ตอบ
kittipong


ชื่อเล่น: อาร์ม

เข้าร่วม: 18 กรกฎา 2009
ตอบ: 151

มือใหม่หัดขับ
มือใหม่หัดขับ

ได้รับคำขอบคุณ: 150
ให้คำขอบคุณ: 81

ที่อยู่: 119/19 ถ.สุขุมวิท62 แขวงคลองเตย เขตพระโขนง ก.ท.ม.
ปี: 2003
สี: ทอง แซทเทิลไลท์ (NH-663M)
อังคาร, 14 ธันวา 2010 20:23 - เรื่องยุ่งยุ่งของยางรถยนต์
นำมาฝาก อ่านแล้วอ่านอีก รู้แล้วรู้อีก เพราะมันเป็นเรื่องจำเป็น เป็นหัวใจของรถ (ขออภัยถ้าซ้ำ)


เรื่องยุ่ง ๆ ของลมยาง
ยางรถยนต์ ใช้ลมเป็นตัวช่วยซึมซับแรงสั่นสะเทือน และช่วยให้ยางคงรูปอยู่ได้ ด้วยความทนทานของยางยุคใหม่ แรงดันลดลงช้า รั่วยาก ระเบิดยาก จึงทำให้หลายคนละเลยหรือไม่ได้หาความรู้เรื่อง “แรงดันลมยาง” มากนัก
อ่าน แง่มุมที่น่าสนใจ หลายประเด็นอาจไม่เคยทราบกันมาก่อน และเกี่ยวข้องกับการใช้งานจริง ไม่เน้นวิชาการลึกล้ำจนยากจะเข้าใจ แต่มีหลักการอ้างอิงควบคู่กัน

ยางไม่รั่วทำไมแรงดันลด
ดูแล้วยางรถยนต์มีเนื้อหนาหลายมิลลิเมตร และมีโครงสร้างภายในเป็นวัสดุแข็งแรง ถ้าไม่รูรั่ว แรงดันลมยางก็ไม่น่าจะลดลงได้ง่าย ๆ

ในความเป็นจริง เนื้อยางมีรูพรุนขนาดเล็กมาก ๆ อยู่เต็มไปหมด และขอบยางแบบไม่มียางในที่อัดอยู่กับขอบกระทะล้อ ก็อาจมีรูขนาดเล็กอยู่บ้าง แม้แช่น้ำดูแล้วไม่มีฟองอากาศแสดงถึงการรั่ว แต่แรงดันลมยางภายในยางที่สูงหลายเท่าของบรรยากาศปกติ ย่อมซึมออกมาได้บ้าง โดยเฉลี่ยแล้ว ถ้าแรงดันลมลดลงสัปดาห์ละ 1 ปอนด์/ตารางนิ้ว ถือเป็นเรื่องปกติ จึงไม่ต้องยุ่งยากวัดแรงดันลมยางทุกวัน ทำสัปดาห์ละครั้งหรือช้าที่สุด 2 สัปดาห์ต่อครั้ง ก็ได้

อาจดูเหมือนไม่จำเป็น เพราะไม่ค่อยมีใครเติมลมเอง แต่จริง ๆ แล้วควรมีไว้ใช้ส่วนตัว เพราะคนส่วนใหญ่เติมลมตามปั๊มน้ำมัน ซึ่งมีบริการวัดแรงดันลมด้วย และมาตรวัดก็มักจะมีความเพี้ยน เพราะใช้วัดกันนับครั้งไม่ถ้วน บางครั้งพบว่าแสดงผลผิดพลาดกว่า 10 ปอนด์/ตารางนิ้วก็ยังมี จึงควรมีมาตรวัดแรงดันลมยางส่วนตัว และควรเลือกที่มีคุณภาพดี เพื่อความแม่นยำ ในราคาตัวละหลายร้อยบาท

