หัวข้อนี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไข หรือตอบได้
ES21_fatboy


เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1563

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 11901
ให้คำขอบคุณ: 4229

ที่อยู่: วงแหวนอุตสาหกรรม
ปี: 2004
สี: น้ำเงิน วิวิด (มุก) (B-502P)
พฤหัส, 7 มกรา 2010 21:15 - + รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
หลังจากได้มีโอกาสพบคุณวิณ ที่ร้านพี่ีใหม่ ณ เย็นย่ำค่ำมืดวันหนึ่ง และได้สนทนากัน

ในประเด็นต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่า ต้องหนักไปทางเรื่องราวของ ES ลูกรักของชาวเรานี่เอง

ซึ่ง "คุณวิณ" ได้มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ ส่งข้อมูลดีๆ มาให้ตัวกระผมเอง และ นายจ๊อบ hacker

ซึ่งนายจ๊อบ ก็ได้เอาข้อมูลดีๆที่ได้จากการค้นคว้าหาข้อมูล โดยคุณวิณ เหล่านั้นมาลงไว้

เลยถือโอกาสดีในปีใหม่นี้ รวบรวมเอาไว้เป็นที่เดียวกัน เพื่อความสะดวกแก่ผู้ที่สนใจ

และคงต้องขอความอนุเคราะห์จากคุณวิณต่อไปนะครับ เรื่องราว Review ดีๆ ที่ได้กรุณา

แบ่งปันมานั้น จะขออนุญาตนำมาลงรวมกันไว้ในกระทู้นี้นะครับ


แก้ไขล่าสุดโดย เมื่อ พฤหัส, 18 มีนา 2010 01:10, ทั้งหมด 11 ครั้ง (ดูทั้งหมด)
ES21_fatboy


เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1563

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 11901
ให้คำขอบคุณ: 4229

ที่อยู่: วงแหวนอุตสาหกรรม
ปี: 2004
สี: น้ำเงิน วิวิด (มุก) (B-502P)
พฤหัส, 7 มกรา 2010 21:18 - + รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
Review : ระบบกุญแจ Immobilizer by คุณวิณ Yakumo


จากความอยากของผมเองเลยทำให้ต้องไปรู้เรื่อง Immobilizer Key เพิ่มเติม ว่ามันทำงานไง เป็นมาไง แต่ในส่วนของรายละเอียดนั้นผม จะขอเน้นไปที่ Immobilizer Key ของ Civic new dimension หรือที่เรียกกัน ตามรหัสตัวถัง ญี่ปุ่นว่า ES นะครับ แต่บอกก่อนนะครับ ข้อมูลที่ผมมี อาจจะเป็นเพียงความเข้าใจส่วนตัว นะครับ ซึ่งอาจจะถูกหรือผิดก็ได้ ดังนั้นผู้อ่านควรใช้พิจารณาก่อน นะครับ ซึ่งข้อมุลในส่วนแรกเป็นข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับหลักการทำงานของ ระบบ แต่ในส่วนที่ สองเราจะลองให้ข้อมูลเพิ่มว่าจะเอาไป Mod กันเองครับ (Mod = Modify) นะครับ

ระบบ Immobilizer นั้น จะมีองค์ประกอบการทำงานหลังๆ ดังนี้ครับ


6 ส่วนด้วยกันครับ เริ่มกันเลย
- อันแรกเลยเอาที่เห็นๆ กันง่ายๆ ก็คือไฟที่แสดงว่ามีกุญแจ Immobilizer ซึ่งจะเป็นไฟสัญญาณที่แสดงอยู่บนหน้าปัด นั้นเอง
- ต่อมาก็คือ กล่อง ECU ที่เรารู้จักกันดีว่ามันเป็นสมองของรถ เอาไว้ประมวล ผลค่าต่างๆ ที่ส่งมาจาก Senser และควบคุมการทำงานของระบบเครื่องยนต์ แล้วกุญแจมันเกี่ยวอะไรกับ ECU แฮะๆ ECU เนี้ยแหละเก็บ Code เพื่อเอาไว้เทียบกับกุญแจล่ะครับ
- Multiplex Control Unit Input Test ไอ้เจ้าตัวนี้แหละครับส่วนใหญ่เรียกกันว่ากล่องฟิวล์ใหญ่อ่ะครับตัวมันทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมแล้วรับส่งสัญญาณที่ได้รับ จาก input เข้ามาก่อนที่จะเอาไป ถาม ECU
- ต่อมาอีกชิ้นก็คงเป็นตัวอะไรไปไม่ได้นอกจากตัว ส่งข้อมูล หรือที่เรียกกันว่า Transponder ไอ้เจ้าตัวที่ว่าเนี้ย ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ ครับ เพราะว่ามันจะไป อาศัยอยู่กับลูกกุญแจครับ ตัวมันทำหน้าที่ส่ง Code ครับ แต่ถ้าอยากเห็นเนี้ย ถ้าเป็นกุญแจ ของ ES เห็นทีต้องเอามีดผ่าเอาครับ แต่ถ้าเป็นของพวก Accord เนี้ยเอาไขควงไขฝาครอบกุญแจ ออกก็เห็นแล้วล่ะครับ
- ต่อมาอีกชิ้น ก็คือตัว ดอกกุญแจ ครับ มันทำหน้าที่เป็นตัวนำ เพื่อส่งข้อมูลของ Code เข้าไป ในรถ ให้เราแหละ
- อีกส่วนที่เกือบลืมคือ Immobilizer Control Unit-Receiver ไอ้เข้าตัวนี้แหละครับมันอยู่รวมกับรูกุญแจเวลาเราเสียบดอกกุญแจเข้าไปมันจะรับค่า Code แล้วก็ส่งกลับต่อไปที่ Multiplex Control Unit Input Test

จากที่เล่าให้ฟัง เล่นๆ ไปแล้วว่ามันประกอบด้วยอะไรบ้างนั้น ต่อมาก็มาดูกันอีกสักนิดแล้วกันครับว่า มันเชื่อมต่อ กันทำงานอย่างไง ครับ

ลองดูจากรูปด้านล่างนะครับ จะเห็นว่าหลักการทำงานของ Immo คือถ้า Code ไม่ถูกเนี้ย มันไม่ไปสั่งให้ปั้มติ๊กทำงานครับ พูดง่ายๆ คือไม่จ่ายน้ำมันให้เครื่องยนต์ start เท่าไหร่ก็ไม่ติดครับ หลักๆ ก็เท่านี้แหละ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ในส่วนของระบบ Immobilizer นั้น จะมีการตรวจสอบตัว Code ของกุญแจ ดังต่อไปนี้

ถ้าเป็นกุญแจที่ถูกต้องโดยที่มี Code ที่ถูกต้อง ไฟรูปกุญแจ ที่แสดงบนหน้าปัด ตรง Dashboard จะแสดง Show ขึ้นมา ประมาณ 2 วินาที แล้วก็จะหายไปครับ ซึ่งก็หมายความว่า ถ้าเราเสียกุญแจรถเข้าไป แล้ว เมื่อปิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง (II) ก็จะแสดงแบบที่เล่าให้ฟัง แบบนี้ก็จะสามารถ Start เครื่องรถได้ครับ

ถ้าหากว่า เป็นกุญแจที่ Code ไม่ถูกต้อง หรือว่า กล่อง ไม่สามารถอ่านค่าได้ เมื่อเราบิดกุญแจไปที่ ตำแหน่ง (II) ไฟก็จะติด ขึ้นมา 2 วินาที เหมือนกัน และหลังจากนั้นก็จะกระพริบๆ ไปจนกว่าจะบิดกับไปที่ OFF นะครับ แบบนี้แสดงว่า กุญแจ อาจจะยังไม่ได้ยิ่ง Immo หรือว่า ยิง Immo ไม่เข้านะครับ

ถ้าหากว่าอยากตรวจสอบว่า กุญแจ ที่เราใช้งานอยู่นั้น หลังจาก ยิ่ง Immo แล้วมันใช้งานได้สมบูรณ์ หรือป่าวเนี้ย ให้สังเกตุง่ายๆ คือ เมื่อเราบิดกุญแจไปที่ ตำแหน่ง OFF แล้วรูปกุญแจ บนหน้าปัด กระพริบๆ สัก 5 วินาที แล้วก็ดับไปเลย นั้นแสดงว่า ปกติครับ

+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)


เผื่อว่ายังไม่เข้าใจ ว่ามันไปคุม การสั่งจ่ายน้ำมันไง ก็ดูจาก Diagram ด้านล่างเลยครับ ที่ผมทำ สี่เหลียมๆ วงๆ ไว้นะครับ ลองสังเกตุดูว่ามันไปสั่งไง

