เรื่องปัญหาของ HONDA CIVIC 2006 ข้อบกพร่องที่แก้ไขไม่ได้จน HONDA THAILAND ต้องขอซื้อรถคืน!

ผมออกรถ HONDA CIVIC 2006 ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2548
ด้วยความชื่นชอบส่วนตัวได้ค้นหาข้อมูลที่เดียวกับรถรุ่นนี้ตั้งแต่รถยังไม่เข้ามาขายในประเทศไทยจนรถเข้ามาขายที่เมืองไทยช่วงเดือน พ.ย. 48ก็ได้เข้าไปชมรถและตัดสินใจจองซื้อเลย เพราะเป็นรถที่ถูกใจมากทั้งเครื่องยนต์และการออกแบบภายใน รวมทั้งได้เห็น Adsบอกว่าได้รับรางวัลอะไรสักอย่าง จึงเกิด

ความมั่นใจว่ารถต้องดีมีคุณภาพจริงแน่ๆ แต่ใจจะไปรู้ว่าพอใช้สักพักแล้วรถมันจะมีปัญหาที่เกิดตั้งแต่เดือนแรกที่ซื้อเลย...

** อาการครั้งแรกเลย เรื่อง กระจกตกร่อง
เกิดอาการช่วงปลายเดือนธันวาคม 48
เกิดครั้งแรกตอนจ่ายค่าทางด่วนที่ถนนแจ้งวัฒนะ พอจะปิดกระจก ปรากฏว่ากระจกปิดได้ครึ่งเดียวแล้วจะเด้งกลับมาค้างอยู่ครึ่งบานกระจกที่ด้านคนขับ
ก็ตกใจมากว่าทำไมรถเพิ่งซื้อมา แล้วกระจกเป็นอย่างนี้ ตอนนั้นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว ไม่รู้จะเพิ่งใครได้ ก็ต้องขับรถช้ากลับบ้านจนนั่งหาทางดันมันปิดกลับไปได้
พอนำรถไปเข้าศูนย์บริการช่างก็บอกผมว่า รุ่นใหม่ๆก็แบบนี้แหละครับ รุ่น honda jazzก็เปิดเหมือนกัน ยางใหม่ๆก็จะฝืดหน่อยแล้วก็นำกระป๋องน้ำมันหล่อลื้นมาฉีดที่ขอบยางข้างๆกระจกให้ซึ้งทำให้สามารถใช้งานได้ตามปกติเหมือนเดิม
แต่ผมก็เกิดความสงสัยว่าทำไมเขาไม่ Q.C. มาก่อนที่จะสงสัยให้ลูกค้า ไม่ให้เจอปัญหาแหละ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร ก็ปล่อยๆไป

** อาการครั้งที่สอง เกิดอาหาร แอร์เหม็นอับ อันนี้ประเด็นเลยครับ เป็นกันเยอะมากๆ
เกิดอาการช่วงเดือนมกราคม 49
ช่วงแรกผมไม่ได้สักเกตุอะไรนะครับ จนผมเช้าวันหนึ่งในเดือนมกราคม 49ผมเริ่มเกิดได้กลิ่นแปลกๆ ที่ออกมาจากแอร์ช่วงเปิดแอร์ใหม่ๆได้กลิ่นประมาณ 5 วินาที แล้วจะหายไปความเข้มข้นของกลิ่นมันเพิ่มขึ้นทุกวัน จนผมเริ่มรับไม่ได้จนต้องเอารถไปเข้าศูนย์บริการแต่ช่างที่ศูนย์บริการแจ้งผมว่ามันเป็นเรื่อง