หากมีปั๊มที่เติมลมเป็นประจำ นาน ๆ ครั้งก็สามารถนำมาวัดเปรียบเทียบกันว่า มาตรวัดของเขาแสดงผลเพี้ยนแค่ไหน ครั้งต่อไปจะได้บอกให้เติมลมให้มีแรงดันตรงตามต้องการ หรือเติมลมตามปั๊มทั่วไป ซึ่งไม่ใช่ที่ประจำ ก็สามารถตรวจสอบแรงดันซ้ำได้อย่างสะดวก


แรงดันลมยาง – ต้องเชื่อคู่มือประจำรถยนต์จริงหรือ
คนส่วนใหญ่เชื่อว่า ค่าแรงดันลมยางที่ผู้ผลิตรถยนต์แนะนำในคู่มือหรือสติ๊กเกอร์บนตัวถัง มีความน่าเชื่อถือ และต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยไม่สามารถประยุกต์เปลี่ยนไปใช้แรงดันต่างออกไปได้
ถ้า เติมลมยางตามสเป็กนั้นก็ไม่อันตราย แต่อาจไม่ใช่แรงดันลมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับยางรุ่นที่ใช้ตอนนั้นก็เป็นได้ เพราะผู้ผลิตรถยนต์ไม่ทราบเลยว่า หลังจากยางที่ให้มาจากโรงงานประกอบถูกใช้หมดสภาพ จะถูกเปลี่ยนเป็นยางรุ่นใด มีโครงสร้างอย่างไร แต่ก็ต้องแนะนำไว้ล่วงหน้าให้เสมือนคาเฉลี่ย ซึ่งอาจไม่ใช่ดีที่สุด แต่สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา

ตามหลักวิชาการที่ลึกกว่านั้น อาจมีค่าแรงดันลมยางซึ่งเหมาะสมกว่า และต่างจากคำแนะนำในคู่มือประจำรถ เพราะยางแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ แม้เป็นขนาดเดียวกัน แต่ก็มีโครงสร้างภายใน และเนื้อยางที่แตกต่างกัน หรืออีกในกรณี ถ้าเปลี่ยนขนาดยางทั้งความกว้างหรือแก้มยางต่างออกไป ก็ยิ่งมีแนวโน้มว่า อาจไม่ต้องเติมลมยางตามกำหนดนั้นเสมอไป

ในการใช้งานจริง เราสามารถเลือกเติมลมยางด้วยลมยางที่แตกต่างจากการแนะนำนั้นได้ โดยเริ่มจากการทำตามคำแนะนำก่อน ขับใช้งานเพื่อจับอาการต่าง ๆ เช่น ความนุ่มนวล การเกาะถนน อัตราเร่ง และอื่น ๆ สักวันสองวัน แล้วก็ลองลดแรงดันลมยางลงสัก 2 ปอนด์/ตารางนิ้ว ขับไปวันสองวันเพื่อเปรียบเทียบอาการกัน ต่อมาก็เพิ่มแรงดันขึ้นจากการแนะนำ 2 ปอนด์/ตารางนิ้ว และก็ทำเหมือนเดิม

ต่อมาถ้ายังมีเวลา ก็เพิ่มหรือลดจากการแนะนำสัก 4-5 ปอนด์/ตารางนิ้ว แล้วจับอาการดูว่าอัตราเร่งอืดหรือไม่ กระเด้งกระด้างไปหรือไม่ ลื่นไปหรือไม่ แล้วค่อยตัดสินใจว่ายางชุดนั้น ควรเติมลมยางด้วยแรงดันเท่าไร เหมาะสมกับลักษณะการขับของตนเองหรือไม่ รถยนต์รุ่นเดียวกันยางรุ่นเดียวกัน แต่ต่างคนขับกัน ก็อาจจะใช้แรงดันลมยางที่ชอบต่างกันก็เป็นไปได้
โดยทั่วไป หากมีการเติมลมต่างจากการแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์ในคู่มือ หรือสติ๊กเกอร์ ก็พบว่าไม่น่าต่างเกิน + - 5 ปอนด์ / ตารางนิ้ว