+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

จบในส่วนแรกไปแล้ว คราวนี้มาเข้าประเด็นกันต่อดีกว่า จริงๆ แล้วผมอยากใช้กุญแจ Accord 03 มาใช้กับ Civic ES 03 แต่ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เลยไปซื้อกุญแจ มาแล้ว กัดดอกไปแล้ว แต่ใช้งานไม่ได้ เสียเงินไปประมาณ หลายพันอยู่ เรียกว่าเสียค่าโง่ อ่ะครับ ก็เลย ไม่อยากให้ใครเสียเงิน แบบผมอีกเลย เอามา share ให้ดูกันดีกว่า แต่ว่า ตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้ไปซื้อกุญแต ดอกใหม่มาทำนะครับ เพราะว่าตังค์หมดแล้วล่ะ ไว้ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่ครับ แต่ว่าเพื่อว่าใครอาจจะไปจัด ก็จัดกันไปแล้วเอามา Share กันด้วยนะครับ

ในส่วนของ Immobilizer Key ผมพอมีข้อมูลอยู่บ้างเพื่อว่าจะมีประโยชน์นะครับ ในกรณีที่เราต้องการสั่งกุญแจ นั้นจำเป็นต้องดู Code ที่ตัวดอกกุญแจเดิมของเราก่อนเป็นหลักเลยครับ ว่าจะเป็นแบบไหน

วิธี คือ ให้หยิกดอกกุญแจของคุณนั้นแหละขึ้นมา แล้วลองสังเกตที่ตรงดอกกุญแจ แล้วดูว่ามันมีตัวอักษร อะไรเขียนไว้ และตอนไปสั่งต้องนำไปเทียบกับเลข frame ด้วยว่าถูกต้องและตรงหรือไม่ แต่ถ้าหากว่าจะใช้แบบเดิมๆ ไม่เปลี่ยนก็ไม่ยากเท่าไหร่ครับ หากว่าต้องการใช้กุญแจ Accord ที่มี Remote แล้วต้องการนำมาใช้กับ ES อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้เลข Frame แต่ว่าต้อง ดู Code ที่กุญแจของเราก่อนว่า เป็น Code อะไรแล้วตอนไปสั่งกุญแจของ Accord ก็ต้องบอกให้เค้าเทียบให้ว่า Code เดี่ยวกับกุญแจเราใน Accord นั้นใช้ Part อะไรครับ

ตัวอย่างเช่น บนกุญแจ ผมมีตัวอักษร ตัว F ดังนั้นผมต้องไปสั่งกุญแจ Accord ที่ บนกุญแจ เป็นตัว F ครับ สั่งมาผิดเสียเงินแบบผมแล้วไขได้แต่ ประตู แต่ Start รถไม่ได้เนี้ยเซ็งเลยนะครับ

ข้อมูลเรื่อง Code อยู่นิดหน่อยก็ลองดูตามข้อมูลด้านล่าง เป็น Code ที่อยู่บนดอกกุญแจ ทั้งหมด ของรถ ดังต่อไปนี้
- Accord, Civic, และ CRV ของรถ 2003-2008
- CITY 2009
- JAZZ 2009


PART No. CODE
35111SDAZ61 PH
35113S0XY01 R
35113S9AA01 F
35111SLJN01 H
35113S9AG01 PR
35111SNB305 PV
35111S0XA01 PF
35111S0XY01 PR
35111SWC305 PL
35111S9AG01 PR
35111SWAA01 PL
35111SWA305 PL
35111SWCT01 PL
35111SDAZ11 PR
35111SLJ307 PH
35111SND307 PV
35118SDAZ11 PR
35111S9A406 PR
35111S9A406 F
35118TC0U70 PL
35118SDAA01 V
35111TCOU61 PL
35118SNBA00 PL
35118TCOU60 PL
35111TC0U71 PL
35111SNBA01 PL
35111TE0U01 PL
35118TE0U00 PL
35111SWWE01 PL
35111SWW305 PL
35111S9AA01 PF

เบอร์ code ที่กุญแจ ถ้าตัวอักษรที่ขึ้นด้วย P ตามด้วย อักษร ตัวอื่นๆ เช่น PL ก็สามารถใช้ร่วมกัน L ได้ ครับ
แฮะๆ หวังว่าคงพอมีประโยชน์ แต่ว่า ก็ลองเอาไปปรับแล้วตรวจสอบดูก่อนอีกทีตอนที่จะซื้อกุญแจมากัดดอกนะครับ

เอาล่ะครับ หมดแล้วในหัวตอนนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ แต่ ผมไม่ได้รับประกันอะไรนะครับ บอกไว้ก่อนว่าจะใช้ได้หรือไม่ได้ ก็ต้องเสี่ยงกันดูหน่อยแหละครับ แต่ผมหวังว่าจะพอมีประโยชน์
ES21_fatboy


เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1563

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 11901
ให้คำขอบคุณ: 4229

ที่อยู่: วงแหวนอุตสาหกรรม
ปี: 2004
สี: น้ำเงิน วิวิด (มุก) (B-502P)
พฤหัส, 7 มกรา 2010 21:20 - + รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
Review : Modify กุญแจ Immobilizer แบบ Hardcore by คุณวิณ Yakumo



ด้วยความที่ไม่ยอม ประกอบกับความ พยายาม ในที่สุด ก็ทำให้กุญแจ Accord 03 ที่ซื้อมาเพื่อใช้กับ CIVIC NEW DIMENSION ซึ่งเป็นกุญแจรุ่นใหม่ แบบ Key Blade สามารถใช้งานได้สมบูรณ์สักที หลังจากที่เสียเงินไปหลายตังค์แล้วแต่ใช้ได้แต่เปิดประตู แต่ใช้ Start รถเพื่อขับไม่ได้ เนื่องจากที่ว่า ไม่สามารถ ยิ่ง Code Immobilisers ได้

เหตุผลคือ ซื้อกุญแจมา ผิด Code ครับ ปัญหาคือตัว Transponder หรือ ตัวส่งสัญญาณ ออกมาจากตัวลูกกุญแจ ชุดของ Code มันไม่อยู่ใน Range เดี่ยวกันกับที่ใช้อยู่กับตัวรถ เอาง่ายๆ คือมันไม่ match กันอ่ะครับ

ทางออกสำหรับการแก้ไข ปัญหา นี้คือ ถ้าสามารถ หา Transponder ที่ถูกต้องมาให้ได้ ก็จะสามารถ ใช้ในการ Start รถได้ จากทางออกนี้ วิธีที่ประหยัดที่สุด ก็คือ แกะเอา Transponder จากกุญแจสำรองมาเปลี่ยนสลับกับ Transponder ในกุญแจที่ทำมาใหม่

ซึ่งถ้าทำด้วยวิธีนี้ ก็ไม่ต้องไป ยิง immo ที่ 0 ใหม่ ก็ประหยัดเงินไป 400 บาท แต่ต้องทำลายกุญแจสำรองไป 1 ดอก เพื่อผ่าเอา transponder ออกมา (แต่ตัวดอกกุญแจก็ยังใช้งานได้ปกตินะครับ เอาไปใช้ไขประตูได้อยู่) ซึ่งถ้าไปเบิกกุญแจ แบบเดิมใหม่ ราคา ก็อยู่ที่ 900 และต้องไป กัดดอก อีก 1000 และ ต้องไปยิ่ง immo ใหม่หมดอีก 400 รวมเป็นเงิน 900+1000+400= 2300 แต่ก็ได้แค่ดอกกุญแจ แบบเดิมๆ มาอีกดอก

จากที่ลองคำนวณ ดูแล้ว ผ่าทำดีกว่า ไหนๆ ก็ไปทำกุญแจมาใหม่แล้ว ก็จะได้กุญแจที่มี Remote ในตัว ขึ้นมาอีก 1 ดอก สุดท้ายแล้ว ก็คิดว่า เอาว่ะ คงคุ้มค่ากว่าล่ะน่า

จากเหตุผลและข้อสรุป ก็มาเริ่ม ผ่าตัด เปลี่ยนสมอง กันเลย ( ฮา ฮา ฮา ฟังดู โหดชะมัด จะได้เข้า Concept Hardcore หน่อย)

ก็เอากุญแจ ของ เดิมที่เป็น ดอก Spare ออกมาเตรียมก่อนเลย และทำใจ อีกสักนิดว่าต้องผ่าล่ะนะ โดยที่เครื่องมือที่ใช้ก็คิดว่าที่หาง่ายๆ ก็คือ มีดคัตเตอร์นี้แหละครับ ค่อยๆ เหลาๆ ไป

ขั้นตอนการเอา Transponder จากกุญแจสำรอง ออกมาก็มีดังนี้ครับ

- เอาดอกกุญแจเดิมมา แล้วก็ใช้ คัดเตอร์พยายามเหลาเอา เนื้อพลาสติกที่หุ้มดอกกุญแจออก ผมแนะนำให้ค่อยๆ ทำนะครับ และก็ เหลาเอาขอบออกให้หมดก่อน
- หลังจากที่เหลาเอาขอบออกหมดแล้วคราวนี้ ก็พยายาม เอาใบมีดคัตเตอร์สอดไประหว่างพลาสติกที่ปิดหน้าและหลังกุญแจ แล้วบิดเพื่อให้มันแยกออกจากกัน
- หลังจากที่แยกพลาสติก ออกได้แล้วนั้น ก็จะเห็น ยางสีขาวๆ ตรงกลางกุญแจเลย ไอ้นั้นแหละครับ Transponder คราวนี้ค่อยๆ ใช้มือดันๆ มันออกจากตัวลูกกุญแจ
- จากที่ได้ออกมาแล้ว ก็ค่อยๆ เลื่อนตัว capsule ของ Transponder ออกมาจากยางสีขาวๆ