ธรรมดาครับรุ่นอื่นยี่ห้ออื่นก็มีอาการนี้ ล้างตู้แอร์แล้วก็ไม่หายมันจะกลับมาเป็นอีก ผมเลย งงๆเลยลองไปเข้าอีกศูนย์หนึ่งก็ได้รับคำตอบที่คล้ายๆกันแบบนี้
ผมก็เลยไม่เข้าใจว่าทำไมเข้าต้องตอบกันแบบนี้ ทำไมถึงไม่มีวิธีแก้ไขผมจำเป็นต้องยอมรับหรือไม่แต่ที่แน่ๆรถคันเก่าผมไม่เคยมีกลิ่นนี้ออกมาเลยจริงๆครับ
จึงลองเข้ามาค้นหาข้อมูลใน Internet จนมาเจอ website http://hondacivic2006.pantown.com/ปรากฏว่า เจอสมาชิกมากมายในนี้ที่มีอาการแอร์มีกลิ่นอับเช่นกันทุกคนจึงก็เข้ามาหาทางแก้ไขทางออกให้แก่รถของตนเองเช่นกันจนวันนึงมีผู้มาโพสกระทู้ว่า ได้รับคำแนะนำจากศูนย์ Honda ตามนี้นะ

ครับ
============================
============================
เปิดพัดลมแรงสุด start เครื่องทิ้งไว้ด้วยนะครับ จอดไว้กลางแดดเปรี้ยงๆอย่างนั้น 20 นาที
พอครบ 20 นาที กลับเข้ามา ให้เร่งเครื่องซั๊กเกือบๆ 3 พันรอบครับ
เรื่องซั๊ก 2-3 ครั้ง จากนั้นก็ดับเครื่องและจอดตากแดดทิ้งไว้อย่างนั้น
1-2 ชั่วโมงครับ ระหว่างนี้ไปหาที่เดินเล่นซะ
พอกลับมา ทำเหมือนเดิมเลยครับ start เครื่อง เปิดพัดลมแรงสุด ปิด ac ของแอร์ซะ รออีก 20 นาทีค่อยเปิด ac
ทำแบบนี้ติดต่อกันให้ได้ 3 ครั้งครับ
แล้วความชื้นในช่องอะไรซั๊กอย่างของแอร์จะแห้งสนิท และกลิ่นจะหายไปในที่สุด
ผมทดสอบดูเรียบร้อยแล้วครับ ทำมา 3 ครั้ง
แล้วเริ่มทดสอบแบบธรรมดา พอขึ้นรถมาก็เปิด ac เลย
กลิ่นหายไปจริงๆครับ รับรองผล 100%
============================
============================

ซึ่งวิธีดังกล่าวผมว่ามันยุ่งยากเกินไป และมันเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ ผมคิดว่า HONDA ควรจะรับผิดชอบและแก้ไขปัญหาที่จุดนี้
ผมจึงโทรศัพท์แจ้งไปที่ HONDA สำนักงานใหญ่ ที่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์จึงได้รับการตอบรับ ให้นัดเอารถเข้าตรวจสอบ โดยมีช่างของบริษัทแอร์ที่HONDA เลือกใช้ และ ช่างของทาง HONDA และคนญี่ปุ่นอีกหนึ่งคนมานั่งฟังปัญหาและแก้ไขให้โดยการเปลี่ยนตู้แอร์ใหม่ให้

ใช้เวลาประมาณสองวันในการเปลี่ยนตู้แอร์ใหม่ พร้อมมีรถสำรองให้ใช้ในรถหว่างซ่อม

พอในวันที่รับรถ ปรากฏว่า รถมีอาการเครื่องสั่นอย่างมาก! ผมจึงไม่รับรถและให้ช่างช่วยตรวจสอบดู ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงช่างแจ้งว่า ลืม!!! Reset ระบบECU หรือ ตัวควบคุมระบบใหม่ จึงได้ทำการ Reset ให้และรถก็กลับมาปกติ