หากแรงดันลมยางอ่อนเกินไป เร่งแล้วจะหนืด อัตราเร่งไม่ดี เพราะยางจะย้วยจึงหมุนยาก แต่รู้สึกว่าเกาะถนน เพราะมีหน้าสัมผัสมากขึ้น ในระยะยาวยางจะอายุสั้น เพราะมีการขยับตัวมาก อาจบวมแตกปริบริเวณแก้มยางได้
ถ้า แรงดันสูงหรือที่เรียกว่าแข็งมาก ยางจะหมุนง่าย เพราะหน้ายางและแก้มยางมีความตึง แต่จะลดการเกาะถนนลงไป เพราะหน้าสัมผัสมีแรงกดเต็มที่บริเวณแนวกลางของหน้ายางเท่านั้น และกระด้าง ในการแข่งขันประหยัดน้ำมัน จึงมักเติมลมยางแข็งกว่าปกติถึง 10-30 ปอนด์/ตารางนิ้ว

เมื่อตัดสินใจใช้แรงดันใด ๆ สักเดือน ให้ดูการสึกหรอของหน้ายางด้วย หากสึกหรอแถบกลางมากกว่า แสดงว่าแรงดันลมยางสูงไป แต่ถ้าริมทั้ง 2 ข้างสึกหรอมากกว่าแถบกลาง แสดงว่าแรงดันต่ำไป (ศูนย์ล้อ และระบบช่วงล่างต้องปกติ)
หากไม่ใช่เป็นคนที่จับอาการของรถยนต์ในการขับได้ดี หรือความรู้สึกช้า ไม่สามารถแยกความแตกต่างได้ ก็ควรปฏิบัติตามคู่มือประจำรถยนต์


เติมไนโตรเจน
หลายคนสนใจ เพราะความเชื่อหรือโฆษณาว่า เติมไนโตรเจน 100% แทนลม (อากาศปกติ) แล้วแรงดันลมยางจะเปลี่ยนแปลงน้อยเมื่อยางร้อน

ในความเป็นจริงอากาศก็มีไนโตรเจนผสมอยู่กว่า 75% อยู่แล้ว มีออกซิเจนกว่า 20% การขยายตัวของอากาศปกติกับไนโตรเจนล้วน ๆ เมื่อเกิดความร้อนขึ้น จึงไม่ต่างกันมาก

ปัญหาที่สำคัญกว่าและถูกมองข้าม เป็นเรื่องของความชื้นหรือไอน้ำที่ผสมอยู่ในลมที่ถูกเติม เพราะปั๊มลมส่วนใหญ่มีการกรองเอาไอน้ำออกไม่หมด หรือไม่กรองเลย ซึ่งในการเติมลมยางตามสถานที่ทั่วไป จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงลมผสมไอน้ำได้ เพราะไม่สะดวกที่เราจะตรวจสอบเมื่อความชื้นกัลบกลายเป็นน้ำ แรงดันรวมของยางจะลดลง แต่เมื่อยางร้อน น้ำจะกลายเป็นก๊าซ แรงดันจะเพิ่มขึ้น

ดังนั้น การเติมลมด้วยไนโตรเจนล้วน ๆ จึงอาจจะดีในแง่ที่มีความชื้นปนอยู่น้อยมาก หากอยากเติม ก็ควรสะดวกทั้งในการเติมครั้งแรก และการเติมครั้งต่อ ๆ ไป ถ้าเติมได้แค่ครั้งแรกแล้วครั้งต่อไปเติมด้วยลมธรรมดา (ที่มีไอน้ำปน) ประโยชน์ของไนโตรเจนก็จะลดลงไป


ขับทางไกล / บรรทุกหนัก / เพิ่มแรงดันลม
การขับทางไกลด้วยความเร็วและต่อเนื่อง ยางจะเกิดความร้อนมากกว่าปกติ จากการเคลื่อนไหวของยางในทุกส่วน ลมยางที่ร้อนจะขยายตัวเพิ่มแรงดัน จนลดการเกาะถนน และการทรงตัว ถ้าแรงดันเพิ่มขึ้นมาก ๆ และร้อนจัด ยางก็อาจระเบิดได้
บาง คนก็เลยคิดและทำแบบผิด ๆ โดยเติมลมยางอ่อนกว่าปกติ เพราะคิดว่าจะเป็นการเผื่อล่วงหน้า เวลายางร้อน แรงดันจะได้ไม่เพิ่มขึ้นเกิน แต่ในการใช้งานจริง แรงดันกลับเพิ่มขึ้นมาก เพราะยางร้อนจากการบิดตัวง่าย และเป็นทั้งแรงดันที่สูง และเป็นลมร้อน ยางจึงเสี่ยงต่อการระเบิด