เท่านี้ก็ได้ ตัว Transponder ที่ต้องใช้ล่ะ คราวนี้พักไว้ก่อน อย่าทำตกทำหายนะ

ขั้นตอนต่อมาก็คือ การเอา Transponder ที่อยู่ในกุญแจของ Accord ที่กัดดอกไว้แล้วออกมา สำหรับอันนี้ง่ายมาก
- เอาไขควงสี่แฉก เล็กๆ ไขน๊อต ออก 1 ตัวที่กุญแจ
- จากนั้นจะสังเกตุเห็นว่ามี ช่องสีขาวๆ ตรงนั้นแหละที่เก็บ Transponder ให้ค่อยๆ หาอะไรบางๆ แข็งๆ หน่อย เอาตัวล๊อคสีขาวๆ นี้ออก
- หลังจากที่เตัวล๊อคออกได้แล้วก็จะเห็น Transponder นอนรออยู่เอียงๆ ซึ่งมันจะยิงกาวไว้ด้วย ต้องค่อยๆ เอามัดคัตเตอร์เซาะๆ ขอบและดึงออกมา
- หลังจากที่เอาออกมาได้แล้วก็ เรียบร้อย รอประกอบกลับ

จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนการประกอบร่างใหม่กับสมองเก่าเข้ามาให้เรียบร้อย
- ก็เอาตัว Transponder ที่แกะออกจากดอกกุญแจ สำรอง มาใส่ลงใน ช่องเก็บ Transponder ของกุญแจใหม่
- จากนั้น ก็เอาตัวล๊อกมาล๊อคกลับที่เดิม
- ปิดฝา และ ขันน๊อตกลับเข้าไปให้เรียบร้อย

เสร็จแล้วล่ะ สำหรับการประกอบกุญแจ อันใหม่ คราวนี้ของที่เหลือ ก็อย่าไปทิ้ง ก็เอามารวมร่างไว้ก่อน และกุญแจดอกเก่าที่ถอด transponder ออกมาแล้วก็ยังสามารถใช้งานได้เพื่อเอาไว้เปิดประตู แต่ start รถไม่ได้นะครับ


ได้กุญแจเรียบร้อยแล้ว ต้องทำไงต่อล่ะ งานนี้ ก็ต้องไปลองกันหน่อยครับว่าใช้งานได้จริงๆ ไหม ผมก็เลยรีบเอากุญแจไปลอง Start รถเลย ตอนแรก ผมก็ดูก่อน Start ว่าเวลาเสียบกุญแจไปแล้ว บิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง II แล้ว Indicator ที่ เรือนไมล์มัน แสดงออกมาเป็นไง ผลก็คือ ระบบได้ Code immo ที่ถูกต้อง ไฟรูปกุญแจ ที่แสดงบนหน้าปัดเรือนไมล์จะแสดงขึ้นมา ประมาณ 2 วินาที แล้วก็จะหายไปครับ ซึ่งก็หมายความว่า ถ้าเราเสียกุญแจรถเข้าไป แล้ว เมื่อปิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง (II) ก็จะสามารถ Start เครื่องรถได้ครับ ไชโย ทำสำเร็จ แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่า แน่นอนหรือป่าว เลยลอง Start เครื่องดู ผลคือ Start เครื่องได้ตามปกติเลย สำเร็จจริงๆ ล่ะ ต่อมาก็หมดปัญหาเรื่องนี้ไปแล้ว ก็ต้องมาจูน Remote ให้เข้ากับรถ ก่อน โดยทีผมลองไป Download คู่มือจาก เวปในต่างประเทศของ Honda มาก็มีวิธีทำ ให้เห็นชัดเจนเลย เดี่ยวดูจากด้านล่างละกัน แต่ Stepทั้งหมดจะมี 13 Step ซึ่ง Step ที่ 2 - 12 ต้องทำแต่ละ Step ภายใน 5 วินาทีต่อ Step แต่ Step ที่ 13 นั้น 10 วินาที จะมีดังข้อมูลด้านล่างแบบนี้นะครับ ซึ่งหลังจากที่ผมทำตามไปแล้วก็ใช้งานได้ปกติ สรุปก็ ทำงานได้ตาม Function ที่ต้องการสมบูรณ์ล่ะ ครับ จบโปรเจคกุญแจ Remote ล่ะ

1. Turn the ignition switch to ON (II).
2. Press the "LOCK" or "UNLOCK" button on one of the transmitters. (An unpprogrammed transmitter can be used for this step)
3. Turn the ignition switch to LOCK (0).

4. Turn the ignition switch to ON (II).
5. Press the "LOCK" or "UNLOCK" button on one of the transmitters. (An unpprogrammed transmitter can be used for this step)
6. Turn the ignition switch to LOCK (0).

7. Turn the ignition switch to ON (II).
8. Press the "LOCK" or "UNLOCK" button on one of the transmitters. (An unpprogrammed transmitter can be used for this step)
9. Turn the ignition switch to LOCK (0).

10. Turn the ignition switch to ON (II).
11. Press the "LOCK" or "UNLOCK" button on the same transmitter. Make sure the power door locks cycle to confirm that the system is in programming mode.
12. Press the "LOCK" or "UNLOCK" button on each transmitter to be programmed. (The system will accept up to three transmitters.) Make sure the power door locks cycle after your push each transmitter button to confirm that the system accepted the transmitter's code.

13. Turn the ignition switch to LOCK (0) to exit the programming mode.

เอาเป็นว่าเป็นภาษาไทย เพื่อว่าเข้าใจมากขึ้นดีกว่านะครับ
1. บิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง II หน้าเรือนไมล์จะติด
2. กดปุ่มที่ Remote จะเป็นล๊อค หรือ ไม่ล๊อค ก็ได้ 1 ครั้ง
3. บิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง off หน้าเรือนไมล์จะดับ
4. ทำตาม Step 1-3 ไปอีก 2 รอบ
5. บิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง II หน้าเรือนไมล์จะติด
6. กดปุ่มที่ Remote จะเป็นล๊อค หรือ ไม่ล๊อค ก็ได้ 1 ครั้ง
7. ถ้าต้องการเพิ่ม Remote ใหม่แค่อันเดี่ยวก็ให้กดปุ่ม จะเป็นล๊อค หรือ ไม่ล๊อค ก็ได้ 1 ครั้ง แต่ถ้ามี Remote ตัวอื่นที่ต้องการ Program เข้าไปด้วยก็กด ล๊อค หรือ ไม่ล๊อค ก็ได้ 1 ครั้ง (จะรับได้สูงสุด 3 ตัวเท่านั้นนะครับ)
7. บิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง off หน้าเรือนไมล์จะดับ เพื่อออกจากการ Program Remote

ถึงต้องนี้ก็ Program Remote ใหม่เรียบร้อยครับ ใช้งานได้ ก็ลองกดล๊อค กดไม่ล๊อคดูครับ ทำงานได้สมบูรณ์

จากที่อธิบายมาทั้งหมดนะครับ มาดูรูปเพื่อประกอบความเข้าใจกันดีกว่าครับ

มาเริ่มดูกันที่ดอกกุญแจทั้งหมดดีกว่าครับ ซ้ายสุดก็ดอก Accord 03 ที่กัดดอกเรียบร้อย ดอกขวาสุดก็เป็นดอก Spare ที่นำมาตัดพลาสติกหุ้มออกไปแล้ว
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ในส่วนของการเหลาพลาสติกออกเพื่อที่จะแกะเอาตัว Transponder ออกมานั้นก็ต้องเอาขอบออกให้หมดนะครับแล้ว ก็จะได้ แบบในรูปแหละครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ไอ้เจ้า Capsule เล็กๆ นั้นแหละพระเอกที่เราต้องการใช้ เป็นตัว Transponder ล่ะครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ได้ตัว Transponder มาแล้ว ก็เอาดอกกุญแจ Accord 03 มาถอดและใส่ Transponder ใหม่เข้าไป เครื่องมือที่ใช้ก็แค่ไขควงและฝีมือ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ไอ้ตัวนี้แหละครับตัว Remote
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ตรงที่เห็นขาวๆ ในรูปนั้นแหละครับตำแหน่งที่ใส่ตัว Transponder เข้าไปครับจะเห็นว่าจะมีล๊อกอยู่ 2 ข้างก็ค่อยๆ เอาออกนะครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)


แฮะๆ หวังว่าคงมีประโยชน์และสนุกกับความตื่นเต้นในตอนที่ลงมือทำเองกันนะครับ
ES21_fatboy


เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1563

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 11901
ให้คำขอบคุณ: 4229

ที่อยู่: วงแหวนอุตสาหกรรม
ปี: 2004
สี: น้ำเงิน วิวิด (มุก) (B-502P)
พฤหัส, 7 มกรา 2010 21:22 - + รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
Review : Short Shifter for 01-05 Civic (Manual transmissions) by คุณวิณ Yakumo




