 ซึ่งเป็นความผิดที่มีโทษเบากว่าความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 เพื่อให้ความผิดทั้งหมดรวมทั้งความผิดที่มีโทษหนักกว่าเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 37 ได้ แม้พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับจำเลยไปแล้วในความผิดฐานดังกล่าวโดยความยินยอมของผู้เสียหายเพราะผู้เสียหายมิได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแก่จำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 ด้วย การเปรียบเทียบปรับก็ไม่ชอบ คดีอาญาไม่เลิกกัน ศาลอุทธรณ์จึงมีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 ได้
ผิดพลาดประการใด ขออภัย ....ให้ไปศึกษาเพิ่มเติมต่อครับ ให้เป็นแนวทาง
john


เข้าร่วม: 29 มีนา 2010
ตอบ: 570

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 3392
ให้คำขอบคุณ: 2458

ที่อยู่: UB.
ปี: 2002
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
ศุกร์, 8 เมษา 2011 07:49 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
up หน่อยครับ เรื่องความรู้
Supaaut


เข้าร่วม: 06 มกรา 2013
ตอบ: 1

น้องใหม่
น้องใหม่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
อาทิตย์, 6 มกรา 2013 15:35 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
ความรู้ใหม่เลยครับ ขอบคุณมากๆสำหรับข้อมูลแบบนี้และยังเป็นแนวทางให้ผมอีกด้วยเพราะคิดว่าไม่นานก็คงอาจต้องขึ้นศาลบ้างแล้วt_t ถ้าเป็นไปได้ช่วยให้ความเห็นได้ไหมครับ พอดีพ่อผมโดนรถชนพ่อผมอายุ 46ปีคู่กรณีอายุ16ปีเหตุการมีอยูว่าพ่อผมขับรถกำลังจะไปหาเพื่อน เส้นทางเป็น2เลนเลนไปกับเลนกลับ พอดีพ่อผมขับรถเลยบ้านเพื่อนไปแล้วเลยจะกลับรถ ก็ทำปกติ (รถจักรยานยนต์ทั้งคู่น้ะครับลืมบอกไปy_y) คือ 1.เปิดไฟเลี้ยวขวา. 2.ชิดด้านขวาของเลน3.มองกระจกหลังแต่มองไม่เห็นเนื่องจากอาจเพราะตอนางคืนแล้ว. 4.ชลอจนจนรถหยุดหันมามองข้างหรือป่าวไม่แน่ใจน้ะครับพ่อจำไม่ได้ 5. มองรถที่เลนสวนทางมาเพราะต้องรอรถเลนสวนอดภัยก่อน. ส่วนหลุงจากนั้นก็โคล้มโดนชนบริเวณกลางคันรถทางก้านขวา) รถพ่อผมแค่เอียงๆเพื่อรอเลี้ยวกลับรถน้ะครับไม่ได้ขวางทั้งคัน) ส่วนคำที่พอจะทราบจากเด็กคือขับรถไปแล้วอยู่ดีๆก็ชนลืมอีกนิดครับผมไปดูที่เกิดเหตุหลังจากนั้น 2วันรอยที่จุดโดนชนหระเดฌนไกลเหือบ2เมตรเห็นจะได้ และพอดีวันนี้ทางคุณตำรวจได้เรียกทัิง2ฝ่ายไปเจรจาตกลงกันไม่ได้ทาง
นั้นก็บอกว่าไม่รู้ว่าใครผิดกันแน่เลยขอให้รอสอบเจ้าตัวแต่ตอนที่คุยกันเขามีหลุดมาคำนึงคือทางผู้ใหญ่ขแงเค้าบอกให้เฉยๆไปก่อน ผมเลยไม่ว่าจะทำอย่างไรดีพอจะช่วยให้คำแนะนำบ้างได้ไหมครับเพราะผมเองก็คิดว่าทางพ่อผมไม่น่าจะมีอะไรผิดหรือประมาทเลยจากที่พ่อผมเล่ามา ส่วนทางตำรงจได้ตรวจสภาพรถแล้วก็ประมาณว่าพ่อเปิดไฟเลี้ยวเพื่อนเปลี่ยนเส้นทางและโดนชนบริเวณด้านขวาเต็มๆ ส่วนควาเร็วของการชนอยู่ที่ประมาณไม่ตำกว่า50 ผมแปลกใจนิดหน่อยตรงที่ความเร็ว50ชนมอเตอร์ไซค์ที่มีคนนั่ง1คนกระเด็น เหือบ2เมตรฟรืออาจถึง2เมตรได้หรือ เหตุการณก็ประมาณนี้อะครับพอจะไห้คำแนะนำได้บ้างใหมครับ
popza4


ชื่อเล่น: อ้น

เข้าร่วม: 19 กรกฎา 2012
ตอบ: 1097

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 796
ให้คำขอบคุณ: 3347

ที่อยู่: จรัญสนิทวงศ์ 95/1
ปี: 2001
สี: แดง ไฟร์เปปเปอร์ (R-507P)
อาทิตย์, 6 มกรา 2013 15:46 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
...
polkrai


เข้าร่วม: 22 เมษา 2016
ตอบ: 1

น้องใหม่
น้องใหม่

ได้รับคำขอบคุณ: 0
ให้คำขอบคุณ: 0
ศุกร์, 22 เมษา 2016 12:54 - ความรู้เรื่องกฏหมาย เมื่อรถชนกัน
ในกรณีที่เราเลี้ยวขาวแล้วคู่กรณีขี่ตามหลังมาแล้วมาชนข้างประตูฝั่งขวาขอรถเรา อย่างทราบว่าใครเป็นคนผิดครับ
ตอบ
หน้า 1 จาก 1
ไปที่: 
ติดต่อโฆษณา admin@civicesgroup.com
Copyright © 2008-2025 Civic ES Group. All rights reserved.