ในความเป็นจริง ยางที่จะใช้ในการขับทางไกลหรือความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง ควรเติมไว้ให้มีแรงดันลมสูงกว่าปกติ 2-3 ปอนด์/ตารางนิ้ว เพื่อเป็นการลดการบิดตัวของยาง จึงทำให้ความร้อนน้อยกว่ายางที่ลมอ่อน แม้จะเริ่มต้นด้วยแรงดันที่สูงกว่า แต่เมื่อร้อนแล้วมีการขยายตัวของลมยางน้อยกว่า การเพิ่มแรงดันจึงมีไม่มาก และไม่ร้อนจัด

หากบรรทุกน้ำหนักเพิ่มขึ้นก็ควรเพิ่มแรงดันลมยาง ไม่เฉพาะแต่ปิกอัพ แต่รวมถึงรถเก๋งด้วย เพราะถ้าใช้แรงดันลมยางเท่าเดิม หน้ายางสัมผัสจะมากขึ้น ยางจะแบนลง บริเวณที่แบนลงจึงหมุนยากขึ้น ตามหลักการง่าย ๆ คือ ลมยางมีขอบเขตการรับน้ำหนักตามแรงดันที่ไส่ไว้ เช่น หน่วยแรงดันเป็นปอนด์/ตารางนิ้ว ถ้ายางล้อนั้นมีน้ำหนักกดลง 300 ปอนด์ เติมลมไว้ 30 ปอนด์/ตารางนิ้ว ยางก็จะถูกกดลงจนมีหน้าสัมผัส 10 ตารางนิ้ว



ถ้ามีน้ำหนักกดลงมาเพิ่มเป็น 420 ปอนด์ หน้าสัมผัสก็ต้องเพิ่มเป็น 14 ตารางนิ้ว นั่นคือ ยางต้องแบนลง ลดความกลม หมุนยาก อัตราเร่งอืด และยางต้องถูกบิดตัวมาจนร้อนมาก เพราะเมื่อรถยนต์แล่น ก็จะพยายามทำให้ยางกลม ในขณะที่หน้าสัมผัสของยางแบนกว่าปกติ

เรื่องต่าง ๆ ของยางรถยนต์ล้วนมีความน่าสนใจ เพราะเกี่ยวข้องทั้งสมรรถนะ และความปลอดภัย


THAIDRIVER
ที่มา : http://automobile.mweb.co.th/news
ได้รับคำขอบคุณจาก: peet_ja  MK Flying  pandaman  cisco  movingtown  Saka  amnuay  Nut_Au_Together  MATOOM  ronnachai  apple2  XYZ  book05  NeaT ES.  curran 
pandaman


ชื่อเล่น: เต้

เข้าร่วม: 12 สิงหา 2010
ตอบ: 279

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 311
ให้คำขอบคุณ: 822

ที่อยู่: ดอนเมือง
ปี: 2005
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
อังคาร, 14 ธันวา 2010 21:53 - เรื่องยุ่งยุ่งของยางรถยนต์
ขอบคุณครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: ronnachai 
jukkadui


ชื่อเล่น: แบงค์

เข้าร่วม: 05 พฤษภาคม 2010
ตอบ: 1362

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 769
ให้คำขอบคุณ: 1427

ที่อยู่: บางพลี
ปี: 2003
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
อังคาร, 14 ธันวา 2010 22:17 - เรื่องยุ่งยุ่งของยางรถยนต์
ได้รับคำขอบคุณจาก: ronnachai 
Doraeman