เนื่องจากที่เปลี่ยนเป็นเกียร์ธรรมดามาแล้ว ก็ต้องแต่งเกียร์อีก ก็เลยพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับ Short Shifter ซึ่งก็คือตัวช่วยให้เราสามารถเปลียนเกียร์ให้ได้เร็วยิ่งขึ้น หลักๆ ก็เปลี่ยนเพื่อตอบความต้องการตรงนี้แหละครับ

อยากเปลี่ยนเกียร์ให้เร็วขึ้นก็ต้องหาตัวช่วยหน่อย สำหรับ CIVIC ES นั้น สำหรับ ชุดที่ง่ายที่สุดก็เห็นจะเป็นตัว Short Shifter Adaptor นี้แหละครับ แต่จริงๆ แล้วผมพบว่า มีบางยี่ห้อออกแบบมาทำให้ด้ามเกียร์สั้นขึ้นด้วยครับ คราวนี้สั้นกว่าเดิมอีก แต่มันต้องทำเยอะอยู่เหมือนกัน ดังนั้นสำหรับตอนนี้เลยตัดสินใจว่าจะหา Short Shifter Adaptor มาใช้สักชุดครับ

ก็เลยเป็นคำถามต่อไปแล้วมันมี ของอะไรบ้าง แล้วต่างกันไง จากความรู้งูๆ ปลาๆ ของผมก็เลย ไปเจอมาได้ 3 ยี้ห้อ ที่พอจะจัดการหาซื้อได้ แต่จริงๆ ในใจอยากได้ของ DC Sport แต่ไม่มีขายแล้วหรือหาไม่ได้ก็ไม่แน่ใจ

แต่ก็โชคดีที่ไปเจอของยี้ห้ออื่น ที่คล้ายของ DC Sport เลย ก่อนจะออกนอกเรื่องก็มา คุยกันสักหน่อย กันดีกว่า ว่า 3 ยี้ห้อที่ผมจะเล่าให้ฟังมีของอะไรบ้าง

ของยี่ห้อที่ 1 คือ SOLO Short Shifter (http://www.ppsonline.net/Soloshortshift.htm) ลองเข้าไปดูรายละเอียดใน Link นะครับ สำหรับ ES Part No. จะเป็น PN# SSV-4500 ราคา 59.99 USD

+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ของยี่ห้อที่ 2 คือ TWM Performance (http://www.twmperformance.com/shortshifters/hondashortshifters/hondacivicshortshifters.htm) ลองเข้าไปดู รายละเอียดใน link นะครับ สำหรับ ES

Part No. 2001-2005 Honda Civic Short Shifter Kit (Part 4500)(ARSXSA) ราคาประมาณ 54.95 USD สำหรับชุดที่ไม่ได้ Bushing มาให้ด้วย

แต่ถ้าอยากได้ชุด Bushing มาด้วย ก็ต้อง Part No. นี้เลย 2001-2005 Honda Civic Short Shifter and Base Bushings Kit (Part 4500 + 4803)(ARSXSA) ราคาก็ 69.95 USD


+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ของยี่ห้อที่ 3 คือ Strut King (http://www.strutking.com/products/RSX%7B47%7DCivic-01%252d05-Short-Shifter-.html)

Part No. SK06-HKSS-RSX1 ราคา 64.99 USD ชุดนี้ไม่ได้รวม Bushing ไว้ด้วย


+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

จากทั้ง 3 ยี่ห้อที่นำเสนอให้ดู นั้น ก็ยังคงต้องพึ่งโชคอีกนิดครับ ว่าจะได้ตัวไหนกลับมาเพราะว่าน้องคนที่ไปเป็นธุระให้เค้าจะไปดูให้อีกที แล้วเดี่ยวหลังจากได้เรื่องแล้ว ค่อยมา Review ให้ดูกันใหม่นะครับ

ครั้งนี้มาเพื่อ ยั่วน้ำลายกันไปก่อน
ES21_fatboy


เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1563

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 11901
ให้คำขอบคุณ: 4229

ที่อยู่: วงแหวนอุตสาหกรรม
ปี: 2004
สี: น้ำเงิน วิวิด (มุก) (B-502P)
พฤหัส, 7 มกรา 2010 21:24 - + รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
Review : :: Rebuild :: Front Head Light 01-03 Civic by คุณวิณ Yakumo




เริ่มปีใหม่ก็ หาเรื่องทำรถอีกแล้ว แต่ก็เพราะว่ามีเหตุอีกตามเคย ทำให้เกิดความพยายาม หาช่างฝีมือมาทำโคมไฟหน้า ให้ ปิ้งๆ เหมือนใหม่ สักหน่อย ไอ้ครั้งที่จะทำเอง ก็ เป็นคนใจร้าย กับเครื่องมือไม่พร้อม ก็มีเหตุให้ต้องหา ช่างฝีมือ ตอนนี้เห็นดังสุด ก็คือคุณฟลุ๊ก ที่อยู่ ลาดกระบัง 26 ซึ่งจากที่ ลองหาข้อมูลและสอบถามจากน้องๆ ที่ไปทำมาแล้ว พบว่างานเนียน มากและเป็นกันเอง ดังนั้นก็เลยตัดสินใจ ไปทำกับคุณฟลุ๊ก ตอนไปที่บ้านก็หลงๆ นิดๆ เพราะว่าไม่คุ้นทางเลย

เมื่อตอนที่โทรไปคุย ผมว่าคุยกันรู้เรื่องครับ จากที่อ่านดู คิดว่าเป็นคนเข้าใจ อารมณ์ ของคนแต่งรถ มากๆ และพอไปเจอตัวก็ อย่างที่คิดเป็นคนทำรถเอง เรียกว่าประดิษฐ์ ของได้เอง ซึ่ง Concept คือ ทำงานให้ออกมาดีที่สุด งานไม่ดี ไม่ปล่อย ให้เสียอารมณ์ อะไรทำนองนั้น จากที่คุยๆ ดู เค้าเข้าใจอารมณ์ กรณีที่ ถ้าหากเราไปซื้อ Service จากที่ไหนแล้วพบว่า คนที่ทำให้ไม่รับผิดชอบและทำงานออกมาไม่ดี ผมเชื่อว่า คุณฟลุ๊ก ทราบถึงอารมณ์ แบบนั้นดี สำหรับ เราๆ ที่ใช้ Service จากคุณฟลุ๊ก ผมเชื่อว่าเราจะไม่พบกับอารมณ์แบบนั้นครับ อย่าว่าผมมาเชียร์ นะครับ แต่ผมพูดจาก Fact และความรู้สึกที่ได้ หลังจากใช้บริการ หลายๆ คน คงทราบอยู่แล้วว่าผม เลือกที่จะได้งานคุณภาพ มากกว่า จ่ายถูก (ไม่ได้รวยนะครับ แต่ว่า ทำทั้งที จะต้องมีเสียเวลา แก้ไปแก้มาทำไม)

เอาล่ะครับ พูดอะไรมากมายไม่ได้เข้าเรื่องสักที วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังเรื่องเกี่ยวกับการนำ โคมไฟหน้าไป Rebuild เพื่อให้มันใหม่ขึ้นมา ครับ สำหรับครั้งนี้ ผมมี 3 กรณี ให้ลองอ่านกันครับ

กรณี แรก เป็นเรื่องความซวย ที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนไปใช้หลอดไฟ Xenon แบบ Slide ครับ ซึ่งเรื่องมีอยู่ว่า ผมเองก็ซนไปทำ ขั่วล๊อกหลอดมันหลวม แล้วทำให้หลอดหลุดออกจาก lock ผลทำให้หลอดเลื่อนออกมา แล้วทำให้จานสะท้อนแสงไหม้ครับ พอไหม้ คราวนี้ เลนซ์ก็ฝ้า ไม่สวยเลย เห็นแล้วขัดใจ ซึ่งสิ่งที่ต้องทำเพื่อแก้ไขปัญหาแบบนี้ ก็คือ เปลี่ยนจานฉาย และ ทำความสะอาด โคมและเลนซ์โคมไฟหน้า

กรณี สอง เป็นการทำ โคมไฟหน้าไป ทำ มุมส้มและรมดำ อันนี้ ผมโชคดีที่ มีน้องอีกคน มาเป็นนายแบบให้ครับ น้องเค้าเอาโคมไฟหน้ามาทำ ก็เลยถ่ายไว้แล้วเอามาเขียนให้ดูกันครับ สิ่งที่ต้องทำ ก็ต้องถอดโคมออกจากรถ มาแล้วก็ เปิดโคมไฟหน้า เพื่อเอากรอบด้านในออกมาทำสี ซึ่งใช้ สี 3 กระป๋อง ครับ

กรณี สาม เป็นการ ปรับปรุง โคมไฟหน้า US Spec ของผมเอง ที่หลังจากพ่นเป็นดคมดำไปแล้ว แต่เบื่อ ก็เลยอยากเปลี่ยน จะถ้าจะให้เป็นแบบเดิม ก็คงไม่ได้แล้วเพราะว่า มันพ่นโคมดำไปแล้ว ก็เลยต้องเปลี่ยนสี และประกอบ กันเข้าไปใหม่ครับ อันนี้ ก็เหมือนกันครับ เปิดโคมออกมา จัดการพ่นสีใหม่ซะ ใช้ สี 3 กระป๋อง