หลังจากนั้นสองอาทิตย์ ประมาณช่วงเดือนกุมพา49
รถผมก็กลับมามีอาการเครื่องสั่นอีกครั้ง ผมจึงนำรถกลับมาเข้าศูนย์บริการและแก้ไขใหม่ โดย ช่างแจ้งผม ครั้งก่อนหลังนี้อาจจะตวงน้ำยาแอร์ขาดไปทำให้จึงทำให้เกิดอาการเครื่องสั่นครั้งนี้แก้ไขเสร็จภายในวันเดียว


** อาการเครื่องสั่นเป็นอาการที่สามของรถผม ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ยังไม่สามารถแก้ไขได้ (June06)
อาการจะเกิดเมื่อผมจอดรถอยู่นิ่งๆ และเมื่อใดที่คอมแอร์เริ่มทำงานรอบเครื่องตกไปประมาณ 50 - 100 รอบ และเครื่องจะฉุดแรงกลับคืนมาที่รอบปกติซึ่งช่วงนี้จะทำให้เครื่องยนต์สั่นและสามารถรู้สึกได้ชัดเจนอาการเครื่องสั่นไม่ได้เจอทุกครั้งที่จอดรถนิ่ง แต่ก็เป็นเรื่อยๆบางวันเป็นมากบางวันเป็นน้อย


หลังจากนั้นอีกสองอาทิตย์ ประมาณช่วงปลายเดือนกุมพา49
รถผมก็กลับมามีอาการเครื่องสั่นอีกครั้งแล้วครับ โดยทำการ Reset ตัว ECU รถเพียงอย่างเดียว เพราะช่างก็ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไรโดยบอกให้ผมช่วยดูอาการว่าถ้าเกิดขึ้นอีกให้โทรแจ้งเพื่อจะติดตามการซ่อมอีกครั้ง


หลังจากนั้นประมาณหนึ่งเดือน รถผมก็กลับมามีอาการเครื่องสั่น และมีกลิ่นเหม็นอับอีกครั้ง

ด้วยความอึดอัดจากปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งผมจึงเข้าไปหาอ่านข้อมูลเกี่ยวกับรถรุ่นนี้ตาม website ต่างๆจนได้รู้ถึงข้อมูลจากผู้ใช้งานอื่นๆว่ารถ HONDA CIVIC 2006 ใหม่นั้นมีปัญหาจุกๆจิกๆ อีกหลายอย่างเช่น

1. ปั๊ม / ท่อพาวเวอร์
2. ยางหุ้มเพลาขับ
3. น้ำหล่อเย็นในหม้อพัก
4. กระจกตกร่อง
5. แอร์มีกลิ่น
6. เสียงลมด้านข้างคนขับ
7. ยางรองแท่นเครื่อง

ดังนั้นผมจึงนำข้อมูลที่รวบรวมไว้ไปโพสที่กระทู้ในเวป pantip และ websiteอื่นๆ จนกระทั่งมันหนึ่งมีคนจาก HONDA โทรกลับมาหาผมพร้อมนัดวันให้ผมนำรถเข้าไปที่ศูนย์บริการ ซึ่งทาง HONDAแจ้งว่าจะขอนำรถผมไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งโดยครั้งนี้ได้นำรถผมไปตรวจสอบเป็นระยะเวลา

ทั้งหมด 3 อาทิตย์
พอถึงระยะเวลารับรถ ก็ได้แจ้งอาการมาว่ารถผมมาอาการทั้งหมด 4 อาการจาก 7อาการที่แจ้ง