เข้าร่วม: 12 ตุลา 2009
ตอบ: 209

มีใบอนุญาตขับขี่
มีใบอนุญาตขับขี่

ได้รับคำขอบคุณ: 277
ให้คำขอบคุณ: 2583

ปี: 2001
สี: ทอง ไทเทเนียม (เมทัลลิก) (YR-525M)
อังคาร, 14 ธันวา 2010 22:31 - เรื่องยุ่งยุ่งของยางรถยนต์
ได้รับคำขอบคุณจาก: ronnachai 
movingtown


ชื่อเล่น: อเด

เข้าร่วม: 15 พฤศจิกา 2009
ตอบ: 1505

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 1259
ให้คำขอบคุณ: 1948

ที่อยู่: ระยอง - โขทัย
ปี: 2003
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
อังคาร, 14 ธันวา 2010 22:41 - เรื่องยุ่งยุ่งของยางรถยนต์
ขอบคุณครับ เยอะมากมาย
ได้รับคำขอบคุณจาก: ronnachai 
amnuay


เข้าร่วม: 16 พฤษภาคม 2009
ตอบ: 915

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 866
ให้คำขอบคุณ: 2043

ปี: 2002
สี: เงิน ซาติน (เมทัลลิก) (NH-623M)
พุธ, 15 ธันวา 2010 09:49 - เรื่องยุ่งยุ่งของยางรถยนต์
ได้รับคำขอบคุณจาก: ronnachai 
MATOOM


ชื่อเล่น: เต้

เข้าร่วม: 10 สิงหา 2010
ตอบ: 449

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 1202
ให้คำขอบคุณ: 277

ที่อยู่: lamlukka-london
ปี: 2005
สี: เทา ซิลเวอร์สโตน (NH-630M)
พุธ, 15 ธันวา 2010 21:22 - เรื่องยุ่งยุ่งของยางรถยนต์
ได้รับคำขอบคุณจาก: ronnachai 
ronnachai


ชื่อเล่น: เอฟ

เข้าร่วม: 03 กันยา 2010
ตอบ: 634

Guru ES
Guru ES

ได้รับคำขอบคุณ: 374
ให้คำขอบคุณ: 1480

ที่อยู่: นครปฐม
ปี: 2001
สี: ขาว ทาฟเฟต้า (NH-578)
พฤหัส, 16 ธันวา 2010 11:03 - เรื่องยุ่งยุ่งของยางรถยนต์
ขอบคุณคร้าาาาาบ
XYZ


ชื่อเล่น: เอก ไวกั้น

เข้าร่วม: 01 ธันวา 2010
ตอบ: 499

แซงซ้าย ปาดขวา
แซงซ้าย ปาดขวา

ได้รับคำขอบคุณ: 252
ให้คำขอบคุณ: 71

ที่อยู่: เมืองใหม่ (อ่างศิลา)
ปี: 2001
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
พฤหัส, 16 ธันวา 2010 13:01 - เรื่องยุ่งยุ่งของยางรถยนต์
ขอบคุณคับ
book05


เข้าร่วม: 20 มิถุนา 2010
ตอบ: 637

Guru ES
Guru ES

ได้รับคำขอบคุณ: 407
ให้คำขอบคุณ: 419

ที่อยู่: 84 ซ.นนทบุรี24/3 ถ.สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี
ปี: 2003
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
ศุกร์, 17 ธันวา 2010 00:10 - เรื่องยุ่งยุ่งของยางรถยนต์
ขอบคุณครับ
curran


ชื่อเล่น: บี

เข้าร่วม: 07 กันยา 2009
ตอบ: 4300

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 2057
ให้คำขอบคุณ: 5484

ที่อยู่: Samutprakarn
ปี: 2001
สี: ดำ ไนท์ฮอว์ก (B-92P)
จันทร์, 20 ธันวา 2010 21:01 - เรื่องยุ่งยุ่งของยางรถยนต์
ขอบคุณครับ ความรู้มาอีกแว้ว
ตอบ
หน้า 1 จาก 1
ไปที่: 
ติดต่อโฆษณา admin@civicesgroup.com
Copyright © 2008-2025 Civic ES Group. All rights reserved.