จากทั้ง 3 กรณี เดี่ยวค่อยๆ มาดูกันไปครับ เพื่อว่าจะเป็นแนวทางเพื่อว่าใครว่างเอาไปทำเอง หรือว่า ไม่อยากทำเองเอาไปให้ ช่างที่ทำงานเนียนๆ ทำให้ก็ว่ากันไป

มาดูกรณีแรกก่อนนะครับ

สำหรับโคมไฟชุดแรกเป็นโคมใหม่ๆ เป็นมุมส้มมีบังหลอด เรียกว่า มีส่วนดี ของทั้งโคม US Spec และ โคม ญีปุ่น เลยครับ แต่ต่างตรงที่ ตรงมุมส้ม ไม่มี ทับทิบ ก็เลย ไม่ใช้โคม US Spec ครับ แต่ กับมีบังหลอดมาให้ด้วย ก็แปลกดี แต่ผมว่า ของแปลกๆ แบบนี้แหละ หาอยากนะ ด้วยการที่หาของใหม่ไม่ได้แล้ว แล้วดันซวยทำไหม้อีก ก็เลยต้องหา ทางแก้ไข โดย ที่จุดที่ไหม้ ก็อยู่ตรง จานฉายในรูปแหละครับ ก็ต้องเปิดโคมออกมา แล้วหาเปลี่ยนไปใหม่ ก็ได้ของ Spare จากทางคุณฟลุ๊ค มาเปลี่ยน สุดท้ายก็เนียนเหมือนเดิมครับ รายละเอียดในส่วนของการถอดประกอบเดี่ยวผม ให้รายละเอียดในกรณีที่ สาม จะชัดเจนกว่า

จานฉายที่ไหม้ ด้านบน
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ทำเสร็จแล้วก็ ติดตั้งกลับสวยงาม
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

กรณีที่สอง เป็นการนำโคมเดิมๆ มาทำเป็น โคมมุมส้มด้วยการถอดโดมออกมาพ่นสี แก้ว และก็รมดำ แล้วก็เคลือบอีกชั้น จากที่ดูงาน พ่นผมว่าอาจจะ เนื่องจากฝุ่นเยอะ ทำให้ บางจุด ยังมี ไม่เนียนอยู่บ้าง แต่ โดยรวม ok เลยครับ มาดู งานกันดีกว่า

+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

กรณีที่ สาม เนี้ยแหละ เห็นทุก ตอนกันไปเลย เป็นการถอดประกอบโคม ทำสี ขัดเลนซ์ โคมนายแบบเป็นโคม US Spec แท้ๆ นะครับ จะเห็นว่าจะมี ทับทิบ ตรงหลังเลนซ์ส้มด้วย โคมอันนี้ผมทำไว้เพื่อเก็บไว้ Spare กรณีของเก่ามีปัญหาจะได้ มีใช้ ไม่ต้องไปเสียเวลาหาอีก นอกประเด็นอีกแล้วกลับเข้าประเด็นนะครับ เนื่องจาก โคม US Spec อันนี้ผมได้จากน้องท่านหนึ่งที่ บินกลับมาจาก US แล้วนำกลับมาด้วย ตอนได้มา สภาพดี แต่ผมเห็นว่าตัวเองมีโคม เดิมๆ อยู่แล้วเลยอยากได้เป็นโคมดำ ก็เลยเอาไปทำสี ดำ ซะ แล้วก็ได้ มาใช้ดังใจ แต่ หลังๆ เบื่อก็เลยอยากเปลี่ยนบ้าง ก็เลยไปเอาของเดิมที่ถอดเก็บไว้ มารื้อแล้ว ส่งให้คุณฟลุ๊ก Rebuild ให้ใหม่ คราวนี้ งานเนียนกว่าตอนที่ผมทำเองเยอะครับ มาดูกันดีกว่าว่าเป็นไง บ้าง

ในภาพที่ได้พ่นเสร็จแล้วประกอบเลนซ์ส้มเข้าไปกับกรอบแล้วนะ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

สังเกตุดีๆ ครับ ถ้าโคม US จะมีทับทิบ ข้างในอีกชิ้นนะ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

การประกอบโคมนั้นไม่ได้มีการใช้ ซิลิโคนเลย แต่ใช้กาว เดิมๆ เนี้ยแหละ จะสังเกตุได้ว่าเมือถอดโคมออกไปแล้วกาวจะไม่เรียงสวย ทำให้เมื่อเอาลมร้อนพ่นแล้วประกอบโคมทำให้ รั่วแล้วอาจจะมีน้ำเข้า ส่วนใหญ่จะ ใช้ ซิลิโคน อัดอีกชึ้น ซึ่ง ก็อาจจะกันได้ระยะหนึ่งครับ แต่งานที่มีการเตรียมกาวเดิมใหม่และประกอบโคมเข้าไป อันนี้ มันใจได้ว่าน้ำจะไม่เข้า เพราะว่ากาวมันจับและ กับกรอบแน่นๆ เลย

ในรูป จะเป็นโดมตอนที่ถอดเลนซ์หน้าออก จะเห็นกว่ากาวหายๆ ไม่ค่อยเรียบร้อย
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

การประกอบโคมและเตรียมกาวนั้นก็เอากาวเดิมมาเติมให้เต็มก่อน แล้วค่อยๆ ใช้ลมร้อนเป่าให้ละลายแล้วทำให้ทั่วถึงก่อนประกอบเลนซ์หน้าเข้าไปใหม่
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ในรูปจะเห็นชัดเจนเลยว่า กาวเต็มล่องเลย
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

คราวนี้พร้อมแล้วก็ประกอบโคมกันเลย จะเห็นว่ามีการใช้เครื่องมือช่วยให้ เลนซ์หน้าแนบติดกับฐานระหว่างรอกาวเย็นตัว
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

นั้นทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นเพียงการประกอบ ถอดประกอบโคม แต่ยังไม่จบนะครับ ยังเหลือในส่วนของการขัดเลนซ์ อีก การขัดเลนซ์ นั้นมี 3 ขั้นตอนนะครับ และต้องไม่ใช้ความเร็วที่สูงเกินไป เพราะว่าจะทำให้เลนซ์ เสียได้เลยนะครับ

เริ่มจากลงน้ำยา เพื่อขัดหยาบก่อนนะครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ต่อด้วยขัดละเอียด
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

เป็นไง ครับ สวยไหมล่ะ แต่ยังไม่จบ นะครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

นี้สิ สุดท้าย ต้องลง WAX ชักเงาอีกขึ้นตอนหนึ่งครับ จะช่วยป้องกันไม่ให้เลนซ์เหลืองด้วยนะครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

Conclusion ล่ะครับ
ทั้งหมดที่ ทำมา ลองทายกันดูครับว่าผมต้องจ่ายเท่าไหร่กับงานคุณภาพแบบที่เห็น 2000 หรือ 3000 หรือ เท่าไหร่ ดี แต่ ผมตอบได้เลย ว่า ที่ผมจ่ายไปสำหรับกรณีที่ 1 และ กรณีที่ 3 คือ 1200 บาท ครับ ซึ่งก็ไม่ได้แพงเกินไปสำหรับคุณภาพงานครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น เจตนา ผมเพียงเพื่อ นำเสนอ ในอีกแง่มุมของคนแต่งรถที่ร้านช่างที่ทำงานออกมาได้ดี ในมุมมองของผมเพื่อ share ให้ทุกๆ คนที่สนใจ ใช้ประกอบการตัดสินใจในการ เลือกเพื่อจะปรับแต่งรถของตัวเองให้เป็นไปอย่างที่ใจต้องการครับ ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับรายได้ของ คนที่ขาย Service สุดท้ายนี้ก็หวังว่า คงมีประโยชน์ สำหรับคนอื่นๆ ครับ
ES21_fatboy


เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1563

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 11901
ให้คำขอบคุณ: 4229

ที่อยู่: วงแหวนอุตสาหกรรม
ปี: 2004
สี: น้ำเงิน วิวิด (มุก) (B-502P)
พุธ, 13 มกรา 2010 21:26 - + รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
REVIEW :: CIVIC ES :: MANUAL GEARBOX by คุณวิณ Yakumo

ก็ไม่มีอะไร ผมเห็นว่า มันก็เป็นอะไรที่น่ารู้ดีสำหรับคนอยากรู้ ว่า สำหรับชิ้นส่วนต่างๆ สำหรับเกียร์ธรรมดาเป็นไง สำหรับที่ใช้ใน CIVIC ES ครับก็ฌลยเก็บภาพมาให้ดูกันเล่นๆ ครับ ส่วนใหญ่ ไอ้เจ้าเกียร์ธรรมดาเนี้ยเป็นของที่ ตอนนี้ก็คงเป็นของที่คนใช้ ES แล้วอยากทำให้แรง หาสลับกันให้วุ่นๆ กันอยู่แหละ ก็เลยเอามาให้ดูกันให้เห็นๆ กันหลายๆ มุมหน่อยครับ แก้อยากกันไปก่อนนะครับ