1.ปั๊ม / ท่อพาวเวอร์ > รั่วซึม > แก้ไขโดยเปลี่ยนใหม่แต่ว่าก่อนหน้านี้ผมเอารถไป check ระยะ ทางช่างก็ไม่ได้ตรวจสอบอาการนี้ให้จนต้องมาอ่านเจอในเวปเอง ช่างถึงเพิ่งมาทราบว่ามีอาการ
4. กระจกตกร่อง > เปลี่ยนใหม่ โดยเปลี่ยนรางและกระจก และติดfilm ให้ใหม่ ทั้งด้านคนขับและคนนั่งหน้า
5.แอร์มีกลิ่น > เปลี่ยนตู้แอร์ใหม่รอบที่สองและเปลี่ยนอุปกรณ์ทั้งหมดที่เกี่ยวกับช่องลมแอร์ พร้อมขัดเบาะใหม่และนำรถไปตากแดดซึ่งช่างแจ้งว่ากลิ่นอาจจะกลิ่นจากสารเคมีที่ตกค้างจากการผลิตจึงต้องกำจัดออกให้หมด
6. เสียงลมด้านข้างคนขับ > แก้ไขโดยการปรับแต่งช่องที่ลมรอดเข้ามาได้โดยทำให้แนบกับตัวรถให้แน่นดีขึ้นทั้งฝั่งคนขับและคนนั่งหน้า

ส่วนเรื่องเครื่องสั่นที่เกิดเพราะรถผมนั้นครั้งนี้ช่างแจ้งว่าเป็นเพิ่งตรวจสอบพบว่าน้ำมันที่คอมแอร์ขาดไปซึ่งมันทำให้เครื่องยนต์สั่นตอนช่วงคอมแอร์ทำงานโดยทำการตวงน้ำมันของคอมแอร์ให้ใหม่ และทาง HONDA ก็ขอร้องผมว่าอย่านำเรื่องรถที่มีปัญหาโพสลง website อีก ทางมีปัญหาใดๆ กรุณา

แจ้งกลับทางเขาได้โดยตรง
ซึ่งผมก็ยินดีที่จะไม่โพสกระทู้บอกปัญหาบอกต่อคนอื่นอีก
หลังจากนั้นก็มีผู้ใช้งาน HONDA CIVIC 2006ที่ได้อ่านกระทู้เก่าๆของผมอีกหลายคนที่ติดต่อผมโดย emailมาหาผมว่ารถเขามีปัญหาคล้ายๆผมผมก็แนะนำให้ไปติดต่อคนที่ผมเคยติดต่อมาที่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของสำนักงานใหญ่สาขาบางนา โดยไม่มีการโพสกระทู้ใดๆเกี่ยวกับปัญหารถรุ่นนี้ขึ้นอีก

แต่แล้ววันนึงช่วงเดือนพฤษภาคม49 อาการสั่นของรถผมก็กลับมาอีกครั้งครับแต่ไม่มีกลิ่นแอร์ที่เหม็นอับ ณ ปัจจุบันแล้ว แต่ก็เกิดคำถามในใจอยู่ดีว่าที่บอกเอารถไปตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วแต่ทำไมยังมีอาการเดิมๆออกมาอีกครั้งแล้วครั้งเล่า ทำไมถึงแก้ไขไม่จบสักที

ผมก็แจ้งกลับไปทางศูนย์บริการ ถามว่าทำไมถึงมีอาการแบบนี้เกิดขึ้น ทาง HONDA แจ้งกับมาทางผมให้นัดคุยกันอีกครั้ง
ครั้งนี้ช่างแจ้งผมว่าต้องเปลี่ยนกล่อง ECU ใหม่ และมาแก้ตัวว่าครั้งที่แล้วผมไม่ได้แจ้งว่าอาการสั่น เป็นแบบใด ทำให้แก้ไขไม่ถูกจุดผมได้ยินคำพูดแก้ตัวแบบนี้ ผมเริ่มหงุดหงิดเลยครับ เพราะว่าทุกครั้งที่เอาไปก็มีอาการแบบเดิมๆ เหมือนกันทุกครั้งครั้งล่าสุดเขาก็ยอมรับเองว่ามีอาการจริงๆโดยที่ผมไม่ต้องแจ้ง

