ae พิมพ์ว่า: |
เกียร์พังเพราะกรองมันเล็ก
ความคิดเห็นส่วนตัวผมคิดว่า ใช่ครับ กรองเล็ก ทำให้ตันไวกว่ากรองใหญ่ แต่ส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นปลายเหตุ ต้นเหตุคือสิ่งที่มาอุดตัน ถ้าปัจจัยการใช้งานต่างๆ ของผู้ขับขี่เหมือนกัน กรองใหญ่กว่า ตันช้ากว่า แต่การสึกหรอ ของชิ้นส่วนต่างๆ ภายในเกียร์ ที่เป็นสาเหตุทำให้เกียร์พัง ก็น่าจะเท่ากัน - วิธีการใช้งานเกียร์ - อายุการใช้งานเกียร์ - การบำรุงรักษา เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ***************************************************************** http://www.civicesgroup.com/forum/topic1087 การบำรุงรักษาเกียร์อัตโนมัติ Honda Civic เมื่อ 5/14/2007 2:13:38 PM ถามธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา รถ Honda Civic ปี 2002 ระยะใช้งาน 80001-100000 กิโลเมตร สวัสดีครับ ผมอยากทราบว่าเกียร์อัตโนมัติของรถ Honda Civic Dimension 2002 ควรจะมีการเปลี่ยนกรองน้ำมันเกียร์บ้างหรือไม่ครับ เพราะในคู่มือไม่ได้ระบุไว้ แต่หลายคนเจอปัญหาเกียร์พังเมื่อวิ่งเกินแสนกม. บางคนก็ว่าเกียร์รุ่นนี้เปราะ แต่ล่าสุดผมได้ทราบข้อมูลจากผู้ใช้บางท่านว่า สาเหตุจริงๆอาจเกิดจากกรองน้ำมันเกียร์อุดตัน แค่ถอดเปลี่ยนก็หายเป็นปกติ ถ้าผมจะเปลี่ยนกรองน้ำมันเกียร์ตัวนี้ที่แสนกม.เลยจะดีไหมครับ จะยุ่งยากมากหรือเปล่า แล้วช่างที่ศูนย์เค้าจะทำให้ไหมครับ ขอบคุณมากครับ ตอบ กรองน้ำมันเกียร์อัตโนมัติในเกียร์หลายรุ่น เป็นตะแกรงกรองธรรมดา ไม่เหมือนกรองกระดาษที่จะต้องเปลี่ยนกันเป็นครั้งคราว กรองแบบตะแกรงกรองนั้น เป็นการดักฝุ่นผงขนาดค่อนข้างใหญ่ และเป็นฝุ่นผงที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นได้ในระบบเท่านั้นเอง ส่วนใหญ่ จะเป็นรูปทรงคล้ายฝักบัวอาบน้ำ มีตะแกรงโลหะเป็นปากของฝักบัว วางอยู่ในตำแหน่งต่ำสุดของระบบดูดน้ำมัน เพื่อเป็นทางรับน้ำมันในอ่างของเกียร์ขึ้นไปยัง Front Pump แล้วนำน้ำมันไปใช้ตามส่วนต่างต่างต่อไป กับเกียร์ที่มีอ่างน้ำมัน คุณต้องเปิดอ่างออกก่อนจึงจะเห็น และเมื่อเห็นเข้าแล้ว ช่างไทยก็ถอดออกมาล้าง ด้วยความเชื่อว่า จำเป็นต้องล้าง และพูดกันต่อต่อมา กลายเป็นความเชื่อ อันที่จริงนั้น หากตะแกรงกรองของฝักบัวตัวนี้สกปรก ก็หมายความชัดเจนว่า น้ำมันในระบบสกปรก และน้ำมันจะสกปรกได้ ก็ต่อเมื่อมีสิ่งใดเข้าไปเจือปน สิ่งนั้น มักจะเป็นเศษของคลัทช์ ที่สึกออกมา และเข้าผสมอยู่ในน้ำมัน จนไปอุดอยู่กับกรอง ที่ร้อยวันพันปีจะไม่มีสิ่งใดเข้าไปอุดตันได้ ช่างคนไทยเห็นเข้า ก็ล้างเสีย แล้วใส่เข้าไปใหม่ ไม่ได้นึกเลยไปถึงว่า สิ่งสกปรกนั้นมาจากไหน และอะไรกำลังเกิดขึ้นกับเกียร์ชุดนั้นนั้น ดังนั้น ไม่นานหลังจากล้างกรอง และลูกค้าพอใจ ว่าเกียร์ทำงานดีขึ้น เกียร์ก็จะพังลงไป โดยลูกค้าไม่รู้ตัวเลยว่า ได้ใช้เกียร์ชุดนั้นในแบบที่ไม่ควรใช้ อันได้แก่การเปลี่ยนเกียร์จาก D ไป N แล้วกลับมา D โดยไม่รอให้เกียร์จับกันสนิทเสียก่อน ก็กดคันเร่งนำรถเคลื่อนที่ออกไปแล้ว หรือเปลี่ยนเกียร์สองจังหวะนี้โดยไม่เหยียบเบรกก่อน นั้นแหละ ต้นเหตุของการตันของกรอง และความพินาสของเกียร์ กับฮอนด้า หลายรุ่นไม่มีอ่างน้ำมันเกียร์ให้ต้องถอด ก็ไปไม่ถึง และถึงไปถึง ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องล้าง หากไม่มีอะไรสึกหรอมาทำให้ตัน หากมีอะไรมาทำให้ตัน ก็จะต้องมองไปถึงสิ่งที่สึกหรอออกมา ซึ่งในที่นี้ ก็คือคลัทช์ เป็นส่วนใหญ่ สิ่งที่ควรทำ หากกรองตัน ก็คือรื้อเกียร์ออกมาดูแผ่นคลัทช์ และเปลี่ยนใหม่หากสึกมากเกินไปแล้ว เท่านั้น ไม่ใช่ล้างกรองกันบ่อยบ่อย กรองไม่ใช่ต้นเหตุของการพังของเกียร์ แต่การใช้เกียร์นั่นแหละ เป็นต้นเหตุแห่งการพังของเกียร์เอง การล้างกรองครั้งแรกแรก เป็นเพียงทำให้แรงดันน้ำมันเกียร์กลับขึ้นระดับสูงอย่างเดิม และเกียร์จะทำงานได้ดีกว่าก่อนล้าง แต่ไม่ดีเท่ากับตอนใหม่ใหม่แน่นอน คุณคิดดูเอาเองก็แล้วกันครับ ถ้าล้างได้ หรือเปลี่ยนได้ ทำไมผู้ผลิตเขาไม่แนะนำเอาไว้ บางเรื่อง เขารู้ แต่ช่างเราไม่รู้ เราก็ทำไปแบบไม่รู้ และคิดเอาเองว่า เราเก่งกว่าคนอื่น จริงไหมครับ -ธเนศร์ ***************************************************************** เกียร์ mt ก็มีปัญหาได้เหมือนกันครับ แต่โอกาสอาจน้อยกว่า ราคาซ่อมถูกกว่า at http://www.civicesgroup.com/forum/topic11604 http://www.civicesgroup.com/forum/topic11491 http://www.civicesgroup.com/forum/topic11797 ปล. แต่สวนตัวผมว่าถ้ามีงบพอ จัด 04 ดีกว่าครับ มันมีหลายอย่างมากกว่าเรื่องกรองเกียร์ |
ไปที่: |