ไอ้เจ้าชิ้นแรกเนี้ย ไม่ใช้ส่วนของเกียร์หรอกครับแต่ถ้าไม่มีมันก็ไม่ได้อ่ะ มันคือชุด ครัชท์ ครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ส่วนไอ้เจ้าชิ้นที่ สองเนี้ย ก็เป็น Flywheel ครับ จริงๆมันจะติดอยู่กับเครื่องนะครับแต่เนี้ยถอดออกมาให้เห็นๆ กันหน่อย และจากที่ผมทราบมาว่า Flywheel สำหรับเกียร์ธรรมดาและ เกียร์ออโต ไม่น่าจะเหมือกนันก็ดูกันไว้แล้วกันนะครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

อย่างในรูปเนี้ย มันเครื่องยนต์ครับ flywheel มันจะไปแปะอยู่ตรงนั้นแหละครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

เอาที่รอคอยกันมาดูดีกว่าครับ เจ้า Manual Gearbox สำหรับ D17A ครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

Conclusion :: จากที่เห็นนะครับ เกียร์ลูกก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรเมื่อเทียบกับเกียร์ออโตสำหรับ D17A แต่ว่า หายากชะมัดเลย และอีกอย่างถ้าหากล่องไม่ได้ก็ไม่ต้องใช้ครับใช้กล่องเกียร์ออโตเนี้ยแหละ ใช้ได้ แน่นอน แต่ว่าอาจจะ ตัดรอบเร็วกกว่าหน่อยประมาณ 400 รอบครับ รายละเอียด ไว้ค่อยถามมาแล้วกันนะครับ แฮะๆ
ES21_fatboy


เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1563

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 11901
ให้คำขอบคุณ: 4229

ที่อยู่: วงแหวนอุตสาหกรรม
ปี: 2004
สี: น้ำเงิน วิวิด (มุก) (B-502P)
อาทิตย์, 31 มกรา 2010 14:46 - + รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
Review : Swap pedal set from ES1.7MT Stock pedal set to DC5 Type-R pedal set

จากที่รอของมานานมาก จริงๆ แล้วของที่ได้มาชุดนี้ก็คือชุดที่ จ้องอยู่ เมื่อปีที่แล้วได้จับของไม่ทัน ก็มีน้องท่านหนึ่งได้ของไปใช้ก่อน ประจวบเหมาะกับว่าน้องเค้าจะขายรถเลยถอดของขายก็เลยติดต่อเพื่อขอมาดูแลแทน

ของชุดที่ว่าก็คือชุดแป้นเหยียบของ DC5 ซึ่งเป็นชุดสำหรับเกียร์ธรรมดา ในตอนแรกหลังจากได้ของมา ดีใจมากๆ เพราะว่ารอมานานน้องเค้าเอามาส่งให้ที่ office เลยเกรงใจอยู่เหมือนกัน แต่ไงก็เถอะ เอาล่ะวันนี้ต้องประทับรถให้ได้ ก็เลยว่าจะใส่เอง จะได้รู้ว่าต้องทำไง แต่พอเอาเข้าจริงๆ ลองดูแล้ว ที่มันแคบมากๆ ไอ้ตัวผมก็ดันตัวใหญ่อีก ไม่ไหวๆ ก็เลยต้องรบกวนอู่คู่ใจ ก็เลยโทรหาพี่ใหม่เลย ไปถึง ก็จัดการถอดใส่เลย ไปดูตอนทำแล้วบอกได้เลย ว่าตอนแรกที่คิดจะใส่เอง คิดผิดถนัดเลย ยากมากๆ ใช้เวลาพอสมควรเลย ที่อยากที่สุดอ่ะ ก็คือตรงแป้น ครัชท์ เนี้ยแหละ คันเร่งกับเบรคเนี้ยไม่ยากอะไร

หลังจากใส่แล้ว ถามว่าจะได้ประสิทธิภาพอะไรหรือป่าวในการคับรถ ตอบได้เลยว่าไม่ได้มีประสิทธิภาพอะไรเพิ่มขึ้นหรอกครับ แต่ที่ได้จริงๆ ก็คือความสายงาม สนองกิเลสอีกตามเคยครับ แฮะๆ ไปดูรูปพร้อมคำอธิบายกันดีกว่าครับ

มาดูชุดพักเท้า DC5 ทั้งชุดกันดูก่อนติดตั้งนะครับ ก็จะมีด้วยกัน 4 ชิ้นนะครับ เริ่มจากซ้ายไปขวาเลยนะครับ
ซ้ายสุดก็พักเท้า ครับ สำหรับขวาซ้าย ต่อมาก็ครัชท์ครับ สำหรับขาซ้ายอีก ต่อมาก็ เบรค สำหรับขาขวา สุดท้ายขวาสุดก็แป้นคันเร่ง
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

มาดูชุด เดิม หรือ Stock Part ที่ติดตั้งมากับชุดเกียร์ธรรมดา กันก่อน ก็จะมาเป็นยางดำๆ แบบนี้แหละ ครับ แต่ด้านซ้ายสุดไม่ใช่นะครับ อันนั้นเป็นพักเท้าของ DC5 ที่ผมใส่ไปก่อนหน้านี้แล้ว (สรุปว่าตอนนี้มีพักเท้า 2 ชุดอ่ะเดี่ยวจะปล่อยขายล่ะ)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

มาดูเทียบกันเลยครับหลังจากเปลี่ยนแล้ว ก็เป็นอย่างในรูปล่ะครับ สวยเข้าชุดกันขึ้นมาทันตาเห็นเลย แต่ก็ต้องแลกมากับเม็ดเงิน หลายอยู่
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ตอนติดตั้งก็ต้องมุดๆๆๆๆๆๆๆ แบบนี้แหละครับ ลำบากทีเดี่ยวล่ะครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

พอมุดๆๆๆ เสร็จแล้วก็ได้เปลี่ยนเสร็จไปหนึ่งชิ้นล่ะ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ชิ้นที่สองก็ตามมากเหมือนเปลี่ยนเสร็จ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

คราวนี้มาเทียบให้เห็นกันเป็นชุดๆ ไปเลยว่าเทียบกันแล้วเป็นไง จากที่ถอดของออกมาแล้วเทียบกัน ก็สรุปได้ว่า รูปแบบหรือ Platform ของชุดแป้นเหยีบบของ CIVIC กับ DC5 และก็ EP3 เนี้ยแบบเดี่ยวกันเลย ดังนั้นใส่แทนกันได้เลยครับ

เริ่มจากแป้นกันเร่งกันก่อนนะครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ต่อมาด้วยแป้นเบรค
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ต่อมาก็แป้นครัชท์
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

สรุป :: ได้สวยสนองกิเลส สมใจครับ เพิ่มความสวยงานให้ห้องโดยสาร หวังว่าข้อมูลจะมีประโยคให้ทุกท่านที่สนใจใช้ประกอบการตัดสินใจนะครับ
ได้รับคำขอบคุณจาก: biggsnui  Jeab22  V_ES  FRANG_BCP  KUSA  es_mania  black_boy  BeeBird  keatisak  msnjoey  นุ_ES  oatzakub  kobon  kittidech  cisco  Phetcharat 
ES21_fatboy


เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1563

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 11901
ให้คำขอบคุณ: 4229

ที่อยู่: วงแหวนอุตสาหกรรม
ปี: 2004
สี: น้ำเงิน วิวิด (มุก) (B-502P)
จันทร์, 15 กุมภา 2010 11:27 - + รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
Review : เปลี่ยนฝาครอบกุญแจรีโททเป็น Type-R

เนื่องจาก ความพยายาม หาอะไรทำ ก็เป็นเหตุให้ ตาดีไปเจอของมาทำเพื่อตกแต่งเพิ่มเติมให้กับ ลูกกุญแจ Accord ที่เอามาทำให้ใช้กับของ CIVIC ES ไปแล้วคราวก่อน ก็ เห็นว่าใน Civic FD Type-R นั้น ตัวลูกกุญแจ จะมี H เป็นสีแดงด้วย ซึ่ง ก็เป็นอะไรที่ น่าจะเอามาใส่แทนกับของเก่าได้ที่เป็นสีดำ ก็เลยลองหาของดู โชคดี เจอน้องท่านหนึ่ง (ขออนุญาติเอ่ยนามสักหน่อย ชื่อน้องติ) เนื่องจากได้ซื้อของจากน้องเค้า อยู่นิดหน่อย ก็เห็นว่ามีขายอยู่ด้วยเลยขอซื้อมาลองหน่อย หลังจากซื้อมา ก็ยังไม่มีเวลาว่างสักที วันนี้โอกาศดี เลย หาอะไรสีแดงๆ มาให้เป็นของขวัญรถตัวเองเลย จากนี้ไปเข้าเรื่องกันดีกว่า