ระดับของการสั่นเลย แต่กลับเหมือนมาโยมความผิดไว้ที่ผมว่าผมไม่ได้แจ้งอาการเขาซึ่งครั้งนี้ผมก็ไม่อยากที่จะซ่อมแล้วเพราะว่ามันแก้ไขอาการเดิมๆมาไม่รู้กี่ครั้งแล้วอาการมันก็เกิดเกี่ยวกับเครื่องยนต์ซึ่งทำให้ผมไม่มันใจว่าต่อไปในอนาคตมันจะมีปัญหาตามมาอีกหรือเปล่าและไม่รู้ว่าจะต้องนำรถขึ้นนี้เข้าศูนย์

บริการอีกกี่ครั้งกันถึงปัจจุบันนี้เป็นระยะเวลา 6 เดือนแล้วที่ต้องมากังวลว่าจะมีอาการอะไรใหม่ๆเกิดอีกมั๊ยแต่ก็ยังชื่นชอบทั้งรูปทรงและการออกแบบภายในของรถคันนี้อยู่ผมจึงบอกเขาว่าถ้ารถมันมีปัญหาเฉพาะรถของผมก็เปลี่ยนรถใหม่ให้ผมมันจะได้จบเรื่องไปหรือถ้ารถรุ่นนี้มันมีปัญหาจริงก็ซื้อกลับคืนไปก็ได้
แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ

HONDA ยื่นข้อเสนอให้ผมอยู่สองข้อคือ
1. ซ่อมต่อไป โดยจะให้ รับการเช็คระยะฟรี 3 ปี
2.ซื้อรถคืนในราคาเต็ม แต่ผมต้องจ่ายดอกเบี้ยที่ต้องปิด finance เองและต้องทำเซ็นต์สัญญาว่าจะไม่ไปเผยแผ่ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อรถคืน และปัญหาต่างๆกับบุคคลที่สามอีก
ราคารถ 930000 บาท
ดาวน์ 240000 บาท
เงินกู้ 690000 บาท
ดอกเบี้ย 2.85%
ดอกเบี้ยรวม 5 ปี 141,801.75 บาท รวม VAT
ถ้าต้องปิด Finance ดอกเบี้ยคงเหลือที่ผมต้องเสียคือ 127,621.58 บาท

ข้อเสนอที่ทาง HONDA ให้ผมกับมา มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบมากทำไมผมต้องมาทน หรือต้องมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นด้วยทุกอย่างมันเหมือนบีบให้ผมต้องนำรถไปซ่อมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ผมจึงลองติดต่อกลับไปที่ HONDA ศูนย์ใหญ่ว่าทำไมถึงเปลี่ยนรถใหม่ให้ผมไม่ได้ เขาตอบกลับมาว่าถึงให้ผมเปลี่ยนรถคันใหม่มันก็อาจจะทำให้เขาต้องมาคอยแก้ไขปัญหารถผมด้วยอาการเดิมๆอีก เขาอยากให้ผมขายคืนรถให้เขาจะดีที่สุดมันก็เหมือนเขาออกมายอมรถว่ารถ HONDA CIVIC 2006 ใหม่รุ่นนี้

มันมีปัญหาที่เกิดขึ้นจริง และไม่สามารถจะแก้ไขให้จบได้จึงให้ทางเลือกที่จะซื้อรถคืน หรือถ้าจะใช้ต่อก็ต้องอยากรับปัญหาของรถรุ่นนี้ให้ได้เท่านั้น

แบบนี้มันเหมือนกับว่า เขาอยากตัดปัญหา ไม่อยากจะรับผิดชอบใดๆอีก พนักงานที่มาพูดแบบนี้กับผมเขาคงไม่มารู้สึกหรอกว่ามันต้องเสียเวลาที่ค่าใช้จ่ายแค่ไหนกลับมาที่เจอรถมีปัญหาและต้องนำรถเข้าไปซ่อมอยู่เรื่อยๆต้องมาหงุดหงิดกับรถ กับอาการที่รถใหม่ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น
รถผมที่มีอาการสั่นของเครื่องยนต์อาจจะเป็นเพียงหนึ่งในร้อยของรถที่มีข้อบกพร่องแต่อาการอื่นที่เกิดกับรถรุ่นนี้อีกหลายคัน ถ้าไม่ได้แจ้งทาง HONDAเขาก็ไม่มีทางจะรับผิดชอบให้แต่อย่างใด ถึงจะไม่มีการประกาศ Recallรถรุ่นก็ควรทำการแก้ไขให้เมื่อลูกค้านำรถไปเช็ดระยะไม่ใช่ให้ลูกค้าทราบเองแล้ว

ค่อยแก้ไข

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล

ความรู้อีกแล้วคับ..

มีเพื่อนเป็นเหมือนกันครับ

เห็นใจนะคับ เก็บเงินซื้อรถทั้งทีแต่เจอปัญหาแบบนี้

พี่ที่บริษัทผม ก็เข้าศูนย์เป็นว่าเล่นตั้งแต่ป้ายแดง
เหมือนกันอ่ะคับ 2ปี แล้วน่ะ แต่เค้าไม่รู้จะทำยังงัย ก็ต้องเข้าๆ ออกๆ ศูนย์
เปลี่ยนโน้นนี่เป็นว่าเล่น ซื้อมาแล้วอ่ะเนอะ ต้องทำใจ ผมว่าเดี๋ยวนี้ honda
เรื่องการตรวจสอบคุณภาพรถ ด้อยลงทุกวันน่ะ มีแต่แฟนพันธุ์แท้เท่านั้นที่ใช้อยู่น่ะ ผมว่า....

เฮ้อออออออ ตลอด

โอ้ ทำไมมันเยอะขนาดนั้นนะดีนะไม่เป็นกับ ES เรา

เคยได้ยินมาเหมือนกันคับ

คนแถวบ้านผมออกป้ายแดงมาปีแรกเลย น้ำเข้ารถ

ว่ากันว่า รุ่นนี้เจอ ต๊อก ต๊อก ครับ ใครขับ FD ส่วนมากเจอนะ

ปัญหาเยอะจัง

ไม่ต้องทำไรกันพอดี คอยเอารถไปเข้าศูนย์อย่างเดียว

โชคดีที่คันที่บ้านยังไม่เป็นไร...

ยังเสียวๆ อยู่เหมือนกันนะเนี่ย..

มาเก็บข้อมูลครับ

THX จ้าาาาาา.....

เหอๆๆ มันไม่ใช่หนึ่งในร้อยคันละล่ะ มันเป็นทุกคันนะเนี่ย ใครที่ขับFD ก็บอกทั้งนั้น แต่ ES ก็แอร์เหม็นนะคะ สั่นด้วยเวลาจอด คิดว่ากระจกจะแตกตอนจอดเฉยๆ สั่นสะเทือนมาก

สงสัยคันต่อไปคงเล่นฮอนด้าไม่ได้เเล้วมั้งเนี่ย

วัยรุ่นเซ็งเลย

พอดีของผม 2009 ไม่เป็นอ่านะ

วิ่งมาจะครบปีแระอีกสองวัน 33000 โล ไม่เจออะไรเลย สงสัยรถผมของปลอม


อิอิ

สบายตัวไป

เจออย่างนี้เเย้เหมือนกันครับ

แล้วจะออกดีไหมเนี๊ยะกะว่าจะออกต้นปีสงสัยต้องไปหาesมือสองซะแล้ว(ไม่น่าขายไอ้ฉ่ำไปเล๊ย)

เอาไปทุบ เหมือน CRV ที่เป็นข่าวใหญ่โต ดีมั๊ยครับ

น่าเห็นใจครับ ขอให้แก้ปัญหาต่างๆลุล่วงไปด้วยดีนะครับ

ลองเปลี่ยนศูนย์บริการ ที่เอารถเข้าดูยังครับ

ดีนะไม่มีตังซื้อ

โห งานเข้าอย่างแรงเลยครับ

เก็บความรู้คับ