โดยปกติแล้ว ลูกกุญแจ จะมีโลโก้ H เป็น สีเงินและขอบด้านนอกเป็นสีดำ เป็นรูปลักษณะปกติของกุญแจ Honda อยู่แล้ว แต่จะพิเศษ ขึ้นอีกถ้ารุ่นของรถ เป็น Type-R ตัวลูกกุญแจ จะมีโลโก้ H เป็นสีเงินและขอบด้านนอกจะเป็นสีแดง และจากที่ คนใช้ Honda ถ้าตกแต่งรถกันแล้ว ส่วนใหญ่จะชอบ Type-R กัน ซึ่งผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบเช่นเดี่ยวกัน พอเห็นของก็อดไม่ได้ ที่จะหามา ลองทำดูสักหน่อย ตอนแรก คิดว่าได้ของมา แค่ถอดน๊อตแล้วใส่เลย ก็คงจะได้ง่ายๆ แต่ ปรากฏว่า ไม่ใช้อย่างนั้น จริงอยู่ที่ ถอดน๊อต ตัวเดี่ยว แล้วก็ใส่ประกอบแล้ว ก็ไขน๊อต กลับ แต่จริงๆ แล้วใน ตัวฝาประกบนั้นจะมี Mark และร่องรับ mark อยู่ด้วย เพื่อให้ฝากระกบเข้ารูปกันสมบูรณ์

จากของเดิมๆ นั้น จะมีร่องและ mark ที่ยาวกว่า ดังนั้น จำเป็นต้อง ดัดแปลงตรง mark สักหน่อย เพื่อให้สามารถใส่กับ ฝาประกบได้พอดี ซึ่ง ฝาประกบ ตัวใหม่ที่ได้มานั้นจะมีร่องที่สั่นกว่า ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุด ก็คือ ใช้มีดตัดส่วนของ mark ที่ยาวกว่าออกไป เท่านี้นก็ประกบฝาได้สนิทแนบแน่นแล้วล่ะครับ แล้วก็ไขน๊อตกลับเข้าที่ ก็เป็นอันเสร็จ สิ้น ง่ายๆ แบบนี้แหละ แต่เปลี่ยนแล้วก็หล่อไปอีกแบบ สำหรับกุญแจ ดอกนี้ แต่อาจจะมองไม่เห็นภาพกันเดี่ยวไปดู ภาพพร้อมคำอธิบายกันต่อด้านล่างนะครับ

เริ่มจาก ฝาประกบจาก Civic FD Type-R กันก่อนเลย จะมีลักษณะเป็นแบบนี้นะครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

เมื่อลองเทียบกันจากภายนอกเหมือกกันเลยทั้งขนาดแล้วรูปแบบ ต่างกันก็ต้องที่มันเป็นสีแดงกับดำเนี้ยแหละ เลยเป็นเรื่องเลย ให้ต้องซื้อมาเปลี่ยน
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

เอาละขนาดพอดีกัน แบบนี้ก็ต้องเริ่มลุย แกะออกก่อนเลย ก็ง่ายๆ ครับไขน๊อตตัวเดี่ยวเองครับ แต่ต้องหาไขควง ให้ดีๆ นะครับ เพราะว่ามันใช้ไขควงเบอร์เล็กมากๆ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

จะประกอบร่างล่ะครับ ทาบอีกทีก่อน
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

เอาละสิเกิดปีญหาแล้วประกบแล้วไม่สนิท อ่ะจำไงดี สาเหตุ ให้สังเกตุตรงที่ ผม ทำสีเหลี่ยมๆ ไว้ให้ดูนะครับ ด้านซ้ายมือเป็จของ Accord 03 ด้านขวามือเป็ฯของ Civic FD Type-R จะเห็นว่าร่องมันจะยาวไม่เท่ากัน
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

แบบนี้ก็ต้องจัดการ ตกแต่ง mark ให้เรียบร้อย ก็ดูในรูปเลยครับ ก็ให้ตัดออกนิดหน่อยให้พอดีกับ ร่อง เท่านั้นแหละครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

เสร็จเรียบร้อย สมบูรณ์แบบล่ะครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

จากที่แสดงให้ดู คงจะมีประโยชน์เพื่อนำไป ตกแต่งกันเล่นๆ เองนะครับ ไม่ยากเกินไป ได้สวยขึ้นอีกหน่อย ครับ แล้วเจอกันใหม่ กับกระทู้ต่อๆ ไป
ได้รับคำขอบคุณจาก: Jeab22  jetty0  oatzakub  kittidech  aud fat  cisco  Phetcharat 
ES21_fatboy


เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1563

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 11901
ให้คำขอบคุณ: 4229

ที่อยู่: วงแหวนอุตสาหกรรม
ปี: 2004
สี: น้ำเงิน วิวิด (มุก) (B-502P)
จันทร์, 15 กุมภา 2010 20:33 - + รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
....


แก้ไขล่าสุดโดย เมื่อ ศุกร์, 26 กุมภา 2010 00:39, ทั้งหมด 1 ครั้ง (ดูทั้งหมด)
ได้รับคำขอบคุณจาก: Jeab22  MK Flying  monkey-es  PAE KUNG  Juris  FRANG_BCP  kittidech 
ES21_fatboy


เข้าร่วม: 01 ตุลา 2008
ตอบ: 1563

ครอบครัว ES
ครอบครัว ES

ได้รับคำขอบคุณ: 11901
ให้คำขอบคุณ: 4229

ที่อยู่: วงแหวนอุตสาหกรรม
ปี: 2004
สี: น้ำเงิน วิวิด (มุก) (B-502P)
ศุกร์, 26 กุมภา 2010 00:38 - + รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
Review :: ลดระยะการเข้าเกียร์(MT) ด้วย TWM Short(Quick) Shifter

เนื่องจากความการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่ทำลงไปกับรถ ซึ่งตอนแรกว่างแผนว่าจะสั่งของ
เข้ามาตั้งแต่ตอนเปลี่ยนเกียร์ แต่ไปๆ มาๆ ก็ได้แต่ฝันๆ ไปก่อนเพราะว่ายังไม่มีเวลาทำ
สักที ก็เลยได้เปลี่ยนเกียร์ไปเป็นที่เรียบร้อย แล้วต่อมาก็ได้หาข้อมูลจากเนทเนี้ยแหละ
ครับ และสุดท้ายก็ได้ข้อมูล และแหล่งของอุปกรณ์ ที่คาดว่าจะสามารถส่งมาถึงเมืองไทย
ได้แบบไม่เสี่ยงไปๆมาๆบ่นไปบ่นมา สุดท้ายก็คือ อุปกรณ์ Quick Shift ที่อยากได้นั้นก็
ได้ส่งมาถึงหน้าบ้านสักที ก็เป็นอันว่าได้ของแล้วสักที แต่ๆก็ยังไม่มีเวลาติดตั้งอีก สุดท้าย
วันที่รอก็มาถึง Over ชะมัด เอาเป็นว่าวันนี้อารมณ์ ดี เลยบ้าบ่ ไปหน่อย

มาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ สำหรับงานนี้ ผมจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ Quick Shifter
หรือ Short Shifter ของ TWM ที่ติดตั้งและใช้งานกับเกียร์ธรรมดา 5 Speed สำหรับ
CIVIC 01-05 (Dimension หรือ ES) นั้นแหละครับโดยอุปกรณ์ตัวนี้จะสามารถใช้งาน
ได้พอดีกับชุดคันเกียร์เดิมเลยจะเป็น Adapter ที่ติดตั้งเพิ่มเติม เข้าไปทำให้ ระยะของ
การเข้าเกียร์นั้น สั้นลง ถามว่าสั้นไง ก็ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าหากว่าอยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง
เวลาเข้าเกียร์หนึ่ง ระยะที่เกียร์จะเข้าสมบูรณ์ อาจจะต้องดันคันเกียร์ไปประมาณ 1 CM
และพอใส่Adapterเข้าไป ก็เหลือแค่0.5CM อะไรทำนองเนี้ย พอนึกภาพออกไหมครับ
คือระยะในการเข้าเกียร์จะสั้นลง ซึ่งจริงๆแล้ว ก็มีอีกวิธีที่ทำให้ สั้นลงไปอีกก็คือ คันเกียร์
ที่เตี้ยลง ซื้อในเมืองนอกก็มีขายอีกเช่นกันครับ แต่ว่าผมเองก็ยังหาแหล่งที่ซื้อแล้วมั่นใจว่า
จะสามารถส่งมาได้ไม่ได้ สักที พอดีเจอแล้วแต่มันดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ จะให้สั่งแล้ว
ส่งไปที่บ้านน้องสาวที่ US แล้วส่งกลับมาเมืองไทย ยังห่วงว่าโอนเงินไป แล้วจะไม่ได้ของ
ส่งไปที่ US อยู่เลย ก็เลยพักไว้ก่อน แต่ไว้เดี่ยว มี update แล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกที
ออกนอกเรื่องอีกตามเคย กลับเข้ามาที่ประเด็น จากที่ให้ข้อมูลไปบ้างแล้วนั้นก็จะเห็นว่า
อุปกรณ์ที่ใส่เพิ่มเติมเข้าไป ประโยชน์คือทำให้ระยะชองการเข้าเกียร์สั่นคง ทำให้เข้าเกียร์
ได้เร็วขึ้น ประโยชน์คร่าวๆก็เท่านี้แหละครับ

จริงๆ แล้วมันไม่ได้มีอะไรยากหรือว่า หลักการอะไรมากมาย เลยครับ เป็นเพียงแต่เปลี่ยน
ตำแหน่งของจุดยึดสายดึงเกียร์เท่านั้นแหละครับ จริงๆถ้าหากทำเองเพียงเชื่อมจุดยึดใหม่
ให้ได้ระยะใกล้เคียงกันก็ได้แล้วล่ะครับ จริงๆ มีเพื่อนผมท่านหนึ่งก็ทำแบบนี้ แล้วเหมือนกัน
แถมตั้งชื่อเท่ห์ กว่าอีกว่าSuper Short Shifter ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เล่ามาสักพัก ก็คงอยากทราบกันต่อแล้วว่าเมื่อไหร่จะติดตั้งสักที จริงๆ การติดตั้งไม่ได้ยาก
อะไรมากมายครับ ทำง่ายๆ ค่อยๆ ทำ ทำคนเดี่ยวก็ได้ ก็เริ่มจากลำดับตามนี้เลย

1. ถอดน๊อต 2 ตัวที่ยึด คอนโซลเกียร์ อยู่ด้านหลังตรงใต้ที่เขี่ยบุหรี่คอนโซลเกียร์นะครับ
ก็ให้เดินไป นั่งด้านเบาะหลังแล้วไขออกจะง่ายกว่าเยอะ

2. ถอดฝาครอบออกก่อน ด้วยการค่อยๆดึงออก ตำแหน่งอยู่ตรงที่เบรคมืออยู่นั่นแหละครับ

3. ถอดน๊อตอีก 2 ตัว จะเห็นหลังจากที่ถอดฝาครอบออกก่อนนะครับ

4. ถอดหัวเกียร์ออก อันนี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่าใช้หัวเกียร์เดิมของ 0 หรือว่าหัวเกียร์ตกแต่ง
ถ้าใช้หัวเกียร์ตกแต่งก็ต้องถอดกันแล้วแต่วิธีล่ะครับ

5. ถอดปุกล๊อก ซ้ายขวา ที่ใต้ คอนโซลหน้าออก

6. ถึงคราวนี้ ก็ยกคอนโชลเกียร์ออกได้เลย

7. ต่อมาก็ ถอดสายดึงเกียร์ทั้ง 2 เส้นนะครับ เส้นด้านซ้ายเนี้ยให้หมุนแล้วก็ดึงออกด้านข้าง
ก็หลุดแล้วส่วนเส้นด้านขวาเนี้ยมี สลัก lock อยู่ก็ให้ เอาสลักออกก่อน

8. จากนั้นก็เอาสายออกจะมีปิ้นเสียบกันหลุดอยู่ ก็ค่อยๆ เอาคืนหรือมือก็ได้ ค่อยๆดัดและ
เอาออกครับ จากนั้นก็ถอดหัวสายออกเลย

9. เนื่องจากว่าต้องเปลี่ยน บูท ด้วยเลยต้องถอด น๊อตที่ฐานยึดคันเกียร์ออกอีก 4 ตัว
นะครับถึงตอนนี้ก็จะได้คันเกียร์ออกมาแล้ว

10. การจะใส่ adapter นั้นจำเป็นต้องมีการเจาะรู ด้วย เพราะว่าจะมีการร้อยน๊อต เพื่อยึด
adapter เข้ากับตำแหน่ง lock แนะนำให้เอาออกมาเจาะนอกรถ ดีกว่านะครับ จะได้ป้องกัน
ไม่ให้ เศษจากการเจาะหล่นลงไป สกปรก

11. หลังจากเจาะเรียบร้อยก็ประกอบกลับครับ ไม่ยาก ทำย้อนขั้นตอนที่บอกไปเนี่ยแหละครับ

อธิบายเป็นคำพูดคำอ่านเนี้ยอาจจะมองภาพไม่ออกเดี่ยวลง ดู ภาพประกอบกันดีกว่านะครับ
จะได้เสริมความเข้าใจด้วยเลย

ก่อนเริ่ม ก็ต้องมาเห็นของกันก่อนนะครับว่าของที่สั่งมาคราวนี้เป็นแบบไหนอย่างไง อะไรเป็นอะไร มาดูกันไปเลยครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

เปิดกล่องมาก็เจออันนี้แหละ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ตามด้วยอันนี้ ตัว Adapter และ ซึ่งชุดของ แหวนและบูท และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการติดตั้ง ดอกสว่านก็ให้มาด้วย ครบจริงๆ บอกไว้ก่อนนะครับดอกสว่านคมมากๆ เพราะฉะนั่นเจาะดีๆ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

มีคู่มือวิธีติดตั้งมาให้ด้วย
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

แกะถุงออกมาก็ประมาณนี้ ล่ะครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

เริ่มก่อน Part No. นี้คืออะไรหว่า
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

เฉลยเลยแล้วกัน ก็คือ ชุดคันเกียร์นี้แหละครับ พอดีว่าผม อยากได้อันใหม่ๆ เลยก็เลยสั่งซื้อมาด้วยอ่ะครับ ส่วนด้านล่างทที่สีฟ้าๆ นั้นมันก็คือ Adapter ที่ว่าแหละครับ ที่จะใส่กันล่ะครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ลองทาบดูก่อน ก็ใส่จะประมาณเนี้ยแหละครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ดูกันหลายๆ มุมหน่อยครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ตรงนี้คือตำแหน่งที่จะไว้สำหรับติดตั้ง บูท อลูมิเนี่ยมนะครับ จะมี บูท 4 ตัว แหวน 4 ตัวครับ ตอนไขน๊อตก็เอาแค่ตึงๆ มือก็พอนะครับไม่ต้องแน่มากเดี่ยวขาจะแตกซะก่อน
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

หลักงานติดตั้ง Adapter ไปแล้วและ lock น๊อตเรียบร้อย จะใหสักเกตุดีนะครับว่า ในส่วนของ ตัวขายึดเดิมนั้นจะมีส่วนที่เอียงๆ อยู่ ซึ่ง Adapter ก็ออกแบบเพื่อทำให้ แก้ปัญหาดังกล่าว สรุปคือใส่ไขน็อตได้แนวระดับแน่นอน
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

เอาละครับ มาดูกันต่อ นะครับคราวนี้ผมจะถอดของเก่าออก นะครับ จะเห็นว่า ที่ขาของชุดคันเกียร์เดิมๆ จะมีบูทยางแกนทองเหลือง อยู่นะครับ เพื่อให้สามารถยืดยุ่นได้มากกว่าเพื่อความนิ่มนวลในการเข้าเกียร์และลดแรงสะเทือนนะครับ จะใส่ก็ต้องถอดออกจริงป่าว
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

อย่าลืมนะครับต้องถอดสายดึงเกียร์ออกให้เรียบร้อยด้วยนะครับ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ถอดออกไปแล้วก็ว่างๆ แบบนี้แหละ ไงก็ทำความสะอาดสักหน่อย
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

เอามาเทียบกันให้เห็นกันจะๆๆๆๆๆ ว่าใส่กลับไม่ใส่ตัว Adapter หน้าตาเป็นไง นะครับ อันซ้ายของเก่า อันขวาของใหม่
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

เอาของใหม่ว่างละครับ และต้องใส่บูทใหม่เข้าไปด้วยนะ
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ใส่แหวนตัวบนลงให้เรียบร้อย
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

ประกอบส่วนที่เหลือให้เรียบร้อย พอจบแล้วก็ทดสอบเข้าเกียร์เล่นสักหน่อย
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)
+ รวม Review by Yakumo + (Part I : Jan-Feb 2010)

เป็นอันจบงานครับ แฮะๆๆ

สรุปหลังจากที่ใส่และเก็บงานเรียบร้อยก็เลย ได้เวลาเอรถไปล้างสักหน่อย ก็เลยได้ทดสอบ
การใช้งานมา หลังจากทดสอบใช้งานมาก็บอกได้เลยครับว่าชอบมากๆ เข้าได้สั้นลงจริงๆ
แล้วในจังหวะของการเข้าเกียร์เนี้ย ผมว่ามันกระชับมากๆ Feeling ที่ได้รับถือว่าคุ้มค่าแรง
ค่าเหนื่อยผมจริงๆ หลังจากเมื่อวานก็วันนี้อีกวัน ขับรถมาทำงาน ก็ใช้งานได้ดีมากครับ ตอนนี้
ก็คงมีหลายๆ คนเริ่มสนใจ ไงก็ลองสั่งมันมาดูล่ะครับ ครับ แต่ระวังภาษีสักหน่อยก็จะดีนะครับ
ถึงชิ้นจะเล็กแต่กล่องมันไม่เล็กเลย เศร้าจริงๆ
ได้รับคำขอบคุณจาก: FRANG_BCP  Jeab22  battery3k  kim_possible  oatzakub  BeeBird  kobon  kittidech  POD943  10 SEC.  cisco  Wii_ES05  Phetcharat 
หัวข้อนี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไข หรือตอบได้
หน้า 1 จาก 1
ไปที่: 
ติดต่อโฆษณา admin@civicesgroup.com
Copyright © 2008-2025 Civic ES Group. All rights reserved.